Chapter 19 Nine Absolute Burying Gods Great Array
九绝葬神大阵(第三更)
หลังจากออกมาจากพื้นที่ปิดแยกของสวีซิว,ลู่อี้ผิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
ตอนแรก,เขาค้นวิญญาณของสวีซิวนิกายปิศาจน้ำพุเหลือง,จากความทรงจำของอีกฝ่าย,ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องค้นหาหยางตงที่ใหน.
ทั้งความทรงจำของสวีซิวเหมือนกับอู๋โม่,ไม่รู้เรื่องราวของหยางตงเลย.
ดังนั้น,มีแต่ต้องค้นหาต่อไป.
หลังจากนั้น,ลู่อี้ผิงก็ไปยังพื้นที่ส่วนอื่นของป่าคุกทมิฬ,กำราบสัตว์สายฟ้าอีกหลายตัวกลับมาเช่นกัน.
ด้วยเหตุนี้เฉินหงหยวนจึงได้สัตว์ขี่,ครบกันทุกคน.
ขณะที่ลู่อี้ผิงที่กำราบสัตว์ร้ายธาตุสายฟ้า,อีกส่วนหนึ่งของสนามรบแห่งทวยเทพ,เหอโชวและอี้ซินสองคนที่เวลานี้กำลังหนีไปทุกทิศทุกทาง.
ทั้งสองที่หนีออกมาจากพื้นที่แห่งหนึ่ง,มีฟินิกซ์ยักษ์ร่างสีทองที่ไล่ตามมา.
ฟินิกซ์ยักษ์อ้าปากกว้างพ่นไฟสีทองออกไปทันที.
เหอโชวที่เห็นเปลวเพลิงของฟินิกซ์ทองคำพุ่งลงมา,ใบหน้าของเขาที่เปลี่ยนสี,กระตุ้นร่างกายแผ่พลังเทวะออกมาอย่างบ้าคลั่ง.
“อุกกาบาติเพลิง!”
พลังเทวะที่ลุกโชนขึ้นมาทันที.
ร่างกายของเขา,ที่กลายเป็นอุกาบาติเพลิงนำศิษย์อี้ซิน,พุ่งหนีหลบไปในทันที.
ทั้งสองที่หนีออกมาไกล,ก่อนได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นที่ด้านหลัง.
มองย้อนกลับไป,เห็นเพียงพื้นที่หลายร้อยลี้,ที่ลุกเป็นไฟลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีทองฟินิกซ์อยู่เต็มไปหมด.
แม้แต่ผืนปฐพียังถูกเผาไหม้ด้วยเปลวเพลิง.
เหอโชวที่หลั่งเหงื่อที่เย็นยะเยือบออกมา,ไม่ต้องบอกเลยว่าพวกเขาได้หนีออกมาได้อย่างฉิวเฉียด.
อย่างไรก็ตาม,ฟินิกซ์ตนนั้นกับไม่ไล่ตามพวกเขามาอีก,หลังจากที่โจมตีครั้งนั้น,มันก็กลับไปยังพื้นที่ของมันเอง.
หลังจากโชคดีรอดพ้น,ทั้งสองก็หนีออกมาร่อนลงบนพื้นที่ราบ,ก่อนจะหายใจหอบ ๆ.
เหอโชวที่มั่นใจแล้วว่าฟินิกซ์ไม่ได้ตามมา,เขาก็ผ่อนคลาย,ใบหน้าที่เผยความขมขื่นออกมา,พฤกษาฟินิกซ์เทวะ,เขาพบแล้ว,ทว่ากับมีฟินิกซ์ที่น่าพรั่นพรึงปกป้องอยู่..
“ฟินิกซ์ตนนี้,เป็นไปได้ว่าจะต้องเป็นฟินิกซ์ทองคำอมตะหรือไม่?!”ยิ่งคิดย้อนกลับไปยิ่งหวาดกลัว.
ฟินิกซ์ทองคำอมตะ,นับว่าเป็นตัวตนที่สูงส่งของเผ่าฟินิกซ์,สถานะไม่ต่างจากมังกรทองคำเก้าเล็บ,หรือบอกได้ว่ามันคือตัวตนที่สูงที่สุดของเผ่าฟินิกซ์นั่นเอง.
เหอโชวที่หัวใจสั่นยากจะตัดใจ“ต้องเป็นฟินิกซ์อมตะทองคำแน่ ๆ,นอกจากนี้ยังเป็นเทพแท้จริงขั้นสุดท้ายอีกด้วย!”
“อะไรนะ,ฟินิกซ์อมตะทองคำที่มีระดับเทพแท้จริงขั้นปลาย!”อี้ซินที่ตกใจเป็นอย่างมาก.
เหอโชวที่ฝืนยิ้มออกมา“ดังนั้นพฤกษาฟินิกซ์เทวะ,พวกเราคงต้องตัดใจ,ฟินิกซ์อมตะทองคำ,หากไม่เพราะว่ามันไม่ต้องการสังหารพวกเรา,เกรงว่าพวกเราคงไม่อาจรอดชีวิตไปได้หรอก.”
“เรื่องนี้พวกเราต้องหาคนอื่นมาช่วยจะดีกว่า.”
“งั้นก็กลับวิหารราชาโอสถก่อนเถอะ.”
......
ในเวลานั้น,หนึ่งเดือนก็ผ่านไป.
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น.
ในส่วนลึกของสนามรบแห่งทวยเทพแห่งหนึ่ง,ใบหน้าลู่อี้ผิงที่เปลี่ยนสีจ้องมองค่ายกลขนาดใหญ่ที่มีรูนสีดำด้วยใบหน้ามืดครึ้มเย็นชา.
นี่คือค่ายกลที่ควรจะสูญหายไปตั้งแต่สมัยโบราณ,มันมีชื่อว่ามหาค่ายกลฝังเทพเก้าสัมบูรณ์.
ตลอดเดือน,เขาได้ค้นหาร่องรอยหลายอย่างเกี่ยวกับหยางตง,หลังจากรวบรวมสังเคราะห์ข้อมูลแล้ว,ท้ายที่สุดก็มาจบลงที่พื้นที่แห่งนี้.
“เป็นไปได้ว่านี่คือมหาค่ายกลฝังเทพเก้าสัมบูรณ์อย่างงั้นรึ?!”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่จ้องมองรูนอักขระของค่ายกลที่มีอยู่มากมาย,ดวงตาแทบถลนออกจากเบ้า,อดไม่ได้ต้องอุทานออกมา.
ลู่อี้ผิงกล่าวรับ,ทว่าน้ำเสียงกับดูต่ำและลึกล้ำ.
ได้ยินคำพูดยืนยันจากลู่อี้ผิง,ว่านี่คือค่ายฝังเทพเก้าสัมบูรณ์,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่สั่นสะท้านในทันที,เอ่ยออกมาว่า“คาดไม่ถึงว่าจะเป็นมหาค่ายกลฝังเทพเก้าสัมบูรณ์! ใครใจกล้า,มาวางค่ายกลที่ตรงนี้กัน!”
หลังจากพวกเขาทำการตรวจสอบก็พบภูตดอกไม้แปลก ๆ,ก็ทำให้ตื่นตะลึงไปเหมือนกัน“นี่คือภูติดอกไม้?!”
“ในตำนานเล่าว่า,มหาค่ายกลฝังเทพเก้าสัมบูรณ์นั้นจะกลืนกินจิตสำนักของเทพวิญญาณเป็นระยะ ๆ,เพื่อสร้างภูตดอกไม้วิญญาณ,มีภูตดอกไม้มากมายขนาดนี้ ในมหาค่ายกลฝั่งเทพเก้าสัมบูรณ์,ต้องมีจิตสำนึกเทพวิญญาณมากมายขนาดใหนที่ถูกกลืนกิน?!”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำยิ่งคิดยิ่งขนลุก.
ที่ต้องขนลุกคือมหาค่ายกลฝังเทพเก้าสัมบูรณ์นั้น,กลืนกินวิญญาณเทพวิญญาณไปมากเท่าไหร่แล้วกัน? ถึงได้มีจำนวนมากขนาดนั้น.
ในเวลานั้นวัวกระทิงมังกรที่ราวกับคิดอะไรได้,ลู่อี้ผิงก็เอ่ยออกมาว่า“ต้นเหตุที่เทพต้องต่อสู้กัน.”
“อะไรนะ! ต้นเหตุสงครามแห่งทวยเทพ!”วัวกระทิงมังกรที่ตกใจแทบกระโดดขึ้นจากพื้น“จู่เหรินกำลังจะบอกว่ามหาค่ายกลฝังเทพเก้าสมบูรณ์นี้,ถูกเตรียมเอาไว้ก่อนที่เทพจะต่อสู้กันอย่างงั้นรึ?!”
ลู่อี้ผิงที่กล่าวเสียงทุ้มลึก“ใช่,ภูตดอกไม้,ไม่ใช่ของใหม่.”
เขาสามารถมองเห็นได้ว่า,ภูตดอกไม้เหล่านี้ถูกควบแน่นกำเนิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว.
ทว่าที่นี่,เป็นเหมือนกับพื้นที่ฐานของสนามรบแห่งทวยเทพ.
มหาค่ายกลฝังเทพเก้าสมบูรณ์,สามารถกลืนกินจิตสำนึกของตัวตนระดับเทพวิญญาณขึ้นไป,ซึ่งมีเพียงแค่จิตสำนึกจากสงครามแห่งทวยเทพเท่านั้นถึงจะหล่อเลี้ยงมันได้.
สงครามแห่งทวยเทพในอดีต,มีจิตวิญญาณเทพมากมายที่ตกตายไป,เทพแท้จริง,เทพสวรรค์,เหนือกว่าเทพสวรรค์ก็มี,จิตสำนึกของพวกเขาถูกมหาค่ายกลฝังเทพเก้าสมบูรณ์นี้กลืนกินไปอย่างคาดไม่ถึง.
สงครามแห่งทวยเทพในอดีต,เป็นแผนการของใครบางคนที่ชักใยอยู่จริง ๆ ด้วย!
“พวกเขาวางค่ายกลฝังเทพเก้าสัมบูรณ์,เพื่อกลืนกินจิตสำนึกเทพมากมายไปเพื่ออะไร?!”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยพลางครุ่นคิดอย่างหนัก.
ดวงตาของลู่อี้ผิงเป็นประกาย“ฝึกวิชา,กลืนกินจิตสำนึกเหล่านี้เพื่อฝึกวิชา.”
วัวกระทิงมังกรที่ใบหน้าเปลี่ยนสีเอ่ยอย่างจริงจัง“กลืนกินจิตสำนึกมากมายเพื่อฝึกวิชา,คนเช่นนี้จะมีความแข็งแกร่งยกระดับก้าวไปจนถึงขอบเขตดินแดนอะไรแล้ว?!”
ลู่อี้ผิงไม่ได้เอ่ยปากออกมา.
นับเป็นความทะเยอทะยานที่รุนแรงมาก,นอกจากนี้ค่ายกลดังกล่าวยังทรงพลังเป็นอย่างมาก,หากไม่เพราะระดับพลังของเขาในเวลานี้,ไม่มีทางที่จะพบได้.
ราชรถที่บินสูง,เข้าไปในมหาค่ายกลฝังเทพเก้าสัมบูรณ์ช้า ๆ.
จางจิน,เจ้าเหวินและคนอื่น ๆ ที่ยังคงบินนำหน้า,พวกเขาโคจรพลังเทวะ,ปกป้องตัวเอง,เฝ้ามองพื้นที่รอบ ๆ อย่างระมัดระวัง.
บนราชรถ,ลู่อี้ผิงที่กวาดตามองภูตดอกไม้,ใบหน้าเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์,ภูตดอกไม้เหล่านี้,ดูเหมือนว่าจะมีของใหม่ด้วย.
ในอดีต,หลังจากหยางตงเข้ามาในสนามรบแห่งทวยเทพ,อาจจะมาถึงที่นี่.
เกรงว่า,คงจะถูกขังเอาไว้ที่นี่เป็นแน่!
ลู่อี้ผิงที่คิดได้,จึงให้ให้วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเร่งความเร็วขึ้น.
ผ่านไปนานเหมือนกัน,พวกเขาก็มาถึงตาค่ายกล.
จ้องมองไปยังตาค่ายกล,ลู่อี้ผิงที่นำหม้อจักรวาลออกมา,พร้อมกับส่งหม้อจักรวาลพุ่งออกไปทันที.
ตูมมมมมมม!
ลู่อี้ผิงที่โจมตีลงไป,พลังทำลายล้างที่รุนแรง ราวกับจะทำลายทั้งสวรรค์และปฐพี,ห้วงมิติรอบ ๆ ที่แตกร้าวกระจายไปทั่ว,สนามรบแห่งทวยเทพที่สั่นไปมา,เหล่าซือหลิงและเจียงซือสั่นสะท้าน,ยอดฝีมือทั้งหมดที่เข้ามาในสนามรบแห่งทวยเทพ,ต่างก็เงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ.
หม้อจักรวาลที่โจมตีออกไปด้วยพลังที่รุนแรง,ไม่เพียงแค่ทำให้ตาค่ายกลฝังเทพเก้าจนสมบูรณ์,ระเบิดเสียงดังนั่น,ทว่ามันยังทำลายพื้นที่ทั้งหมดจนหายไป,ในพื้นที่ดังกล่าวนั้นปรากฏหลุมขนาดใหญ่ที่มีรัศมีหลายหมื่นลี้ขึ้นมาทันที.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่จ้องมองด้วยความตื่นตะลึง.
น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก.
ลู่อี้ผิงเผยยิ้มอย่างเย็นชา,ดวงตาค่ายกลถูกทำลายอย่างสมบูรณ์แล้ว,ดูสิว่าจะมีใครมาฟื้นฟูมันกลับมาหรือไม่? หลังจากนั้น,ลู่อี้ผิงที่ยกมือขึ้น,รูนค่ายกลที่บินออกไป,ปรากฏมังกรสวรรค์ตัวแล้วตัวเล่าที่เข้าไปซ่อนในห้วงมิติ.
นี่คือมหาค่ายกลมหาอำนาจมังกรสวรรค์
เป็นค่ายกลที่ใช้กำราบเหล่าปิศาจทั้งมวล.
ขอเพียงคนที่วางค่ายกลปรากฏขึ้น,แตะต้องค่ายกลมหาอำนาจมังกรสวรรค์,เขาก็จะรับรู้ได้ในทันที,จากนั้นเขาก็จะมาดูว่า ใครกันที่เป็นผู้วางมหาค่ายกลฝังเทพเก้าสัมบูรณ์!
“พวกเราไป.”ลู่อี้ผิงเอ่ย.
หลังจากนั้นเขาก็ออกจากพื้นที่ดังกล่าว.
เขาไม่คิดที่จะหยุดอยู่ในสนามรบแห่งทวยเทพอีกต่อไป,ดังนั้นจึงมุ่งตรงไปยังชายขอบเพื่อออกจากที่นี่ทันที.