Chapter 16 Good, liking boasting is very normal
牛,喜欢吹牛很正常
จากนั้น,ทั้งสองที่เห็นบุรุษชุดสีนำเงินและวัวสีทองที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ กองไฟ.
ที่ด้านหลังชายชุดนำเงินนั้น,มีร่างวัยกลางคนที่สูงใหญ่ทรงพลังสี่คนยืนอยู่ด้านหลัง.
เห็นวัวสีทอง,ชายชราตกใจเป็นอย่างมาก,จากนั้นทั้งสองก็จ้องมองไปหยุดที่ลู่อี้ผิง.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเห็นชายชราและสตรีน้อยจ้องมอลู่อี้ผิงเขม็ง,ก็เอ่ยออกมาว่า“ข้าขอบอกทั้งสอง,ถึงแม้นว่าจูเหรินพวกเราจะหล่อเหลา,แต่เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องจ้องมองขนาดนั้น.”
“เจ้าจ้องมองข้าสิ,เหล่าหนิวสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์,ที่หล่อเหลาแค่ไหนก็ได้.”
สาวน้อยที่ได้ยินคำพูดของวัวกระทิงมังกรเขาทองคำก็หัวเราะ,วัวตนนี้,ช่างน่าขำนัก.
ชายชราเหอโชวที่ยกมือประสานไปด้านหน้า,เอ่ยต่อลู่อี้ผิง“พวกเราเพียงแค่ผ่านมา,เข้ามาในหุบเขาแห่งนี้เพื่อพักชั่วคราว,ไม่ต้องการรบกวนน้องชาย.”
ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม“ไม่ได้รบกวนอะไร,เชิญนั่งได้เลย.”เขาที่ชี้ไปยังมุมของกองไฟ,“พวกเรามาดื่มแก้เบื่อดีกว่า.”
ชายชราเหอโชวที่เผยยิ้ม“เช่นนั้นชายชราผู้นี้ไม่ขอเกรงใจ.”จากนั้นเขาก็พาสตรีน้อยมานั่งข้าง ๆ กองไฟ.
ลู่อี้ผิงที่โยนไหสุราสองไหออกไป,เอ่ยออกมาว่า“สุราข้าหมักเอาขึ้นมาแก้เบื้อ,แม้นว่าจะไม่ได้ล้ำค่าอะไร,แต่ราชาติก็ดีไม่น้อย.”
เหอโชวที่เปิดฝา,เขาเชี่ยวชาญทางสมุนไพรไม่น้อย,ไม่หวั่นเกรงว่าสุราจะมีปัญหา,เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม“เช่นนั้นก็ขอบคุณน้องชายแล้ว.”
หลังจากสุราเข้ามาในร่างกาย,รู้สึกราวกับว่ามังกรเพลิงได้วิ่งเข้ามาในร่าง.
นอกจากนี้ยังมีความเย็นที่ทำให้สดชื่นไปพร้อม ๆ กันด้วย.
เหอโชวที่คิดรู้สึกสบายจนไม่อาจเอ่ยอะไรออกมาได้.
เขาที่ตกใจเป็นอย่างมาก,จากนั้นก็ชิมลิ้มรสอย่างระมัดระวัง.
“น้องชาย,สุราของเจ้า,หมักขึ้นมาจากผลเพลิงเหมันตร์อย่างงั้นรึ?”เขาเอ่ยกล่าวอย่างอดทนไม่ไหว.
“ผลเพลิงเหมันตร์!”สตรีน้อยเอ่ยด้วยความตกใจ.
ผลเพลิงเหมันตร์,พวกเขามาจากวิหารราชาโอสถ,ในพื้นที่สวนลึกของคลังสมบัติวิหารก็มีสมุนไพรดังกล่าว,กระนั้นถึงแม้ว่าต้องการปรุงเม็ดยาเทวะขึ้นมา,ทว่า วิหารราชาโอสถคงไม่กล้านำผลเพลิงเหมันตร์ออกมาใช้อย่างแน่นอน.
ทว่าสุรานี้,วัตถุดิบเป็นผลเพลิงเหมันตร์จริง ๆรึ?.
คาดไม่ถึงว่าจะนำผลเพลิงเหมันตร์มาหมักสุรา!
ลู่อี้ผิงที่เห็นชายชราเหอโชวที่ดูตกตื่น,ก็เผยยิ้ม“มีผลเพลิงเหมันตร์จริง ๆ.”
ผลเพลิงเหมันตร์?
สุราที่เขาหมักนั้น,ยังมีวัตถุดิบอีกกว่า 100 ชนิด.
ผลเพลิงเหมันตร์นั้นเป็นวัตถุดิบธรรมดาที่สุด.
ลู่อี้ผิงที่เอ่ยยอมรับว่าในสุรามีผลเพลิงเหมันตร์จริง ๆ,เหล่าเหอและสตรีน้อยที่กลายเป็นตื่นเต้น,ใบหน้ากระตุกไปมาอย่างรุนแรง.
อย่างไรก็ตาม,ชายชราเหอโชวจู่ ๆ ก็ปิดฝาไหสุราอย่างระมัดระวัง.
เขาที่เอ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างเขินอายให้กับลู่อี้ผิง,“น้องชาย,สุราของเจ้า,ล้ำค่ามาก ๆ,ข้าต้องการเก็บเอาไว้,กลับไปดื่มช้า ๆ วันละอึกนะ.”
ลู่อี้ผิงที่หัวเราะ หึ หึ.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำจ้องมองไปยังเหอโชวเอ่ยออกมาว่า“เจ้าหนู,เจ้ายังกล้าเรียกจู่เหรินข้าว่าน้องชายงั้นรึ?,จู่เหรินของข้านั้นอายุมากกว่าเจ้ามากมายนัก.”
เหอโชวตกใจ.
สาวน้อยที่เอ่ยกล่าวด้วยความสุข “จูเหรินของเจ้าแก่กว่าอาจารย์ข้ามากขนาดนั้นเลยรึ? นอกจากนี้สุราที่จู่เหรินของเจ้า นั้นยังกับสายธารของเทพสวรรค์นะ.”
สายธารเทพสวรรค์,นี่คือแม่น้ำในตำนานแห่งหนึ่งของดินแดนพิภพเหิงหยวน,เป็นแม่น้ำทอดยาวผ่านพื้นที่หลายแห่งทั่วผืนแผ่นดิน.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ต้องการเอ่ยอะไรออกมาอีก,ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา,จ้องมองเขาให้หยุด,ทำให้เขาได้แต่ก้มหน้าหงอลงทันที.
“แต่ จะว่าก็ว่าไปเถอะ,ข้าไม่เคยเห็นวัวสีทองมาก่อนเลย.”สาวน้อยที่จ้องมองวัวกระทิงมังกรจากบนลงล่าง.
วัวกระทิงมังกรที่เชิดหน้าเอ่ยออกมาว่า“ปู่ผู้นี้,เป็นกระทิงมังกรเขาทองคำตัวเดียวในสวรรค์และปฐพี.”
“เป็นจ้าวหมื่นสรรพสัตว์!”
“และยังเป็นบรรพชนเทพสายฟ้า!”
„Dragon Race Sovereign.”
“แม้แต่เป็นจักรพรรดิเผ่ามังกรด้วย.”
สาวน้อยอี้ซินที่เห็นใบหน้าเฉิดฉายของวัวทองคำแนะนำตัว,ก็หัวเราะชอบใจ.
วัวตัวนี้,เป็นบรรพชนเทพสายฟ้ารึ? เป็นจักรพรรดิเผ่ามังกรอย่างงั้นรึ?
เหอโชวเองก็เผยยิ้ม.
ลูอี้ผิงที่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“วัวของข้านั้น,ชอบโม้โอ้อวดแบบนี้ล่ะ,อย่าได้ไปเชื่อเรื่องราวปั้นน้ำของเขา.”
อี้ซินหัวเราะเบา ๆ,“เยี่ยมเลย,ข้าชอบคนขี้โม้อยู่เหมือนกัน.”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำหมดคำจะพูดใบหน้าเปลี่ยนเป็นเขี้ยวช้ำ.
สามคนหนึ่งวัว,ที่ดื่มสุรากินเนื้อย่าง,พลางพูดคุยกันไปต่าง ๆ นา ๆ.
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่.
ค่ำคืนที่มืดมิดก็ได้ผ่านไป.
ท้องฟ้าเริ่มทอแสงส่องลงมา.
ซือหลิงและเจียงซือด้านนอกลดน้อยลงแล้ว.
เหอโชวลุกขึ้น,เอ่ยต่อลู่อี้ผิง“พวกเรามีเรื่องต้องทำ,ขอตัวก่อน,คุณชายลู่ที่มอบสุราเป็นของขวัญ,เหอโชวซาบซึ้งยิ่งนัก.”จากนั้นเขาก็นำตำราเล่มหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ,เอ่ยออกมาว่า“ตำราเล่มนี้,บันทึกเกี่ยวกับแนวคิดด้านโอสถ,ขอให้คุณชายลู่รับไว้ด้วย.”
อี้ซิน,รู้ดีว่า,นี่คืองานวิจัยที่สำคัญของอาจารย์,คาดไม่ถึงว่าจะมอบให้กับชายหนุ่มลู่อี้ผิงคนนี้?
ลู่อี้ผิงจ้องมองตำราในมือเหอโชว,เผยยิ้ม“ไม่จำเป็นหรอก,ในหอตำราของข้านั้น,มีตำรายามากมาย,ท่านเก็บไว้เถอะ.”
ความลับเกี่ยวกับเทพโอสถนั้น,เขามีมากมายเกือบทุกอย่างแล้ว.
เขารู้จากความทรงจำของอู๋โม่ด้วย,หอราชาโอหสถนั้น,ที่จริงก็คือนิกายที่ศิษย์สายนอกของหุบเขาเทพโอสถในอดีตก่อตั้งขึ้น.
เหอโชวที่เห็นลู่อี้ผิงไม่ได้สนใจ,ก็ประหลาดใจ,จากนั้นก็เผยยิ้มออกมา“ในเมื่อเป็นเช่นนี้,หากคุณชายลู่มีเวลา,โปรดมาเยี่ยมเยือนข้าที่วิหารราชาโอสถก็แล้วกัน,เหอโชวจะต้อนรับด้วยสุราชั้นดีเช่นกัน!”
ลู่อี้ผิงพยักหน้ารับ.
หลังจากนั้น,เหอโชวและอี้ซินก็จากไปอย่างมีความสุข.
เมื่อเหอโชวและศิษย์จากไปแล้ว,ลู่อี้ผิงก็ลุกขึ้น,นำวัวกระทิงมังกรเขาทองคำและผู้ติดตามออกไปเช่นกัน,แม้นว่าเขาจะทำลายค่ายกลชำระล้างสะกดวิญญาณของอู๋โม่ไปแล้ว,ทว่าลมปราณแห่งความตายกับไม่ลดลงเลย,เห็นชัดเจนว่าลมปราณแห่งความตายนั้นไม่ได้มีผลจากค่ายกลชำระวิญญาณสะกดวิญญาณที่เหอโม่สร้างขึ้นแต่อย่างใด.
ดังนั้น,ลู่อี้ผิงจึงต้องค้นหาเหตุผลที่แท้จริง,และค้นหาร่องรอยของเหอตงไปด้วย.
ทว่าเหอโชวและศิษย์ที่จากมา,เอ่ยออกมาทันที“อี้ซิน,เจ้าคิดว่าลู่อี้ผิงเป็นอย่างไร?”
ได้ยินคำพูดดังกล่าว,ภายในใจของนางปรากฏร่างของลู่อี้ผิง,พร้อมกับเอ่ยด้วยท่าทางลังเล“ดูมากด้วยประสบการณ์,ดูเหมือนกับทองฟ้าในค่ำคืนที่มืดมิด,ไม่อาจเข้าใจสิ่งใดได้เลย.”
จากนั้นก็เอ่ยเพิ่ม“มีความรู้ที่ลึกซึ้ง,เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง!”
“นอกจากนี้ผู้คุ้มกันทั้งสี่,แปลกจริง ๆ,เลือดเนื้อของพวกเขาที่ราวกับว่ากำลังเติบโตขึ้นตลอดเวลา.”
เหอโชวพยักหน้ารับ,ดวงตาที่กระพริบครุ่นคิด,ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่.
ขณะเหอโชวและศิษย์กำลังหาพฤกษาเทวะฟินิกซ์,ลู่อี้ผิงและผู้ติดตามก็มาถึงป่าแห่งหนึ่ง.
ในสนามรบแห่งทวยเทพที่นี่คือป่าคุกทมิฬที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก,ต้นไม้โบราณที่สูงใหญ่ราวกับจะทะลวงไปถึงชั้นฟ้า,แต่ละต้นสูงมาก,นอกจากนี้ต้นไม้เหล่านี้ยังมีสีดำ,ทำให้ป่าแห่งนี้,เต็มไปด้วยลมปราณสีดำ,นอกจากนี้ยางไม้เองก็เป็นสีดำเหมือนกับโลหิต.
ลู่อี้ผิงจำได้,ในอดีตจ้าวแห่งทวยเทพได้ตกตายที่ป่าแห่งนี้.
พวกจางจินและพวกทั้งสี่นำหน้า,นำราชรถสีทองเข้าไปในป่าช้า ๆ.
อย่างไรก็ตาม,หลังจากเข้าไปในป่าคุกทมิฬไม่นาน,ก็ได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้าย.
เสียงของมันดังมาก,นอกจากนี้ยังมีสายฟ้าสวรรค์ที่ก่อตัวขึ้น,แผ่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า.
วัวกระทิงมังกรที่เผยความประหลาดใจ“อาชาวิญญาณอสนี?”
อาชาวิญญาณอสนี,ก็คือสัตว์ร้ายกลายพันธ์ยุคโบราณนั่นเอง.