Chapter 55 Wan Family Patriarch had been rumbled by us
万家家主都被我们轰过
หลังจากออกจากจักรวรรดิไป่ฮัว,พวกลู่อี้ผิงก็มุ่งตรงไปยังทิศใต้.
สองสามวันหลังจากนั้น.
พวกลู่อี้ผิงก็มาถึงเนินเขาร้างแห่งหนึ่ง.
บนท้องฟ้า,เมฆตั้งเคล้ามืดครึ้มสายลมที่พัดแรง,คล้ายกับว่าพายุใหญ่กำลังมา.
แม้นว่าพายุฝนต่อหน้าเหล่าผู้ฝึกตนไม่จำเป็นต้องใส่ใจแต่อย่างใด,ทว่าลู่อี้ผิงก็ไม่มีธรรมเนียมในการเดินทางกลางฝนแต่อย่างใด,ดังนั้นจึงได้ให้วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเร่งรีบเดินทางหาที่พัก.
ผ่านไปนานเหมือนกัน,ก็มาถึงวิหารร้างแห่งหนึ่ง.
ทว่าหลังจากเข้าไปแล้วก็พบชายชราที่ผอมแห้งและชายหนุ่มที่ดูแข็งแรงนั่งล้อมกองไฟ,ย่างเนื้อส่งกลิ่นหอมลอยออกมา.
ชายชราและชายหนุ่มเห็นพวกลู่อี้ผิงก้าวเข้ามา,จดจ้องมองลู่อี้ผิงและคนอื่น ๆ ด้วยความระมัดระวังในทันที.
“ทั้งสอง,พวกเราเพียงแค่ผ่านทางมา,เพียงต้องการพักเท่านั้น,รบกวนแล้ว.”ลู่อี้ผิงเอ่ยกับคนทั้งสอง.
ชายชราที่จ้องมองมายังลู่อี้ผิง,เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“สหายน้อยสุภาพแล้ว,วิหารร้างนี้ไม่ใช่ของพวกเรา,พวกเราเองก็เพิ่งผ่านมา,หากสหายน้อยไม่ใส่ใจ,สามารถมาพักกับพวกเราได้.”
ลู่อี้ผิงที่ไม่เกรงใจ,เข้ามานั่งล้อมกองไฟกับพวกเขา.
ชายหนุ่มที่จ้องมองวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยด้วยความประหลาดใจ,เอ่ยออกมาว่า“พี่ชาย,ท่านซื้อวัวมาจากที่ใหน?”เห็นชัดเจนว่าเขาเพิ่งเคยเห็นวัวทองคำเป็นครั้งแรก.
ชายชราเองก็จ้องมองไปยังวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเช่นกัน.
ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม“ไม่ได้ซื้อ”จากนั้นก็เอ่ยว่า“ขโมยมา.”
“ขโมยมาอย่างงั้นรึ?”ชายหนุ่มและชายชราที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
วัวกระทิงเขาทองคำที่เผยยิ้มพราย“ปู่ผู้นี้,เป็นวัวกระทิงมังกรเขาทองคำตนเดียวในสวรรค์และปฐพีแห่งนี้!”
“ข้าคือจ้าวหมื่นอสูร!”
“บรรพชนเทพสายฟ้า!”
“จักรพรรดิเผ่ามังกรด้วย!”
เอาอีกแล้ว!
หลายปีมานี้,นิสัยเดิมของวัวกระทิงมังกรเขาทองคำไม่เคยเปลี่ยน.
เมื่อครั้งยุคโบราณนั้น,วัวกระทิงมังกรแทบจะแนะนำตัวด้วยคำเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ไปทั่วโลก.
ชายชราและชายหนุ่มที่ดวงตาเบิกกว้าง.
ลู่อี้ผิงที่เผยยิ้มให้กับชายชราและชายหนุ่ม“วัวของข้าตนนี้,ชอบพูดโอ้อวดเกินจริง,อย่าได้ใส่ใจ.”
ชายหนุ่มที่หัวเราะสนุกสนาน“ข้าเองก็เคยเลี้ยงวัวมาก่อน,เป็นอสูรที่เป็นกันเองเหมือนกับเจ้า,เข้ากับทุกคนได้ดี.”
“แล้ววัวของเจ้าล่ะ?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยถาม.
ชายหนุ่มที่เผยความเศร้าอย่างที่สุดออกมา“ตายแล้ว,ไม่กี่วันก่อน ถูกคนของสำนักจี๋เล่อสังหารไป.”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำแทบสำลัก.
คนอื่น ๆ ที่นั่งล้อมกองไฟแทบอดขำออกมาไม่ได้.
หลังจากได้พูดคุยกับชายชราและชายหนุ่ม,ลู่อี้ผิงก็รับรู้ว่าพวกเขาเป็นอาจารย์และศิษย์กำลังเดินทางไปยังเมืองเทียนตู,ซึ่งตระกูลหว่านต้องการสร้างกองทัพใหม่ขึ้นมาใหม่,ทั้งสองจึงตั้งใจเดินทางไปเข้าร่วมทดสอบเข้ากองทัพดังกล่าว.
“คุณชายลู่เองก็จะไปยังเมืองเทียนตูด้วยอย่างงั้นรึ?”ชายชราหลี่ปินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“เดินทางไปด้วยพวกเราเลยใหม?”
คฤหาสน์ที่พักของตระกูลหว่าน,อยู่ในเมืองเทียนตูนั่นเอง.
ลู่อี้ผิงเอ่ย“ได้.”
ชายหนุ่มหยางกังเอ่ยถาม“คุณชายลู่,ท่านเองก็ต้องสมัครเข้าร่วมทดสอบกองทัพตระกูลหว่านด้วยอย่างงั้นรึ?”
ลู่อี้ผิงที่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ไม่ใช่”จากนั้นเขาก็เอ่ยต่อหลี่ปิน“เจ้าและศิษย์นับว่ามีพื้นฐานและพลังต่อสู้ที่ดี,การทดสอบกองทัพตระกูลหว่าน,ไม่ควรมีปัญหา.”
หลี่ปินนั้นมีระดับขอบเขตจักรพรรดิโบราณ,ส่วนชายหนุ่มหยางกัง,แม้นว่าจะอยู่ในขอบเขตเรือนม่วง,ทว่าเขานั้นมีสายโลหิตยักษ์ไท่ทันอยู่เล็กน้อย,ในระดับขอบเขตเดียวกันน้อยคนที่จะสู้เขาได้.
ยักษ์ไททัน,นี่คือเผ่าที่ทรงพลังเป็นอย่างมากในยุคโบราณ.
ส่วนหลี่ปิน,ทั่วทั้งร่างกายของเขานั้นเปี่ยมล้นด้วยพลังธาตุทั้งห้า,เห็นชัดเจนว่าเขาต้องเคยกินสมบัติล้ำค่าที่มีพลังห้าธาตุเข้ามาก่อน,นอกจากนี้วิชาบ่มเพาะของเขาเองก็นับว่าใช้ได้.
หากทั้งสองเข้าร่วมทดสอบกองกำลังตระกูลหว่าน,ย่อมผ่านการทดสอบอย่างแน่นอน.
ชายชราหลี่ปินได้ยิน,ก็เผยยิ้มสดใส,เอ่ยออกมาว่า“ได้รับคำอวยพรของคุณชายลู่แล้ว.”
“คุณชายลู่เอง,หากเข้าร่วมทดสอบกองกำลังตระกูลหว่าน,ข้ามั่นใจว่าท่านต้องผ่านร้อยเปอเซ็น.”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่กินเนื้อย่าง,ได้ยินคำพูดดังกล่าว,เร่งรีบกลืนลงคอ,เผยยิ้มชั่วร้ายเอ่ยออกมาว่า“ต้องการให้จูเหรินของข้าเป็นทหารตระกูลหว่านรึ? ถึงจูเหรินข้าจะยินดี,แต่ตระกูลหว่านก็ไม่กล้ารับ.”
ในเวลานั้น,ที่ด้านนอกขณะฝนตกอย่างหนัก,สายฝนที่เทลงมาราวกับฟ้ารั่ว,จู่ ๆ ก็มีใครบางคนที่ผลักประตูเข้ามาอย่างรุนแรง.
วิหารร้างที่ใกล้จะพังอยู่แล้ว,ฝ่ายตรงข้ามผลักเข้ามาอย่างรุนแรง,ทำให้ประตูลอยกระเด็นออกไปในทันที.
เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่ก้าวเข้ามา.
ที่นำมานั้นเป็นบุรุษหนึ่งคน สตรีหนึ่งคน,บุรุษที่ดูหล่อเหลาไม่ธรรมดา,สตรีเองก็งดงามไม่ธรรมดาเช่นกัน.
ส่วนคนอื่น ๆ ที่เข้ามาคาดว่าจะเป็นผู้คุ้มกัน.
ชายชราหลี่ปินเห็นผู้คุ้มกันดังกล่าว,ก็ใบหน้าเปลี่ยนสี,ผู้คุ้มกันเหล่านี้คือทหารตระกูลหว่าน!
บุรุษและสตรีผู้นี้,เป็นศิษย์หลักตระกูลหว่านอย่างงั้นรึ?
มีเพียงแค่ศิษย์หลักตระกูลหว่านเท่านั้น,ที่จะมีคุณสมบัตินำกองกำลังพิเศษตระกูลหว่านออกมาคุ้มกัน.
หลังจากที่เข้ามา,บุรุษที่กวาดตามองพวกลู่อี้ผิงคราหนึ่ง,พร้อมกับเผยยิ้มให้กับสตรีเอ่ยออกมาว่า“น้องเหลียน,พวกเราไปนั่งตรงนั้นกัน.”
สตรีที่พยักหน้ารับ.
ทั้งสองที่ก้าวเข้ามานั่งข้างกองไฟ.
ชายคนดังกล่าวที่ก้าวเข้ามาเอ่ยอกไปทันที“ท่านทั้งหลาย,จะว่าอะไรใหมหากพวกเราจะนั่งตรงนี้?”ชายหนุ่มที่เอ่ยอย่างสุภาพ,ทว่าไม่รอให้หลี่ปินหรือลู่อี้ผิงเอ่ยปาก,เขาก็ก้าวเข้ามานั่งแล้ว.
เขานำสตรีมานั่งด้วย.
บุรุษที่นั่งอยู่ใกล้ลู่อี้ผิง,หลังจากนั่งแล้ว,เขารู้สึกว่าพื้นที่คับแคบไม่สบาย,จึงเอ่ยต่อลู่อี้ผิง“ไอ้หนู,เจ้าลุกไป,นั่งฝั่งตรงข้ามโน่น.”น้ำเสียงเชิงสั่งการ,คล้ายกับว่าตัวเองสูงส่งกำลังสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองอยู่.
ลู่อี้ผิงที่ยังคงสุขุมไม่แยแส“หากข้าไม่ลุกล่ะ.”
ชายหนุ่มที่ตกใจ,เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ไอ้หนู,ข้าสั่งให้เจ้าลุกไปนั่งฝั่งตรงข้าม,ถือว่าใจดีกับเจ้าแล้ว,ข้างนอกฝนตกหนัก,ข้าไม่ให้เจ้าไสหัวออกไปข้างนอก ก็ดีเท่าไหร่แล้ว.”
ในเวลานั้น,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำยกขาหน้าขึ้น,กีบเท้าที่ฟาดไปยังใบหน้าอีกฝ่าย,ลอยกระเด็นออกไปนอกประตูวิหารร้างทันที.
สตรีที่นั่งข้าง ๆ,เห็นบุรุษที่มาด้วย ลอยกระเด็นออกไปโดยวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ถึงกับเซ่อไปเลย.
เหล่าผู้คุ้มกันของตระกูลหว่านเอง ต่างก็คาดไม่ถึงว่าวัวกะทิงมังกรเขาทองคำจะลงมือทันทีเช่นกัน.
“แส่หาความตาย!”ผู้คุ้มกันตระกูลหว่านคนหนึ่งที่เอ่ยคำรามด้วยความโกรธ,ดาบใหญ่ในมือที่เหวี่ยงฟันไปยังวัวกระทิงมักกรเขาทองคำ,ส่วนผู้คุ้มกันคนอื่น ๆ เองก็ลงมือเช่นกัน.
ครั้งนี้,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำไม่ได้ลงมือ,เจ้าเหวินที่แค่นเสียง,ร่างกายของเขาที่มีสายฟ้าแล่นแปบ ๆ,พวยพุ่งออกไปทันที,เหล่าผู้คุ้มกันทั้งหมดของตระกูลหว่านถูกสายฟ้าฟาดถึงกับลอยกระเด็นออกไป.
ภายในวิหารร้างกลายเป็นเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงของเปลวเพลิงที่ลุกไหม้บนกองไฟ.
ใบหน้าที่งดงามของสตรีถึงกับเปลี่ยนสี.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำแลมองสตรีด้านหน้าคราหนึ่ง,นางที่ตกใจลุกพรวดพราด พุ่งออกจากวิหารร้างด้วยท่าทางหวาดกลัว.
เหล่าผู้คุ้มกันตระกูลหว่านที่ลอยกระเด็นออกไปก่อนหน้านี้ต่างก็เร่งรีบพยุงกันและกันหนีหายออกไปอย่างรวดเร็ว.
ชายชราหลี่ปินที่อ้าปากหวอ,เผยยิ้มอย่างขมขื่น“คุณชายลู่,ท่านได้สร้างปัญหาแล้ว,ชายหนุ่มและหญิงสาวคนนั้น,น่าจะเป็นศิษย์หลักตระกูลหว่าน,กลุ่มผู้คุ้มกันเองก็ควรเป็นทหารตระกูลหว่าน.”
“ศิษย์หลักตระกูลหว่านแล้วอย่างไร.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำ เผยยิ้ม“แม้แต่ประมุขตระกูลหว่านพวกราก็กระทืบมาแล้ว.”
ชายชราหลี่ปินที่ชงักค้าง,ก่อนที่จะเผยยิ้ม“พี่เสี่ยวจินกล่าวล้อเล่นแล้ว” จากนั้นเขาที่ดูลังเลก่อนเอ่ยออกมาว่า“คุณชายลู่,พวกเรามีธุระเล็กน้อย,ขอตัวไปก่อนก็แล้วกัน.”
ลู่อี้ผิงพยักหน้ารับ.
ชายชราหลี่ปินกลัวว่าหากไปพร้อมกับคนเหล่านี้,เกลงว่าคนของตระกูลหว่านจะเข้าใจผิด,พวกเขาอาจถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้.
ดังนั้น,ชายชราหลี่ปินจึงนำศิษย์หยางกังออกจากวิหารร้างผ่าสายฝนหนีหายไปในทันที.
หลังจากที่ชายชราหลี่ปินจากไปแล้ว,ลู่อี้ผิงก็จ้องมองไปยังความว่างเปล่าเอ่ยออกมาว่า“เจ้าตามพวกเรามาตั้งนานแล้ว,ก็ควรออกมาได้แล้วล่ะ.”