Chapter 189 Battling Heaven City Qi Yuan arrives, all parties get together in Four Sided Sea
战天城齐元亲临,各方齐聚四方海(一更)
“ไม่คาดคิดเลยว่าร่างทองคำสหายน้อยอรหันต์หงเหลียนจะปรากฏขึ้นที่นี่.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยออกมาด้วยอารมณ์ความรู้สึก.
อรหันต์หงเหลียนเป็นหนึ่งในสิบสุดยอดฝีมือยุคหมื่นทวยเทพ,เป็นศิษย์อันดับหนึ่งของวังเทวะเป่ยโตว,เป็นศิษย์พี่ของเทพธิดาโหลวสุ่ย.
Listens to Dragon Horn Golden Bull to call Red Lotus Buddha for the little fellow, Xumi founder Wu Zhe is stunned, he hesitates saying: „Moreover some people said, above the Red Lotus Buddha golden body, there is treasure map that Big Dipper Divine Palace Palace Lord keeps.”
ได้ยินวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยถึงอรหันต์หงเหลียนว่าสหายน้อย,เจ้าอาวาสนิกายซู่มี่อู๋เจ๋อถึงกับตื่นตะลึง,เขาเอ่ยออกมาอย่างลังเล“นอกจากนี้ยังมีคนเอ่ยว่า,บนกายาทองคำของอรหันต์หงเหลียนนั้น,มีแผนที่สมบัติของวังศักดิ์สิทธิ์เป่ยโตวด้วย.”
“แผนที่สมบัติ!”ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยความประหลาดใจออกมา.
อู๋เจ๋อพยักหน้ารับ.“ใช่,เป็นแผนที่ของวังเทวะเป่ยโตว,ทว่ามีเพียงแค่ครึ่งเดียว,ได้ยินมาว่าอีกครึ่งหนึ่งนั้นอยู่กับศิษย์คนเล็กเทพธิดาโหลวสุ่ย.”
“โหลวสุ่ย.”ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่เผยท่าทางตกใจขึ้นมาอีกครั้ง.
“แม้นว่าจะเป็นแผนที่เพียงครึ่งเดียว,ทว่าก็พอทำให้กลุ่มอิทธิพลมากมายเคลื่อนไหว.”อู่เจ๋อเอ่ย“ตอนนี้เผ่าปิศาจ,แม้แต่เผ่ามนุษย์ต้นไม้,เผ่ายักษ์ทองคำต่างก็เข้ามาในทะเลซือฟางมากมาย.”
เป็นเช่นนี้นะเอง.
ไม่แปลกใจเลยว่าในทะเลซือฟางเวลานี้มีเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย.
ดูเหมือนว่าจะมาเพื่อกายาทองคำกันทั้งนั้น รวมทั้งยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ด้วย.
จากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกันนานเหมือนกันขณะเดินทางก่อนจะมาถึงเมืองแห่งหนึ่ง.
ที่ด้านหน้าประตูเมืองนั้นปรากฏชื่อ เมืองหลานจิง,เป็นหนึ่งในเมืองมีชื่อของทะเลซือฟาง.
ที่นี่มีหอการค้าของเผ่ามนุษย์มากมายที่เข้ามาในทะเลซือฟาง,และมักจะมาตั้งถิ่นฐานในเมืองหลานจิง,นอกจากนี้ยังมีหอการค้าของเผ่าพันธุ์อื่น ๆ อีกไม่น้อย ที่มาตั้งสาขาที่นี่เช่นกัน.
ลู่อี้ผิงทั้งสามคนที่เข้าไปในเมืองหลานจิง,เวลานี้ผู้คนคับคั่ง,ยอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ที่หลั่งไหลเข้ามา.
“ได้ยินมาว่ามีใครบางคนได้ให้วังถามสวรรค์ประมูลสมบัติยุคปฐมกาลด้วย.”
“สมบัติยุคปฐมกาล? เป็นไปไม่ได้! สมบัติล้ำค่าเพียงนั้นยังมีคนนำออกมาประมูลอีกรึ?”
“วังถามสวรรค์ได้ประเมินแล้ว,ว่าเป็นสมบัติยุคปฐมกาลจริง ๆ,กล่าวได้ว่าเป็นศิลาสีเงิน,มีขนาดสูงกว่าสองเมตร,มีน้ำหนักมาก,ต้องใช้เหล่ายอดฝีมือจ้าวพิภพทั้งหมดแม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ของวังถามสวรรค์จำนวนมากทำการเคลื่อนที่มา.”
“ไม่เกินจริงไปรึ?ต้องใช้จ้าวพิภพทั้งหมดของวังถามสวรรค์และผู้ยิ่งใหญ่ยกมา?”
ผู้คนต่างก็พูดคุยหารือกันอย่างออกรส.
ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำจ้องมองหน้ากันและกัน,เป็นศิลาปู้โจวหรือไม่?
มีเพียงแค่ศิลาปู้โจวเท่านั้นที่จะมีน้ำหนักจนน่าขนลุก.
“สหาย,ที่เจ้ากล่าวเมื่อครู่,วังถามสวรรค์จะประมูลศิลาสีเงินอย่างงั้นรึ?”ลู่อี้ผิงที่ก้าวเข้าไปหากลุ่มคนที่พูดคุยกันก่อนหน้านี้,พร้อมกับส่งศิลาวิญญาณเกรดสวรรค์ให้กับพวกเขา.
ฝ่ายตรงข้ามที่รับศิลาวิญญาณเกรดสวรรค์,ด้วยใบหน้างง ๆ.
แม้แต่หนึ่งในนั้นแทบไม่อยากเชื่อถึงกับต้องตบหน้าตัวเอง.
หลังจากพวกเขาได้สติ,ท้ายที่สุดก็เร่งรีบลุกขึ้น,เชิญพวกลู่อี้ผิงนั่ง.
“ใช่แล้ว,สามวันหลังจากนี้จะมีการประมูลแร่ศิลาสีเงิน.”หนึ่งในนั้นเอ่ย“ได้ยินมาว่านอกจากแร่สีเงินแล้ว,ยังมีสมบัติของซือจุ้นยุคโบราณด้วย.”
“ซือจุ้นยุคโบราณอย่างงั้นรึ?”ลู่อีผิ้งตะลึงงัน.
“ใช่ ๆ.”อีกคนพยักหน้า เอ่ยออกมาว่า“มีบางคนว่าบอกว่าเป็นหยกที่ซือจุ้นยุคโบราณสวม,บางคนก็เอ่ยว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะที่ซือจุ้นยุคโบราณหลอมขึ้นมา,บางคนก็บอกว่าเป็นตำราวิชาลับที่ซือจุ้นยุคโบราณเคยบ่มเพาะ.”
“ศิลาสีเงิน,ควรจะเป็นชิ้นส่วนของเทือกเขาเทวะยุคปฐมกาล,เผ่ามนุษย์พฤกษา,เผ่ายักษาต่างก็เดินทางมายังเมืองหลานจิง,เพื่อศิลาก้อนนี้.”อีกคนที่เอ่ยเสริม“ได้ยินมาว่ากายาทองคำอรหันต์หงเหลียนที่ปรากฏขึ้นมา,ทำให้ทะเลซือฟางไม่ค่อยสงบนัก.”
“ทะเลซือฟางเป็นดินแดนของวังมังกรปิศาจ,จะมีใครกล้าสร้างความวุ่นวายอีกรึ?”
“ก็อาจจะ,หากเป็นสมบัติทั่วไปก็คงไม่,อย่างไรก็ตาม,กายาทองคำอรหันต์หงเหลียนนั้น,เพียงพอที่จะทำให้กลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ ยินดีเสี่ยงอันตรายก็ได้.”
หลาย ๆ คน ต่างก็แสดงความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป.
ลู่อี้ผิงที่เอ่ยสอบถามปัญหาอีกหลายอย่าง,จากนั้นก็กล่าวลา,นำวัวกระทิงมังกรเขาทองคำและเจ้าอาวาสซู่มี่ อู๋เจ๋อจากไป.
หลังจากที่ลู่อี้ผิงจากไป,มีใครบางคนที่เห็นชุดสีน้ำเงินที่ลู่อี้ผิงใส่,ก็เอ่ยออกมาว่า“เจ้าว่า,คนผู้นี้คืออาจารย์นักบุญปิศาจหรือไม่?”
หลาย ๆ คนที่หัวเราะครืนออกมา.
“สหาย,เจ้าจะเพ้อเจ้อไปไกลแล้ว,คนสวมชุดน้ำเงินมีอยู่มากมาย,เจ้าคิดว่าเจ้าอยู่ ๆ กับโชคดีขี้หมาวิ่งเข้าไปชนกับยอดฝีมือ,พบกับอาจารย์นักบุญปิศาจเข้ารึไง?”ใครบางคนที่หัวเราะลั่น.
“ก็ไม่แน่.”ชายคนดังกล่าวที่เผยยิ้ม“หากคนผู้นั้นเป็นอาจารย์นักบุญปิศาจ,ศิลาวิญญาณเกรดสวรรค์ที่อาจารย์นักบุญปิศาจให้พวกเรามา,ย่อมมีกลิ่นอายของอาจารย์นักบุญปิศาจอยู่,หลังจากนี้จะต้องเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน.”
พวกเขาที่พูดคุยด้วยความสนุกสนาน,โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายก็คือลู่อี้ผิงจริง ๆ,ซึ่งอีกฝ่ายจากมาแล้วได้ไปยังโรงเตี้ยมแห่งหนึ่ง,เพื่อพักชั่วคราว,รอสามวันเพื่อเข้าร่วมงานประมูล,และค้นหาที่อยู่ราชันย์หมาป่ายวีเมียนและหาข่าวของกายาทองคำอรหันต์หงเหลียน.
ลู่อี้ผิงเอ่ยกับตัวเอง,ราชันย์หมาป่ายวีเมียนมายังทะเลซือฟาง,เพราะว่ากายาทองคำอรหันต์หงเหลียนหรือไม่?
เป็นไปได้ว่าราชันย์หมาป่ายวีเมียนั้นรู้มานานแล้วว่ากายาทองคำอรหันต์หงเหลียนจะปรากฏใช่ใหม?
ไม่เช่นนั้น,คงไม่เดินทางมาที่ทะเลซือฟางก่อนหนึ่งเดือน.
อย่างไรก็ตาม,สิ่งที่วังถามสวรรค์จะประมูล สิ่งของเกี่ยวกับเขานั้น,มันคืออะไรกัน?
ลู่อี้ผิงที่เต็มไปด้วยความสงสัย.
ขณะที่ทั้งสามกำลังรอคอยงานประมูลของวังถามสวรรค์,ก็มีใครบางคนเอ่ยออกมาว่ามีผู้ยิ่งใหญ่บางคนได้เข้ามายังทะเลซือฟางกระจายข่าวออกมา.
มีเหล่าอสุรกายชรายุคนักบุญปิศาจแม้แต่ยุคจ้านเทียน,ได้เข้ามาในทะเลซือฟาง.
“คนของเมืองจ้านเทียนเองก็มา!”
ข่าวดังกล่าวทำให้ทะเลซือฟางสั่นสะเทือนทันที.
“เจ้าเมืองจ้านเทียน,ท่านฉีหยวนและท่านฉีอ้าวซือ เดินทางมาในครั้งนี้.”
“ยอดฝีมือเมืองจ้านเทียนแทบจะมากันทั้งหมด.”ใครบางคนเอ่ยด้วยความตื่นเต้น.
เมืองจ้านเทียน,ฉีหยวน!
บุตรชายเพียงคนเดียวของฉีจ้านเทียน.
กล่าวถึงชื่อเสียงของเขาเอ่ยได้ว่าเป็นสุดยอดฝีมือยุคถัดมาจากหลงกัง.
การมาของฉีหยวน,ทำให้ทะเลซือฟางคึกคักขึ้นมาทันที.
“ทว่า,ไม่เห็นท่านฉีหยวนขี่ราชรถเทวะจ้านเทียนมาเลย?”
“เจ้าไม่ได้ข่าวงั้นรึ? ราชรถเทวะจ้านเทียนนั้นถูกเทพสงครามเก้าโคจรผู้ใต้บังคับบัญชาของอาจารย์นักบุญปิศาจทุบไปแล้ว,แม้แต่ล้อทั้งสี่ยังหักพัง,เกรงว่าราชรถเทวะจ้านเทียนคงไม่อาจซ่อมได้แล้ว.”
“ราชรถเทวะจ้านเทียน,ไม่ใช่ว่ามีค่ายกลที่ท่านฉีจ้านเทียนวางไว้หรอกรึ? คาดไม่ถึงว่าจะพัง.”
“มีค่ายกลที่ท่านฉีจ้านเทียนติดตั้งไว้ก็จริง,ทว่าท่านฉีอ้าวซือไม่อาจควบคุมได้สมบูรณ์,ดังนั้นจึงไม่อาจใช้พลังที่แท้จริงของค่ายกลได้,มันจึงถูกทุบพังลง,เวลานั้นแม้แต่ท่านฉีหยวนลงมือเอง,เกรงว่าราชรถเทวะจ้านเทียนเองก็คงพังทลายเช่นกัน.”
ในเมืองหลานจิง,บนถนนใหญ่ถนนเล็กผู้คนต่างก็พูดคุยกันเรื่องราชรถเทวะจ้านเทียนกันอย่างออกรส.
แม้นว่าบางคน ยังเอ่ยออกมาด้วยซ้ำ ว่าการที่ฉีหยวนออกมาจากเมืองจ้านเทียนครั้งนี้,ไม่ได้มาเพราะกายาอรหันต์หงเหลียน,แต่มาเพราะเรื่องอาจารย์นักบุญปิศาจ,เขาต้องการประลองกับอาจารย์นักบุญปิศาจ,เพื่อฟื้นฟูชื่อเสียงเมืองจ้านเทียน.
หลายคนที่พูดคุยไปต่าง ๆ นา ๆ,ทำให้ลู่อี้ผิงเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
ภายในเมืองหลานจิงเวลานี้มียอดฝีมือเดินทางมามากขึ้นและก็มากขึ้น.
ยิ่งสามวันนี้ก่อนงานประมูลก็ยิ่งคึกคักเป็นอย่างมาก.
วันประมูล,พวกลู่อี้ผิงที่ออกจากโรงเตี้ยมก่อนเวลา,เพื่อเข้าร่วมงานประมูลของวังถามสวรรค์.
ลานประมูลวังถามสวรรค์,เวลานี้มีราชรถที่หรูหรามากมายจอดเต็มไปหมด.
“เป็นเจ้า!”ขณะที่พวกลู่อี้ผิงกำลังเดินทางเข้าร่วมงานประมูล,ก็พบเข้ากับยวีคุนบรรพชนชรานิกายเต๋าโถวโหลว,ครานี้,พวกยวีคุนทั้งสี่ก้าวตามชายชราสองคนด้วยความเคารพ.
เห็นชายชราสองคน,อู๋เจ๋อที่ตกใจ,สหายแฝดดำขาวรึ?
สหายแฝดดำขาวก็คือไท่จู่นิกายเต๋าโถวโหลว,เป็นผู้ยิ่งใหญ่ยุคจ้านเทียนนั่นเอง.
พวกยวีคุนเอ่ยรายงานต่อไท่จู่สหายแฝดดำขาว,ทันใดนั้นทำให้พวกเขาประหลาดใจออกมา,เวลานี้จ้องมองลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเขม็ง.