Chapter 161 Strange stone
奇怪石头(一更)
กู่อู๋ซ่างที่ลังเล,ก่อนจะตามเฉิงซ่วงหลิงและคนอื่น ๆ ก้าวตามลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเข้าไปด้านในเขตแดนบรรพชนนิกายเทวะคุนเผิง.
นอกจากนี้ยังมีคนของโรงเตี้ยมอู๋ซ่วงคนอื่น ๆ ด้วย,ที่จริงพวกเขาไม่มีใครกล้าเข้าไปด้านใน,ทว่ายืนอยู่ข้าง ๆ ดินแดนบรรพชนคุนเผิง,จ้องมองจากพื้นที่ไกล ๆ.
ขณะกู่อู่ซ่าง,ก้าวตามเฉิงซ่วงหลงและคนอื่น ๆ เข้าไปในดินแดนบรรพชนนิกายเทวะคุนเผิงก็พบ,เหล่ยเห่า,เฉินโหยวเฉียน,สองปิศาจซีจุและคนอื่น ๆ ที่นอนเกลื่อนอยู่บนด้านในดินแดนบรรพชนคุนเผิง.
เหล่ยเห่าที่เหมือนว่าจะกระแทกเข้ากับยอดเขาแห่งหนึ่ง,จมเข้าไปในผนังของภูเขา.
เฉินโหยวเฉียนที่กระแทกเข้ากับตำหนัก,จนตำหนักพังกลายเป็นเศษซากปรักหักพังไป.
ส่วนสองปิศาจซีจุที่นอนอยู่ในแอ่งขนาดใหญ่,ร่างกายที่กระตุกเป็นช่วง ๆ.
กู่อู๋ซ่วงและคนอื่น ๆ ,ยังเห็นบรรพบุรุษหยวนที่ถูกฟาดเข้ามา,เวลานี้ร่างกายที่หมดสภาพ,แขนขาที่หักเสียรูป.
ในเวลานี้แต่ละคนที่ไม่ต่างจากปลาที่นอนขาดน้ำบนพื้นดิน.
จากสภาพเหล่ยเห่า,เฉินโหยวเฉียนและคนอื่น ๆ อยู่ในสภาพอนาถเป็นอย่างมาก,กู่อู๋ซ่วงและคนอื่น ๆ ต่างก็ตื่นตะลึงตกใจไม่น้อย,เวลานี้แม้แต่ผู้บัญชาภพ,บรรพชนหยวนยังอยู่ในสภาพอนาถเช่นนี้,เรื่องแบบนี้เกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการถึงได้อย่างแท้จริง.
ทุกคนที่จ้องมองลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรอย่างระมัดระวังแม้แต่รักษาระยะห่างเอาไว้ไกล.
โดยเฉพาะความร้ายกายของกระบองสัตว์เทวะคุนเผิงนั้นทำให้พวกเขาสั่นสะท้านจริง ๆ.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเห็นกู่อู๋ซ่วง,เฉิงซ่วงหลงและคนอื่น ๆ จ้องมองด้วยความหวาดหวั่นก็หันหน้ากับมามองพวกเขา,ทำให้พวกเขาถึงกับสะท้านถอยหลังโดยอัตโนมัติ.
“อยู่ห่างออกไปปานนั้น,หมายความว่าอย่างไร?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้มพราย,“นี่ข้าน่ากลัวขนาดนั้นเลยรึ?”
กู่อู๋ซ่วงที่เร่งรีบเอ่ยออกมาว่า“ไม่ ๆ,อาวุโสเทพสงครามเก้าโคจร,พวกเราไม่มีอะไรเลย.”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ย“เทพสงครามเก้าโคจรอะไร,เรียกข้าว่าท่านเสี่ยวจินก็พอ.”จากนั้นก็เอ่ยออกมาว่า“ในเมื่อเจ้าเป็นศิษย์ของจางอี้เฟิง,คงจะเรียนรู้วิชาจากจางอี้เฟิงมาไม่น้อย,รอให้สักเดี๋ยวค่อยมาเล่นอะไรสนุก ๆ กันหลาย ๆ อย่าง.”
“เล่นสนุกหลาย ๆ อย่าง?”กู่อู๋ซ่วงที่ชงัก,จ้องมองเหล่าคนที่กลายเป็นปลาตายขาดอากาศนอนกเลื่อนบนพื้น,ก็ใบหน้าเปลี่ยนสีไปในทันที.
แม้แต่บรรพบุรุษหยวนที่เป็นผู้บัญชาภพ,เล่นเพียงครั้งเดียว,ยังมีสภาพอนาถเช่นนั้นแล้ว,หากเล่นหลาย ๆ อย่างจะเป็นเช่นไร?
“ท่านเสี่ยวจิน,ข้าช่างอ่อนด้อยยิ่งนัก,ไฉนเลยจะกล้าเล่นกับท่าน.”กู่อู๋ซ่วงเอ่ยออกมาทันที.
“ความกล้าช่างน้อยนิด,แล้ววันข้างหน้าจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำชำเลืองมอง“ในอดีตจางอี้เฟิงเล่นกับข้าบ่อย ๆ,ดังนั้น,จึงประสบความสำเร็จ.”
“ข้าเห็นแก่จางอี้เฟิงหรอกนะ,หากเป็นคนอื่นข้าคงไม่สนใจ.”
กู่อู๋ซ่วงที่ชำเลืองเร่งรีบโค้งคำนับเอ่ยออกมาว่า“เป็นเกียรติยิ่งนัก,เมื่อถึงเวลา,ขอให้อาวุโสชี้แนะด้วย.”
ในเวลานั้น,มีใครอีกคนที่เข้ามาในดินแดนบรรพชนคุนเผิง.
กู่อู๋ซ่วงที่เห็นคนที่ชำเลืองมองคนที่เข้ามา เป็นฉู่ถงนิกายกระบี่กุยหยวน ก็เผยความประหลาดใจ.
“ศิษย์คารวะซือจุ้น.”หลังจากฉู่ถงเข้ามา,ก็ก้าวเข้าไปแสดงความเคารพต่อลู่อี้ผิงทันที“ศิษย์ได้ยินมาว่านิกายเทวะคุนเผิงได้เชิญยอดฝีมือทั่วทั้งจิวเทียนเพื่อจัดการกับซือจุ้น,ดังนั้นจึงเร่งรีบนำคนมาที่นี่.”
ไม่คิดเลยว่าแม้นจะเร่งรีบมา,ทว่าการต่อสู้ก็จบไปแล้ว.
เขาที่จ้องมองเหล่ยเห่า,เฉินโหยวเฉียน,สองปิศาจซีจุและคนอื่นๆ นอนเกลื่อนอยู่,หัวใจก็เต็มไปด้วยความซับซ้อน.
กู๋อู๋ซ่วง,เฉินซ่วงหลงและคนอื่น ๆ ที่เห็นฉู่ถงเรียกลู่อี้ผิงว่าซือจุ้น,ก็เผยความประหลาดเป็นอย่างมาก.
ฉู่ถงเป็นศิษย์ลู่อี้ผิงอย่างงั้นรึ?
ลู่อี้ผิงพยักหน้ารับ,ยกมือให้ฉู่ถงหลบออกไป,มือของเขาที่คว้าไปในอากาศ,ก่อนที่ผืนปฐพีของดินแดนบรรพชนคุนเผิงแตกออกเป็นทาง,เส้นชีพจรวิญญาณขนาดใหญ่ยักษ์เส้นหนึ่งก็ผุดลอยขึ้นมาจากใต้พื้นดิน.
“ชีพจรวิญญาณกำเนิดบรรพชน!”ฉู่ถง,กู่อู๋ซ่วงและคนอื่น ๆ ที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.
ภายในดินแดนบรรพชนของนิกายเทวะคุนเผิงมีเส้นชีพจรวิญญาณกำเนิดบรรพชน,ทำให้พวกเขาสามารถสร้างจ้าวพิภพได้เป็นจำนวนมาก,ไม่มีทางที่กลุ่มอิทธิพลและนิกายอื่นจะเทียบได้.
เห็นเส้นชีพจรวิญญาณกำเนิดบรรพชน ที่มีขนาดหลายหมื่นลี้,ฉู่ถงและคนอื่น ๆที่ สูดหายใจลึกด้วยความสั่นสะท้าน.
ลู่อี้ผิงที่ย่อขนาดของเส้นชีพจรวิญญาณกำเนิดบรรพชน,จนมันมีขนาดเล็กหล่นลงบนฝ่ามือของลู่อี้ผิง,จากนั้นก็ส่งให้กับฉู่ถง.
แม้นว่าเส้นชีพจรวิญญาณแก่นกำเนิดบรรพชนจะยอดเยี่ยม,ทว่าเขาไม่ต้องการจึงมอบให้กับฉู่ถง เอ่ยออกมาว่า“หลังจากนี้,เจ้านำมันไปใส่ในดินแดนบรรพชนนิกายกระบี่กุยหยวนซะ.”
กล่าวได้ว่าเส้นชีพจรวิญญาณกำเนิดบรรพชนที่ถูกนำไปใส่ในดินแพนบรรพชนนิกายกระบี่กุยหยวน,นับจากนี้,นิกายกระบี่กุยหยวนจะต้องเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างไม่ต้องสงสัย.
ฉู่ถงที่รับเส้นชีพจรวิญญาณกำเนิดบรรพชน,พร้อมกับกล่าวขอบคุณลู่อี้ผิงอย่างนอบน้อม.
ลู่อีผิ้งที่ก้าวต่อไปยังดินแดนบรรพชนคุนเผิงซึ่งอยู่ในส่วนลึกสุด.
คลังสมบัตินิกายเทวะคุนเผิงมีค่ายกลมากมายเต็มไปหมด,นอกจากนี้ยังเป็นมหาค่ายกลจากยุคโบราณอีกด้วย.
อย่างไรก็ตาม,ลู่อี้ผิงที่เพียงแค่ผลักมือออกไป,ประตูของคลังสมบัติคุนเผิงก็เปิดออกมาแล้ว.
คลังสมบัติที่มีมาแต่ยุคโบราณ,สมบัติด้านในจะต้องมีจำนวนไม่น้อย,ศิลาวิญญาณเกรดเทวะนับไม่ถ้วนและศิลาวิญญาณเกรดสวรรค์เองก็มีอยู่จำนวนมาก.
กล่าวได้ว่าศิลาวิญญาณเกรดสวรรค์กองเป็นภูเขาอยู่จำนวนมาก.
นอกจากศิลาวิญญาณเกรดสวรรค์แล้ว,ยังมีสิ่งประดิษฐ์เทวะอีกมากมาย,แม้แต่สมบัติจิตวิญญาณสวรรค์อีกด้วย.
อย่างไรก็ตาม,ของวิเศษจิตวิญญาณสวรรค์นั้น,แบ่งออกเป็นขั้นต่ำ,ขั้นกลาง,ขั้นสูงและขั้นสุดยอด.
ของวิเศษจิตวิญญาณสวรรค์,ทั้งหมดที่มีล้วนแต่มีขั้นต่ำเกือบทั้งหมด.
แม้นว่านิกายเทวะคุนเผิงจะเป็นกลุ่มอิทธิพลอันดับหนึ่งของจิวเทียน,ทว่าคลังสมบัติก็ไม่อาจเทียบได้กับคลังสมบัติของวังนักบุญกู่ฉินที่เป็นมหาอำนาจยุคโบราณได้.
ท้ายที่สุด,ลู่อี้ผิงก็ก้าวไปถึงส่วนลึกของคลังสมบัตินิกายเทวะคุนเผิง.
ในพื้นที่ส่วนลึกนั้น,จิตวิญญาณเหลว,สิ่งนี้เป็นสิ่งของที่มีมาแต่ยุคโบราณแม้แต่ยุคบรรพกาลก็เป็นของที่ไม่ธรรมดา,เห็นว่ามีประโยชน์ลู่อี้ผิงจึงได้เก็บมันไปด้วย.
ในเวลาเดียวกันที่มุมแห่งหนึ่ง,ลู่อี้ผิงเห็นแร่สีเงิน,สร้างความประหลาดใจให้กับเขาไม่น้อย.
ก่อนหน้านี้,เมื่อครั้งแม่น้ำเทพสวรรค์ทวนกระแส,ปรากฏบงกชทมิฬสมุนไพรวิญญาณหนึ่งล้านปีและหยกหลงฮาน,นอกจากนี้ยังมีแร่สีเงินดังกล่าวนี้ปรากฏขึ้นมาด้วย.
กล่าวได้ว่าศิลาดังกล่าวนี้เหมือนกับแร่สีเงินที่เขาได้จากแม่น้ำเทพสวรรค์มาก,คุณภาพที่เหมือนกัน,แม้แต่มีขนาดใหญ่กว่า.
ลู่อี้ผิงที่ก้าวไปที่ด้านหน้าแร่สีเงิน,ก่อนที่จะวางมือไปบนศิลาดังกล่าว,สัมผัสถึงโครงสร้างด้านใน.
“นี่คือศิลาอะไร?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ก้าวมาด้านหลังลู่อี้ผิง,เห็นชัดเจนว่าเขาจำได้ว่าศิลาดังกล่าวนี้ได้ปรากฏขึ้นที่แม่น้ำเทพสวรรค์ก่อนหน้านี้.
“ไม่ใช่สิ่งของจากศลาสวรรค์ยุคปรัมปราหรอกรึ? ดูเหมือนกับเสาสวรรค์ของข้ามาก.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ย.
ดูเหมือนเล็กน้อย.
แต่ดูอีกทีก็แตกต่างเช่นกัน.
“นี่ไม่ใช่สิ่งของจากศาลสวรรค์ยุคปรัมปรา.”ลู่อี้ผิงที่ส่ายหน้าไปมา,ภายในใจที่คาดเดาได้ลาง ๆ,ทว่ากับไม่อาจยืนยันแน่นอนได้.