Chapter 301 Ancient Star Territory this is must be the big deal
亘古星域这是要出大事啊
เหล่าทหารบนกำแพงเมืองจีเหว่ยที่จ้องมองพายุใหญ่ที่โบกพัด,เสียงของหมัดเพลิงดาราที่ดังกึกก้อง,พวกเขารู้สึกสั่นสะท้าน,เย็นยะเยือบไปทั่วร่าง,หมัดเพลิงเทวะที่เป่าทุกคนลอยกระเด็นกระแทกกำแพงเมืองดังสนั่น,ทำให้พวกเขาถึงกับขาอ่อนยวบไปในทันที.
หลิวซ่างอี้และคนของเขาไม่ได้ลงมือก่อนหน้านี้ได้หนีไปซ่อนตั้งแต่แรกแล้ว,อยู่พื้นที่ห่าง ๆ,จ้องมองเพียงพวกซูถง,สวีชิง,บรรพชนชราตระกูลหลิว,ยอดฝีมือคนอื่น ๆตลอดทหารคุ้มกันหลายหมื่นกระเด็นลอยเคว้ง,รู้สึกผวาไปเหมือนกัน.
“พลังคนเดียว,ที่สั่นคลอนทั้งเมือง!”ผ่านไปนานเหมือนกัน,เขาที่เงยหน้าขึ้นมองยอดฝีมือตระกูลเช่อที่แผ่กลิ่นอายน่าเกรงขามออกมา.
หลาย ๆ คนที่จดจ้องมองร่างในเหมือนบัณฑิตอยู่นาน,แต่ไม่อาจเอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกมา.
ในหมู่พวกเขา,บางคนเห็นเทพโบราณขั้นที่ 11 ลงมือ,ทว่าต่อหน้าเทพโบราณขั้นที่ 12 แล้ว ไม่อาจเทียบกันได้เลยแม้แต่น้อย.
ควรค่าเป็นพลังของ 12 ตราประทับ
พลังของเช่อจื่อเผิงที่ฝังตรึงลงในจิตสำนึกของพวกเขา,นี่คือพลังที่พวกเขาไม่อาจต่อต้านได้เลย.
12 ตราประทับ,ไม่ใช่พลังที่ 10 และ 11 ตราประทับจะสั่นคลอนได้.
แม้นว่าจะมีสิบตราประทับมากมาย,ก็ยังไม่อาจสั่นคลอน 12 ตราประทับเช่นเดิม.
กระทั่งซูถงจะรวมตราประทับ 130 ลี้,เป็นอสุกายพรสวรรค์,แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะสั่นคลอน 12 ตราประทับได้.
หลังจากที่เช่อจื่อเผิงต่อยออกไปแล้ว,ก็บินตรงไปยังคฤหาสน์เจ้าเมืองจีเหว่ย,ท่าทางที่ขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมาก,ก่อนร่อนลงพื้นและก้าวออกไป,ทุกก้าวที่เขาก้าวออกไป,ทำให้พื้นที่รัศมี 100 ลี้สั่นไปมา.
เหล่ายอดฝีมือหลายคนที่ซ่อนอยู่พื้นที่ไกล ๆ ,จ้องมองเช่อจื่อเผิง,ล้วนแต่ตกใจ,ถอยหลังก้าวแล้วก้าวเล่า,หวาดกลัวต่อเช่อจื่อเผิง.
เช่อจื่อเผิงที่จ้องมองไปยังพวกซูถง,ผางโป,จูเหว่ยจินและคนอื่น ๆ.
พวกเขาที่ถูกต่อยลอยกระเด็น,คนทั้งหมด,ที่นอนอยู่บนพื้นต่างก็กระอักโลหิตออกมาไม่หยุด.
แววตาของเช่อจื่อเผิงที่ชี้นิ้วรวมลำแสง,สายตาจ้องมองไปยังซูถง,ผางโป,จูเหว่ยจิน,สวีเสี่ยวหลิงทั้งหกที่หมดสภาพกองอยู่บนพื้น.
สวีชิงที่ราวกับคาดเดาได้ว่าเช่อจื่อเผิงจะทำอะไร,ไม่สนอาการบาดเจ็บของตัวเอง,เร่งรีบร้องตะโกน“หยุดให้ข้า!”
เช่อจื่อเผิงที่ราวกับไม่ได้ยินแม้แต่น้อย,พลังทำลายที่ปล่อยออกไปปกคลุมซูถง,ผางโป,จูเหว่ยจิน,สวีถงและพวกทั้งหมดทันที.
เสียงระเบิดดังสนั่นพลังทำลายที่ทำให้ชีพจรเทวะและประกายเทพเสียหาย.
ชีพจรของคนทั้งหกพังทลายโดยสมบูรณ์.
รวมทั้งซูถงด้วย.
เหล่ายอดฝีมือเมืองจีเหว่ยเวลานี้กลายเป็นงงงวยไปในทันที.
ยอดฝีมือตระกูลเช่อคาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าทำลายชีพจรเทวะของซูถง!
ซูถง,นี่คือผู้เยาว์ที่โดดเด่นที่สุดของวังเทวะดำขาว! และยังเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์! ได้รับความโปรดปราณถูกเลี้ยงดูอย่างดีจากคนของวังเทวะดำขาว,นางเป็นอสุรกายพรสวรรค์ที่รวมตราประทับ 130 ลี้ได้ เป็นดั่งความหวังของนิกาย.
ตอนนี้,ถูกเช่อจื่อเผิงทำลายชีพจรเทวะไปแล้ว.
ผางโป,จูเหว่ยจิน,สวีเสี่ยวหลิง,ศิษย์หลักของเจ้าวังเทวะดำขาวเองก็ด้วย.
กล่าวได้ว่าศิษย์หลักสี่คนของเจ้าวังเทวะดำขาวล้วนแต่ถูกทำลายชีพจรไปทั้งหมด.
แม้แต่ศิษย์หลักของบรรพชนชราวังเทวะดำขาว,เองก็ถูกทำลายชีพจรเทวะด้วยเช่นกัน.
สวีชิงที่เห็นเช่อจื่อเผิงทำลายชีพจรเทวะซูถง,และบุตรสาวของเขา สวีเสี่ยวหลิง,ดวงตาที่แดงซ่าน,กล่าวคำรามด้วยความโกรธ“เจ้าได้สร้างอาชญากรรมใหญ่แล้ว,เจ้ากล้าทำลายชีพจรเทวะเทพธิดาซูถง,กล้าทำลายชีพจรเทวะของบุตรสาวของข้า,ไม่เพียงล่วงเกินวังเทวะดำขาว,ทว่ายังล่วงเกินตระกูลสวีของข้าด้วย!”
“พื้นที่ดาราเจนกู่ใหญ่โตเพียงใดจากนี้จะไม่มีที่ซ่อนให้เจ้าหลบภัยอีกต่อไป!”
เสียงที่โกรธเกรี้ยวของสวีชิง ดังกังวานไปทั่วเมืองจีเหว่ย.
เป็นความจริง,แม้นว่าเช่อจื่อเผิงจะเป็นเทพโบราณ 12 ตราประทับ,ทว่าเพียงแค่คน ๆ เดียว,ยากที่จะสั่นคลอนวังเทวะขาวดำและตระกูลสวีทั้งหมดได้.
“ไม่มีสถานที่หลบภัยอีกอย่างงั้นรึ?”เช่อจื่อเผิงที่ไม่แยแส,ก่อนที่จะต่อยหมัดออกไปกระแทกซูถงและพวกทั้งหกอีกครั้ง.
ตูมมมม!
เวลานี้คนทั้งหมดที่ลอยกระเด็นล่วงหล่นลงบนพื้นอย่างรุนแรง.
หมัดดังกล่าวนี้ได้ทำลายชีพจรเทวะอย่างสมบูรณ์.
แม้แต่ประกายเทพเองก็เสียหายโดยสมบูรณ์อีกด้วย.
สวีชิงที่กลายเป็นงงงัน.
ทุกคนที่ยืนชงัก.
การเอ่ยกล่าวข่มขู่ของสวีชิงเมื่อครู่นี้,คาดไม่ถึงว่าจะทำให้เช่อจื่อเผิงลงมือทำลายประกายเทพของพวกซูถงทั้งหกซ้ำอีก.
หมายความว่าอย่างไร? จะอหังการไปเกินไปแล้ว.
ยโส,เหยียดหยัน,ดูแคลนคำขู่ของสวีชิงอย่างสิ้นเชิง.
“เจ้า!”สวีชิงที่จ้องมองเช่อจื่อเผิงด้วยความโกรธเกรี้ยว,ดวงตาที่แดงซ่านลุกโชนกลายเป็นเปลวเพลิง“เจ้าคิดจริง ๆ ว่า 12 ตราประทับจะไร้เทียมทานในโลกนี้? ยอดฝีมือตระกูลสวีของข้าและวังเทวะดำขาวจะมาถึงเร็ว ๆ นี้!”
เช่อจื่อเผิงเอ่ยกล่าวอย่างไม่แยแส“ข้าจะรอ.”
นับตั้งแต่ติดตามลู่อี้ผิงมา,น้ำเสียงของเขาที่เริ่มเป็นเหมือนกับลู่อี้ผิงทีละน้อย ๆ.
สวีชิงที่เวลานี้ถึงกับทำอะไรไม่ถูก.
เช่อจื่อเผิงที่จ้องมองไปยังทิศทางของหลิวซ่างอี้,ที่ปกป้องพวกเช่อจื่อเผิงทั้งสี่ที่หมดสตินำพวกเขาไปซ่อนยังพื้นที่ไกลออกมา,เช่อจื่อเผิงเอ่ยออกมาว่า“ประธานหลิว,ต้องขอบคุณเป็นอย่างมาก.”
หลิวซ่างอี้เอ่ยประจบ,“อาวุโสอย่าได้เกรงใจ,เป็นเรื่องที่ควรกระทำ.”
เช่อจื่อเผิงที่ใช้พลังเทวะปกคลุมร่างทั้งสี่,ปกป้องชีพจรพวกเขาเอาไว้,ก่อนที่จะเตรียมนำคนทั้งสี่กลับตระกูลเช่อ.
อย่างไรก็ตาม,ขณะที่จะจากไป,เช่อจื่อเผิงก็หยุดชงักเอ่ยออกไปว่า“คฤหาสน์เจ้าเมืองจีเหว่ย,ข้าเห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีอยู่อีกต่อไป.”กล่าวจบ,ก็มีฝ่ามือใหญ่ยักษ์ฟาดลงมายังคฤหาสน์เจ้าเมือง.
สิ่งก่อสร้างมากมายถูกฝ่ามือที่ส่องสว่างโจมตีลงมา.
ตูมมมมมมมมมม!
แสงดาราที่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในคฤหาสน์เจ้าเมืองพังราบเป็นหน้ากลองกลายเป็นเศษซากไปในทันที.
สิ่งก่อสร้างทั้งหมดได้กลายเป็นซากปรักหักพัง,ตำหนักที่กลายเป็นฝุ่นผงลอยฟุ้งไปทั่วอากาศ.
สวีชิงและคนอื่น ๆ ที่ได้แต่จดจ้องมองชงักงัน.
คฤหาสน์เจ้าเมืองที่ใหญ่โตโอ่อ่า,สิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ตระการตา,เวลานี้กลายเป็นผุยผงจากฝีมือของเช่อจื่อเผิง.
พลังทำลายของเช่อจื่อเผิงที่ทำลายเพียงสิ่งก่อสร้าง,ทว่ารอบ ๆ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ.
หลังจากทำลายคฤหาสน์เจ้าเมืองแล้ว,เช่อจื่อเผิงก็พาพวกเช่อซูปิงจากไป.
บรรพชนชราคนอื่น ๆ ที่จ้องมองเช่อจื่อเผิงจากไป,เอ่ยด้วยน้ำเสียงหวั่นเกรง“ความแข็งแกร่งของคน ๆ เดียว คิดจะสั่นคลอนตระกูลสวีและวังเทวะขาวดำคงยาก.”
คิดถึงเหล่ายอดฝีมือของตระกูลสวีและวังเทวะดำเขาว,พวกเขาก็รู้สึกสั่นสะท้านเช่นกัน.
“พื้นที่ดาราเจนกู่กำลังเกิดเรื่องใหญ่แล้ว.”บรรพชนชราอีกคนที่เอ่ยกล่าวด้วยอารมณ์ความรู้สึก.
ในเวลานั้น,ผู้คนมากมายต่างก็จ้องมองสวีชิงด้วยความรู้สึกซับซ้อน,คฤหาสน์เจ้าเมืองไม่มีอยู่อีกต่อไป,สวีชิงจะทำอย่างไรต่อไป? จะสร้างขึ้นมาใหม่หรือไม่?
ใบหน้าของสวีชิงที่บิดเบี้ยวขั้นสุด.
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเรื่องทั้งหมดจะจบแล้ว,จากภายในเรือนที่พักเช่อ,ปรากฏมือสีทองที่รวมตัวกันขึ้นมาบนท้องฟ้า,คฤหาสน์เจ้าเมือง,คว้าไปยังร่างของสวีเหวินกั๋ว.
คนที่ลงมือก็คือลู่อี้ผิงนั่นเอง.
เช่อจื่อเผิงลงมือก่อนหน้านี้,ลู่อี้ผิงและวังกระทิงมังกรเขาทองคำย่อมรับรู้อย่างแน่นอน,จิตเทพของลู่อี้ผิงที่ปกคลุมคฤหาสน์เจ้าเมืองเอาไว้,พบว่าบนร่างของสวีเหวินกั๋วนั้นมีปราณปิศาจจื่อจีอยู่.
“ปราณปิศาจจื่อจีของเผ่าปิศาจจื่อจี,เจ้ากำลังบ่มเพาะวิชาของเผ่าปิศาจจื่อจี.”เสียงที่ไม่แยแสของลู่อี้ผิงดังขึ้น.