Chapter 188 The Xumi founder is in danger, Red Lotus Buddha golden body came into being
须弥祖师遇险,红莲佛金身出世(四更)
วังเซิ่งหวง.
ลู่อีผิ้งที่กำลังรดน้ำ เถาวัลย์น้ำเต้าเจ็ดสีบนเทือกเขาปู้โจว.
หลายวันมานี้,เถาวัลย์น้ำเต้าเจ็ดสี,ที่ออกดอกบานขนาดใหญ่,แต่ก็ยังห่างไกลกับคำว่าเติบโต.
ในเวลานี้,เรื่องกองทัพปิศาจล้อมเมืองเซิ่งหวงผ่านมาสองวันแล้ว
ตลอดสองวันมานี้,นอกจากรดน้ำเถาวัลย์น้ำเต้าเจ็ดสี,เจี้ยนมู,เขาก็ตระหนักรู้หยกเจาหัวและศิลาจารึกสวรรค์.
วันนี้หลังจากรดน้ำเถาวัลย์น้ำเต้าเจ็ดสี,ลู่อี้ผิงก็เรียกเฉินซิ่ว,เจียงไห่ตงและคนอื่น ๆมา.
“ต้าเหรินจะไปแล้วรึ?”เฉินซิ่วเผยความประหลาดใจ,จากนั้นก็เอ่ยอย่างระมัดระวัง,“พรุ่งนี้มีงานประลองเผ่ามนุษย์,อยู่ร่วมงานประลองค่อยไปก็ยังไม่สายไม่ใช่รึ?”
เจียงไห่ตงเอ่ยเพิ่ม“เรียนต้าเหริน,พวกเรานั้นเคารพท่านเป็นอย่างมาก,หวังให้ท่านเป็นผู้นำของพวกเรา.”
ลู่อีผิ้งส่ายหน้าไปมา“เรื่องเผ่ามนุษย์พวกเจ้าต้องเป็นคนจัดการเอง.”
หลังจากนั้น,เฉินซิ่วและเจียงไห่ตงที่มาส่งลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำออกจากเมืองเซิ่วงหวง.
ก่อนจากไป,ลู่อี้ผิงได้สั่งให้เฉินซิ่วและเจียงไห่ตงช่วยเขาสืบเรื่องของเฉียงเหลียงว่าอยู่ที่ใด.
ในเวลาเดียวกัน,เขาก็ให้เจียงไห่ตงชี้แนะอี้หว่านด้วย.
เฉินซิ่ว,เจียงไห่ตงทั้งสองที่จ้องมองลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำหายลับของฟ้าไป,จ้องมองอยู่นานไม่คิดหลบไปใหน.
ทะเลซือฟาง,เป็นสถานที่อยู่ทางเหนือสุดของโหยวหมิง.
ทะเลซือฟางถือว่าเป็นทะเลที่ใหญ่ที่สุดของโหยวหมิง,เชื่อมต่อพื้นที่ทั้งสี่,และมีวังมังกรปิศาจเป็นกลุ่มอิทธิพลที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ที่นี่.
โหยวหมิงนั้นเดิมที่ก็เต็มไปด้วยความมืด,ทว่าที่ทะเลซือฟาง,แม้นว่าสภาพบรรยากาศจะมืดครึ้มทว่าสภาพแวดล้อมทำให้ดูอึมครึมสลัว ๆ,ทว่าบนทะเลที่กว้างใหญ่,มีน้ำเป็นสีดำ,ทำให้สภาพแวดล้อมรอบ ๆ เป็นเหมือนกับอัญมณีสีดำขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในโหยวหมิง.
เมื่อลู่อี้ผิงและวัวกระทิง,สภาพแวดล้อมที่นี่กับดูมืดสนิท.
ทะเลซือฟางในเวลากลางคืน,พื้นที่แห่งนี้ดูค่อนข้างหนาวเย็นเป็นอย่างมาก.
ทั้งสองที่หยุดชงักเล็กน้อย,จากนั้นก็เปิดผืนน้ำ,ก้าวเข้าสู่โลกแห่งทะเล.
นิกายวังมังกรปิศาจ,เองก็อยู่ในโลกแห่งทะเล.
หลังจากที่ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเข้ามาสู่โลกแห่งทะเล,ก็พบว่ามียอดฝีมือเผ่าปิศาจอื่น ๆ มากมายด้านใน.
แม้นว่าทะเลซือฟางจะเป็นนิกายขนาดใหญ่ที่ปกครองพื้นที่แห่งนี้,ทว่าก็ไม่ได้ห้ามเผ่าพันธุ์อื่นเข้ามา,ดังนั้นจึงมีเผ่าปิศาจและยอดฝีมือเผ่าต่าง ๆ เข้ามาในทะเลซือฟาง.
อย่างไรก็ตาม,เพราะเผ่ามนุษย์และเผ่าปิศาจมีความขัดแย้งกัน,ดังนั้นที่นี่น้อยครั้งนักจะมีเผ่ามนุษย์เข้ามาในทะเลซือฟาง.
แน่นอนว่า ไม่ใช่ว่าไม่มีเผ่ามนุษย์ที่นี่เลย,ยังมีเผ่ามนุษย์จากหอการค้าเข้ามาทำการค้าที่นี่เช่นกัน.
ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำตั้งใจเดินทางไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุดในโลกแห่งทะเล,ทันใดนั้น,ก็พบการต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรงที่ด้านหน้า,เห็นชัดเจนว่ามีใครบางคนต่อสู้กันอยู่.
“เจ้าอาวาสนิกายซูมี,ส่งประคำอรหันต์ซูมีมา!”
“ประคำอรหันต์ซูมี่ คือสมบัตินิกายอรหันต์ซูมี่,เป็นไปไม่ได้ที่จะมอบมันออกไป.”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้,เจ้าก็ไสหัวไปจากทะเลซือฟางซะ.”
จากนั้น,การต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรงก็ดังขึ้นอีกครั้ง.
เดิมทีการต่อสู้คนอื่น,ลู่อี้ผิงคร้านที่จะสนใจ,อย่างไรก็ตามจากคำพูดของฝ่ายตรงข้าม,เป็นเหตุให้เขาต้องจดจ้องมอง.
ก่อนหน้านี้เขาไปยังนิกายกระบี่กุยหยวน,ฉู่ถงไม่อยู่,เพราะว่าอีกฝ่ายไปพบกับเจ้าอาวาสนิกายอรหันต์ซูมี,กล่าวได้ว่าเจ้าอาวาสนิกายอรหันต์ซูมี่ก็คือสหายของฉู่ถงนั่นเอง.
“ดูเหมือนว่าคงต้องแวะดูหน่อย.”ลู่อี้ผิงเอ่ยกับวัวกระทิงมังกรเขาทองคำบินตรงไปยังทิศทางการต่อสู้.
ผ่านไปไม่นาน,ทั้งสองก็ไปถึงสถานที่ดังกล่าว.
พบว่าสถานที่ดังกล่าว,ปรากฏชายชราสวมจีวรสีทองแดงถูกยอดฝีมือหลายคนล้อมรอบเอาไว้.
คนที่สวมจีวรไม่จำเป็นต้องเอ่ย นี่คือเจ้าอาวาสนิกายอรหันต์ซู่มี่,อู๋เจ๋อ.
มียอดฝีมือสี่คนที่ล้อมอู๋เจ๋อ,ทุดคนสวมชุดสีม่วงดำ,ร่างกายแผ่ปราณปิศาจที่รุนแรงออกมา,นอกจากนี้บนชุดของพวกเขามีลวดลายปิศาจแปลก ๆ สลักเอาไว้.
“เต๋าโถวโหลว.”
บนชุดของทั้งสี่มีคำว่าเต๋าโถวโหลว.
เต๋าโถวโหลว,เป็นกลุ่มอิทธิพลอันดับสองรองจากวังมังกรปิศาจ.
ภายในโหยวหมิง,สำนักอู๋เซิ่งเป็นอันดับสาม,รองจากเต๋าโถวโหลว,หากเทียบความแข็งแกร่งเต๋าโถวโหลวนั้นแข็งแกร่งกว่าสำนักอู๋เซิ่งมาก.
เจ้าอาวาสนิกายซู่มี่ อู๋เจ่อมีระดับจ้าวพิภพขั้นกลาง,พลังพิภพ 30 ล้านพลังต่อสู้,ส่วนบรรพชนชราเต๋าโถวโหลวทั้งสี่นั้นไม่อ่อนแอเช่นกัน,มีพลังต่อสู้ใกล้เคียง 30 ล้านเหมือนกันทุกคน.
ด้วยเหตุนี้,อู๋เจ๋อจึงต้องถอยร่นครั้งแล้วครั้งเล่า.
เพราะว่าลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำไม่เผยกลิ่นอายออกมา,ดังนั้นคนทั้งห้าจึงไม่อาจรับรู้การมาของทั้งสอง,ด้วยเหตุนี้การที่จู่ ๆ ทั้งสองปรากฏขึ้น.
ทำให้คนทั้งห้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ.
บรรพชนชราเต๋าโถวโหลวที่ล้อมรอบอู๋เจ๋อ,ขณะเห็นพวกลู่อี้ผิงปรากฏปรากฏก็เอ่ยออกมาว่า“ผู้เยาว์,มาจากนิกายใหน? อาวุโสไม่เคยสั่งสอนพวกเจ้างั้นรึ? ว่าอย่าได้เป็นคนสอดรู้สอดเห็น,ไม่เช่นนั้นจะนำภัยมาสู่ชีวิต!”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้ยินก็หัวเราะเยาะ“ผู้เยาว์รุ่นหลังไม่เคยบอกพวกเจ้ารึไง,ว่าบางครั้งความอาวุโสก็ไร้ประโยชน์,ไม่เช่นนั้นจะนำภัยมาสู่ชีวิต.”
คนของเต๋าโถวโหลวทั้งสี่ที่ตกใจ.
บรรพชนชราเต๋าโถวโหลวคนหนึ่งที่หัวเราะลั่น,ส่ายหน้าไปมาราวกับว่าได้ยินเรื่องตลกที่สุดในชีวิต.
“ตลกมากรึ?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยถาม.
บรรพชนชราเต๋าโถวโหลวคนดังกล่าวที่ยิ้มเยาะ“ตลกมาก.”
อย่างไรก็ตาม,ชั่วระยะเวลาต่อมา,เสียงหัวเราะของเขาที่หยุดกึก,ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ดึงร่างของเขาเข้ามา,ก่อนที่จะฟาดฝ่ามือตอบออกไป,ใบหน้าบวมเบี้ยวลอยหมุนเคว้งออกไป.
อีกสามคนเองก็สะดุ้งตกใจ,หยุดต่อสู้กับเจ้าอาวาสนิกายอรหันต์ซู่มี่อู๋เจ๋อทันที,แต่ละคนเต็มไปด้วยความตกใจ,ไม่อาจรับรู้ได้แม้แต่น้อยว่าชายร่างใหญ่ขนสีทองดึงลากบรรพชนชราเต๋าโถวโหลวไปตั้งแต่เมื่อไหร่.
บรรพชนชราเต๋าโถวโหลวคนดังกล่าวมีพลังพิภพเกือบ 30 ล้าน,แต่กับไม่อาจต้านพลังของอีกฝ่ายได้เลย,ชายร่างใหญ่ขนทองผู้นี้เป็นจ้าวพิภพขั้นสุดสูง? หรือขั้นปลายท้ายกัน?
หลังจากที่บรรพชนชราคนดังกล่าวถูกตบหน้าหันลอยหมุน กลิ้งไปอยู่ข้าง ๆ ทั้งสาม.
คนทั้งสี่ต่างตกใจโกรธเกรี้ยว จ้องมองวัวกระทิงมังกรเขาทองคำและลู่อี้ผิงเขม็ง.
“มีปัญหาอะไร,ต้องการมีเรื่องอย่างงั้นรึ?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่หัวเราะเยาะ.
พวกเขาทั้งสี่ไม่มีใครกล้าขยับเข้าไปแม้แต่น้อย,กระทั่งตัดสินใจบินตัดอากาศหนีออกไปอย่างรวดเร็ว.
หลังจากพวกเขาจากไปแล้ว,เจ้าอาวาสนิกายอรหันต์ซู่มี่ก็ก้าวเข้ามา,เอ่ยต่อลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ“อู๋เจ๋อนิกายอรหันต์ซุ่มี่ขอบคุณต้าเหรินทั้งสองที่ช่วยชีวิต.”
“เป็นความพยายามเพียงเล็กน้อย.”ลู่อี้ผิงเอ่ย“เจ้าเป็นสหายของฉู่ถงอย่างงั้นรึ?”
อู๋เจ๋อที่ตกใจ,เอ่ยออกมาด้วยความเคารพ“ข้าและฉู่ถงเป็นสหายที่ดีต่อกันมานานหลายปี,ไม่รู้ว่าต้าเหรินทั้งสองคือ?”
“ลู่อี้ผิง.”ลู่อี้ผิงไม่มีความจำเป็นต้องปิดบัง.
อู๋เจ๋อได้ยิน,ถึงกับผวา,เร่งรีบเอ่ยออกมาว่า“แท้จริงเป็นอาจารย์นักบุญปิศาจ ท่านลู่อี้ผิง,อู๋เจ๋อคารวะทั้งสอง.”จากนั้นเขาก็โค้งคารวะทำความเคารพทั้งสอง.
“เจ้ามายังทะเลซือฟางทำอะไร?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยด้วยความสงสัย.
นิกายอรหันต์ซู่มี่นั้นอยู่ในดินแดนไท่สวีของจิวเทียน,อยู่กันคนละทิศกับทะเลซือฟางอย่างสิ้นเชิง,อู๋เจ๋อไม่ควรมาปรากฏที่นี่โดยไร้ซึ่งเหตุผล.
อู๋เจ๋อเร่งรีบเอ่ยออกมาว่า“ข้าได้ยินมาว่า,กายาทองคำอรหันต์หงเหลียนปรากฏขึ้นที่ทะเลซือฟาง,ดังนั้นจึงได้มาสืบข่าว,ทว่าไม่คิดเลยว่าจะพบคนของเต๋าโถวโหลวเข้า,บรรพชนชราเต๋าโถวโหลวเมื่อครู่ ก็คือยวีคุน,เคยมีความแค้นกับข้ามานานแล้ว.”
“กายาทองคำอรหันต์หงเหลียนปรากฏขึ้นที่นี่อย่างงั้นรึ?”ลู่อี้ผิงที่เผยความประหลาดใจออกมา.
ในยุคโบราณ,อรหันต์หงเหลียนคือหนึ่งในสิบยอดฝีมือยุคหมื่นทวยเทพ.
“ใช่แล้ว”อู๋เจ๋อพยักหน้ารับ“ตอนนี้ยอดฝีมือมากมายต่างก็มายังทะเลซือฟาง,สืบสวนเรื่องของกายาทองคำอรหันต์หงเหลียนกัน.”