ตอนที่แล้วChapter 178 Recently Demon Race rampant
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 180 Do most also three lines shine?

Chapter 179: Pill Way Gathering


丹道大会(二更)

“ซุนมู่,หุบปากของเจ้าเดี๋ยวนี้!”เจียงไห่ตงที่ตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยวร้อนรน.

เจ้าลัทธิเจิ้งอี้ซุนมู่,ไม่รู้จักสถานะของลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ทว่าเขารู้.

ซุนมู่ที่เห็นเจียงไห่ตงแทบลืมหายใจกล่าวออกมาด้วยท่าทางกระวนกระวาย,ก็ตะลึงไปเหมือนกัน,จ้องมองลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำด้วยความประหลาดใจ,ทำไมเจียงไห่ตงถึงได้ร้อนรนขนาดนี้.

เป็นไปได้ว่าทั้งสอง,คือเผ่าปิศาจจริง ๆ รึ?

ซุนโม่เผยยิ้ม“อาวุโสเจียงทำไมร้อนรน? ข้าเพียงแค่เอ่ยถึงความเป็นไปได้”จากนั้นเขาก็หัวเราะราวกับเต็มไปด้วยความชอบธรรม“ทว่าข้าไม่คิดเลยว่าเพียงแค่เอ่ยความเป็นไปได้,อาวุโสเจียงกับร้อนรนปานนั้น,อาวุโสเจียงร้อนใจขนาดนี้,ทั้งสองคงเป็นเผ่าปิศาจริง ๆ อย่างงั้นรึ?”

เจียงไห่ตงได้ยินคำพูดดังกล่าว,ยิ่งทำให้ใบหน้าแดงกล่ำด้วยความโกรธ,จ้องมองซุนไห่มู่,ราวกับจะสังหารคนได้.

เขาหวังให้ซุนมู่น้ำลายติดคอตายไปตอนนี้เลย.

ในเวลานั้นวัวกระทิงมังกรเขาทองคำนำปลาตัวน้อยออกมา,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้มให้กับซุนมู่,“เจ้าว่าพวกเราเป็นเผ่าปิศาจ,เจ้ามั่นใจรึ?”

ซุนมู่,ซุนเซียวเฟยและคนอื่น ๆ เห็นปลาตัวน้อยในมือวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ก็สงสัย,ไม่เคยเห็นปลาตัวน้อยในมือของอีกฝ่ายมาก่อน.

“มั่นใจอย่างงั้นรึ?”ซุนเซียวเฟยเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“วางใจได้เพียงแค่ให้คนของวังเซิ่งหวงตรวจสอบก็ยืนยันพิสูจน์พวกเจ้าได้แล้ว.”

ที่ไกลออกไป,มียอดฝีมือกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินทางมา.

“แม่ทัพโจวเหว่ย,ท่านมาก็ดีแล้ว.”ซุนมู่เห็นคนที่มาก็เอ่ยออกมาว่า“เกี่ยวกับกฎเกณฑ์ของวังเซิ่งหวง,ไม่อาจนำคนนอกเข้ามาในวังเซิ่งหวงได้,ทว่าตอนนี้อาวุโสเจียงกับนำคนนอกเข้ามาในวังเซิ่งหวง.”

คนที่มาก็คือหัวหน้าองค์รักษ์วังเซิ่งหวงและยังเป็นแม่ทัพใหญ่อีกด้วย,มีระดับเทพสวรรค์ชั้นปลาย.

แม่ทัพใหญ่วังเซิ่งหวง,ตำแหน่งไม่ต่ำอย่างแน่นอน.

เจ้าเหว่ยที่เผยความประหลาดใจ,ขณะจ้องมองไปยังลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ.

เขาที่ก้าวมาด้านหน้าเจียงไห่ตง,พร้อมกับเอ่ยอย่างสุภาพ,“อาวุโสเจียง,ตามกฎเกณฑ์ของวังเซิ่งหวง,ท่านควรจะรู้,ดังนั้นพวกเราจะต้องตรวจสอบสถานะของทั้งสองก่อน.”

เจียงไห่ตงที่เผยท่าทางอักอ่วน.

ลู่อี้ผิงจ้องมองไปยังเจ้าเหว่ย,กล่าวอย่างไม่แยแส“เจ้าต้องการตรวจสอบอย่างไร?”

เจ้าเหว่ยที่จ้องมองเจียงไห่ตง,เห็นท่าทางกระวนกระวายของอีกฝ่ายก็สงสัย,เขาเอ่ยต่อลู่อี้ผิง“ทั้งสองเป็นศิษย์จากที่ใด? โปรดเผยหลักฐาน.”

ลู่อี้ผิงที่นำของบางสิ่งออกมาจากหม้อจักรวาล,ก่อนส่งให้กับเจ้าเหว่ย.

ตราทองม่วง,เจ้าเหว่ยเห็นแล้วก็สั่นสะท้านตกใจ“โรงเตี้ยมอู๋ซ่วง!”

“อะไรนะ,โรงเตี้ยมอู๋ซ่วง!”ซุนมู่และเหล่ายอดฝีมือของลัทธิเจิ้งอี้ต่างก็ตกใจไปตาม ๆ กัน.

แม้นว่าวังเซิ่งหวงจะเป็นกลุ่มอิทธิพลอันดับหนึ่งเผ่ามนุษย์ในโหยวหมิง,ทว่าก็ยังด้อยกว่า“โรงเตี้ยมอู๋ซ่วง”ของจิวเทียนหลายขุม.

โดยเฉพาะเหตุการณ์นิกายเทวะคุนเผิง,สำนักกระบี่ไท่อี้,สำนักอสูรสวรรค์และสำนักร้อยแปลงที่ล่มสลาย,โรงเตี้ยมอู๋ซ่วงและนิกายกระบี่กุยหยวนที่ยกระดับขึ้นมากลายเป็นสุดยอดอิทธิพลที่แข็งแกร่งที่สุดแทน.

“แท้จริงแล้วเป็นคนของตระกูลกู่ โรงเตี้ยมอู๋ซ่วงนี่เอง.”เจ้าเหว่ยเร่งรีบส่งคืนตราให้กับลู่อี้ผิง,พร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้ม“เป็นเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น.”

“พวกเราเพียงแค่ต้องทำตามกฏเกณฑ์,ไม่ได้มีเจตนาล่วงเกิน.”

ตราสีทองม่วง,ไม่เพียงแค่เป็นสมาชิกตระกูลกู่ โรงเตี้ยมอู๋ซ่วงเท่านั้น,ซ้ำยังมีสถานะสูงสุดอีกด้วย.

ดังนั้น,เจ้าเหว่ยจึงสุภาพเป็นอย่างมาก.

“พวกเราไปได้รึยัง?”ลู่อี้ผิงเอ่ยออกมาอย่างไม่แยแส.

เจ้าเหว่ยเอ่ยตอบออกมาทันที“สหายเผ่ามนุษย์,คนของตระกูลกู่โรงเตี้ยมอู๋ซ่วงมา,วังเซิ่งหวงยินดีต้อนรับอย่างแน่นอน.”

ลู่อี้ผิงพยักหน้า,จากนั้นก็ก้าวออกไปกับเจียงไห่ตง.

วังกระทิงมังกรเขาทองคำไปยืนที่ด้านหน้าซุนมู่ ก่อนที่จะเก็บปลาตัวน้อย,เผยยิ้มพรายให้อีกฝ่าย.

เห็นลู่อี้ผิง,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำและเจียงไห่ตงก้าวเข้าไปในตำหนักแล้ว,ซุนมู่เอ่ยกับเจ้าเหว่ย“แม่ทัพเจ้าเหว่ย,เหรียญตรานั่น?”

เจ้าเหว่ยรู้ว่าซุนมู่ต้องการเอ่ยอะไร“เหรียญตรานั้นเป็นของจริง,นอกจากนี้ยังมีจิตวิญญาณนักบุญอู๋ซ่วงประทับเอาไว้ด้วย.”

หากคนคนที่ถือเหรียญตราไม่ใช่คนของตระกูลกู่,จิตวิญญาณนั่นก็จะหายไป,ดังนั้นคนอื่นจึงไม่อาจใช้เหรียญตราของตระกูลกู่ได้.

“ในเมื่อทั้งสองไม่ใช่เผ่าปิศาจ,ทำไมเจียงไห่ตงถึงได้ร้อนรนขนาดนั้นกัน?”เจ้าลัทธิเจิ้งอี้ที่กล่าวกับซุนเซียวเฟยด้วยความสงสัย.

เจ้าเหว่ยเอ่ย“บางที เขาคงไม่ต้องการให้คนอื่น ๆ รู้สถานะของคนทั้งสอง.”เขาเอ่ยแล้วนำองค์รักษ์จากไป.

ซุนมู่ที่จ้องมองไปยังพวกลู่อี้ผิงที่จากไป,เอ่ยด้วยความสงสัย“ไม่ต้องการให้รู้สถานะอย่างงั้นรึ?”

ซุนเซียวเฟยเอ่ย“ท่านพ่อ,ไม่ใช่ว่ามีสหายเป็นอาวุโสสูงของโรงเตี้ยมอู๋ซ่วงหรอกรึ? ลองไปถามพวกเขา,ว่ารู้จักทั้งสองหรือไม่?”

ซุนมู่พยักหน้า.

หลังจากที่ลู่อี้ผิงเข้ามาในที่พักขุนเขาอู๋เซี่ย,ก็เอ่ยสอบถามเจียงไห่ตง“มีศิษย์ขุนเขาอู๋เซี่ยได้รับเชิญเข้าร่วมงานชุมนุมวิถีปรุงยาของเฉินหานเสวี๋ยใหม?”

ชุมนุมวิถีปรุงยาอย่างงั้นรึ?

เจียงไห่ตงไม่คาดคิดเลยว่าลู่อี้ผิงจะสนใจเรื่องเช่นนี้.

“เรียนต้าเหริน,ข้าจะไปสอบถามในตอนนี้”เจียงไห่ตงเอ่ย,จากนั้นเขาก็เรียกคนของขุนเขาอู๋เซี่ยมา,สอบถามเรื่องดังกล่าว.

“เรียนบรรพชนชรา,ข้าได้รับเชิญจากท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์.”อาวุโสสูงของขุนเขาอู๋เซี่ยเอ่ยออกมา.

อาวุโสสูงสตรีขุนเขาอู๋เซี่ยเป็นสตรีที่งดงามเป็นอย่างมาก,มีนามว่าหลินหยิงชิว,เอ่ยตอบด้วยท่าทางกระวนกระวาย.

ลู่อี้เผิงเอ่ย“งามชุมนุมปรุงยาพรุ่งนี้,เจ้านำข้าเข้าไปด้วยได้หรือไม่?”

หลินหยิงชิวที่ดวงตาเบิกกว้าง.

“ต้าเหรินต้องการจะเข้าร่วมงามชุมนุมปรุงยา พรุ่งนี้อย่างงั้นรึ?”เจียงไห่ตงเอ่ยสอบถามออกไปอย่างระมัดระวัง.

ลู่อี้ผิงพยักหน้า,แต่ไม่ได้อธิบายอะไรออกมา.

หลินหยิงชิวชิวที่เอ่ยกล่าวอย่างร้อนรน“ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ห้ามไม่ให้นำใครไปด้วย,ควรจะสามารถทำได้.”

“อืม,เจ้าจะไปพรุ่งนี้,เรียกพวกเราด้วย.”ลู่อี้ผิงเอ่ย,ขณะเห็นท่าทางอีกฝ่ายก็เผยยิ้ม“ไม่ต้องกังวล,ข้าไม่กินเจ้าหรอก.”

หลินหยิงชิวได้ยิน,ก็หายใจหืดหอบ.

หลังจากนั้น,ลู่อี้ผิงก็เรียกอี้หว่านมา,พร้อมกับส่งแหวนมิติของเถาอี้เฟิงให้กับนาง,เอ่ยออกมาว่า“ในนั้นมีสิ่งประดิษฐ์เทวะของอาจารย์เจ้าและมีสัญลักษณ์ของปู่เจ้าด้วย.”

อี้หว่านได้ยิน,ก็ใบหน้ากลายเป็นซีดเซียวขึ้นมาทันที.

“ทำใจและระงับความโศกเศร้าเถอะ.”ลู่อี้ผิงเอ่ย.

อี้หว่านที่รับสิ่งประดิษฐ์เทวะมา,พร้อมกับพยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ,ไม่เอ่ยอะไรออกมา,แสดงความเคารพต่อลู่อี้ผิงและก้าวออกไป.

วันถัดมา,อาวุโสสูงขุนเขาอู๋เซี่ย หลินหยิงชิวที่เชิญลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำไป.

ทั้งสองที่ตามหลินหยิงชิวไปยังคฤหาสน์หานเสวี๋ย.

เมื่อพวกเขามาถึงคฤหาสน์แห่งนี้ก็มีเผ่าพันธุ์มนุษย์มากมายมารวมกัน.

เจ้าลัทธิ์น้อยซุนเซียวเฟยและเฉินฉงเถาตลอดจนจูหลางที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน.

เฉินฉงเถาเอ่ยกับจูหลาง“สหายจูหลาง,สองคนเมื่อวานนี้ล่ะ? พวกเขาเป็นใครอย่างงั้นรึ?”เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเกลียดชังและไม่ค่อยพอใจนัก “หากข้าพบพวกมันสองคนอื่นครั้งล่ะก็,บิดาจะเฉือนเนื้อพวกมันโรยเกลือตากแห้งไปแน่!”

ขณะเอ่ยจบ,เขาก็หยุดกึก ทันที,เมื่อเห็นหลินหยิงชิวที่นำลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำก้าวเข้ามา.

ซุนเซียวเฟยที่เห็นลู่อี้ผิงก็เพ่งพิศจ้องมองเช่นกัน.

จู่หลางที่เร่งรีบถอยหลังออกไปซ่อนตัวห่าง ๆ ในฝูงชนทันที.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด