Chapter 163 Buddha Dragon Palm young girl
佛龙掌的少女(三更)
ทางเข้าจิวเทียนอยู่บนท้องฟ้า.
ส่วนทางเข้าโหยวหมิงนั้นเป็นพื้นดิน.
ทางเข้าของโหยวมิงที่มีลมปราณทมิฬที่ไหลบ่าฟุ้งกระจาย,แผดความหนาวเย็นของลมหยินออกมา.
หลังจากที่ลู่อี้ผิงมาถึง,ก็หยุดชั่วงครู่,ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในทางเข้าแดนโหยวหมิง.
ทันใดนั้น,ทั้งสองที่ผ่านเข้าไปพื้นที่มืดมิด,ลมปราณหยินที่มากล้นปกคลุมร่างของทั้งสองเอาไว้.
พลังมิติที่ดึงลากพวกเขาเข้าไปอย่างรุนแรง.
ผ่านไปชั่วขณะ,พลังมิติที่ฉุดกระชาก็หายไป,ปรากฏแสงสว่างด้านหน้า,พวกเขาก็มาถึงโลกที่มืดมิดแล้ว.
กล่าวได้ว่าสวรรค์และปฐพีในพื้นที่มิติแห่งนี้ แทบจะกลายเป็นมืดมิดทั้งหมด,ถึงแม้นว่าจะไม่ดำมืดจนไร้แสงโดยสิ้นเชิงแต่ก็ไม่ต่างจากดินแดนไร้สี,ไม่มีสีแดง,สีเขียวหรือสีเหลือง,แม้แต่สีน้ำเงินเองเองก็ด้วยด้วย.
ท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆสีดำ,คล้ายกับว่าจะเกิดพายุใหญ่อยู่ตลอดเวลา.
สุดท้ายแล้วแดนโหยวหมิงก็คือดินแดนใต้ดิน,ดังนั้นจึงไม่มีแสงจากดวงตะวันนั่นเอง.
ทั่วทั้งโลกมิติ,จึงอึมครึมเต็มไปด้วยแสงสีดำ.
ที่นี่มีสายลมที่เย็นยะเยือบ,ราวกับอยู่ในฤดูหนาวตลอดเวลา.
“สถานที่บัดซบนี่,ยังเหมือนกับเมื่อหนึ่งล้านปีก่อนเลย.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำจ้องมองดินแดนโหยวหมิง,กล่าวออกมาตามจริง,เขาไม่ชอบสถานที่แห่งนี้เลย.
ลู่อี้ผิงที่ส่ายหน้าไปมาจ้องมองขนของอีกฝ่าย,เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ไม่ว่าจะไปที่ใหน,ขนสีทองของเจ้า,ก็ส่องสว่างอยู่ตลอด.”
วัวกระทิงมังกรที่คิดอยู่ชั่วครู่,ก่อนที่จะหัวเราะลั่น“นี่คือลักษณะพิเศษของปู่หนิว.”
ลู่อี้ผิงไม่ได้เอ่ยอะไรต่อไป,ก่อนที่ทั้งสองจะบินตัดอากาศออกไป.
“จูเหริน,พวกเราจะไปใหนดี?”
“ไปยังดินแดนปิศาจสวรรค์.”
ดินแดนปิศาจสวรรค์,มีสถานที่องค์อรหันต์ตกตายไป.
ลู่อี้ผิงได้นำยันต์สื่อสารออกมา,พร้อมกับติดต่อกับเทพปิศาจโบราณเฉียงเหลียง.
อย่างไรก็ตาม,ผ่านไปนานแล้วกับไม่ได้รับการตอบกลับ.
“จูเหรินติดต่อเจ้าหนูเฉียงเหลียง,แต่เขาไม่ตอบกลับ,ไม่ใช่ว่าเจ้าเด็กนั่นเกิดอุบัติเหตุขึ้นหรอกรึ?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยด้วยความเป็นกังวล.
ลู่อี้ผิงที่ครุ่นคิด.
เป็นไปได้ว่าเฉียงเหลียงเกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ?
ทว่า,ด้วยความแข็งแกร่งของเฉียงเหลียง,ในโหยวหมิง,ไม่ควรมีใครทำอะไรเขาได้.
“เดี๋ยวค่อย,ให้วังถามสวรรค์สืบสวนก็แล้วกัน.”ลู่อี้ผิงเอ่ย.
ในจิวเทียน,องค์กรข่าวสารก็คือวังม่านหมอก,ส่วนในโหยวหมิงนั้นมีองค์กรที่ถูกเรียกว่าวังถามสวรรค์.
“วังถามสวรรค์,ไม่รู้ว่าตาเฒ่าเทียนเหวินจะยังอยู่ใหม?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ย.
ลู่อี้ผิงที่ส่ายหน้าไปมา“ควรจะออกจากโหยวหมิงแล้ว.”จากนั้นเขาก็จ้องมองไปยังวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ“มีปัญหาอะไร,เจ้ายังคิดถึงบุตรสาวคนเล็กสุดของเขางั้นรึ?”
เทียนเหวินนั้นมีบุตรสาวสองคน.
ในอดีต,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่รู้สึกสนใจบุตรสาวคนเล็กของอีกฝ่ายไม่น้อย.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่หัวเราะลั่น“จูเหรินรู้ใจข้าที่สุด.”
ทั้งสองที่บิน,ตรงไปยังดินแดนปิศาจสวรรค์.
โหยวหมิงนั้นมีพื้นที่มากกว่าจิวเทียนมาก.
จิวเทียนมีดินแดนทั้งหมด 20 แห่ง,ทว่าในโหยวหมิงนั้นมีถึง 30 แห่ง,จึงมีขนาดใหญ่กว่าครึ่งจิวเทียน.
โหยวหมิงมีเผ่าปิศาจ,เผ่าอสูร,เผ่าพฤกษา,เผ่ามนุษย์,มากมายหลายร้อยเผ่าพันธุ์.
อย่างไรก็ตาม,ในโหยวหนิง,เผ่าปิศาจนั้นแข็งแกร่งที่สุด,รองลงมาเป็นเผ่าอสูร,ส่วนเผ่ามนุษย์นั้นอ่อนแอที่สุด.
เพราะว่าโหยวหมิงมีดินแดนกว่า 30 แห่ง,ดังนั้น,ภาพรวมของกลุ่มอิทธิพลโดยรวมแล้วแข็งแกร่งกว่าจิวเทียนมาก.
ดินแดนปิศาจสวรรค์,คือดินแดนที่ใหญ่ที่สุดในโหยวหมิง,ในยุคโบราณ,ถือว่าเป็นดินแดนที่รุ่งเรืองที่สุดอีกด้วย.
อย่างไรก็ตาม,องค์อรหันต์และจ้าวพิภพที่เปิดสงครามกันก่อนหน้านี้,ได้ทำให้ดินแดนปิศาจสวรรค์เสียหาย,หลายกลุ่มอิทธิพลในดินแดนปิศาจสวรรค์ได้พังทลายหายไปไม่น้อย.
หลังจากมาถึงดินแดนปิศาจสวรรค์,วัวกระทิงมังกรที่ยิ้มหัวเราะตลอดเวลา เวลานี้กลายเป็นเงียบเคร่งขรึม.
ผู้คนในโลกนี้,มีคนที่เขา ให้ความสำคัญอยู่ไม่มากนัก,องค์อรหันต์ที่ตกตายในอดีต,ทำให้เขารู้สึกเศร้าเสียใจอยู่ไม่น้อย.
หลังจากที่เข้ามาในดินแดนปิศาจสวรรค์,ลู่อี้ผิงที่สัมผัสได้ถึงพื้นที่ส่วนลึกยังมีกลิ่นอายของแสงอรหันต์.
นี่คือสิ่งที่เหลือขององค์อรหันต์ในอดีต.
ในอดีตองค์อรหันต์ได้ตกตายในการต่อสู้,โลหิตของเขาที่ย้อมดินแดนปิศาจสวรรค์,ชำระล้างดินแดนปิศาจสวรรค์ไปไม่น้อย,แม้ว่าจะผ่านมาเนิ่นนานหลายปี,กลิ่นอายอรหันต์ก็ไม่เคยสลายหายไป.
ลู่อี้ผิง,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ได้มาถึงพื้นที่ราบแห่งหนึ่ง.
สถานที่แห่งนี้,ก็คือสถานที่องค์อรหันต์ล่วงหล่นจากสวรรค์นั่นเอง.
การต่อสู้ขององค์อรหันต์และจ้าวปิศาจ,ได้ทำให้สภาพแวดล้อมทั้งหมดพังทลายเสียหายกลายเป็นพื้นที่ราบ,หลังจาผ่านมานานหลายปี,ที่ราบขนาดใหญ่นี้จึงเกิดต้นไม้ใบหญ้าขึ้นปกคลุมกลายเป็นทุ่งกว้าง.
-
ลู่อี้ผิงที่ก้าวผ่านทุ่งดอกไม้,อย่างไรก็ตาม,ต้นไม้ใบหญ้าในสถานที่มืดมิดเช่นนี้กับดูอ่อนโยนสวยงามไม่น้อย.
หลังจากเดินทางมาชั่วระยะ,ก็มาถึงเนินเขาใหญ่ที่มีสุสานอยู่.
“มหาราชันย์นักบุญอรหันต์,ฟู่ซือจุ้น.”
ขณะเห็นป้ายสุสาน,ทำให้ทั้งสองเต็มไปด้วยความประหลาดใจ.
สุสานแห่งนี้,ดูเหมือนว่าจะถูกสร้างขึ้นมาหลายปีแล้ว,ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้างขึ้น.
ขณะที่ลู่อี้ผิงเข้าใกล้สุสานก็ได้ยินเสียงของสตรีเผ่ามนุษย์ที่รูปร่างเพรียวที่บินมาแต่ไกล.
นางที่มาหยุดที่หน้าสุสานใหญ่.
ในมือของนางมีสุรา,ที่เวลานี้ได้เทรดลงไปเพื่อคารวะต่ออีกฝ่ายอย่างชัดเจน.
สตรีคนดังกล่าว,ที่เห็นลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำก็ประหลาดใจ,ใบหน้าเต็มไปด้วยความระมัดระวัง,เอ่ยออกมาว่า“เจ้าคือคนของนิกายจินกังอย่างงั้นรึ?”
“แม่นางน้อย,เจ้าเป็นคนสำนักใหน?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้ม“เอาเป็นว่าเจ้าบอกข้า,แล้วข้าก็จะบอกเจ้า.”
สตรีน้อยได้ยินคำพูดดังกล่าว,ใบหน้างามที่กลายเป็นเคร่งขรึม,ชักกระบี่ยาวออกมา ชี้ไปยังวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,“ปากมันลิ้นลื่น! เพียงแค่มองก็บอกได้แล้วว่าไม่ใช่คนดี!”
นางที่สะบัดกระบี่พร้อมกับโจมตีออกไป.
สตรีผู้นี้ไม่อ่อนแอแต่อย่างใด,เป็นยอดฝีมือขอบเขตมหาจักรพรรดิ.
นอกจากนี้ยังเป็นมหาจักรพรรดิขั้นที่สิบด้วย.
อย่างไรก็ตาม,กระบี่ของนางที่พุ่งมาถึงด้านหน้าของวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,นิ้วสองนิ้วของวัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้ยกขึ้นคีบกระบี่ของนางเอาไว้.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่เผยยิ้ม,“แม่นางน้อย,เจ้าช่างอารมณ์ร้ายนัก.”
สตรีผู้เยาว์ที่พยายามดึงกระบี่กลับ,แต่กับไม่อาจเขยื้อนได้เลย,เวลานี้ใบหน้าของนางกลายเป็นสีแดงกล่ำเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว,ก่อนที่จะซัดฝ่ามือฟาดไปยังวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,พลังฝ่ามือของนางที่แผ่รัศมีแสงอรหันต์,มีภาพเงาของมังกรอยู่ด้วยเล็กน้อย.
ลู่อี้ผิงเผยความประหลาดใจ,ยกมือขึ้นรับพลังฝ่ามือของอีกฝ่าย.
“ฝ่ามือฟู่หลง(มังกรอรหันต์)”ลู่อี้ผิงที่จ้องมองไปยังฝ่ายตรงข้าม“ฝ่ามือฟู่หลงใครเป็นคนสอนเจ้ารึ? เจ้าเกี่ยวข้องกับองค์อรหันต์(ฟู่ซือจุ้น)อย่างไร?”
ในอดีต,ตำราวิชาลับฝ่ามือฟู่หลงเป็นลู่อี้ผิงที่มอบให้กับองค์อรหันต์นั่นเอง.
หญิงสาวที่ไม่คาดคิดว่าลู่อี้ผิงจะรู้จักฝ่ามือฟู่หลง,ดวงตาคู่งามที่สั่นส่ายไปมา,เวลานี้,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ปล่อยมือ,หญิงสาวที่ชักกระบี่กลับมาได้ในที่สุด“ใครสอนข้า,เกี่ยวอะไรกับเจ้า!”จากนั้นนางก็ฟาดฝ่ามือไปยังลู่อี้ผิง“เห็นใบหน้าที่ละอ่อนประณีตนั่น,สงสัยเป็นพวกไม่เอาถ่าน.”
ลู่อี้ผิงหมดคำจะพูด,ก่อนที่จะยกฝ่ามือขึ้นรับมืออีกฝ่าย,ฝ่ามือของเด็กสาวที่ไม่อาจทำอะไรได้กระดอนเด้งกลับออกไป.
สาวน้อยที่จ้องมองลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,เอ่ยคำรามด้วยความโกรธ“ลิ่วล่อนิกายจินกัง,เป็นหมารับใช้เผ่าวิญญาณรัตติกาล,ไม่มีจุดจบที่ดีหรอก!”จากนั้นนางก็บินหนีไป.
ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำตะลึงไปชั่วขณะ.
“จูเหรินให้ข้าจับแม่นางน้อยนี้กลับมาใหม? จะได้สอบสวนว่าใครสอนฝ่ามือฟู่หลงให้กับนาง?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ย.
ฝ่ายตรงข้ามที่เรียนรู้ฝ่ามือฟู่หลง,และยังมาคารวะหลุมศพองค์อรหันต์,แน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับองค์อรหันต์อยู่แน่.
“ไม่จำเป็น.”ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังไปยังวัวกระทิงมังกรเขาทองคำพลางเหลือกตามองบน,ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แน่นล้นปริส่องประกายราวกับเพรชของเขามันสะดุดตาเป็นอย่างมาก,จึงเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิด“เพราะสภาพของเจ้านั่นล่ะ,ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นคนนิกายจินกัง.”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ยกมือขึ้นปาดเหงื่อ.