Chapter 28 Su Xiu child nephew?
苏秀的子侄?
“ข้าจะไปยังหอการค้าความลับสวรรค์ตอนนี้!”อวิ๋นซิงหยุนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
อย่างไรก็ตามขณะที่อีกฝ่ายจะจากไป,อาวุโสใหญ่ตระกูลอวิ๋นอีกคนเอ่ยออกมาว่า“เมื่อวานมีบางคนที่ฝ่าฝืนกฎหมายต่อสู้ในเมืองหลวง,มหาจักรพรรดิโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก,ตอนนี้ได้สั่งการเอาไว้ว่าใครกล้าต่อสู้กันอีกจะต้องถูกจับกุมให้หมด,ถึงจะเป็นยอดฝีมือระดับเทพวิญญาณก็ไม่มียกเว้น!”
“ตอนนี้,ใกล้ถึงวันเฉลิมฉลองแล้ว,หากพวกเราลงมือในเมืองหลวงอีกครั้ง,เกรงว่าจะเป็นการยั่วยุโจวติงเทียนอย่างแน่นอน!”
“เรื่องนี้,ข้าว่าพวกเราใจเย็นก่อน,เจ้าเด็กนั่นไม่หนีไปใหนแน่,ไว้จบงานเฉลิมฉลองแล้ว,ค่อยจัดการก็ยังไม่สาย!”
อาวุโสอีกคนเอ่ย“เจ้าเด็กนั่นมีสกุลลู่,เป็นคนของตระกูลลู่อย่างงั้นรึ? เรื่องนี้,จะต้องสืบสวนให้ระเอียดก่อน.”
“ตระกูลลู่!”อวิ๋นซินหยุนที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
แม้นว่าธุรกิจของตระกูลลู่นั้นจะไม่ได้อยู่ในทวีปเทพยุทธ์,ทว่าก็เป็นหนึ่งในกลุ่มอิทธิพลที่ไม่ได้อ่อนด้อยกว่าคนในทวีปเทพยุทธ์เลย.
กล่าวได้ว่าพวกเขาเป็นดั่งอสุรกาย,ถึงจะเป็นจักรวรรดิเป่ยโตวก็ไม่กล้าท้าทาย.
“ประมุขน้อยไปยังตำหนักจักรพรรดิไป่ฮัว,รอคอยให้ประมุขน้อยกลับมา,ค่อยตัดสินใจกันอีกครั้งก็แล้วกัน”อวิ๋นเฉิงเอ่ย.”
อวิ๋นซิงหยุนที่ใบหน้ากลายเป็นมืดครึ้ม,ท้ายที่สุดก็พยักหน้ารับ.
ในเวลานั้น,พวกลู่อี้ผิงที่ไปถึงหอการค้าความลับสวรรค์.
หอการค้าความลับสวรรค์,ที่นี่คือหอการค้าที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเทพยุทธ์,กล่าวได้ว่าพวกเขาคือผู้มีอำนาจทางการค้าของทวีปแห่งนี้.
ห้องโถงต้อนรับที่มีขนาดใหญ่มาก,มีพื้นที่กว่าพันตารางเมตร,ในห้องโหงแห่งนี้มีผู้คนมากมาย,หลากหลายที่เดินทางมาทำการค้าขายที่นี่.
หลังจากพวกลู่อี้ผิงมาถึง,คนของหอการค้าก็เข้ามาทักทาย,พร้อมกับเอ่ยถามว่าต้องการซื้อหรือขายอะไร,ลู่อี้ผิงเอ่ยออกมาว่า“กวนซี,ข้าต้องการให้เจ้าช่วยข้าสืบข้อมูล.”
จากนั้นเขาก็นำศิลาวิญญาณออกมาให้กับคนของหอการค้าความลับสวรรค์,กลิ่นอายศิลาวิญญาณเทวะที่แผ่ออกไปรอบ ๆ,ทำให้ผู้คนรอบ ๆ ตกใจ“โอ้วสวรรค์,นี่มันศิลาวิญญาณเกรดเทวะ!”
ผู้คนทั้งหมดในห้องโถงที่จ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน.
ศิลาวิญญาณเกรดเทวะนั้นน่าหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก,ถึงจะเป็นสุดยอดหอการค้าของพิภพเหิงหยวน,ปรกติแล้วจะใช้ศิลาวิญญาณระดับสูงและระดับสูงสุดเท่านั้น.
ดังนั้น,การที่เห็นลู่อี้ผิงนำศิลาวิญญาณเกรดเทวะออกมา,ย่อมทำให้ผู้คนตกใจ.
เจ้าหน้าที่หอการค้าที่ชงักก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นตื่นเต้น“คุณชาย,เชิญท่านตามข้ามา!”
ลู่อี้ผิงที่ถูกเชิญเข้ามาในห้องรับรองพิเศษ.
ในเวลานั้น,กวนซีของหอการค้าก็ต้อนรับลู่อี้ผิงอย่างดี,เอ่ยถามอย่างสุภาพเกี่ยวกับเรื่องที่อีกฝ่ายต้องการข่าว.
ลู่อี้ผิงเอ่ย“สี่หมื่นปีกว่า,เทพกระบี่หยางตงได้รับข้อความจากคนลึกลับให้เข้าไปในสนามรบแห่งทวยเทพ,ข้าต้องการรู้ว่าใครเป็นคนส่งข้อความนั่นมา.”
หากรู้เกี่ยวกับคนลึกลับที่ล่อลวงอีกฝ่ายไป,อาจจะพบเงื่อนงำเกี่ยวกับคนที่วางค่ายกลฝังเทพเก้าสมบูรณ์ได้.
กวนซีได้ยิน,ใบหน้าถึงกับเปลี่ยนเป็นอักอ่วน.
เพราะเวลานานกว่าสี่หมื่นปีแล้ว,เรื่องนี้ยากจะสืบเสาะ,ซึ่งแน่นอนว่าต้องการสืบย่อมต้องใช้แรงงานมหาศาลเช่นกัน.
“คุณชาย,หน้าที่นี่,หอการค้าพวกเราไม่อาจรับได้.”เขาส่ายหน้าไปมา.
ในเวลานั้น,ลู่อี้ผิงนำกระบี่ยาวออกมา,เอ่ยออกไปว่า“ขอเพียงช่วยข้าสืบหา,กระบี่นี้จะเป็นรางวัล.”
“สิ่งประดิษฐ์เทวะ!”กวนซีหอการค้าจ้องมองกระบี่,แววตาเป็นประกายหายใจถี่ ๆ.
ในเวลานั้น,หัวใจของเขาที่ตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก,ไม่คาดคิดเลยว่าชายหนุ่มผู้นี้จะมีสิ่งประดิษฐ์เทวะ! นอกจากนี้ยังใช้มันเป็นรางวัลอีกด้วย!
“คุณชายโปรดรอสักครู่,ข้าต้องรายงานคนที่มีระดับสูงกว่า.”กวนซีหอการค้าเอ่ย,ก่อนที่จะก้าวออกจากห้องไป.
หลังจากนั้น,กวนซีก็กลับมา,ทว่ามาพร้อมกับชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง.
ชายวัยกลางคนผู้นี้ก็คือประธานซุนลี่เสวียน,เป็นผู้นำหอการค้าความลับสวรรค์สาขาเป่ยโตวแห่งนี้นั่นเอง.
ซุนลี่เสวียนที่ได้รับข้อมูลจากกวนซีก็ตกใจ.
หลังจากมาถึง,เขาที่เห็นลู่อี้ผิงและพวกจางจินทั้งสี่คนก็ประหลาดใจ.
เขาที่ดูแลหอการค้าความลับสวรรค์สาขาเป่ยโตวแห่งนี้มาหลายปี,การที่มีคนใช้สิ่งประดิษฐ์เทวะเป็นรางวัลนี่นับเป็นครั้งแรก.
แม้ว่าจะเป็นยอดฝีมือเทพแท้จริง,ก็ไม่จำเป็นต้องมีสิ่งประดิษฐ์เทวะ,เห็นชัดเจนว่าสิ่งประดิษฐ์เทวะนั้นล้ำค่ามาก.
แน่นอน,แม้แต่หอการค้าความลับสววรรค์สาขาเป่ยโต,ก็ยังไม่มีสิ่งประดิษฐ์เทวะแม้แต่ชิ้นเดียว.
“ผู้น้อยหัวหน้าหอการค้าความลับสวรรค์สาขาเป่ยโตว,ซุนลี่เสวียน,ไม่รู้ว่าคุณชายมีนามว่าอะไร.”ซุนยูเสวียนเอ่ยด้วยความเคารพ.
“ลู่อี้ผิง.”ลู่อี้ผิงที่ไม่ได้จะปกปิดอะไร.
ลู่อี้ผิง?
เป็นคนตระกูลลู่อย่างงั้นรึ?
ซุนลี่เสวียนที่ครุ่นคิดอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม“แท้จริงเป็นคุณชายลู่นี่เอง”กระนั้นสายตาของเขาก็แทบไม่อาจเลื่อนจากกระบี่ยาวบนโต๊ะเลย.
กระบี่ยาวนี้,เขารู้สึกดูคลับคล้ายคลับครา,ทว่ากับไม่อาจนึกออกได้.
เขาเอ่ยต่อลู่อี้ผิง“คุณชายลู่,เรื่องที่เทพกระบี่หยางตงหายไปในอดีตนั้น,มันได้กลายเป็นความลึกลับของทวีปแห่งนี้,ในอดีตมียอดฝีมือสืบสวนเรื่องนี้,อย่างไรก็ตามกับไม่ได้สิ่งใดกลับมา.”
“ตอนนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว,การสืบสวนอีกครั้ง,ยิ่งยากเข้าไปอีก!”
“เรื่องนี้,ข้าจำเป็นต้องแจ้งเอาไว้ก่อน.”
ลู่อี้ผิงที่พยักหน้ารับ.
จากนั้น,ซุนลี่เสวียนได้นำยันต์สื่อสารออกมา,ซึ่งเป็นยันต์สื่อสารที่ใช้ติดต่อกับสำนักงานใหญ่.
เพียงไม่นานหลังจากนั้นก็ได้รับการตอบรับจากสำนักงานใหญ่,ซุนลี่เสวียนที่ดูลังเลเล็กน้อย,กล่าวต่อลู่อี้ผิง,“ประธานของพวกเราสามารถรับหน้าที่นี้ได้,ทว่า,จะทำการสืบสวนหนึ่งปี,หนึ่งปีหลังจากนั้นไม่ว่าจะได้รับข้อมูลอะไร,สิ่งประดิษฐ์เทวะนี้,จะต้องเป็นของหอการค้าความลับสวรรค์ของพวกเรา.”
“นอกจากนี้,สิ่งประดิษฐ์เทวะชิ้นนี้,จะต้องมอบให้กับพวกเราก่อน.”
ลู่อี้ผิงไม่ได้โต้แย้งอะไร,กล่าวออกไปว่า“ตกลง,”จากนั้นก็มอบกระบี่ยาวให้อีกฝ่าย.
สิ่งประดิษฐ์เทวะ,เขามีอยู่มากมาย.
นอกจากนี้กระบี่ยาวเล่มนี้ยังเป็นเพียงแค่สิ่งประดิษฐ์เทวะขั้นต่ำเท่านั้น.
นอกจากนี้เขายังได้รับกระบี่ยาวนี้มาจากอู๋โม่อีกด้วย.
ลู่อี้ผิงไม่ได้สอบถามเรื่องอื่นอีก,เขาออกจากหอการค้าความลับสวรรค์ไป.
ซุนลี่เสวียนที่จ้องมองแผ่นหลังลู่อี้ผิง,ด้วยแววตาประหลาดใจ.
เขาไม่คิดเลยว่า,ชายหนุ่มผู้นี้กับตอบรับอย่างคาดไม่ถึง.
สิ่งประดิษฐ์เทวะในสายตาของเขา,เป็นของไร้ค้าอย่างงั้นรึ?
“ประธาน,ชายหนุ่มผู้นี้,เป็นคนตระกูลลู่อย่างงั้นรึ?”กวนซีก่อนหน้านี้,เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ.
ซุนลี่เสวียนที่ส่ายหน้าไปมา,ตระกูลลู่รึ? แม้ว่าจะเป็นประมุขน้อยตระกูลลู่เกรงว่าคงจะไม่ใจกว้างถึงขนาดนี้.
หลังจากที่ลู่อี้ผิงกลับจากหอการค้าความลับสวรรค์,ก็กลับไปยังคฤหาสน์.
ในคืนนั้น.
ในตำหนักที่หรูหราในวังหลวงเป่ยโตว.
บุรุษผมสีเงิน,หน้าตาหล่อเหลาไม่ธรรมดา,อวิ๋นไห่เทียนนั่งอยู่ในตำหนัก,เวลานั้นอวิ๋นซิงหยุนที่ก้าวเข้ามาภายในห้องโถง.
อวิ๋นไห่เทียนจ้องมองผู้คนที่ก้าวเข้ามา,เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง“เรื่องลู่อี้ผิง,ข้าได้ให้คนออกไปสืบมาแล้ว.”
เห็นท่าทางของอวิ๋นไห่เทียนที่ดูจริงจัง,เหล่ายอดฝีมือตระกูลอวิ๋นหัวใจเต้นไปมา,นี่ลู่อี้ผิงเป็นคนของตระกูลลู่จริง ๆ รึ?!
อวิ๋นไห่เทียนที่เอ่ยปากออกมาว่า“เขาควรจะเป็นหลานของสวีซิว!”
เหล่าคนของตระกูลอวิ๋นที่ตกใจ,จากนั้นก็ใบหน้าเปลี่ยนสี.
อวิ๋นซิงหยุนที่กล่าวเสียงสั่น“สวีซิว,สำนักปิศาจน้ำพุเหลืองอย่างงั้นรึ?!”
บรรพชนสวีซิวบรรพชนชรานิกายปิศาจน้ำพุเหลือง,ผู้บำเพ็ญวิถีมาร,ในอดีตอีกฝ่ายได้ไล่ล่ากวาดล้างนิกายหลายแห่ง! มีเทพวิญญาณมากมายที่ตายในมือของเขา.
คาดไม่ถึงเลยว่าลู่อี้ผิงจะเป็นหลานของจอมมารที่น่ากลัวคนนั้น?!
“ประมุขน้อย,ข้อมูลนี้ถูกต้องงั้นรึ?”อวิ๋นซิงหยุนที่เอ่ยสอบถาม.
อวิ๋นไห่เทียนพยักหน้ารับ“ไม่ควรจะผิด,เมื่อวานมีการต่อสู้ขึ้นที่เมืองหลวง,เหล่าทหารคุ้มกันหลายคนเห็นกับตา,เขาสังหารอาวุโสใหญ่สำนักกระดูกขาวหวังฉีซานและศิษย์ไปกว่า 77 คน!”
ทุกคนที่ร่างกายสั่นสะท้าน.