Chapter 64 Sword God Luo Ning
剑神洛宁
หลังจากบ่มเพาะไปถึงเทพแท้จริงขั้นสุดท้ายปลาย,จะสามารถตระหนักรู้กฎเกณฑ์เทพสวรรค์ได้,หลังจากตระหนักรู้กฎเกณฑ์เทพสวรรค์ครบหนึ่งหมื่นเส้น,เมื่อผสานมันเข้าด้วยกันสำเร็จ,ก็จะตัดผ่านไปยังขอบเขตเทพสวรรค์.
ดังนั้นเทพแท้จริงขั้นสุดท้าย,จะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอนั้นย่อมสามารถแบ่งแยกได้ไม่ยาก
ตระหนักรู้กฎเทพสวรรค์ 100 เส้น กับตระหนักรู้กฎเทพสวรรค์ 200 เส้น,พลังต่อสู้ย่อมแตกต่างกันเป็นธรรมดา.
โดยเฉพาะตระหนักรู้กฎเทพสวรรค์ 1000 เส้นและ 500 เส้น ความแตกต่างก็ยิ่งมาก.
แน่นอนว่า,กฎเทพสวรรค์ไม่ง่ายที่จะตระหนักรู้,และยิ่งตระหนักรู้กฎเทพสวรรค์ได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งยากขึ้นไปเท่านั้น,เวลานี้นักฆ่าเทพสังหารสำเร็จกฎเทพสวรรค์ 100 เส้น,ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน.
ชายวัยกลางคนที่จ้องมองลู่อี้ผิงด้วยความเย็นชา“คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขนาดนี้,ทว่าการสังหารล้มเหลว,ท่านเทพสังหารจะต้องส่งคนที่แข็งแกร่งมากกว่าข้ามาครั้งหน้าอย่างแน่นอน.”
เทพสังหาร,ก็คือหัวหน้าองค์กรเต๋าเทพสังหารนั่นเอง.
ในพิภพเหิงหยวนมีองค์กรนักฆ่ามากมาย,ทว่ากลุ่มที่ใช้ฉายาเทพสังหาร,กับมีเพียงแค่หัวหน้าองค์กรเต๋าเทพสังหารเท่านั้น.
ส่วนความแข็งแกร่งของเทพสังหารนั้น,ไม่มีใครรู้.
อย่างไรก็ตาม,ในเวลานั้น,จู่ ๆ มีดเล่มหนึ่งก็พุ่งมาด้านหลังลู่อี้ผิง,ความเร็วที่เกินจะพรรณนา,กล่าวได้ว่าเหนือกว่าปราณกระบี่ก่อนหน้านี้หลายเท่า.
นอกจากนี้บนใบมีด,ยังเปื้อนเคลือบไปด้วยสีดำหมึก,เห็นชัดเจนว่ามันเคลือบพิษร้ายแรงเอาไว้.
เต๋าเทพสังหารที่ลอบสังหารลู่อี้ผิงครั้งนี้,ไม่เพียงส่งชายวัยกลางคนมาเท่านั้น,ยังส่งนักฆ่าอีกคน,ที่มีความแข็งแกร่งกว่าชายวัยกลางคนก่อนหน้านี้มาเสริมด้วย.
อย่างไรก็ตาม,มีดที่กำลังพุ่งทะลวงกลางหลังลู่อี้ผิงห่างเพียงแค่หนึ่งนิ้ว,ก็หยุดลงทันที.
มือสังหารเต๋าเทพสังหารที่สะดุ้งตกใจ“ผนึกมิติงั้นรึ?!”
ลู่อี้ผิงที่หันหน้ากลับมา,จับจ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่แยแส,ฝ่ายตรงข้ามเป็นสตรีผู้หนึ่ง! ดูงดงามอยู่ไม่น้อย!
“พิษกลืนเทพ.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำจ้องมองไปยังใบมีด.
พิษที่อาบบนมีดนั้น,เป็นพิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลกนี้,พิษกลืนเทพ!
กล่าวได้ว่าแม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตเทพสวรรค์ก็ไม่อาจขับมันออกไปได้.
ส่วนยอดฝีมือขอบเขตต่ำกว่าเทพสวรรค์,จะต้องตายไปในทันที.
ร่างกายของลู่อี้ผิงที่เปล่งแสงออกมา,จากนั้นก็กระแทกฝ่ายตรงข้ามกระเด็นลอยออกไป.
ส่วนมีดสั้น,มันได้แตกสลายกลายเป็นฝุ่นผงทันทีเช่นกัน.
“หรวนเอ๋อ,เจ้าไปก่อน!”ในเวลานั้นชายวัยกลางคนที่ตะโกนบอกสตรีนักฆ่าทันที,จากนั้นร่างกายของเขาที่กลายเป็นริ้วแสง,กลายเป็นปราณดาบมากมาย,พุ่งสังหารลู่อี้ผิง.
สตรีด้านหลัง,ไม่ลังเล,พุ่งบินแหวกอากาศหนีออกไป.
จากนั้นก็หายไปจากฝูงชนในทันที.
“หนีรึ?”ลู่อี้ผิงเผยยิ้มอย่างเย็นชา,มือข้างหนึ่งที่ยกขึ้น,ตะวัดคว้าบนอากาศ,ก่อนที่จะเห็นนักฆ่าสตรีที่หายไปแล้วถูกดึงลากออกมาจากความว่างเปล่าอีกครั้ง,ร่วงหล่นลงบนพื้นด้านหน้า.
ส่วนปราณดาบของชายวัยกลางคนถูกขาหน้าของวัวกระทิงมังกรเขาทองคำตบแตกสลาย,ร่างกายอีกฝ่ายที่ล่วงหล่นจมอยู่บนพื้นด้านหน้าเช่นกัน.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ก้าวออกไปยกขาที่ใหญ่ยักษ์เหยียบไปที่อกอีกฝ่าย,เกราะรบอีกฝ่ายที่แตกสบั้นออกเป็นชิ้น ๆ ทันที.
ชายวัยกลางคนที่ถูกวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเหยียบ,ที่มุมปากมีโลหิตสีดำไหลออกมาทันที,ร่างกายเวลานี้มีสีดำม่วงลามกระจายไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว.
เห็นชัดเจน,นักฆ่าที่ทำงานล้มเหลว,ได้ใช้พิษกลืนเทพกับตัวเองไป.
ส่วนสตรีอีกคน,หลังจากที่เห็นชายวัยกลางคนตกตายไปแล้ว,ที่มุมปากของนางก็มีโลหิตสีดำไหลซึมผ่าน,ร่างกายมีสีม่วงดำลามกระจายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน.
ทั้งสองที่ตกตายไปด้วยพิษกลืนเทพ,ทว่าเวลานั้นลู่อี้ผิงที่ชี้นิ้วปล่อยลำแสงออกไป,ลำแสงที่ปกคลุมร่างทั้งสอง,ห้วงมิติที่ไหลย้อนเวลากลับไป,ทั้งสองที่เวลานี้ตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก,เวลาได้ย้อนกลับไปก่อนที่ทั้งสองจะกลืนพิษไป.
“กาลอวกาศย้อนกลับ!”
ทั้งสองที่ตื่นตะลึงเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก.
กาลอวกาศย้อนกลับ,เป็นวิชาที่ยากจะสำเร็จ,ยากที่จะควบคุม,แม้แต่เจียงยวีสำนักไท่อี้ก็ไม่อาจควบคุมกาลอวกาศย้อนกลับได้.
หลังจากที่ลู่อี้ผิงใช้กาลอวกาศย้อนกลับ,ก็ดึงร่างอีกฝ่ายทั้งสองลอยเข้ามาหา,จากนั้นก็ทำการค้นวิญญาณทันที.
เพียงไม่นาน,การค้นวิญญาณก็เสร็จสิ้น,ลู่อี้ผิงได้ดึงกฎเทพสวรรค์ออกมาจากกายเทพของพวกเขาทั้งสอง,ก่อนจะส่งเข้าไปในร่างของจางจินและเจ้าเหวิน,จากนั้นก็ส่งร่างของทั้งสองที่ไร้ซึ่งลมหายใจเข้าไปในหม้อจักรวาล.
การต่อสู้ของลู่อี้ผิงและมือสังหาร,เขาได้ทำการปิดแยกห้วงมิติเอาไว้,ดังนั้นผู้คนรอบ ๆ จึงไม่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นด้านในมิติปิดแยก.
“จูเหริน,นิกายภูตหยินและนิกายปิศาจน้ำพุเหลืองได้จ้างเต๋าเทพสังหารมาอย่างงั้นรึ?”วัวกระทิงมังกรเขาทองเขาเอ่ยถาม.
“ไม่น่าจะใช่”ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา.
ก่อนหน้านี้แม้นว่าจะค้นวิญญาณมือสังหารไปแล้ว สองนักฆ่าเต๋าเทพสังหาร,ไม่รู้จักผู้ว่าจ้าง,จึงไม่อาจตอบได้นั่นเอง.
นิกายภูตหยินและนิกายปิศาจน้ำพุเหลืองนั้นต้องการสังหารเขา,และเริ่มลงมือด้วยตัวเอง,คงไม่เสียเวลาว่าจ้างมือสังหารมาก่อนแน่.
อย่างไรก็ตาม,สองนักฆ่าเองก็ไม่รู้ผู้ว่าจ้าง,ทว่าหัวหน้าเทพสังหารอาจจะรู้.
ลู่อี้ผิงที่กลับที่พักตระกูลหวาน,พร้อมกับเรียกหว่านอู๋ตี้มา.
“เต๋าเทพสังหาร?”หว่านอู่ตี้ได้ยินลู่อี้ผิงสอบถาม,ก็เผยความประหลาดใจออกมา.
“เพิ่งมีมือสังหารจากเต๋าเทพสังหารมาลอบสังหารจูเหริน.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ย.
“อะไรนะ!”หว่านอู๋ตี้ได้ยิน,ก็ใบหน้ากลายเป็นเคร่งขรึม“ข้าจะให้คนปิดเมืองเทียนตู,เพื่อค้นทั้งเมืองเดี๋ยวนี้.”
“ไม่จำเป็น.”ลู่อี้ผิงเอ่ย“พวกเขาทั้งสองถูกข้าสังหารแล้ว,เจ้ารู้เกี่ยวกับศูนย์ใหญ่ของเต๋าเทพสังหารหรือไม่?”
หว่านอู๋ตี้ส่ายหน้าไปมา,เอ่ยอย่างลังเล“สำนักงานใหญ่หอเทพสังหารนั้นเป็นปริศนาไม่มีใครรู้,เป็นไปได้ว่ามีคนหนึ่งที่รู้สำนักงานใหญ่เต๋าเทพสำหารอยู่ที่ใหน.”
“ใคร?”ลู่อี้ผิงเอ่ยถาม.
“สำนักไท่อี้,เจียงยวี.”หว่านอู๋ตี้ที่เอ่ยออกมาอย่างนอบน้อม.
“...”ลู่อี้ผิงที่เผยความประหลาดใจออกมา.
หว่านอู๋ตี้เอ่ย“ได้ยินมาว่าเจียงยวีและเทพสังหารนั้นได้ต่อสู้กันมาหลายครั้ง,เขาเป็นเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตจากน้ำมือของเทพสังหารได้.”
“เทพสังหารแข็งแกร่งขนาดนั้นเลย,ทำไมถึงไม่อยู่ในสิบลำดับยอดฝีมือพิภพเหิงหยวนล่ะ?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยถาม.
.”
“เพราะไม่มีใครรู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริง,ดังนั้นจึงไม่อาจจัดลำดับได้.”หว่านอู่ตี้เอ่ย“อาวุโสเทพยุทธ์จิ่วเจว่หอเทพยุทธ์หลายปีมานี้ไม่เคยลงมือเลย,เขาก็ไม่ได้ถูกจัดลำดับเช่นกัน.”
หว่านอู๋ตี้,จ้องมองลู่อี้ผิงอย่างระมัดระวัง,เทพยุทธ์จิ่วเจว่หอเทพยุทธ์ได้เข้าไปในป่าศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน,ส่วนเทพยุทธ์จิ่วเจว่และลู่อี้ผิงเกี่ยวข้องกันเช่นไร,หลายคนได้แต่คาดเดา.
ในเวลานี้,ทันใดนั้น,ยันต์ข้อความที่เอวของลู่อี้ผิงได้สั่นไปมา,เขาที่นำมันออกมาจ้องมองดู,ข้อความบนยันต์แจ้งสารซึ่งเป็นยันต์แจ้งความจากหอการค้าความลับสวรรค์,ที่ซุนลี่เสวียนได้ให้เขามา.
ก่อนหน้านี้,เขาได้ให้หอการค้าความลับสวรรค์ช่วยสืบเรื่องของหยางตงในอดีต,เขาต้องการรู้ว่าใครเป็นคนส่งข่าวให้หยางตงเข้าไปในสนามรบแห่งทวยเทพนั่นเอง.
นี่คือข้อความที่ให้สืบข่าวแล้ว,ลู่อี้ผงเผยยิ้มอย่างเย็นชาเอ่ยออกมาว่า“โหลวหนิง!”
ในอดีต,หยางตงได้ถูกเชิญให้เข้าไปในสนามรบแห่งทวยเทพ,หลังจากนั้นก็หายไปเลย,ทว่าตอนนี้เขาได้ให้หอการค้าความลับสวรรค์สืบสวน,ซึ่งอีกฝ่ายได้แจ้งคนที่เชิญหยางตงไป,ก็คือเทพกระบี่โหลวหนิงนั่นเอง.
ได้ยินลู่อี้ผิงเอ่ยถึงโหลวหนิงทันที,หว่านอู๋ตี้ถึงกับตะลึงไปเลย,ลู่อี้ผิงที่ส่งข้อความจากยันต์สื่อสารให้หว่านอู๋ตี้ดู,หว่านอู๋ตี้ที่ได้เห็นก็เผยความประหลาดใจออกมา.
กล่าวได้ว่า,การหายตัวไปของหยางตง,เกี่ยวข้องกับโหลวหนิงอย่างงั้นรึ?
“อาจารย์ของโหลวหนิงนั้นไม่ธรรมดา”หว่านอู๋ตี้ครุ่นคิดและเอ่ยออกมา“เขาและสำนักกระบี่ไท่ชิงจิวเทียนนั้นมีความสำพันธ์ที่ดีต่อกัน”เอ่ยถึงสำนักกระบี่ไท่ชิงหว่านอู๋ตี้ก็เผยความจริงจังออกมา.
ในพิภพเหิงหยวน,มีสิบสุดยอดกลุ่มอิทธิพล,ซึ่งผู้นำกลุ่มอิทธิพลทั้งสิบก็คือสำนักไท่อี้,และเหนือขึ้นไปจากสำหนักไท่อี้ยังมีการดำรงของตัวตนที่พิเศษสามดินแดน.
จิวเทียน!(แดนสวรรค์)
โลกศักดิ์สิทธิ์!
ดินแดนโหยวหมิง(แดนนรก!)
ทั้งสามตัวตน,ล้วนแต่มีอำนาจมากกว่าสำนักไท่อี้.
ส่วนสำนักกระบี่ไท่ชิง,ก็คือสุดยอดนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดของดินแดนจิวเทียนนั่นเอง.