Chapter 405: Yitao apologized to the Sir the graciousness of rescuing
亦桃谢过大人相救之恩
“เจ้าชื่ออะไร?”ลู่อี้ผิงเอ่ยสอบถามเด็กสาวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น.
สาวน้อยที่ดูฉลาดเฉลียวไม่น้อย.“พี่ชาย,ข้ามีนามว่าหวงเข่อซิน.”
“หวงเข่อซิน?”ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม“เป็นชื่อที่ดี,เจ้าเป็นคนของเผ่าหงส์ทมิฬอย่างงั้นรึ? ตอนนี้เผ่าหงส์ทมิฬเป็นอย่างไรบ้าง?”
ได้ยินลู่อี้ผิงเอ่ยถึงเผ่าหงส์ทมิฬ,หวงเข่อซินก็ดวงตาแดง,ร้องไห้,และห้องไห้เสียงดังมาก.
“เผ่าหงส์ทมิฬของพวกเราไม่มีอยู่แล้ว.”หวงเข่อซินที่สะอื้นเสียงดัง.
ไม่มีแล้ว?!
ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำใบหน้ากลายเป็นเคร่งขรึม.
เมื่อหวงเข่อซินสงบ,ลู่อี้ผิงก็เอ่ยถาม“เข่อซิน,เผ่าหงส์ทมิฬเกิดสิ่งใดขึ้นอย่างงั้นรึ?”
หวงเข่อซินยังคงสะอื้นเอ่ยออกมาว่า“หลายวันก่อน,ข้าและท่านแม่ได้ออกมาหาประสบการณ์,พอกลับมา,ก็พบว่าคนของเผ่าหงส์ทมิฬถูกสังหารไปจนหมด,ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยศพและโลหิตไหลเต็มไปหมด.”
ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้ยิน,ก็เผยแววตาเย็นชาออกมา.
“เจ้ารู้ใหมใครเป็นคนทำ?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ย.
หวงเข่อซินส่ายหน้าไปมา“ไม่รู้,ข้าและท่านแม่กลับมา,เห็นคนกลุ่มหนึ่งสวมหน้ากากและชุดสีดำกำลังเก็บศพพวกเดียวกันอยู่,ท่านแม่ไม่กล้าส่งเสียง,นำข้าหนีออกมาเงียบ ๆ,พวกเราลอบหนีออกมา,ทว่าระหว่างทางกับพบกับโจรร้าย.”
สวมหน้ากากและชุดสีดำ?
ลู่อี้ผิงที่ดูลังเลสอบถามออกมาว่า“คนเหล่านี้สวมหน้ากากชุดดำเป็นอย่างไร?”
หวงเข่อซินนึกย้อนกลับไป“พวกเขาควรจะเป็นบุรุษ,ตัวสูง,ดวงตามีแสงสีแดง,แม่ของข้าบอกว่าพวกเขาอาจเป็นผู้ฝึกตนมนุษย์มาร.”
“ผู้ฝึกตนมนุษย์มาร?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำขมวดคิ้วไปมา,ในอาณาจักรเซียน,นิกายต่าง ๆ นั้นหากฝึกฝนวิชาปิศาจจะถูกเรียกว่าเป็นมนุษย์มาร,นอกจากนี้วิธีฝึกฝนของเหล่ามนุษย์มารยังโหดร้ายพวกเขาส่วนมากล้วนแล้วแต่เป็นฆาตรกร.
ลู่อี้ผิงที่กำลังครุ่นคิด,แม้นว่าจะรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นมนุษย์มาร,ทว่าก็ยังยากจะบอกตัวตนของฆาตรกรได้,นอกจากนี้,เผ่าหงส์ทมิฬนั้นไม่ได้ด่อนแอ,กับถูกทำลายสิ้น เกรงว่าคงเป็นนิกายมนุษย์มารไม่กี่นิกายที่ทำได้.
หลังจากนั้น,ท้องของหวงเข่อซินก็ส่งเสียงดังโครกคราก.
“เข่อซิน,เจ้าคงไม่ได้กินอะไรมานานแล้ว?”ลู่อีผิ้งเอ่ยพลางนำกงเล็บยักษ์ออกมา,พร้อมกับตัดชิ้นเนื้อออกมา,พร้อมกับคุกเคล้าเครื่องปรุงแล้วย่างไฟ.
กงเล็บนี้,ก็คือแขนของอสูรผีเห่ยยวีที่ถูกสังหารไปก่อนหน้านี้นั่นเอง.
ชิ้นส่วนกงเล็บอสูรนั้นใหญ่มาก,เขาและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่เฉือนนำมาย่างกินหลายครั้งแล้ว,แต่ก็ยังเหลืออยู่อีกมาก.
เพียงไม่นาน,เนื้ออสูรก็หอมกรุ่นฟุ้งไปทั่วอากาศ.
หวงเข่อซินที่ได้กลิ่นของเนื้อย่าง,ก็รู้สึกร่างกายเบาสบาย,นางที่จ้องมองเนื้อย่าง,ที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นออกมา,พร้อมกับเอ่ยถาม“พี่ชาย,เนื้อสัตว์อะไรกัน,หอมมากเลย,ข้าเคยกินอสูรระดับเซียนหลายตน,ไม่เคยมีเนื้ออสูรใดที่หอมขนาดนี้.”
ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่เผยยิ้ม.
“เนื้ออสูรนี้,อาณาจักรเซียนไม่มี”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้ม“ในหมื่นอาณาจักรมีแค่เพียงตัวเดียว.”
ดวงตาเล็ก ๆ ของหวงเข่อซินที่เบิกกว้าง“หมื่นอาณาจักรมีแค่ตัวเดียวรึ? มันคืออสูรอะไร?”
“อสูรผีเห่ยยวี.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยด้วยรอยยิ้ม.
“อสูรผีเห่ยยวี?”หวงเข่อซินที่เผยความสงสัย,ส่ายหน้าไปมา“ไม่เคยได้ยินเลย.”
ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม,หลังจากเนื้อย่างสุก,เขาก็ตัดชิ้นเนื้อเล็ก ๆ ให้กับหวงเข่อซิน,ไม่ใช่ว่าตระหนี่แต่อย่างใด,ทว่าหวงเข่อซินเป็นเพียงครึ่งเซียน,ยากที่จะหลอมกลั่นเนื้ออสูรผีเห่ยยวีที่มีขอบเขตปราชญ์ได้.
ถึงจะเป็นชิ้นเนื้อเล็ก ๆ,ทว่ามันก็เปี่ยมล้นด้วยพลังปราชญ์ที่น่าพรั่นพรึง.
อย่างไรก็ตาม,มีลู่อี้ผิงอยู่ด้วย,ก็ไม่ต้องกังวลว่าจุดตานเถียนหวงเขอซินจะระเบิดรับไม่ได้.
หวงเข่อซินที่รับชิ้นเนื้อมา,น้ำลายสอ,ทว่านางไม่ได้กินทั้งหมด,นางที่กินชิ้นเล็ก ๆ เข้าปากไปช้า ๆ.
ปากน้อย ๆ,ฟันเล็ก ๆ ที่กัดกลืน,ความหอมละมุนที่ฟุ้งกระจาย,พลังวิญญาณต้นกำเนิดที่ไหลบ่าไปทั่วทุกรูขุมขน,แม้แต่ทะลุทะลวงทะเลวิญญาณของนาง.
“พี่ชาย,เนื้ออสูรนี้อร่อยมาก ๆ เลย.”หวงเข่อซินที่เผยท่าทางประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้ม.
“เนื้ออสูรมีเจิ้นหยวนแข็งแกร่งมาก,ดังนั้นหลังจากเจ้ากินเสร็จ,ก็นั่งบำเพ็ญ,โคจรวิชาเผ่าหงส์ทมิฬหลอมกลั่นเจิ้นหยวนด้วย.”ลู่อี้ผิงเอ่ย.
ลู่อี้ผิงไม่ได้เอ่ยว่าเป็นปราชญ์หยวน,เพียงเอ่ยว่าเป็นเจิ้นหยวนเท่านั้น.
หวงเข่อซินพยักหน้ารับ,หลังจากนั้น เมื่อนางกินชิ้นเนื้อเสร็จ,นางก็เริ่มนั่งบ่มเพาะโคจรวิชาหงส์ทมิฬหลอมกลั่นเจิ้นหยวนของเนื้ออสูร.
เพียงไม่นานหลังจากที่นางโคจรวิชาบ่มเพาะเผ่าหงส์ทมิฬ,ร่างกายของนางที่มีพลังงานอันเชี่ยวกรากไหลวนกระแทกไปทั่วร่าง.
หวงเข่อซินที่ตกใจ,ทว่าในเวลานี้,พลังงานที่อบอุ่นก็ปรากฏขึ้นปกคลุมร่างนางเอาไว้,ทำให้พลังงานที่พลุ้งพล่านสงบ,ไหลเข้าไปในจุดตานเถียนและแปลงเป็นพลังวิญญาณเซียนไม่หยุดหย่อน.
ลู่อี้ผิงที่ปล่อยแสงปราชญ์ปกคลุมร่างหวงเข่อซิน,ปิดกลั้นสะกดพลังปราชญ์หยวนในร่างไม่ให้คลุ้มคลั่ง,ให้มันถูกหลอมอย่างราบรื่นไม่หลุดการควบคุม.
ด้วยแสงปราชญ์และวิชาบ่มเพาะของหวงเข่อซิน,ปราชญ์หยวนก็ค่อย ๆ ซึมซับกระจายไปทั่วร่างของนางช้า ๆ.
หลังจากนี้,หลังจากหวงเข่อซินบ่มเพาะความเร็วในการบำเพ็ญของนางจะเร็วกว่าเดิมร้อยเท่า.
ด้วยปราชญ์หยวนในร่างของนางเมื่อหลอมกลั่นเสร็จสิ้น,ความเร็วในการบ่มเพาะของนางจะไม่ธรรมดาอีกต่อไป.
เห็นหวงเข่อซินหลอมปราชญ์หยวนจากเนื้ออสูรผีเห่ยยวีเสร็จสิ้น,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำก็เอ่ยออกมาว่า“สายโลหิตของนางบริสุทธิ์มาก,ไม่ได้ด้อยกว่าสายโลหิตของหวงเหว่ยหมิง”เขาเอ่ยและหยุด“เผ่าหงส์ทมิฬถูกวาดล้าง,ไม่รู้ว่าหวงเหว่ยหมิงตกตายไปแล้วหรือไม่?”
ลู่อี้ผิงที่ไม่เอ่ยอะไรออกมาอีก.
หนึ่งคืนผ่านไป.
แสงตะวันทอแสงส่องลงมาในสวน.
หวงเข่อซินที่ตื่นขึ้นมา.
หลังจากที่นางตื่นขึ้นมา,ก็เอ่ยด้วยความตื่นเต้นดีใจ“นี่ข้าตัดผ่านระดับขอบเขตเซียนแล้ว? ข้าเป็นเซียนแล้ว?!” ใบหน้าน้อย ๆ ของนางแทบไม่อยากเชื่อ,นางเอ่ยต่อลู่อี้ผิงด้วยความตื่นเต้น“พี่ชาย,ข้าตัดผ่านขอบเขตเซียนจริง ๆ รึ?”
ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม“ตอนนี้เจ้าเป็นขอบเขตเซียนแล้ว.”
หวงเข่อซินยืนขึ้น,ปากน้อย ๆ ของนางที่ร้องเล่นกระโดดไปมาอย่างมีความสุข.
ครึ่งเซียน,ก็ยังเป็นปุถุชน,มีเพียงก้าวสู่ขอบเขตเซียนเท่านั้น,ร่างกายทั้งหมดถึงจะกลายเป็นเซียน.
เซียนและครึ่งเซียน,สถานะในอาณาจักรเซียน,แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง,ไม่ต้องแปลกใจว่าสาวน้อยจะตื่นเต้นและมีความสุขเป็นอย่างมาก.
เห็นหวงเข่อซินที่เต้นไปมาด้วยความดีใจ,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำราวกับคิดถึงรูปลักษณ์ของโหลวสุ่ยในอดีตได้,พลางถอนหายใจยาว“ไม่รู้ว่าโหลวสุ่ยตอนนี้เป็นเช่นไร.”
ลู่อี้ผิงที่ลังเลเอ่ยออกมาว่า“ควรจะไม่เป็นไร.”เขารู้สึกว่าโหลวสุ่ยยังมีชีวิตอยู่.
ในอาณาจักรเทพ,เขาได้ให้หอการค้าเจิ้นหลงสืบหาร่องรอยของโหลวสุ่ยเช่นกัน,ทว่าอาณาจักรเทพนั้นกว้างใหญ่ไพศาล,การจะหาคน ๆ หนึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย,ดังนั้นจนถึงตอนนี้จึงยังไม่มีข่าวของโหลวสุ่ยนั่นเอง.
อย่างไรก็ตาม,ลู่อี้ผิงเชื่อมัน,สักวันหนึ่งจะมีโอกาสได้พบกับโหลวสุ่ย.
เพียงไม่นานหลังจากหวงเข่อซินตื่น,มารดาของนาง เฉินอี้เถาก็ตื่น,หลังจากนางตื่น,อาการบาดเจ็บของนางก็ฟื้นคืนหายดีโดยสมบูรณ์.
หลังจากที่นางรู้เรื่องราวของลู่อี้ผิงที่ช่วยชีวิตตัวเอง,นางก็ก้าวเข้ามาหาลู่อี้ผิง.
เฉินอี้เถาที่ฟื้นคืนอาการบาดเจ็บ,ใบหน้าดีขึ้นกว่าเมื่อวานมาก,นางที่โค้งคำนับด้วยความขอบคุณ“อี้โถวขอบคุณต้าเหรินที่ช่วยชีวิต.”เสียงของนางที่ดูเหมือนกับเสียงนกน้อย,ที่สดใสเจือด้วยความยินดี.