Chapter 36 In the world does not have the immortal
世上已无仙
อวิ๋นไห่เทียนที่จ้องมองลู่อี้ผิงคราหนึ่ง,หากเจ้านิกายน้อย,นิกายภูตหยินรับเทพปิศาจหกนิ้วเป็นอาจารย์ล่ะก็,เกรงว่าลู่อี้ผิงคงต้องพ่ายแพ้แล้ว.
เทพปิศาจหกนิ้ว,นี่คือบุคคลอันดับหนึ่งในวิถีแห่งกู่ฉิน,เต๋าแห่งกู่ฉินของเขานั้นสูงมาก,ไม่อาจมีใครเทียบได้,กล่าวได้ว่าเต๋าแห่งกู่ฉินยังไม่เคยมีใครก้าวข้ามเขาได้เลยแม้แต่คนเดียว.
ผู้คนมากมายต่างก็ต้องการคารวะเขาเป็นอาจารย์,ทว่ากับไม่เคยมีใครทำสำเร็จ,เพราะเทพปิศาจหกนิ้วนั้นกำหนดคุณสมบัติศิษย์ไว้สูงมาก.
ตอนนี้,คาดไม่ถึงว่าเจ้านิกายน้อย,นิกายภูตหยินเห่าตันจะเป็นศิษย์ของเทพปิศาจหกนิ้ว,เห็นชัดเจนว่าเขามีพรสวรรค์วิถีกู่ฉินนั้นสูงมาก,นอกจากนี้เห่าตันยังมีกู่ฉินของเทพปิศาจหกนิ้วอีกด้วย,นี่คือการยืนยันแล้วว่าเขาคือศิษย์อีกฝ่าย.
ขอบเขตเต๋ากู่ฉินของเขา,เกรงว่าในพิภพเหิงหยวนนั้น,คงมีไม่กี่คน เทียบได้.
เขาจ้องมองไปยังตำราหมัดคุกเทวะปรากฏการณ์สวรรค์และหมัดเทวะกาลเวลาบนโต๊ะ,ก็ขมวดคิ้วไปมา,เป็นไปได้ว่าหมัดคุกเทวะปรากฏการณ์สวรรค์และหมัดเทวะกาลเวลาจะต้องเป็นของนิกายภูตหยินซะแล้ว.
หากนิกายภูตหยินได้รับตำราหมัดคุกเทวะปรากฏการณ์สวรรค์และหมัดเทวะกาลเวลา,ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะต้องเพิ่มพูนขึ้นอย่างแน่นอน.
ในเวลานั้น,สำนักไท่อี้อาจถูกนิกายภูตหยินสะกดข่มหรือไม่?
มหาจักรพรรดิเป่ยโตว โจวติงเทียน,ประมุขน้อยตระกูลหว่าน หว่านหง,จักรพรรดินิไป่ฮัว,สำนักเลี่ยฮัว เหอเฉาและคนอื่น ๆ ที่จ้องมองตำราทั้งสองบนโต๊ะ,พลางขมวดคิ้วไปมา.
เจ้านิกายน้อย,นิกายภูตหยินเห่าตันที่นำกู่ฉินปิศาจสวรรค์ออกมา,ก่อนที่จะวางมือลงไป,ใบหน้าที่กระหยิ่มยิ้มย่อง“ข้าเพิ่งได้รับถูกการยอมรับจากอาวุโสปิศาจกู่ฉินหกนิ้วเป็นอาจารย์,ศึกษากู่ฉินมาร้อยกว่าปี,สำเร็จเต๋าแห่งกู่ฉิน,นับว่าเป็นโชควาสนาของข้าจริง ๆ!”
“วันนี้,ข้าจะทำการบรรเลงท่วงทำนองปิศาจสวรรค์,คนกู่ฉินเป็นหนึ่ง”
ท่วงทำนองปิศาจสวรรค์!
ทุกคนที่ได้ยินต่างก็เผยความตกใจออกมาทันที.
ท่วงทำนองปิศาจสวรรค์ขอบเขตคนกู่ฉินเป็นหนึ่ง!
กล่าวได้ว่ามันคือท่วงทำนองดังกล่าวนี้เป็นอันดับหนึ่งของพิภพเหิงหยวนมาตั้งแต่ยุคโบราณ.
เจ้านิกายน้อยนิกายภูตหยินเห่าตันเอ่ย,พร้อมกับแผ่กลิ่นอายที่น่าเกรงขาม,สวรรค์และปฐพีที่ราวกับจะสุขสงบลงในทันที.
แม้แต่กระแสอากาศในห้องโถง,ราวกับจะหยุดลงช้า ๆ อีกด้วย.
เห่าตันที่นั่ง,มือวางบนกู่ฉิน,ไม่เคลื่อนไหว.
“คนกู่ฉินเป็นหนึ่งเดียว!”อวิ๋นไห่เทียนที่ใบหน้ากลายเป็นจริงจัง.
เต๋าแห่งกู่ฉินนั้นมีสิบขอบเขต.
ทว่าขอบเขตคนกู่ฉินเป็นหนึ่งเดียว,อยู่ในขอบเขตที่แปด.
ก้าวไปอีกขั้น,ก็จะไปถึงระดับกู่ฉินศักดิ์สิทธิ์แล้ว.
“เจิ้ง♫”
เจ้านิกายน้อยนิกายภูตหยินเห่าตันที่เริ่มขยับ,สายของกู่ฉิงที่สั่นไหว,ราวกับสายฟ้าฟาดลงไปบนพื้นดิน.
หัวใจของทุกคนที่สั่นไปมาตามสายของกู่ฉิน.
เสียงสายฟ้ากู่ฉินที่ดังกึกก้องสะท้อนไปมา.
คลื่นเสียง,ทำให้ห้องโถงสั่น,ก้องกังวานไปทั่วทั้งพระราชวงศ์,กระจายออกไปจนทั่วทั้งเหมืองหลวง,คล้ายกับเสียงคำรามของสายฟ้า.
เพียงพริบตาเดียว,ทุกคนที่ราวกับได้เข้าไปอยู่ในโลกสายฟ้า.
ทันใดนั้นเสียงสายฟ้าก็หายไป.
ทว่า,ลมปราณปิศาจที่ลอยคลุ้งกระจายไปทั่วทั้งท้องฟ้า,นอกจากนี้ยังหนาขึ้นเรื่อย ๆ,มากขึ้นและก็มากขึ้น.
ลมปราณปิศาจเหล่านี้,กำลังจะหลอมรวมสร้างปิศาจสวรรค์.
ปิศาจสวรรค์ที่ดูสับสนวุ่นวายกำลังร่ายรำบนท้องฟ้า.
เจ้านิกายน้อย,นิกายภูตหยิน นิ้วของเขาที่เริ่มขยับเร็วขึ้นเรื่อย ๆ,พริบตานั้นด้านหลังของเขาที่ราวกับเป็นเป็นริ้วแสงพวยพุ่งออกมา.
ร่างกายของเจ้านิกายน้อยเห่าตัน,มีปราณปิศาจที่ไหลบ่าออกไปราวกับท้องทะเล,กลิ่นอายที่กวาดม้วนออกไปรอบ ๆ ดูน่าเกรงขาม.
“เทพวิญญาณขั้นสูงสุดชั้นปลาย!”บางคนที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.
เจ้านิกายน้อย นิกายภูตหยินเห่าตัน,เป็นยอดฝีมือเทพวิญญาณขั้นสุดยอดชั้นปลายแล้วนั่นเอง.
ในเวลานั้น,ร่างกายของเจ้านิกายน้อยนิกายภูตหยินเห่าตัน,ที่ราวกับถูกห่อหุ้มด้วยลมปราณปิศาจ,คล้ายกับว่าเขากำลังกลายร่างเป็นปิศาจสวรรค์โดยสมบูรณ์.
“กายปิศาจ!”
“เสียงปิศาจ,ผสานกายสู่ท่วงทำนอง!”
“หลังจากขอบเขตคนและกู่ฉินเป็นหนึ่ง,ก็คือผสานกายสู่ท่วงทำนอง!”
อวิ๋นไห่เทียนที่อุทานเสียงดัง.
ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะก้าวข้ามขอบเขตคนและกู่ฉินเป็นหนึ่งแล้ว.
ถึงจะยังก้าวไปไม่ถึงกู่ฉินศักดิ์สิทธิ์,แต่คงอยู่ไม่ไกลแล้ว.
ในเวลานี้,อวิ๋นไห่เทียนสามารถมองเห็นได้,ภายในห้องโถงแห่งนี้,ดวงตาของเหล่าเทพวิญญาณที่มีประกายแสงของปิศาจ,เห็นชัดเจนว่าพวกเขาได้รับผลกระทบของท่วงทำนองปิศาจสวรรค์.
เมื่อหลงไหล,จากนั้นก็จะถูกปิศาจสวรรค์ควบคุม,ทุกคนก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้านิกายน้อย,นิกายภูตหยิน,เห่าตัน!
อวิ๋นไห่เทียนเพียงแค่คิดก็รู้สึกแผ่นหลังหลั่งเหงื่อที่เย็นยะเยือบออกมาแล้ว.
ยอดฝีมือขอบเขตเทพวิญญาณอยู่ในการควบคุม,หากเจ้านิกายน้อย,นิกายภูตหยินเห่าตันให้พวกเขาเคลื่อนไหว,เกรงว่าผลที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ น่าพรั่นพรึงยิ่งนัก.
มหาจักรพรรดิเป่ยโตวโจวติงเทียน,ที่เห็นเหล่ายอดฝีมือเทพวิญญาณกำลังลุ่มหลงในมนต์สะกด,ภายในใจที่รู้สึกบีบรัดขึ้นมาในทันที.
หลังจากนั้นไม่นาน.
เสียงของกู่ฉินก็หยุดลง.
ปราณปิศาจที่ค่อย ๆ สลายหายไป,ปิศาจสวรรค์ที่ปกคลุมทั้งเมืองหลวงก็หายไปด้วย.
ภายในห้องโถง,เหล่ายอดฝีมือเทพวิญญาณที่ลุ่มหลง,ก็คืนสติกลับมา.
มหาจักรพรรดิเป่ยโตว,โจวติงเทียน,จักรพรรดินิไป่ฮัว,เหล่ายอดฝีมือตระกูลหว่านที่ผ่อนคลายลง,ทุกคนจ้องมองไปยังเจ้านิกายน้อย,นิกายภูตหยิน เห่าตันด้วยแววตาหวาดกลัว.
แม้นว่าเจ้านิกายน้อยนิกายภูตหยินเห่าตันจะไม่ใช่เทพแท้จริง,ทว่าไม่ต้องเอ่ยว่าอีกฝ่ายนั้นร้ายกาจกว่ายอดฝีมือเทพแท้จริง.
“ถึงตาเจ้าแล้ว!”เจ้านิกายน้อยนิกายภูตหยินเห่าตันหยุด,จ้องมองลู่อี้ผิง,พร้อมกับกล่าวหยัน“หากเจ้าไม่มีกู่ฉิน,ข้าจะส่งเคราะห์ให้เจ้ายืมหน่อยก็ได้.”
ลู่อี้ผิงที่ปรายตามองอย่างไม่สนใจ,เอ่ยออกมาว่า“ถึงแม้นว่าข้าจะไม่มีกู่ฉิน,ก็ยังสามารถเอาชนะเจ้าที่เพิ่งหัดเล่นกู่ฉินได้.”
ผู้คนรอบ ๆ ที่กลายเป็นตะลึงไปเลย.
เจ้านิกายน้อยนิกายภูตหยินได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็หัวเราะลั่น“เพิ่งหัดเล่นดนตรีอย่างงั้นรึ? ก็ดี! ข้าเห่าตันอยากจะเห็นเต๋ากู่ฉินที่เหนือล้ำของเจ้าจริง ๆ!”
อวิ๋นไห่เทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.
ลู่อี้ผิงเอ่ยเช่นนี้,เขาต้องการทำอะไร.
ต้องไม่ลืมว่าเต๋าแห่งกู่ฉิน,เจ้านิกายน้อยนิกายภูตหยินเห่าตัน ขอบเขตใกล้ถึงกู่ฉินศักดิ์สิทธิ์แล้ว,เว้นแต่ลู่อี้ผิงมีขอบเขตกู่เฉินศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นถึงจะชนะได้.
ในเวลานั้น,ลู่อี้ผิงที่วางมือลงบนพื้นโต๊ะ.
ทุกคนที่จ้องมองตาค้างด้วยความตกใจ.
ลู่อี้ผิงจะทำอะไรนะ!
ใช้โต๊ะ,ไม่ใช่ว่ากำลังจะใช้มันแทนกู่ฉินหรอกนะ!
อวิ๋นเห่าเทียนที่ดวงตาเบิกกว้าง,ครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้,หรือว่า?!
ในเวลานั้น,นิ้วทั้งสิบของลู่อี้ผิงที่ขยับ.
“เจิ้ง♫♫~♬!”
เสียงกู่ฉินที่ดังกึกก้อง.
“อะไรนะ?!”ภายในห้องโถงหลัก,ทุกคนแทบสะดุ้งตกใจลุกขึ้นทันที.
ไม่มีกู่ฉิน! แต่กับสร้างเสียงดนตรีได้!
ลู่อี้ผิงที่ขยับนิ้วเร็วขึ้น,เสียงของกู่ฉินที่ดังก้องกังวานแผ่ออกไปไม่หยุด,เพลงจากกู่ฉินที่ราวกับสายธารที่ไหลผ่านเทือกเขา,สายลมเย็นเอื่อย ๆที่ค่อย ๆเย็นขึ้นเรื่อย ๆ,เมฆสายฟ้าที่ก่อตัวก่อนที่จะฟาดลงมาราวกับสายฝน,เสียงของเซียนที่ดังพึมพำ.
เสียงของกู่ฉินนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับว่ากำลังกลายเป็นหนึ่งกับสวรรค์และปฐพี.
เสียงดนตรีของลู่อี้ผิงที่เลื่อนไหลดังออกมาไม่หยุดหย่อน.
ใช่แล้ว,เสียงของดนตรีที่ราวกับว่ากลายเป็นความจริงที่ลอยออกไป.
เสียงดนตรี,ที่เหมือนกับอสูรเทวะ,พุ่งออกมาเปลี่ยนเป็นเทพสวรรค์ยุคโบราณ,จากนั้นก็กลายเป็นสายฟ้าดังกึกก้อง!
อวิ๋นไห่เทียนที่ดวงตาแทบหลุดออกจากเบ้า,ตะลึง,อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น“บรรเลงโดยไร้ซึ่งกู่ฉิน,เสียงของกู่ฉินที่ราวกับผสานเข้ากับสวรรค์และปฐพี,เขตแดนที่สิบ,อาณาจักรเซียนกู่ฉิน! นี่คืออาณาจักรเซียนกู่ฉิน!”
หลังจากยุคโบราณ,ก็ไม่เคยมีใครที่มีเต๋ากู่ฉินก้าวสู่ระดับเซียนได้อีกเลย.
ทว่าเวลานี้,อาณาจักรเซียนกู่ฉิน,ปรากฏขึ้นบนโลกนี้แล้ว.
เจ้านิกายน้อยนิกายภูตหยิน,เห่าตันไม่อาจเชื่อได้เลยแม้แต่น้อยที่เห็นนิ้วทั้งสิบเคาะไปมาบนโต๊ะเกิดเสียงดนตรี,เวลานี้เขาที่ร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง“เป็นไปไม่ได้! นี่ไม่ใช่อาณาจักรเซียนกู่ฉิน! ในโลกนี้ไม่มีเซียน!”