Chapter 42 When wants to go to go again
什么时候想去再去
“หยกสืบทอดนี้,ยังเป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะป้องกันอีกด้วย!”
“นอกจากนี้สิ่งประดิษฐ์เทวะชิ้นนี้ยังช่วยปกป้องดวงวิญญาณ,เป็นสิ่งที่หายากในโลกใบนี้,หยกสืบทอดนี้ยังได้บันทึกวิชาบำเพ็ญสุดยอดเอาไว้,ซึ่งอาจจะเป็นวิชาของจ้าวแห่งจักรวาล.”ผู้ดำเนินงานเฉินรุ่ยเผยยิ้ม.
“ทว่า,เจ้าของได้ร้องขอว่า,หยกสืบทอดนี้รับเพียงแค่ศิลาวิญญาณเกรดเทวะเท่านั้น.”
ขณะที่เฉินรุ่ยกำลังร่ายยาวบรรยายสรรพคุณมากมาย,ในเวลานั้น,ลู่อี้ผิงก็ยกมือขึ้นดูดหยกดังกล่าวลอยออกมาจากแท่นประมูลบินไปยังห้องหมายเลขหนึ่ง.
ทุกคนต่างก็เผยความประหลาดใจ.
ลู่อี้ผิงต้องการมันอย่างงั้นรึ?!
“คุณชายลู่,ท่านกำลังทำผิดกฎการประมูลหรือไม่?”เฉินรุ่ยที่เผยยิ้มค้าง,ขณะเอ่ย.
ลู่อี้ผิงเอ่ยกล่าวอย่างไม่แยแส“หยกสืบทอดนี้,เป็นใครที่ให้เจ้านำมันออกมาประมูล?”
น้ำเสียงที่เงียบสงบ,ทว่าทุกคนสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่แฝงอยู่ในคำพูดของลู่อี้ผิง.
ผู้ดำเนินงานเฉินลู่ที่ใบหน้าหลายเป็นเคร่งขรึม,เอ่ยออกมาว่า“คุณชายลู่,ท่านกำลังทำลายกฎเกณฑ์ของหอการค้า? แม้นว่าท่านจะเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของหอการค้า,หากว่าแหกกฎ,พวกเราคงต้องเสียมารยาท!”
“มีปัญหารึ?”ลู่อี้ผิงที่กล่าวขัดอีกฝ่ายทันที.
ผู้ดำเนิดงานเฉินลู่แทบสำลัก.
ในเวลานั้น,หัวหน้าสาขาซุนลี่เสวียนหอการค้าความลับสวรรค์ที่หลั่งเหงื่อที่เย็นยะเยือบออกมา.
“คุณชายลู่.”ซุนลี่เสวียนที่ก้าวเข้ามาในห้อง,ทว่าในเวลานั้น,ลู่อี้ผิงที่คว้าไปยังร่างอีกฝ่าย,ดึงร่างเข้ามาหาเขาทันที.
ซุนลี่เสวียนที่ตกใจเป็นอย่างมาก,เขามีระดับเทพวิญญาณขั้นต้น,ทว่าต่อหน้าอีกฝ่าย,กับไม่มีแรงต่อต้านเลยแม้แต่นิดเดียว.
เขาที่ตกใจหวาดกลัวเป็นอย่างมาก,จากนั้นดวงตาของลู่อี้ผิงมีประกายสายฟ้าปะทุขึ้น,จากนั้นจิตสำนึกของเขาก็ดับลง.
ลู่อี้ผิงทำการค้นความทรงจำของซุนลี่เสวียนทันที.
เพียงไม่นาน,การค้นวิญญาณก็เสร็จสิ้น.
ดวงตาของลู่อี้ผิงเป็นประกาย.
จากความทรงจำของซุนลี่เสวียน,คนที่นำหยกสืบทอดออกประมูลนั้นเป็นคนเดียวกับคนที่นำตราบัญชาจ้าวแห่งเทพ,ฝ่ายตรงข้ามนั้นสวมชุดดำหน้ากากผี.
คนเดียวกัน?
ผู้นำตราจ้าวแห่งทวยเทพ.
และหยกสืบทอดออกมาประมูล!
ซุนลี่เสวียนที่คืนสติกลับมา,จ้องมองใบหน้าของลู่อี้ผิงที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร,ภายในใจของเขาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว,ประหลาดใจไม่แน่ใจ,“คุณชายลู่,ท่าน?!”
เขาไม่อาจแก้ปัญหานี้ได้,การแข็งขืนแย่งหยกสืบทอดกลับมา,ลู่อี้ผิงคงสังหารเขาเป็นแน่!
เป็นไปได้ว่าเขาเกี่ยวข้องกับจ้าวแห่งจักรวาลอย่างงั้นรึ?
ทว่าจ้าวแห่งจักรวาลคือตัวตนเมื่อสองแสนปีที่แล้ว,ผ่านมาแล้วแปดรุ่น,เป็นไปได้ว่าเขาคือทายาทรุ่นแปดของจ้าวแห่งจักรวาลอย่างงั้นรึ?
ขณะซุนลี่เสวียนไม่รู้จะจัดการอย่างไร,ลู่อี้ผิงก็เอ่ยขึ้น,“หยกสืบทอดนี้,ข้าประมูลหนึ่งพันล้าน,มีใครให้ราคาสูงกว่านี้ใหม?”
ยอดฝีมือทุกคนที่จ้องมองหน้ากันและกันด้วยความงงงวย.
อย่างไรก็ตามก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา.
ลู่อี้ผิงที่ชี้นิ้วปล่อยบอลแสงออกไป,ปรากฏภูเขาศิลาวิญญาณต้นกำเนิดเกรดเทวะบนลานประมูล.
จากนั้นเขาก็นำพวกจากจินจากไป.
ลู่อี้ผิงที่ถือหยกสืบทอดก้าวขึ้นไปนั่งบนราชรถ,ในเวลานี้ร่างกายของเขาเปี่ยมล้นด้วยจิตสังหารที่รุนแรงเป็นอย่างมาก.
วัวกระทิงมังกรที่จ้องมองดูหยกสืบทอด,แววตาที่เป็นประกาย“ดูเหมือนว่า,คนกลุ่มนั้น,แส่หาความตายจริง ๆ! ผ่านมาหลายปีแล้ว,คาดไม่ถึงเลยว่าจะยังไม่ตัดใจ!”
ลู่อี้ผิงที่เอ่ยออกมาด้วยเสียงเย็นยะเยือบราวกับอสุรกายจากนรก“ถึงพวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ในจิวเทียน,ซ่อนตัวอยู่ในโหยวหมิง,ซ่อนตัวอยู่ในเสิ่นถู(โลกศักดิสิทธิ์),ข้าจะลากตัวพวกมันออกมา,ดึงวิญญาณของพวกมันมาหลอม!”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำพยักหน้ารับ,ก่อนนำลู่อี้ผิงกลับคฤหาสน์.
หลังจากลับมายังคฤหาสน์,ลู่อี้ผิงที่จ้องมองไปยังความว่างเปล่าทันที.
“เนตรสังสารวัฏ,เปิดให้ข้า!”
บนมิติที่ว่างเปล่า,ปรากฏหลุมน้ำวนขนาดใหญ่,หมุนวนอย่างรุนแรง,รวมตัวกลายเป็นดวงตาที่มองทะลุความเป็นความตายได้.
ลู่อี้ผิงที่จ้องมองผ่านความว่างเปล่าผ่านหลุมน้ำวน,สอบถามเรื่องบางอย่าง.
ผ่านไปนานเหมือนกัน,ลู่อี้ผิงก็หยุดลง.
เนตรสังสารวัฏ,บนห้วงมิติ,หลุมน้ำวนดวงตาก็ค่อย ๆ หายไป.
ในเวลานั้นดวงตาของลู่อี้ผิงที่มีจิตสังหารมากล้นแผ่ออกมา.
หนึ่งคืนผ่านไป.
ลู่อี้ผิงที่ยืนอยู่ในศาลาตลอดทั้งคืน.
“จูเหริน,ด้านนอก ประมุขตระกูลหว่าน,หว่านเฉิงเอ่ยว่าต้องการพบท่าน.”จางจินก้าวเข้ามา,เอ่ยอย่างระมัดระวัง.
ลู่อี้ผิงที่จมอยู่ในความคิดก่อนดึงสติกลับมาเห็นจางจินกำลังรอคอยคำตอบว่า,จะให้พบหรือไม่ให้พบ.
“นำเขาเข้ามา.”ลู่อี้ผิงที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบ.
ที่ด้านนอก,ประมุขตระกูลหว่าน,หวานเฉิงที่รอคอยอยู่,มีเพียงแค่งจางจินที่ก้าวออกมา,ไม่เห็นลู่อี้ผิง,ทำให้เขาขมวดคิ้วไปมา.
“นายของข้าเอ่ยว่าเจ้าสามารถเข้าพบได้,ตามข้ามา.”จางจินเอ่ย.
ประมุขตระกูลหว่าน,หว่านเฉินได้ยิน,ก็รู้สึกขุ่นข้องใจขึ้นมาทันที,ก่อนจะก้าวเข้าไปในคฤหาสน์พร้อมกับจางจิน.
หลังจากเข้ามาในสวน,เขาที่เห็นลู่อี้ผิง.
จ้องมองชายหนุ่มในชุดสีน้ำเงินที่มีรูปลักษณ์เป็นผู้เยาว์วัย 20 ปี,ภายในใจของเขาก็เผยความประหลาดใจออกมา.
ลู่อี้ผิงที่จ้องมองประมุขตระกูลหว่าน,หว่านเฉิง,เอ่ยออกมาเล็กน้อย“เจ้าต้องการพบข้า,มีเรื่องอะไร?”
มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?
ประมุขตระกูลหว่าน,หว่านเฉิงเห็นลู่อี้ผิงที่กล่าวอย่างไม่แยแส,ทำให้เขาไม่พอใจที่อีกฝ่ายไม่เห็นหัวตัวเอง,ทว่าก็เก็บความขุ่นข้องใจนั้นเอาไว้.
กล้าพูดแบบนี้กับเขาที่เป็นประมุขตระกูลหว่านได้อย่างไร,บิดาของเขาคือจ้าวแห่งทวีปเทพยุทธ์,ในทวีปแห่งนี้ตระกูลหว่านคืออันดับหนึ่ง.
คาดไม่ถึงว่าลู่อี้ผิงจะแสดงท่าทางกับเขาเช่นนี้ได้อย่างงั้นรึ?!
“ลู่อี้ผิง,เจ้ามีวิชาหมัดเทวะเพลิงทองคำของตระกูลหว่านของข้าได้อย่างไร? ตำราวิชาหมัดเทวะเพลิงทองคำอยู่กับเจ้าจริง ๆ รึ?”ประมุขตระกูลหว่าน หว่านเฉิงที่เอ่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม“เป็นไปได้ว่าเจ้าได้รับมันมาจากปู่บรรพชนหว่านหยูจื่องั้นรึ?!”
หว่านหยูจื่อ?
ลู่อี้ผิงที่เผยท่าทางไม่ใส่ใจ“ตำราหมัดเทวะเพลิงทองคำอยู่กับข้าจริง ๆ.”จากนั้นเขาก็หยุดและเอ่ยเพิ่ม“ว่าแต่,ใครบอกเจ้าว่าหมัดเทวะเพลิงทองคำเป็นของตระกูลหว่านกัน?”
ประมุขตระกูลหว่าน หว่านเฉิงที่ได้ยินคำพูดของลู่อี้ผิง,เอ่ยว่าหมัดเทวะเพลิงทองคำไม่ใช่ของตระกูลหว่าน,แต่กับเผยความตื่นเต้นขึ้นมา.
ทั่วทั้งพิภพเหิงหยวน,ผู้คนต่างก็รับรู้ว่าหมัดเทวะเพลิงทองคำนั้นเป็นของตระกูลหว่านกันทั้งนั้น.
แววตาของเขาที่ลุกโชนด้วยเปลวเพลิง,จ้องมองลู่อี้ผิง“เจ้าหมายความว่า,เจ้าไม่คิดที่จะคืนหมัดเพลิงทองคำให้ตระกูลหว่านอย่างงั้นรึ?”
“คืนรึ?”ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม“เจ้าพูดถูก,ข้าไม่เคยคิดเช่นนั้นเลยจริง ๆ.”
ประมุขตระกูลหว่าน,หว่านเฉินที่โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก,ทว่าเขาจ้องมองพวกจางจินที่อยู่ด้านหลัง,จึงต้องระงับความโกรธเอาไว้,เอ่ยออกมาอย่างระมัดระวัง“บิดาของข้าต้องการเชิญเจ้าเป็นแขกที่ตระกูลหว่าน,เขาต้องการพบเจ้า.”
ลู่อี้ผิงพยักหน้ารับ“ข้ารู้แล้ว.”จากนั้นก็เอ่ยเพิ่ม“เจ้ากลับไปซะ.”
ประมุขตระกูลหว่าน,หว่านเฉิงที่ตกใจ,ลู่อี้ผิงหมายความว่าอย่างไร?
“เมื่อข้ามีเวลาจะแวะไปตระกูลหว่านก็แล้วกัน.”ลู่อี้ผิงเอ่ยเพิ่ม.
ประมุขตระกูลหว่านได้ยิน,ก็ใบหน้ากลายเป็นอัปลักษณ์ในทันที.
บิดาของเขา,หว่านอู๋ตี้,จ้าวแห่งทวีปเทพยุทธ์,ให้เขามาเชิญลู่อี้ผิง,ลู่อี้ผิงกับเอ่ยว่า ไว้มีเวลาถึงจะแวะไปอย่างงั้นรึ? ซึ่งก็หมายความว่า,เขามีอารมณ์พอใจเมื่อไหร่ ถึงจะแวะไปงั้นรึ?
ในทวีปเทพยุทธ์นั้น,คำพูดของบิดาเขา,เป็นเหมือนกับบัญชาเทพ,ไม่เคยมีใครกล้าขัด,ถึงจะเป็นมหาจักรพรรดิเป่ยโตว โจวติงเทียน,หากบิดาของเขาต้องการพบ,อีกฝ่ายก็มีแต่ต้องเร่งรีบไปยังตระกูลหว่านในทันที.
ตอนนี้,ลู่อี้ผิงกับเอ่ยว่า มีเวลาถึงจะไป?!