Chapter 166 Made false accusations
血口喷人(三更)
“คนของสำนักอู๋เซิ่ง.”ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยความประหลาดใจออกมา.
อี้หว่านพยักหน้ารับ“บรรพชนตระกูลหม่านั้นแข็งแกร่งมาก,เป็นหนึ่งในสี่ไท่จู่ของสำนักอู๋เซิ่ง,เป็นหนึ่งตัวตนที่ไร้เทียมทานในยุคจ้านเทียน.”
“แท้จริงแล้วเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานในยุคจ้านเทียนนี่เอง.”ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม.
อี้หว่านเอ่ย“ใช่แล้ว,ได้ยินมาว่าสำนักอู๋เซิ่งเพิ่งเกิดเรื่องใหญ่เมื่อเร็ว ๆ นี้,มียอดฝีมือตายไปเป็นจำนวนมาก.”
เกิดเรื่องใหญ่อย่างงั้นรึ?
พวกลู่อี้ผิงย่อมรับรู้อย่างแน่นอน.
ในงามชุมนุมนิกายเทวะคุนเผิง,สองปิศาจซีจุยอดฝีมือยุคจ้านเทียนได้นำจ้าวพิภพไปด้วย 200 คน.
คนเหล่านั้นกลายเป็นลูกบอลให้ลู่อี้ผิงหวดเล่นไปแล้ว.
พวกเขาที่กลายเป็นอุกาบาติมนุษย์,ทะลวงดินแดนบรรพชนนิกายเทวะคุนเผิงไป.
“หนึ่งในสี่ไท่จูสำนักอู๋เซิ่งอย่างงั้นรึ?”ลู่อี้ผิงเอ่ย“เจ้ารู้จักสองปิศาจซีจุสำนักอู๋เซิ่งหรือไม่? เทียบความแข็งแกร่งกับสองปิศาจซีจุเป็นอย่างไรบ้าง?”
อี้หว่านที่ตะลึงงัน,ก่อนที่จะเอ่ยอย่างลังเล“สองปิศาจซีจุ,แม้นว่าจะน่าพรั่นพรึง,ทว่าพวกเขายังไม่ถูกนับว่าเป็นสี่ไท่จู,ดังนั้นบรรพชนตระกูลหม่าควรจะแข็งแกร่งกว่า.”
ลู่อี้ผิงพยักหน้ารับ.
“พวกเราสังหารหม่าเฟย,เจ้ามาอยู่รวมกับพวกเราไม่ยิ่งอันตรายหรอกรึ?,หรือเจ้าไม่หวาดกลัว?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยถาม.
อี้หว่านส่ายหน้าไปมา.“เรื่องที่เกิดขึ้นต้นเหตุก็เพราะข้า,ข้าจึงไม่อาจหวาดกลัวได้.”
ทั้งสามที่พูดคุยกันขณะเดินทาง.
แม้ว่าอี้หว่านจะอารมณ์ร้อนไปหน่อย,ทว่ากับมีนิสัยจริงใจไม่น้อย.
ทั้งสามเดินทางออกมาจากเมืองซิงเฟิง.
จากกลางวัน,เปลี่ยนมาเป็นกลางคืน.
เช้าวันถัดมากับมีฝนตก.
พวกลู่อี้ผิงได้เข้าไปพักในที่คฤหาสน์ร้าง,ขณะจุดไฟให้ความอบอุ่น,ลู่อี้ผิงได้นำสุรานิรันดรออกมาขึ้นดื่ม.
“พี่ใหญ่ลู่,สุราอะไรกัน,ถึงได้หอมกรุ่นเพียงนี้?”อี้หว่านที่จ้องมองสุรานิรันดรในมือของลู่อี้ผิง.
ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม“เจ้าเองก็ชอบดื่มอย่างงั้นรึ?”
อี้หว่านพยักหน้ารับ,เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ดื่มเป็นประจำ,ดังนั้นหากจะเอ่ยว่าชอบ ก็คงใช่.”
ลู่อี้ผิงที่ส่งสุราไหหนึ่ง,โยนให้กับอี้หว่าน.
แน่นอนว่าไม่ใช่ใครก็สามารถดื่มสุรานิรันดรของเขาได้,ปู่ของอี้หว่านนั้นได้รับหยกสืบทอดขององค์อรหันต์,ได้เรียนรู้วิชาฝ่ามือฟู่หลง,ก็นับว่าเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดเป็นชนรุ่นหลังขององค์อรหันต์.
สิ่งสำคัญที่สุด,ลู่อี้ผิงดูเหมือนว่าจะพอใจนิสัยแม่นางน้อยผู้นี้เช่นกัน.
อี้หว่านขณะยกสุราขึ้นจิบ,หลังจากสุราไหลผ่านเข้ามาในร่างก็แผ่ความร้อนไปทั่วชีพจรทั้งหมด,ทำให้นางตกใจ“สุรานี้มัน?”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้ม“นี่คือสุรานิรันดร,บ่มเพาะจากของดีมากมาย.”
อี้หว่านที่วางไหสุราลง,เอ่ยออกมาว่า“พี่ใหญ่ลู่,สุรานี้,ข้าไม่ต้องการ.”นางเอ่ยพลางส่งสุราคืน.
ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม“เจ้าดื่มไปแล้วคำหนึ่ง,ต้องการคืนมาให้ข้าดื่มต่องั้นรึ?”
อี้หว่านที่ใบหน้าแดงระเรื่อไปในทันที.
“รับไปเถอะ,ไม่ใช่ของล้ำค่าหายากอะไร.”ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม.
อี้หว่านลังเล,ท้ายที่สุดก็พยักหน้ายอมรับ.
ทั้งสามที่ดื่มสุรา,พูดคุยกันไปมา.
“แม่นางอี้หว่าน,ปู่ของเจ้าหายไปได้อย่างไร?”ลู่อี้ผิงสอบถาม.
อี้หว่านที่ดูลังเลเล็กน้อย,เอ่ย“70-80 ปีก่อน,ปู่และอาจารย์ของข้า,จ้าวแห่งเปลวเพลิงได้เข้าไปในดินแดนฝังอสูรมังกร,หลังจากนั้นท่านปู่ก็ได้รับวิชาสืบทอดของจิวซือเทียนมา.”
“จิวซือเทียน.”ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยความประหลาดใจออกมา.
จิวซือเทียน,ก็คือผู้ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานยุคจ้านเทียนนั่นเอง.
อี้หว่านกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“ข้าสงสัยว่าปู่ของข้าที่หายไป คงเกี่ยวกับเรื่องนี้.”
“เจ้าจะบอกว่า,ปู่ของเจ้าหายไป อาจเกี่ยวข้องกับอาจารย์ของเจ้า,จ้าวแห่งเพลิงอย่างงั้นรึ?”ลู่อี้ผิงเอ่ยถาม.
อี้หว่านพยักหน้ารับ“อาจารย์ของข้านั้นเป็นหนึ่งในบรรพชนชราเทือกเขาอู๋เซี่ย,เขาและจ้าวแห่งเพลิงนั้นเป็นสหายที่สนิทกันที่สุด,ทว่าอาจารย์ของข้าเมื่อเร็ว ๆ นี้กับดูผิดปรกติ,หลายปีมานี้ได้ฝึกฝนวิชาพิเศษบางอย่าง.”อี้หว่านเอ่ย.
“เจ้าหมายถึง,อาจารย์ของเจ้านั้นอาจจะกำลังฝึกวิชาจิวซือเทียนอยู่งั้นรึ?”ลู่อีผิ้งเอ่ยถาม.
“อืม.”อี้หว่านพยักหน้ารับ“ข้าสงสัยอาจารย์ของข้า,อาจารย์ของข้าที่รับรู้,ถึงกับคิดที่จะสังหารข้าด้วย.”
ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำจ้องมองหน้ากันและกัน.
ในเวลาเดียวกัน,จากพื้นที่ไกลออกมาได้ยินเสียงต่อสู้เกิดขึ้น.
เพียงไม่นาน,การต่อสู้ที่ลามเข้ามาใกล้ที่คฤหาสน์ร้าง,เงาร่างหนึ่งได้ล่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า,ตกลงไปบนลานที่พักด้านหน้า,ร่างกายอาบไปด้วยโลหิต,เป็นผู้เยาว์คนหนึ่ง.
อี้หว่านที่จ้องมองออกไป คนดังกล่าวดูคุ้นหน้า,ทำให้นางตกใจ,วิ่งออกไปทันที,ทว่าเมื่อมองอย่างชัดเจน นางก็เอ่ยเสียงดัง“เหยาเฟิง!”
เหยาเฟิง,เป็นหนึ่งในสหายสนิทของนาง,เป็นศิษย์หลักตระกูลเหยา,กล่าวได้ว่านางมีสหายไม่มากนัก,เหยาเฟิงจึงเป็นหนึ่งในสหายที่สนิทที่สุดในไม่กี่คน.
แม้นว่าเหยาเฟิงจะได้รับบาดเจ็บ,ลมหายใจแทบไม่เหลือ,แต่เมื่อเห็นอี้หว่าน,ก็หายใจหอบ ๆ เอ่ยออกมาว่า“อี้หว่าน,เจ้ารีบหนีเร็วเข้า.”
“หนีอย่างงั้นรึ? คิดว่าเจ้าจะหนีไปใหนได้?”ในเวลานั้นบนท้องฟ้าไกล ปรากฏร่าง ๆ หนึ่งปรากฏขึ้น.
เมื่อเห็นผู้มาได้อย่างชัดเจน,อี้หว่านก็เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ“ศิษย์พี่ใหญ่!”
คนที่มา,ก็คือศิษย์พี่ใหญ่ของนาง,เหลียงหงจี.
นางคิดไม่ถึงแม้แต่น้อย,คนที่ไล่ล่าสหายรักของนาง เหยาเฟิง,กับเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของนางเอง.
เหลียงหงจีที่ร่อนลงพื้น,ท่ามกลางฝนตกหนัก,ขณะมองเห็นอี้หว่านและเหยาเฟิง,ก็เผยยิ้ม“ศิษย์น้องห้า,ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะอยู่ที่นี่ด้วย.”
เหยาเฟิงที่จ้องมองเหลียงหงจีด้วยความโกรธ,เอ่ยต่ออี้หว่าน“อี้หว่าน,เจ้ารีบหนีเร็วเข้า,ศิษย์พี่ใหญ่เจ้าอมหิตมาก,เขาข่มขืนและสังหารศิษย์น้องหลินซือโหลว เขาอู่เซี่ยของเจ้า,ถูกข้าพบ,จึงต้องการสังหารข้าปิดปาก.”
ใบหน้าของอี้หว่านถึงกับเปลี่ยนสีไปเหมือนกัน.
ศิษย์น้องหลินซือโหลว,เป็นศิษย์อาวุโสสูงขุนเขาอู๋เซี่ย เช่นเดียวกับนาง.
เหลียงหงจีที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“ใส่ร้ายกันเห็น ๆ! เหยาเฟิง,เจ้าสิโหดเหี้ยม,ข่มขืนและสังหารศิษย์น้องหลินซือโหลว ขุนเขาอู๋เซี่ย,ตอนนี้ยังใส่ร้ายข้าอีก,ศิษย์น้องอี้หว่าน,อย่าได้ฟังคำพูดไร้สาระของเขา!”
“ข้ากำลังไล่ล่าเหยาเฟิง,ต้องการจับเขาไปลงโทษที่ขุนเขาอู๋เซี่ย!”
“ศิษย์น้องอี้หว่าน,โปรดช่วยข้าจับตัวเหยาเฟิงกับข้า,แล้วนำกลับขุนเขาอู๋เซี่ยกัน.”
เหยาเฟิงได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็จ้องมองไปยังเหลียงหวงจีด้วยความโกรธเกรี้ยว“เหลียงหงจี,ในมือข้ามีศิลาบันทึกภาพด้วย,มันบันทึกภาพความชั่วของเจ้าที่กำลังข่มขืนและสังหารหลินซือโหลวด้วย.”กล่าวจบเขาก็นำศิลาก้อนหนึ่งออกมา.
เหลียงหงจีที่ใบหน้าเปลี่ยนสี,กลายเป็นบิดเบี้ยวอัปลักษณ์,แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร,กระบี่ในมือ,ปรากฏปราณกระบี่พวยพุ่งโจมตีออกไปยังเหยาเฟิงและอี้หว่านทันที.
เห็นชัดเจนว่า,เหลียงหงจีต้องการที่จะสังหารอี้หว่านไปพร้อมกันด้วย.
ปราณกระบี่ที่น่าอัศจรรย์ใจ,พุ่งไปยังทิศทางของทั้งสอง.
อย่างไรก็ตาม,เมื่อปราณกระบี่กำลังจะทะลวงร่างของทั้งสองไป กับหยุดลง,แม้แต่พังทลายกลายเป็นฝุ่นในทันที.
ทั้งสามที่ตื่นตะลึงไปตาม ๆ กัน.
เหลียงหงจีที่จดจ้องมองออกไปยังลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ด้วยความประหลาดใจ“เป็นพวกเจ้ารึ?!”
อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น,ก็มีอีกหลายเสียงที่ตัดผ่านอากาศพุ่งมา.
เห็นเป็นชายชราคนหนึ่งที่ด้านหน้าสวมชุดอาวุโสสูง ขุนเขาอู๋เซี่ยที่บินอยู่บนคฤหาสน์ร้าง.
เหลียงหงจี,อี้หว่านและคนอื่น ๆ เห็นต่างก็เผยความประหลาดใจ.
“เหลียงหงจี,อี้หว่าน,พวกเจ้ากำลังทำอะไร?”อาวุโสสูงที่เอ่ยสอบถามออกมา,เห็นชัดเจนว่าพวกเขาเพียงแค่ผ่านที่นี่มา เพราะกำลังเดินทางไปยังเทือกเขาเทียนเซี่ยนั่นเอง.
เหลียงหงจี ก้าวไปด้านหน้า,เร่งรีบเอ่ยออกมาว่า“อาวุโสสูงลี่เจิ้ง,พวกท่านมาก็ดีแล้ว,เจ้าคนนั้นชื่อเหยาเฟิง,ได้ข่มขืนและสังหารศิษย์น้องหลินซือโหลวศิษย์อาวุโสสูงสวีลี่ขุนเขาอู๋เซี่ยของพวกเรา,ถูกข้าพบเข้า,ข้าจึงไล่ล่าและพยายามจับกุมตัวเขา,ไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะเป็นสหายรักของศิษย์น้องอี้หว่าน,นางไม่เพียงไม่ช่วยจับคนร้าย,ซ้ำยังให้สองคนนั่นหยุดข้าเอาไว้ด้วย!”
ใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร,พร้อมกับชี้ไปยังลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ.