Chapter 2 Thunder Palace Sword Sect Yang Dong
雷阙剑宗杨东
ลู่อี้ผิงที่ตามมาจ้องมองกองโลหิตสีดำที่มีไอเย็นแผ่ออกมา,เอ่ยอกมาว่า“เจ้าถูกฝ่ามือพิษเย็นที่ร้ายกาจ,มาสามปีแล้ว,แม้นว่าจะระงับพิษเย็นด้วยปราณหยวนแท้(เจิ้นหยวน),ทว่าพิษไอเย็นนั้นเริ่มกัดกินชีพจรหัวใจของเจ้าแล้ว!”
ลู่เผิงตกใจเงยหน้าจ้องมองชายหนุ่มหน้ามนด้วยความประหลาดใจ“เจ้าเป็นใคร?”
คาดไม่ถึงว่าผู้เยาว์คนนี้จะมองเห็นอาการบาดเจ็บของเขาอย่างคาดไม่ถึง.
“เจ้าพูดไร้สาระอะไร!”เห็นลู่อี้ผิงไม่รู้ว่าตามนางมาตั้งแต่เมื่อไหร่,ซ้ำยังเอ่ยว่าพิษไอเย็นได้รุกรานชีพจรหัวใจของบิดานางแล้ว,ทำให้ลู่เสี่ยวยวีจ้องมองลู่อี้ผิงด้วยความโกรธเกรี้ยว.
ในเวลานั้น,ลู่อี้ผิงที่ยกนิ้วขึ้น,ก่อนที่จะเห็นเข็มสีแดงชาติเก้าเล่มพุ่งออกไป,จากนั้นก็พุ่งปักลงไปบนอกของลู่เผิงในทันที.
เวลานั้นลู่เผิงที่รู้สึกว่าชีพจรหัวใจของเขากำลังสั่นไหว,พิษเย็นมากมายกำลังแล่นออกมาทันที,เขาไม่อาจระงับเอาไว้พ่นมันออกจากปาก,จนด้านหน้าปรากฏแอ่งโลหิตสีดำขนาดใหญ่ขึ้น.
“ท่านพ่อ!”ลู่เสี่ยวยวีเห็นลู่อี้ผิงลงมือกับบิดาของนางทันที,ทำให้นางโกรธเกรี้ยว,ยกกระบี่เตรียมพุ่งโจมตีลู่อี้ผิง.
“เสี่ยวยวี,หยุด!”ลู่เผิงที่ตะโกนออกมาทันที.
ลู่เสี่ยวยวีหยุด,จ้องมองบิดาลู่เผิง.
ลู่เผิงที่จ้องมองหน้าอกที่มีเข็มสีแดงเพลิงปักอยู่,เอ่ยออกมาด้วยความตกใจ“นี่คือ,เข็มเก้าหยางคืนชีวิตอย่างงั้นรึ?!”จากนั้นก็จ้องมองไปยังลู่อี้ผิง,“คุณชายเป็นคนของวิหารราชาโอสถอย่างงั้นรึ?”
เข็มเก้าหยางคืนชีวิต,คือสุดยอดเข็มเทวะของทักษะชั้นยอดของวิหารราชาโอสถ.
มีเพียงแค่คนของวิหารราชาโอสถเท่านั้นที่จะมีทักษะเข็มเหินเทวะเช่นนี้ได้.
ลู่เสี่ยวยวีที่ได้ยิน จ้องมองนายน้อยที่เป็นคนของวิหารราชาโอสถก็ตกใจ.
เพราะว่าในทวีปเทพยุทธ์นั้น,ชื่อเสียงของวิหารราชาโอสถนับว่ายิ่งใหญ่ไม่ธรรมดา.
“ข้าไม่ใช่คนของวิหารราชาโอสถหรอก.”ลู่อี้ผิงที่ส่ายหน้าไปมา.
เข็มเก้าหยางคืนชีวิต,เขารู้จักเช่นกัน,ทว่าที่เขาใช้ไม่ใช่ทักษะเข็มเก้าหยางคืนชีวิตแต่อย่างใด,ทว่ามันคือเข็มวัฏจักรสังสารวัฏต่างหาก,มันคือทักษะที่เหนือยิ่งกว่าเข็มเก้าหยางคืนชีวิตหลายเท่า.
เข็มวัฏจักรสังสารวัฏของเขานั้น,เป็นของบรรพชนชราหุบเขาเทพโอสถสมัยบรรพกาลที่คิดค้นขึ้นมา.
สำหรับวิหารราชาโอสถนั้น,เขาก็เพิ่งเคยได้ยินนี่ล่ะ.
ไม่ใช่คนของวิหารราชาโอสถอย่างงั้นรึ?ลู่เผิงที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
ลู่อี้ผิงเอ่ย“ตอนนี้เจ้าลองโคจรเจิ้นหยวน(ปราณแท้)ดู,รวมพลังไว้ที่จุดทั้งเก้า,แล้วถอนพิษเย็นให้หมดขับออกจากร่างกายซะ.”
ลู่เผิงพยายามโคจรเจิ้นหยวนทันที,โดยที่โคจรไปยังจุดชีพจรทั้งเก้า,ทันใดนั้น,เจิ้นหยวนที่พุ่งทะลวงผ่านจุดชีพจร,พลังลมปราณแท้ที่มารวมตัวที่จุดทั้งเก้า,ทุกครั้งที่ปราณแท้เคลื่อนที่ผ่าน,พิษเย็นทั้งหมดได้ถูกขับออกทั้งหมดอย่างรวดเร็ว.
เมื่อเจิ้นหยวนโคจรผ่านชีพจรทั้งหมด,เขารู้สึกว่าร่างกายอุ่นขึ้น,สบายไปทั้งตัว.
สามปีมาแล้ว,เขาเจ็บปวดจากพิษเย็น,พลังของเขาถูกสะกด,เจิ้นหยวนไม่อาจเคลื่อนผ่าน,ร่างกายที่หนาวแข็ง,ทุกค่ำคืนต้องเจ็บปวดแทบตาย,เวลานี้ความเจ็บปวดทั้งหมดได้สลายหายไปอย่างสมบูรณ์.
สามปีมาแล้ว,ใบหน้าของเขาที่ซีดขาว,ท้ายที่สุดก็คืนกลับมามีเลือดฝาดอย่างรวดเร็ว.
ลู่อี้ผิงที่ดึงเข็มวัฏจักรสังสารวัฏกลับมา.
ลู่เผิงที่ลุกขึ้น,เอ่ยด้วยความตื่นเต้น,โค้งคำนับอย่างซาบซึ้ง,“ขอบคุณคุณชายที่ช่วยเหลือ!”
“ไม่ได้พยายามอะไร”ลู่อี้ผิงเอ่ย“เจ้าคือศิษย์ของสำนักอาชูร่าอย่างงั้นรึ? ข้าและอาวุโสสำนักอาชูร่าของเจ้านั้นเป็นสหายเก่ากัน.”
เป็นสหายเก่าของอาวุโสอย่างงั้นรึ?
ลู่เผิงที่จ้องมองใบหน้าที่ประณีตของลู่อี้ผิง,เป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายมีอายุมากกว่า 20 อย่างงั้นรึ?
“สำนักอาชูร่า,ตอนนี้ใครเป็นเจ้าสำนัก?”ลู่อี้ผิงเอ่ยสอบถาม.
ใบหน้าของลู่เผิงที่กระตุกไปมา,เงยหน้าขึ้นถอนหายใจ“ไม่ขอปิดบังคุณชาย,สำนักอาชูร่านั้นล่มสลายไปแล้ว.”
ล่มสลายอย่างงั้นรึ?!
ลู่อี้ผิงที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
ในยุคโบราณ,สำนักอาชูร่าคือหนึ่งในกลุ่มอิทธิพลกำเนิดพิภพที่แข็งแกร่งแห่งหนึ่ง.
ลู่เผิงเอ่ย“ไม่กี่ปีก่อน,สำนักอาชูร่าของข้าถูกนิกายหมื่นปีศาจทำลายล้าง!”
น้ำเสียงของเขาที่เจือไปด้วยความเกลียดชังเอ่ยออกมาว่า“ฝ่ามือพิษไอเย็นที่ข้าได้รับก็มาจากอาวุโสคนหนึ่งของนิกายหมื่นปีศาจ!”
“หลายปีมานี้,ข้าได้นำเสี่ยวยวีมาซ่อนตัวที่นี่,ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการไล่ล่าของนิกายหมื่นปิศาจ.”
ลู่อี้ผิงที่สอบถามเรื่องของสำนักอาชูร่าอีกหลายอย่าง.
แท้จริงแล้ว,เมื่อครั้งสงครามของเหล่าทวยเทพในยุคบรรพกาลนั้น,เจ้าสำนักอาชูร่าและเหล่าบรรพชนชราได้ล่วงหล่นจากไปหมดแล้ว,สำนักอาชูร่าไม่อาจฟื้นฟูกลับมาได้,หลายปีมานี้เกิดการเปลี่ยนแปลงจนเวลานี้เป็นเพียงกลุ่มอิทธิพลชั้นสองของทวีปเทพยุทธ์เท่านั้น.
สำนักอาชูร่าเกิดความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์กับนิกายหมื่นปีศาจ,ตอนแรกทั้งสองมีพลังที่ไม่ได้ด้อยกว่ากันนัก แม้นว่ามีการต่อสู้กัน,ทว่าต่างฝ่ายต่างก็ได้รับความเสียหายไม่ต่างหาก,ทว่าสามปีก่อน,นิกายหมื่นปิศาจจู่ ๆ กับปรากฏยอดฝีมือลึกลับคนหนึ่งปรากฏขึ้นมาช่วยเหลือ,ทำให้เจ้าสำนักอาชูร่าและเหล่าอาวุโสถูกสังหารไปจนเกือบหมด!
แม้นว่าจะเห็นความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน,แต่เมื่อรู้ว่าสำนักอาชูร่าล่มสลายไปแล้ว,ก็ทำให้หัวใจของลู่อี้ผิงเศร้าซึมไปเหมือนกัน.
He thinks, in innumerable marvelous ability secret book from Earlier Heaven Supreme Treasure Universe Cauldron, took Asura sword technique, gives Lu Peng.
เขาได้ครุ่นคิดเล็กน้อย,ก่อนที่จะหยิบตำราลับเล่มหนึ่งออกมาจากสุดยอดของวิเศษหม้อจักรวาล,นำตำราวิชากระบี่อาชูร่า,ส่งมอบให้กับลู่เผิง.
ภายในใจของลู่เผิงที่เต็มไปด้วยความสงสัย,ก่อนรับตำราดังกล่าวมา,พร้อมกับเอ่ยด้วยความประหลาดใจ“เพลงกระบี่อาชูร่า!”
นี่มันวิชากระบี่อาชูร่า?!
ลู่เสี่ยวยวีได้ยิน,ก็กระแซะเข้ามาใกล้ ลอบมองดู.
ลู่เผิงที่เผยท่าทางประหลาดใจ,เปิดตำรากวาดตามอง,ยิ่งอ่านยิ่งตื่นเต้น,เขาแทบไม่อยากเชื่อก่อนที่จะเงยหน้าหันไปมองลู่อี้ผิง,“คุณชาย,วิชากระบี่อาชูร่านี้,เป็นของท่านอย่างงั้นรึ?”
เพลงกระบี่อาชูร่า,คาดไม่ถึงว่านี่คือตำราที่สมบูรณ์แบบ! มันมีทั้งหมด 36 กระบวนท่า! ทว่าที่เขารู้มันเหลือแค่หกกระบวนท่าเท่านั้น,นอกจากนี้กระบวนท่าทั้งหกเองก็ทรงพลังเหนือสามัญสำนึกแล้ว.
แต่ว่า,ตอนนี้ทักษะกระบี่อาชูร่าที่สมบูรณ์ที่สูญหายไปนานหลายปี,มันอยู่ในมือคุณชายได้อย่างไร,นี่เขาได้รับมาได้อย่างไรกัน?
“ข้าเคยบอกแล้ว,ข้าและอาวุโสสำนักอาชูร่านั้นเป็นสหายเก่ากัน.”ลู่อี้ผิงเอ่ย.
ลู่เผิงที่เอ่ยกล่าวอย่างลังเล,“ไม่รู้ว่าอาวุโสคนใหนของสำนักอาชูร่าที่คุณชายรู้จัก?”
“หลังจากนี้,เจ้าจะรู้เอง.”ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา.
ลู่เผิงได้ยินคำตอบ,ก็ไม่ซักถามอะไรต่อไปอีก,เขาโค้งคำนับให้กับลู่อี้ผิงด้วยความเคารพ,“คุณชายช่วยข้า,แล้วยังมอบทักษะกระบี่ไร้คู่เปรียบให้อีก,หลังจากนี้ชั่วชีวิตของข้า,ลู่เผิงขอเพียงแค่คุณชายเอ่ยก็พร้อมที่จะบุกน้ำลุยไฟอย่างไม่ลังเลอย่างแน่นอน.”
ลู่อี้ผิงได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็เผยยิ้มเล็กน้อย.
เขาที่อาศัยอยู่ในป่าศักดิ์สิทธิ์เนิ่นนานหลายปี,มีผู้เดินทางผ่านมาหลายสิบคน,แทบทุกคนต่างก็สาบานเอ่ยคำพูดดั่งที่ไม่ต่างจากที่ลู่เผิงเพิ่งกล่าวไป.
ในกลุ่มคนเหล่านั้น,คนที่อ่อนแอที่สุดยังแข็งแกร่งกว่าลู่เผิงนับหมื่นเท่า.
ดังนั้น,เกี่ยวกับคำพูดของลู่เผิง ที่คิดจะบุกน้ำลุยไฟอะไรนั่น,เขาหาได้สนใจไม่.
ส่วนทักษะกระบี่ไร้คู่เปรียบที่มอบให้,อืม,จะเอ่ยเช่นนั้นก็ไม่เชิงนัก.
เขาได้พักอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามวัน.
ลู่เผิงและลู่เสี่ยวยวี,บิดาและบุตรสาวที่ได้จัดเตรียมห้องพักและอาหารให้เขา,จากนั้นก็ทุ่มเวลาทั้งหมดในการฝึกฝนวิชากระบี่อาชูร่า.
ลู่อี้ผิงเพียงแค่มองอยู่ห่าง ๆ,ไม่ได้เอ่ยชี้แนะทั้งสองแต่อย่างใด,ในสายตาของเขา,ลู่เสี่ยวยวีมีร่างกระบี่ต้าเหยียน,พรสวรรค์เหนือกว่าลู่เผิง,ทว่าหัวใจกระบี่ของลู่เผิงนั้นลึกล้ำกว่า,ทำให้เขาเข้าใจวิถีกระบี่ได้ดีกว่า.
เพียงแค่สามวัน,ทั้งสองก็สามารถฝึกกระบี่อาชูร่าได้ถึงสิบกระบวนท่า.
ในวันนี้.
ลู่เผิงที่เข้ามาหาลู่อี้ผิง,เอ่ยกล่าวอย่างลังเล,“คุณชาย,เร็ว ๆ นี้นิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน(วิหารกระบี่สายฟ้า)จะเปิดรับศิษย์ในทุกสามปี,ข้าต้องการให้เสี่ยวยวีเข้าร่วมการทดสอบ,หากเสี่ยวยวีเข้าร่วมนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนได้,นางก็จะมีที่พักพิง,ไม่จำเป็นต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ อีก,สามารถหลีกหนีจากการไล่ล่าของนิกายหมื่นปีศาจได้”.
“เจ้ากำลังบอกว่า,พวกเจ้าวางแผนที่จะเดินทางไปยังนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนพรุ่งนี้อย่างงั้นรึ?”
นิกายเหล่ยฉิวเจี่ยน,ถือว่าเป็นนิกายอันดับหนึ่งของราชวงศ์จักรพรรดิอู๋จี้,หากลู่เสี่ยวยวีสามารถเข้าร่วมได้,แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องกลัวการไล่ล่าของนิกายหมื่นปิศาจอีกต่อไป.
ที่จริงก่อนที่ลู่อี้ผิงจะปรากฏตัว,พวกเขาได้วางแผนเช่นนี้ไว้แล้ว.
“นิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน.”ลู่อี้ผิงได้ยินคำพูดดังกล่าว,ได้ครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย.
ก่อนหน้านี้,เขารู้สึกว่าเจ้าเด็กนามหยางตงเคยมาพักอาศัยอยู่ที่ป่าศักดิ์สิทธิ์ของเขา,ได้เอ่ยบอกเขาว่าตัวเองนั้นเป็นคนของนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน.
“ดี,เช่นนั้นพวกเราก็ไปยังนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนด้วยกันเถอะ.”ลู่อี้ผิงเอ่ย,เขาเองก็ต้องการไปดูเจ้าเด็กหยางตงนั่นเหมือนกัน.