Chapter 303 Heaven’s Will God King
天命神王(一更)
ขณะลู่อี้ผิงครุ่นคิดเตรียมเดินทางไปยังวังเทวะขาวดำ,เช่อจื่อเผิงก็ก้าวเข้ามา,เอ่ยรายงาน“ต้าเหริน,วังเทวะขาวดำและตระกูลสวีร่วมมือกัน,แต่ละกลุ่มได้ส่ง 100 บรรพชนชรามายังเมืองจีเหว่ย.”
“กลุ่มล่ะ100 บรรพชนชรา.”ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ.
“ขอรับ,วังเทวะขาวดำมียอดฝีมือ 11 ตราประทับ 20 คน นำมา!”
“และมีราชาเทพผสานลิขิตสวรรค์หกคน!”
เช่อจื่อเผิงเอ่ยรายงานด้วยความเคารพ.
ทะลวง 11 ตราประทับ,แม้นว่าจะยาก,ทว่าสำหรับวังเทวะดำขาวที่เป็นสุดยอดนิกายบรรพกาลของพื้นที่ดาราเจนกู่,ย่อมสามารถสร้างยอดฝีมือเหล่านี้ขึ้นมาได้หนึ่งคนทุก ๆ รอบหมื่นปี.
ดังนั้น,วังเทวะขาวดำ จึงสามารถส่งยอดฝีมือ 11 ตราประทับออกมาได้ถึง 20 คน!
ราชาเทพหกคน!
ความแข็งแกร่งระดับนี้,เพียงพอจะทำลายพิภพหลายแห่งในพื้นที่ดาราเจนกู่ได้เลย.
เช่อจื่อเผิงเอ่ย“ตระกูลสวีส่งบรรพชนชรา 11 ตราประทับ 20 คนเช่นกัน,ส่วนราชาเทพ มีเพียงห้าคน! และเทพโบราณ 12 ตราประทับหนึ่งคน เป็นผู้นำมา!”
พื้นที่ดาราเจนกู่,ต้องรู้ด้วยว่าเทพโบราณ 12 ตราประทับนั้นมีเพียงแค่สามคน!
ตระกูลสวีมีหนึ่งคน!
และครั้งนี้ตระกูลสวีก็ส่งเทพโบราณ 12 ตราประทับที่มีคนเดียวออกมาด้วย.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้ยิน,ก็เผยยิ้ม“ตระกูลสวีถึงกับส่งเทพโบราณ 12 ตราประทับออกมา,หากถูกจัดการไป,พวกเขาไม่ร้องให้จนสลบเลยรึ?”
เพราะว่าการตัดผ่านไปยัง 12 ตราประทับนั้นยากมาก,ดังนั้นเทพโบราณ 12 ตราประทับนั้นจึงหายากและล้ำค่ายิ่งกว่าราชาเทพซะอีก.
กล่าวได้ว่าเทพโบราณ 12 ตราประทับนั้น,มีความแข็งแกร่งเท่ากับราชาเทพผสานลิขิตสวรรค์หนึ่งเส้น.
เว้นแต่บางคน,ก่อนผสานลิขิตสวรรค์มีตราประทับ 11 อัน,หลังจากผสานกับลิขิตสวรรค์ พลังต่อสู้ถึงจะเหนือกว่าเทพโบราณ 12 ตราประทับ.
ด้วยเหตุนี้จะเห็นได้ว่าเทพโบราณ 12 ตราประทับล้ำค่ามาก ๆ.
เมื่อเทพโบราณ 12 ตราประทับผสานเข้ากับลิขิตสวรรค์,พลังต่อสู้จะเหนือกว่าราชาเทพคนอื่น ๆ ไปไกล.
ลู่อี้ผิงเอ่ย“ราชาเทพที่มานั้นเป็นเพียงแค่ราชาเทพผสานลิขิตสวรรค์หนึ่งเส้นอย่างงั้นรึ?”
ยอดฝีมือเทพโบราณ,จำเป็นต้องตระหนักรู้กฎอาณาจักรเทพ,รวมตัวตราประทับขึ้น,โดยปรกติทั่วไปนั้นจะมีขีดจำกัดที่สิบตราประทับ,ราชาเทพเองก็เช่นกัน,สามารถหลอมรวมเข้ากับลิขิตสวรรค์ได้หลายครั้ง,ทว่ามีขีดจำกัดอยู่ที่ลิขิตสวรรค์สิบเส้น.
“ขอรับ,เป็นราชาเทพลิขิตสวรรค์หนึ่งเส้น.”เช่อจื่อเผิงเอ่ยออกมาด้วยความเคารพ“ตอนนี้วังเทพขาวดำได้ออกคำสั่งให้ยอดฝีมือสร้างค่ายกลปกคลุมไปทั่วพื้นที่เมืองจีเหว่ยเอาไว้แล้ว.”
“อืม,ข้ารู้แล้ว.”ลู่อี้ผิงเอ่ยพร้อมกับนำวารีฮุ่นตุ้นทองม่วงออกมาหนึ่งถัง,มอบให้เช่อจื่อเผิง“ก่อนที่ลิขิตสวรรค์จะปรากฏ,เจ้าจงบ่มเพาะยกระดับให้มากกว่านี้.”
ยิ่งมีพลังมากเท่าไหร่ก่อนจะได้ผสานลิขิตสวรรค์,เมื่อกลายเป็นราชาเทพ,พลังต่อสู้ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น.
นอกจากนี้เมื่อลิขิตสวรรค์ปรากฏหากมีความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่,ก็จะยิ่งสามารถกำราบลิขิตสวรรค์ที่ทรงพลังแข็งแกร่งได้.
ลิขิตสวรรค์ก็เหมือนกับตราประทับ,แบ่งแยกออกเป็นแข็งแกร่งและอ่อนแอ,คลายกับเทพโบราณทั่วไปรวมตราประทับได้ไม่กี่ร้อยเมตร,ส่วนอสุรกายพรสวรรค์นั้นกลับรวมตราประทับได้มากกว่า 100 ลี้.
เช่อจื่อเผิงรับวารีฮุ่นตุ้นทองม่วง,กล่าวขอบคุณลู่อี้ผิงด้วยความเคารพ,“ต้าเหรินโปรดวางใจ,ผู้เยาว์จะตั้งใจบ่มเพาะอย่างจริงจัง”จากนั้นเขาก็ถอยออกไป.
หลังจากเช่อจื่อเผิงก้าวออกไป,ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำก็บ่มเพาะต่อไป.
ตอนนี้,ลู่อี้ผิงได้มอบหน้าที่ต่าง ๆ ในการรดเถาวัลย์น้ำเต้าเจ็ดสีให้กับพวกฉื่อเยว่ในวังดาราอู๋จี้,ดังนั้นหน้าที่เล็ก ๆ น้อย ๆ,เขาจึงไม่ต้องกระทำเองแล้ว.
ลู่อี้ผิงที่ได้หลอมรวมเข้ากับภูเขาปู้โจวแล้ว,เถาวัลย์น้ำเต้าเจ็ดสี,เขาเองก็สามารถควบคุมได้ดั่งใจเช่นกัน.
ส่วนน้ำเต้าทองม่วงที่เก็บเกี่ยวก่อนนั้น,ลู่อี้ผิงที่ให้มันดูดกลืนลมปราณปฐมกาลฮุ่นตุ้นอย่างต่อเนื่อง,เพื่อสร้างวารีฮุ่นตุ้นทองม่วงเรื่อย ๆ.
ขอเพียงมีลมปราณปฐมกาลฮุ่นตุ้น,น้ำเต้าทองม่วงก็สามารถผลิตวารีฮุ่นตุ้นทองม่วงได้วันล่ะหนึ่งถัง.
หลายปีมานี้,น้ำเต้าทองม่วงได้ผลิตวารีฮุ่นตุ้นทองม่วงออกมากว่า 1000 ถังแล้ว.
ด้วยเหตุนี้วารีดาราฮุ่นตุ้นจึงแทบไม่ได้ใช้,เวลานี้ใช้เพียงวารีฮุ่นตุ้นทองม่วง.
ขณะที่ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำบ่มเพาะอยู่นั้น,ในคฤหาสน์แห่งหนึ่งในเมืองจีเหว่ย,สวีชิงรับรู้ว่าตระกูลสวีและวังเทวะขาวดำร่วมมือกัน,ได้ส่งยอดฝีมือออกมาแล้ว.
“มีข่าวอะไรจากฝั่งเรือนที่พักเช่อหรือไม่?”สวีชิงสอบถามแม่ทัพถูเหิง.
ถูเหิงส่ายหน้าไปมา“ไม่เลย,เทพโบราณตระกูลเช่อ 12 ตราประทับนั้นไม่ได้ออกจากเรือนที่พักเช่อเลย.”จากนั้นเขาก็เอ่ยออกมาว่า“เรียนเจ้าเมือง,พวกหลิวซ่างอี้ห้าคนที่ได้เข้าไปในเรือนที่พักเช่อวันนั้น,สถานะของคนทั้งสี่ข้าได้ตรวจสอบแล้ว,หนึ่งในนั้นคือประธานหอการค้าเพลิงชาติท่านหว่านลี่ถง,อีกคนคือรองประธานทานซุนฉวน,ส่วนอีกสองคนเป็นอาวุโสของหอการค้าเพลิงชาติ.”
สวีชิงครุ่นคิด“หว่านลี่ถงต้าเหรินเข้าไปในเรือนที่พักเช่อทำอะไรกัน? กำลังทำธุรกรรมกับยอดฝีมือ 12 ตราประทับตระกูลเช่ออยู่งั้นรึ?”
“ก็อาจเป็นได้.”ถูเหิงพยักหน้ารับ.
สวีชิงแค่นเสียงกล่าวเยาะออกมาทันที“ถึงพวกเขาจะรู้จักหว่านลี่ถงต้าเหรินแล้วอย่างไร,ตอนนี้ต่อให้หว่านลี่ถงต้าเหรินก็ไม่อาจคุ้มครองพวกเขาได้!”
“ตระกูลเช่อสิบสองตราประทับน่าจะรู้ว่าตระกูลสวีและวังเทวะขาวดำส่งยอดฝีมือมา,ทว่าอีกฝ่ายกับไม่คิดที่จะหลบหนีเลยรึ?”ถูเหิงที่เผยความสงสัย.
สวีชิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ตอนนี้รอบ ๆ เมืองจีเหว่ยมีค่ายกลวังเทวะขาวดำปิดกั้นเอาไว้แล้ว,ถึงเขาต้องการหนี,ก็หนีไม่ได้!”
ตระกูลสวีและวังเทวะขาวดำที่ส่งบรรพชนชรามากมายมา,ทำให้ทั่วทั้งเมืองจีเหว่ยและเมืองรอบ ๆ กลายเป็นเงียบสงัด.
บนถนนหนทางของเมืองจีเหว่ย ที่เคยมีการจราจรตัดขัดมาก,เวลานี้กลายเป็นเปล่าเปลี่ยว,ไม่เห็นแม้แต่เงาคน.
เหล่ายอดฝีมือเมืองจีเหว่ยและเมืองรอบ ๆ ต่างก็รู้ว่าเมืองจีเหว่ยจะเกิดพายุใหญ่พัดผ่าน,ดังนั้นพวกเขาจึงหลบซ่อนระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก.
ความเงียบที่แม้แต่เสียงใบไม้หล่นบนถนนยังได้ยิน.
เหล่ายอดฝีมือมากมายต่างก็รู้สึกระสับกระส่ายเรื่องเรือนที่พักเช่อเป็นอย่างมาก.
รอบ ๆ เมืองจีเหว่ยที่บรรยากาศนิ่งเงียบเป็นอย่างมาก.
หลายวันผ่านไป.
บนขอบฟ้าไกล,ปรากฏจุดแสงจำนวนมากปรากฏขึ้น.
เหล่าจุดแสงที่เรียงแถวกันจำนวนมาก,ส่องรัศมีแสงขาวดำสะท้อนกับอากาศกลายเป็นละลอกคลื่นแสบตา.
ในเวลาเดียวกัน,ที่ขอบฟ้าอีกฝั่ง,ปรากฏจุดแสงอีกกลุ่มเช่นกัน,กลุ่มคนกลุ่มนี้ไม่มีรัศมีแสงดำมืด,ทว่าก็ไม่มีแสงส่องสว่างเช่นกัน,กล่าวได้ว่าทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขานั้นมีร่างเงาของนักบุญแห่งแสงส่องประกายออกมาเรื่อ ๆ.
ท้ายที่สุด,จุดแสงทั้งสองกลุ่มก็ปรากฏขึ้นปกคลุมทั่วเมืองจีเหว่ย.
วังเทวะขาวดำและคนของตระกูลสวีไม่ปกปิดกลิ่นอายแม้แต่น้อย, 200 บรรพชราที่แผ่กลิ่นอายฟุ้งปกคลุมท้องฟ้า,ทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสี,มีประกายสายฟ้าแล่นแปบ ๆ,คล้ายกับว่าพายุใหญ่กำลังม้วนกวาดเคลื่อนที่เข้าใกล้.
เหล่ายอดฝีมือเมืองจีเหว่ยและคนที่อยู่รอบ ๆ สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่าอัศจรรย์ใจของบรรพชรชราวังเทวะขาวดำและตระกูลสวีได้,แต่ละคนที่ร่างกายสั่นเทา.
ราชาเทพ,นี่คือตัวตนที่แข็งแกร่งทรงพลัง,เป็นผู้ปกครองใต้หล้า.
กล่าวได้ว่านี่คือพลังขีดจำกัดสูงสุดของดินแดนเทพเบื้องล่าง.
ปรกติแล้ว,ยอดฝีมือราชาเทพน้อยครั้งที่จะปรากฏตัว,ตอนนี้วังเทวะขาวดำกับส่งหกราชาเทพออกมา! ตระกูลสวีส่งออกมาห้าคน,และยังมีเทพโบราณขั้นที่ 12 ปรากฏขึ้นอีกหนึ่งคนด้วย.
กลิ่นอายของคนทั้ง 12 แผ่ปกคลุมสวรรค์.
“ท้ายที่สุดก็มาถึง!”ภายในใจของสวีชิงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ,เร่งรีบออกไปต้อนรับเหล่ายอดฝีมือด้านนอกเมืองจีเหว่ย.
“คารวะซู่จู่(ปู่)และต้าเหรินทุกท่าน!”สวีชิงที่ก้าวมาด้านหน้ายอดฝีมือตระกูลสวี,เร่งรีบโค้งคำนับอย่างสุภาพ.
ตระกูลสวี,นำมาโดยราชาเทพสวีหยู,ซึ่งเป็นซูจู่ของสวีชิงด้วย.
สวีหยูที่โบกมือให้สวีชิงและคนอื่น ๆ ให้ลุกขึ้น,ก่อนนำพวกเขาไปยังท้องฟ้าเมืองจีเหว่ย,จดจ้องมองไปยังพื้นที่คฤหาสน์สีม่วง.