Chapter 50 Growing Myriad Spirits Great Array
万灵生长大阵
ขบวนของโหลวถงที่ผ่านราชรถทองคำ,โดยไม่หยุดชงักแม้แต่น้อย,จากนั้นก็หายไปที่ขอบถนน.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำจ้องมองขบวนเสร็จเอ่ยออกมาว่า“สตรีน้อยผู้นั้น,ดูเหมือนเทพธิดาโหลวสุ่ยจริง ๆ!”
เทพธิดาโหลวสุ่ย,หนึ่งในสตรีที่งดงามที่สุดในยุคโบราณ.
ในอดีตนั้นจ้าวแห่งทวยเทพชื่นชมลุ่มหลงในตัวนางมาก.
อย่างไรก็ตาม,จ้าวแห่งทวยเทพกับไม่อาจได้ใจของนางไป,มีคนบอกว่าเทพธิดาโหลวสุ่ยครั้งหนึ่งได้เอ่ยต่อจ้าวแห่งทวยเทพว่า,ภายในใจของนางนั้นมีคนที่รักอยู่ก่อนแล้ว.
ในเวลานั้นก่อให้เกิดความวุ่นวายใหญ่ขึ้นมาเหมือนกัน,ผู้คนต่างก็คาดเดากันไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าใครกันแน่ ที่ได้ใจของนางไป.
ซึ่งไม่ต้องเอ่ยว่า,คนผู้นนั้นจะต้องกลายเป็นศัตรูของผู้คนมากมายอย่างไม่ต้องสงสัย.
อย่างไรก็ตาม,ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นผู้ใดที่ได้รับ ความรักของเทพธิดาโหลวสุ่ยไป.
ลู่อี้ผิงเห็นสตรีตระกูลโหลวจากไป,ใบหน้าก็จมอยู่ในความครุ่นคิด.
โหลวถง? โหลวสุ่ย?
“พวกเราไปกันเถอะ.”ลู่อี้ผิงที่เอ่ยออกมาในที่สุด.
“จูเหริน,ท่านดูสิ,ท้องฟ้ามืดครึ้มใกล้มืดแล้ว,พวกราออกจากเมืองตอนนี้,จะต้องไปพักอยู่ในพื้นที่รกร้างแน่ ๆ,วันพรุ่งนี้ค่อยออกเดินทางไปยังสำนักเฟยฮัวดีหรือไม่?”วัวกระทิงมังกรเอ่ย.
“มันยังกลางวันอยู่.”ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม.
ตอนนี้แม้นว่าจะยังกลางวันอยู่,ทว่ากว่าจะมืดก็อีก 1-2 ชั่วโมง.
ความคิดของวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,เขาย่อมเข้าใจได้อย่างแน่นอน.
ดังนั้น,พวกเขาจึงออกจากเมืองหลวง,ตรงไปยังสำนักเฟยฮัวทันที.
หลังจากออกจากเมืองหลวง,เพียงไม่นานพวกเขาก็ไปถึงทุ่งกว้าง,พื้นที่รอบ ๆ นี้เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ,สายลมที่พัดหวิว,กลิ่นของดอกไม้ที่ตลบอบอวลฟุ้งกระจายหอมหวน.
นี่ก็คือทุ่งร้อยดอกไม้ของจักรวรรดิไป่ฮัว.
ทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ในทวีปเทพยุทธ์นั้นมีอยู่น้อยมาก,แต่กับมาเห็นที่นี่.
ทุ่งร้อยดอกไม้,ที่นี่มี มหาเต๋าหนึ่งเส้นคงอยู่.
ราชถรถที่เคลื่อนที่ผ่านทุ่งดอกไม้,พื้นที่รอบ ๆ ที่มีกลิ่นหอมหมุนวนกระจายไปทั่ว,ช่วยให้คนลุ่มหลงเข้าสู่โลกมายา.
“ทุ่งร้อยดอกไม้,ถูกทำลายเสียหายมานับครั้งไม่ถ้วน,ทว่าสองสามปีก่อน,เพิ่งฟื้นคืนกลับมา”เจ้าเหวินเอ่ย.
การมาครั้งนี้ลู่เผิงนำเพียงจางจินและเจ้าเหวินมาด้วยเท่านั้นมา.
ลู่เผิง,ลู่เสี่ยวยวี ยังคงบ่มเพาะและฟื้นฟูสำนักอาชูร่า,เหวยปิงและเฉินหยงหยวนทั้งสองจึงต้องอยู่ปกป้องเทือกเขาทะเลทมิฬด้วย.
ลู่อี้ผิงพยักหน้า“มีบางคนที่วางมหาค่ายกลหมื่นวิญญาณเพาะปลูกเอาไว้ในทุ่งร้อยดอกไม้แห่งนี้.”
มหาค่ายกลหมื่นวิญญาณเพาะปลูก,แม้นว่าจะไม่ใช่หนึ่งในสิบมหาค่ายกลยุคโบราณ,ทว่าก็เป็นหนึ่งในค่ายกลที่มีชื่อเสียงในยุคโบราณเช่นกัน,กล่าวได้ว่าพื้นที่ด้านในมหาค่ายกลหมื่นวิญญาณเพาะปลูก,สิ่งที่ถูกทำลายไป,จะค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมา.
แน่นอนว่ามหาค่ายกลหมื่นวิญญาณเพาะปลูกเองก็มีขีดจำกัด,ไม่ไช่ว่าทุกสิ่งสามารถฟื้นฟูกลับคืนมาได้ทั้งหมด,ยกตัวอย่างสมุนไพรวิญญาณแสนปีที่นี่,หากถูกทำลายแล้ว,ถึงจะเป็นมหาค่ายกลหมื่นวิญญาณเพราะปลูกก็ไม่อาจฟื้นคืน.
“เป็นไปได้ว่าเจ้าหนูฉินเยว่เป็นคนวางอย่างงั้นรึ?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ย.
“ไม่ใช่.”ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา“มหาค่ายกลหมื่นวิญญาณเพาะปลูกนั้นมีอยู่มากมายหลายแบบ,ไม่ควรเป็นเจ้าหนูฉินเยว่.”
ขณะที่ราชรถกำลังเคลื่อนที่ผ่านทุ่งดอกไม้,มหาค่ายกลมังกรสวรรค์ที่ลู่อี้ผิงวางไว้ก่อนหน้านี้ในสนามรบแห่งทวยเทพได้สั่นไหว.
ลู่อี้ผิงที่ตรวจจับได้ในทันที,ก่อนที่เขาจะหยุดหันหน้าไปยังทิศทางดังกล่าว,ที่หน้าผาก,ปรากฏดวงตาดวงหนึ่งขึ้น,แสงสายฟ้าที่ไหลบ่าออกมาไม่หยุด,ราวกับว่าจะกำเนิดทะเลสายฟ้าขึ้น.
ดวงตาที่สามที่เจาะทะลุทะลวงกาลอากาศ,ไปถึงสนามรบแห่งทวยเทพ.
ในส่วนลึกของสนามรบแห่งทวยเทพ,พื้นที่ส่วนลึกที่เคยติดตั้งมหาค่ายกลฝังเทพเก้าสมบูรณ์,ทุกเสียงที่เกิดขึ้น,ล้วนแต่มาปรากฏขึ้นในดวงตาที่สามของเขา.
พื้นที่มหาค่ายกลฝังเทพเก้าสัมบูรณ์,ที่เงียบสงบ,ไม่มีสิ่งใดผิดปรกติ.
ก่อนหน้านี้มหาค่ายอำนาจมังกรสวรรค์ที่ปกคลุมพื้นที่นี่เอาไว้,ไม่อาจที่จะมองเห็นมันได้ง่าย ๆ,เพราะมันซ่อนอยู่ในความว่างเปล่า.
ลู่อี้ผิงที่ขมวดคิ้วไปมา,เนตรทัณฑ์สายฟ้าที่กวาดตามองไปทั่วสนามรบแห่งทวยเทพ,หลังจากที่ตรวจสอบอย่างระเอียดแล้ว,จากนั้นเขาก็ดึงสายตากลับคืน,ให้วัวกระทิงมังกรเขาทองคำลากรถต่อไป.
เวลากลางคืนได้มาถึง.
ดวงดารามากมายที่ขึ้นประดับท้องฟ้า.
ในคืนที่มืดมิด,ทว่าแสงดารานั้นกับใสสว่างเจิดจ้าเป็นอย่างมาก.
หลังจากที่มาถึงเนินเล็ก ๆ,ลู่อี้ผิงก็หยุด,พักที่นี่,กองไฟที่ถูกก่อขึ้นย่างเนื้อ,เขากำลังครุ่นคิดถึงเรื่องที่มหาค่ายกลอำนาจมังกรสวรรค์ที่สั่นไหวเล็กน้อยก่อนหน้านี้.
“จูเหริน,มหาค่ายกลอำนาจมังกรสวรรค์ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?”วัวกระทิงเขามังกรที่เอ่ยสอบถาม.
ลู่อี้ผิงที่ส่ายหน้าไปมา.
ในเวลาเดียวกัน,ที่ไกลออกไป,มีใครบางคนที่กำลังฮัมเพลง,ก้าวตรงมายังที่นี่.
“สุราฟรี♫♫~♬”
“ย่ำสวรรค์และปฐพี ♫♫~♬”
“ข้าจะดื่ม ๆ ท่องโลกอย่างอิสระเสรี ♫♫~♬”
“...... ♫♫~♬”
เพลงเพราะดี,แต่ทำนองเพี้ยนไปหน่อย.
ขณะจ้องมองลงเนินเห็นชายชราที่สวมชุดเก่าผมกระเซอะกระเซิง,ขี่ลาฮัมเพลง,พร้อมกับถือน้ำเต้าสุราขึ้นมาจิบเป็นระยะ,ที่หน้าอกเปียกชื้นด้วยสุรา,ดูท่าทางคล้ายกับคนเมาที่เต็มไปด้วยอิสระเสรี.
ในเวลานั้น,ชายชราที่หยุดกึก,จมูกที่ทำท่าฟุดฟิด,จากนั้นก็สูดหายใจลึก,ดวงตาเบิกกว้างเป็นประกาย,ควบลามุ่งตรงไปยังทิศทางของลู่อี้ผิงทันที.
เพียงไม่นานก็พบกับพวกลู่อี้ผิง,แววตาของเขาที่จ้องมองไปยังไหสุราของลู่อี้ผิง,ก่อนที่จะกระโดดลงจากลาพร้อมกับไปยืนอีกฝั่งของกองไฟ,ใบหน้าเผยยิ้มพลายเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“สหายน้อย,สุราของเจ้า,หอมมาก.”เขาที่ถูมือไปมา,กลืนน้ำลายลงคอด้วยท่าทางกระหายอย่างที่สุด.
ลู่อี้ผิงที่วางไหสุรา,จ้องมองไปยังฝ่ายตรงข้าม,เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“หากเจ้าต้องการสุราดี,ก็แลกเปลี่ยนกับลาตัวนั้นสิ.”
ชายชรามอซอได้ยิน,ก็ราวกับคืนสติกลับมา,จ้องมองลู่อี้ผิงด้วยความอัศจรรย์ใจ,จากนั้นก็ส่ายหน้าไปมา“ไม่ได้ ๆ,นี่คือเลือดเนื้อของข้า,เป็นสหายเก่าแก่ของข้า,ไม่อาจนำไปแลกเปลี่ยนได้.”
ลู่อี้ผิงที่เผยยิ้มอย่างสุขุม,“สุราของข้านั้น,หมักจากผลไม้เพลิงเหมันต์,บัวเพลิงอสนี,ใบไม้หัวใจพุทธะ,แก่นน้ำแข็งอวิ๋นจื่อ,ผลเพลิงหัวใจปฐพี.....”
เขาที่เอ่ยวัตถุดิบมากกว่าสิบชนิดออกมา.
ทุกชนิดที่ถูกเอ่ย,ทำให้ชายชรามอซอตกใจชงัก,จ้องมองลู่อี้ผิงด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.
เพียงแค่ผลเพลิงเหมันตร์ก็ล้ำค่าเกินจะกล่าวออกมาแล้ว.
แน่นอนก่อนหน้านี้,แม้แต่ตาเฒ่เหอโชวหอราชาสมุนไพรรู้ว่ามันหมักมาจากผลเพลิงเหมันตร์,ก็แทบไม่กล้าดื่มมาก,ทว่าวัตถุดิบบัวเพลิงอสนีและวัตถุดิบอีกหลายอย่างที่เขาเอ่ยมานั้น,หายากยิ่งกว่าผลเพลิงเหมันตรอีก.
ชายมอซอที่ตกใจแทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน.
ลู่อี้ผิงที่ร่ายวัตถุดิบมามากกว่าสิบชนิด,จากนั้นก็หยุดลง,ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก.
ทว่าชายชรามอซอนั้นคันหัวใจยิก ๆ ท้ายที่สุดก็ทนไม่ไหว,ยืนมือออกไป,ตรงไปยังทิศทางของไหสุรา.
อย่างไรก็ตาม,ขณะมือของเขาที่ยื่นออกไป,กับถูกเจ้าเหวินที่ขวางเอาไว้.
ชายชรามอซอที่ประหลาดใจ,จ้องมองเจ้าเหวินคราหนึ่ง,ก่อนที่จะเผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“เทพแท้จริงขั้นสุดท้าย,ก็นับว่ายอดเยี่ยม”จากนั้นมือของเขาที่เปลี่ยนเป็นริ้วแสงพุ่งออกไป,ลอดผ่านมือของเจ้าเหวิน,หมายมั่นจะคว้าไหสุรา.
อย่างไรก็ตาม,ขณะที่ใกล้จะถึงไหสุรา,ขาใหญ่ยาวของวัวก็ยืนออกมาขวาง.
ชายมอซอที่ถูกขาวัวใหญ่ขวางเอาไว้,จ้องขาวัวที่มีขนสีทองส่องรัศมีแสงออกมา,ทำให้เขากลายเป็นตะลึงงัน.
ในเวลานั้น,ขาวัวที่ขยับ,จากนั้นชายชรามอซอที่สะดุ้งถอยหลังงุด ๆ อีกครั้งและก็อีกครั้ง.
ชายชรามอซอแทบไม่อยากเชื่อจ้องมองวัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่เวลานี้กำลังนั่งเคี้ยวเนื้อย่างตุ้ย ๆ อย่างไม่สนใจ,สายตาของเขาที่จ้องมองไปยังจางจิน,เจ้าเหวิน,ท้ายที่สุดก็ไปหยุดที่ลู่อี้ผิง“เจ้าเป็นใครกัน?”
ใบหน้าของเขาที่กลายเป็นจริงจังขึ้นมาช้า ๆ.
ที่ไกลออกไป,เวลานั้นกับได้ยินเสียงเดินที่หนักแน่น,ก่อนจะเห็นขบวนเสด็จขบวนใหญ่กลังเคลื่อนเข้ามาใกล้,เป็นขบวนเสด็จของโหลวถงนั่นเอง.