Chapter 31: Comes up to play two moves?
上去玩两招?
ท้ายที่สุด,ราชรถสีทองที่ลากโดยวัวทองคำ,และราชรถของเจ้านิกายน้อยภูตหยินก็มาพบกันที่จุดตัด.
รถของเจ้านิกายน้อยสำนักภูตหยินเห่าตัน,ถูกลากโดยราชสีห์พิสุทธิ์ที่ตัวใหญ่ยักษ์.
นี่คือสัตว์กลายพันธ์โบราณ,ราชสีห์มังกรพิสุทธิ์
เหมือนกับกระทิงมังกรเขาทองคำ,มันมีสายโลหิตเผ่ามังกร.
อย่างไรก็ตามสายโลหิตความเข้มข้นของเผ่ามังกรแน่นอนว่าไม่อาจเทียบกับวัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้แม้แต่น้อย.
ราชรถทั้งสองที่หยุดเมื่อพบกัน.
เจ้านิกายน้อยนิกายหยินเห่าตันจ้องมองลู่อี้ผิง,พร้อมกับเผยยิ้มเจ้าเล่ห์เอ่ยออกมาว่า“ผู้น้อยเจ้านิกายน้อยนิกายภูตหยินเห่าตัน,เจ้าคือลู่อี้ผิงอย่างงั้นรึ?”
ลู่อี้ผิงจ้องมองอีกฝ่ายคราหนึ่ง,เอ่ยออกมาอย่างไม่แยแส.“มีปัญหาอะไร?”
เจ้านิกายน้อยนิกายภูติเห่าตันตกใจเล็กน้อยกับท่าทีอีกฝ่าย,จากนั้นก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม,เขาที่ถูมือไปมา,เอ่ยออกไปว่า“หลายปีมานี้ข้าหาที่อยู่ของสวีซิว,เจ้ารู้ใหมว่าสวีซิวอยู่ที่ใด?”
ในเวลานั้น,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้มพราย,“เจ้าหนู,ต้องการหาสวีซิว? เจ้าควรไปหาในนรก.”
เจ้านิกายน้อยนิกายภูตหยินเห่าตันได้ยิน,ใบหน้ากลายเป็นมืดครึ้มทันที.
เจ้าวัวตัวนี้,กล้าล้อเขาอย่างงั้นรึ?!
“ไป.”ลู่อี้ผิงหาได้สนใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย.
ราชรถวัวทองคำได้เคลื่อนที่ต่อไป.
เจ้านิกายน้อยนิกายภูติหยินที่จ้องมองราชรถของอี้ผิงจากไป,ใบหน้าดำมืด,ดวงตาที่อาบไปด้วยจิตสังหารอย่างรุนแรง.
หลังจากนั้นราชรถวัวมังกรก็มาถึงประตูทางเข้าราชวังทิศเหนือ.
ทางเข้าทิศเหนือนั้นมีเจ้าหน้าที่ควรตรวจสอบบัตรผู้เข้าร่วมงานอย่างระเอียดก่อนอนุญาตให้เข้าไปด้านใน.
อย่างไรก็ตาม,เมื่อลู่อี้ผิงมาถึง,แม่ทัพเฉินหยวนกับมาต้อนรับด้วยตัวเอง.
แม้ทัพเฉินหยวนที่ประสานกำปั้นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม”คุณชายลู่,ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ,เชิญตามข้ามาทางนี้เลย.
จากนั้น,ลู่อี้ผิงได้ตามเฉินหยวนเข้าไปยังวังหลวงเป่ยโตว.
ลู่อี้ผิงจ้องมองกองทัพที่กระจายกันอยู่,เอ่ยอย่างไม่แยแส“วังหลวงวันนี้,ดูเหมือนว่าจะมีกองกำลังคุ้มกันมากมายกว่าสามชั้น,กลัวว่าจะมีใครก่อกบฏอย่างงั้นรึ?”
แม่ทัพเฉินหยวนที่รู้สึกขัดเขินไปเหมือนกัน,เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“เมื่อเร็ว ๆ นี้ เมืองหลวงมีผู้ฝึกตนสายมารเพิ่มขึ้นจำนวนมาก,มหาจักรพรรดิจึงได้เตรียมป้องกันเอาไว้ก่อน.”
หลังจากนั้นเฉินหยวนก็นำลู่อี้ผิงไปยังตำหนักชั่วคราว,ซึ่งเป็นห้องโถงใหญ่ที่มีขนาดใหญ่.
อย่างไรก็ตาม,ห้องโถงใหญ่แห่งนี้,กล่าวได้ว่าใช้รับรองยอดฝีมือที่มีระดับเทพวิญญาณขึ้นไป,ดังนั้น,เหล่าเจ้านิกายซ่งหนิง,ลู่เผิงและคนอื่น ๆ ถูกจัดให้อยู่ในห้องโถงชั้นใน,ชั้นหนึ่ง,ระดับต่าง ๆ แยกตามระดับพลังของแต่ละคน.
นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือของตระกูลอื่น ๆ ที่เตรียมเอาไว้ที่ลานจัตุรัสด้านนอก.
ลู่อี้ผิงนำจางจิน,เจ้าเหวินคนทั้งสี่เข้ามาในห้องโถงหลัก.
เฉินหยวนได้นำลู่อี้ผิงมายังที่นั่ง,พร้อมกับเอ่ยว่าต้องการสิ่งใดให้เอ่ยกับสาวรับใช้,ก่อนที่จะจากไป.
ภายในห้องโถงหลัก,มีที่นั่งหนึ่งร้อยที่,ซึ่งมีผู้คนเข้ามาก่อนสิบกว่าคนแล้ว.
คนที่เข้ามาก่อนสิบกว่าคนมีทั้งชายและหญิงเวลานี้กำลังพูดคุยกันอยู่.
“คุณชายลู่,ผู้น้อยเหอเฉาสำนักเลี่ยฮั่ว,ในอดีตได้รับการชี้แนะจากอาวุโสสวีซิว,จึงมีวันนี้,ไม่รู้ว่าคุณชายลู่และอาวุโสสวีซิวนั้นเกี่ยวข้องอย่างไรกันอย่างงั้นรึ?”ฝ่ายตรงข้ามเป็นชายที่หัวล้านอ้วนท้วมเอ่ยด้วยรอยยิ้ม,ยกมือประสานหมัดเอ่ยต่อลู่อี้ผิง,อย่างสุภาพ.
สำนักเลี่ยฮั่ว!
หนึ่งในกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ของทวีปเทพยุทธ์,เหอเฉาเป็นผู้ก่อตั้งสำนักเลี่ยฮัว,เป็นยอดฝีมือเทพแท้จริงขั้นต้น.
ไม่ต้องเอ่ยถึงเลยว่ารอยยิ้มของเหอเฉานั้นเบ่งบาน,ทว่ากับซ่อนความดุร้าย,อมหิตเอาไว้.
ลู่อี้ผิงที่ปรายตามองอีกฝ่ายอย่างไม่แยแสเอ่ยออกมาว่า“ข้าและสวีซิวนั้นพบกันเพียงครั้งเดียว,หาได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน.”
พบกันเพียงครั้งเดียว?
เหอเฉาและคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ ต่างก็เผยท่าทางประหลาดใจ.
เหอเฉาที่หัวเราะหึหึ “คุณชายลู่ช่างช่างรู้จักล้อเล่นจริง ๆ.”
ในเวลานั้น,ประมุขน้อยนิกายภูตหยินที่กำลังเข้ามาโดยการนำของเจ้าหน้าที่จักรวรรดิเป่ยโตว.
เห่าตันที่มาทีหลัง,ที่ด้านหลังมียอดฝีมือสี่คน,หลังจากเข้ามาแล้ว,เขามองลู่อี้ผิงคราหนึ่ง,ก่อนจะเข้าไปนั่งที่ของตัวเอง.
ที่นั่งของเขานั้น,อยู่ตรงข้ามกับลู่อี้ผิง.
หลังจากเห่าตันมาถึง,จากนั้นก็มีสตรีผู้งดงามถูกนำเข้ามา,ด้านหลังของนางก็มียอดฝีมือสี่คนเช่นกัน.
สตรีนางนี้ก็คือจักรพรรดินิจักรวรรดิไป่ฮัว,จักรพรรดินิจียวี!
ทั้งสถานะและความงดงามของจียวีทำให้ทั้งห้องสงบลง,เหอเฉาสำนักเลี่ยฮัวที่จ้องมองจักรพรรดินิไป่ฮัว,แววตาที่แฝงด้วยเจตนาร้ายเอาไว้.
แม้แต่ประมุขน้อยนิกายภูตหยินเห่าตัน,ยังต้องหรี่ตามอง.
หลังจากจักรพรรดินิไป่ฮัว,ก็มีประมุขน้อยตระกูลหว่าน,หว่านหง,อวิ๋นไป่เทียนที่เข้ามา.
ทั้งสองที่มาด้วยกัน,อวิ๋นไห่เทียนที่ตามหลังหว่านหงมา.
ประมุขน้อยตระกูลหว่านที่เข้ามา,จ้องมองลู่อี้ผิงคราหนึ่ง,ก่อนไปนั่งที่ตัวเอง.
หลังจากนั้นยอดฝีมืออีกมากมายต่างก็เข้ามา.
เพียงไม่นาน,ห้องโถงใหญ่ก็เต็มไปด้วยผู้คน.
ท้ายที่สุดก็เป็น,จักรพรรดิในชุดเก้ามังกรสีทอง,โจวติงเทียนที่ก้าวเข้ามาพร้อมกับยอดฝีมืออีกหลายคน.
หลังจากเข้ามาแล้ว,โจวติงเทียนที่ยกมือประสานเอ่ยกับทุกคนด้วยรอยยิ้ม“งานครบรอบหมื่นปีจักรวรรดิเป่ยโตว,การที่ทุกท่านเข้าร่วมงานแสดงความยินดี,โจวติงเทียน ผู้นี้รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก!”จากนั้นเขาก็ชูแก้วสุราแสดงความเคารพต่อทุกคน.
ทุกคนที่ชูแก้วสุราขึ้นพร้อมกัน.
จากนั้นงานเฉลิงฉลอง,งานเลี้ยงการพูดคุย,งานเต้นรำก็ดำเนินขึ้น.
ผู้คนที่พูดคุยกันอย่างมีความสุข,ใบหน้ายิ้มแย้มสนุกสนาน.
หลังจากการดื่มไประยะเวลาหนึ่ง,เจ้านิกายน้อยนิกายภูตหยินเห่าเทียนที่ลุกขึ้นจากที่นั่ง,เอ่ยอย่างเฉื่อยชา“เพียงแค่งานเต้นรำ,ช่างดูไร้รสชาติ,โจวติงเทียน,ได้ยินมาว่าเจ้าได้รับเวทีประลองวายุสายฟ้ามา,นี่คือของวิเศษจากนิกายวายุสายฟ้าจากยุคโบราณ,ทำไมไม่นำมันออกมา,ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกล่ะ.”
“โอ้วดูน่าสนใจ.”
หลายคนที่หยุด,ก่อนวางแก้วสุราลง.
ท้ายที่สุดก็เกิดเรื่องที่เขาไม่ต้องการแล้ว.
เวทีประลองวายุสายฟ้านั้น,คือเวที ของวิเศษสิ่งประดิษฐ์เทวะยุคโบราณ,กล่าวกันว่าแม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตเทพสวรรค์ยังเคยเวทีแห่งนี้ ประลองเทียบฝีมือกัน.
โจวติงเทียนที่เผยท่าทางอักอ่วน,“เรื่องนี้!”
“มีปัญหาอะไร,โจวติงเทียน,เจ้ากลัวว่าพวกเราจะโลภเวทีประลองวายุสายฟ้าของเจ้ารึไง? พวกเราก็เพียงแค่ต้องการดูเป็นขวัญตาเท่านั้น.”เจ้านิกายน้อยนิกายภูตหยินเห่าตันที่เผยยิ้ม.
ในเวลานั้น,ประมุขน้อยตระกูลหว่าน หว่านหงเองก็เอ่ยปากออกมาเช่นกัน“ข้าเองก็ต้องการยลเวทีวายุสายฟ้าเช่นกัน,ได้ยินมาว่าหากต่อสู้บนนั้นแล้ว,จะสามารถช่วยฝึกฝนกลั่นร่างพลังธาตุวายุและสายฟ้าได้ด้วย.”
“ได้.”โจวติงเทียนเผยยิ้ม“ในเมื่อเจ้านิกายน้อยเห่าตันและประมุขน้อยหว่านหงต้องการชมเวทีวายุสายฟ้า,ข้าก็ไม่ขอขัดใจอีก.”
ในเวลานั้นเขาได้นำเวทีประลองวายุสายฟ้าออกมา.
เวทีวายุสายฟ้าที่ลอยออกจากมือของโจวติงเทียน,มันลอยอยู่บนห้องโถง,ขยายออกไปรอบ ๆ.
ประมุขน้อยนิกายภูตหยินเห่าตันที่จ้องมองเขม็ง,เวทีวายุสายฟ้าที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าดูยิ่งใหญ่อลังการ,เขาเผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“ควรค่าเป็นเวทีประลองที่เป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะจากยุคโบราณ,เต็มไปด้วยพลังวายุและธาตุสายฟ้าจากดวงดารา.”
จากนั้นสายตาของเขาก็จ้องมองไปยังลู่อี้ผิง“คุณชายลู่ได้ยินมาว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน สามารถสังหารคนของสำนักกระดูกขาว 77 คนที่มีขอบเขตมนุษย์สวรรค์และตำนานมากมายเพียงแค่สองกระบวนท่าเมื่อไม่กี่วันก่อน,ความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา,เป็นไปได้ไหมว่าจะลองทดสอบฝีมือกับผู้ใต้บังคับบัญชานิกายภูตหยินของข้า?”