Chapter 158 Like the toy brandishes casually
像玩具一样随便抡(二更)
ขณะที่เงาใหญ่ยักษ์ปรากฏบนท้องฟ้านิกายเทวะคุนเผิง,สายลมที่ดังหวีดหวิวโกลาหลพัดบ่าอย่างบ้าคลั่ง,กำเนิดเป็นพายุใหญ่ขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง.
ไม่เพียงแค่สายลมที่บ้าคลั่งน่าเกรงขาม,ยังมีเสียงคำรามที่โกรธเกรี้ยวดังขึ้นด้วย.
เงาที่ใหญ่ยักษ์,ปกคลุมกินพื้นที่ไปกว่าครึ่งหนึ่งของเทือกเขานิกายเทวะคุนเผิงอย่างคาดไม่ถึง.
นิกายเทวะคุนเผิงอันดับหนึ่งของจิวเทียน,เทือกเขานิกายที่มีการขยายพัฒนาอย่างต่อเนื่อง,แน่นอนว่าเพียงแค่ที่พักของศิษย์สายในและศิษย์หลัก,ก็กินพื้นที่หลายหมื่นลี้แล้ว.
ตอนนี้,เงาใหญ่ยักษ์ที่กินพื้นที่กว่าครึ่งของเทือกเขาเทวะคุนเผิง,กล่าวได้ว่าเงาดังกล่าวนั้นใหญ่มาก ๆ.
กลิ่นอายอสูรที่ดุร้ายน่าพรั่นพรึงแผ่ออกไปรอบ ๆ แรงกดดันที่หนักหน่วงกดทับไปทั่วสวรรค์และปฐพี,อำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้เทือกเขาใหญ่ยักษ์เกิดรอยร้าว.
พื้นดินเวลานี้,กลายเป็นหลุมบุบยุบกลายเป็นแอ่งภูเขาที่ใหญ่โต.
สายตาของทุกคนที่ตกใจและหวาดกลัว,เงาที่ใหญ่ยักษ์ที่ปรากฏขึ้นนั้น,เป็นอสูรร้ายที่มีร่างกายใหญ่โตมา,ลำตัวเหมือนกับฉลาม,แต่กับมีปีกที่ใหญ่โตไม่รู้ว่ากางออกมาจะกว้างใหญ่มากมายกี่ลี้กัน.
ฟันของมัน,แต่ละซี่ที่สูงกว่าหนึ่งหมื่นจั้ง.
นอกจากนี้ยังแหลมคมไม่ต่างจากกระบี่,ลมหายใจที่รุนแรงกำเนิดพายุขนาดเล็กขึ้นเป็นพัก ๆ.
“อสุรเทวะคุนเผิง!”
ในยุคอสูรยักษ์ปฐมกาล,มังกรแท้จริงยังเป็นได้เพียงแค่อาหารของอสูรเทวะคุนเผิง.
สัตว์อสูรเทวะคุนเผิง,เป็นสัตว์อสูรที่ใหญ่โตที่สุดในสวรรค์และปฐพี,เมื่อมันกลางปีกสามารถยืดยาวออกไปถึงเก้าหมื่นลี้!
นับตั้งแต่ยุคโบราณ,นี่คือผู้พิทักษ์ที่ทรงพลังของนิกายเทวะคุนเผิง มันจะถูกปลุกขึ้นมาเมื่อเปิดใช้งานค่ายกลเทวะคุนเผิงเท่านั้น.
“ค่ายกลเทวะคุนเผิง,ควรค่าเป็นค่ายกลอันดับหนึ่งของจิวเทียน,มีจิตวิญญาณเป็นอสูรเทวะคุนเผิงที่แท้จริง!”บรรพชนชรานิกายเสวียนเทียนเอ่ย“อสูรเทวะคุนเผิง,มีชีวิตรอดจนถึงเวลานี้,จะมีความแข็งแกร่งมากมายเท่าไหร่กัน?”
“เหนือขอบเขตจ้าวพิภพ!”จีเทียนที่เอ่ยด้วยใบหน้าเคร่งขรึม.
เหนือขอบเขตจ้าวพิภพ!
ตัวตนเช่นนี้,ทำให้ทุกคนอ้าปากค้างเต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ.
“ใครมันปลุกข้ากัน?”บนท้องฟ้า,อสูรเทวะคุนเผิงที่เอ่ยปากออกมา,เสียงที่ก้องไปทั่วสวรรค์และปฐพี,จนทำให้แก้วหูของทุกคนสั่นไปมาแม้แต่หูดับไปตาม ๆ กัน.
เหล่ยเห่าที่เร่งรีบก้าวไปด้านหน้า,โค้งคำนับด้วยความเคารพ,“ศิษย์นิกายเทวะคุนเผิงคารวะท่านคุนซิน,นิกายเทวะคุนเผิงมีศัตรูที่แข็งแกร่งโจมตี,ฝ่ายตรงข้ามนั้นเกินกว่าที่พวกเราจะรับมือได้,ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องปลุกท่านคุนซินขึ้นมา.”
“ขอให้ท่านคุนซินกำราบสังหารศัตรูด้วยเถอะ!”
“โปรดปกป้องนิกายเทวะคุนเผิงของพวกเรา!”
อสูรเทวะคุนเผิงได้ยิน,แววตาที่ชำเลืองมอง,ก่อนไปหยุดที่ลู่อี้ผิง,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำและหวงจิว“พวกมันรึ?”
เหล่ยเห่าที่กล่าวด้วยความเคารพ“ขอรับ,พวกเขาไม่เพียงสังหารคนของนิกายคุนเผิงไปหลายพันคนแล้ว,ทว่ายังสังหารคนของนิกายฉินหัว,สำนักกระบี่ไท่ชิง,คนของสำนักอสูรสวรรค์,หากไม่กำจัดคนผู้นี้,จิวเทียนยากที่จะปลอดภัย,ขอให้ท่านคุนซินกำจัดมารร้าย พิทักษ์จิวเทียนด้วย!”
อสูรเทวะคุนเผิงที่กล่าวตอบรับ จากนั้นก็อ้าปากพร้อมกับร้องคำรามออกมา.
เสียงที่น่าเกรงขามที่กลายเป็นคลื่นออกจากปาก,กำเนิดเป็นเสาพายุขึ้นมา.
ใช่แล้ว,เสียงที่กำเนิดเป็นคลื่นสร้างเสาพายุขึ้น.
เสาอากาศที่เกิดจากคลื่นเสียง,แผ่อำนาจทำลายล้างสวรรค์และปฐพี,พุ่งตรงไปยังทิศทางของลู่อี้ผิง.
ทุกหนแห่งที่เคลื่อนที่ผ่าน,จะทำให้ผืนปฐพีพลิกกลับเปิดเป็นทาง.
แผ่นดินเลื่อนปฐพีแยกทรุดตัวราวกับโลกกำลังสูญสิ้น.
เสาคลื่นเสียงที่กลายเป็นมหาพายุ,ทุกยอดเขาต่างก็ปลิวว่อนพังทลายไปตาม ๆ กัน.
เทือกเขาสูงที่พังทลายที่กลายเป็นทรายเปิดเป็นทางเมื่อจ้องมองมาแต่ไกลทำให้ดูคล้ายว่ามันเป็นพายุทรายขนาดใหญ่ที่กำลังกลืนสวรรค์และปฐพี.
เหล่ยเห่า,เฉินโหยวเฉียน,สองปิศาจซีจุ,ยวีชิงเหริน,อสุรอสูร,จ้องมองคลื่นเสียงที่น่าพรั่นพรึง,รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ.
ต่อหน้าคลื่นเสียงทำลายโลก,พวกเขารู้สึกราวกับว่าตัวเองเล็กจ้อยไม่ต่างจากมดปลวกที่อ่อนแอเหลือคนา.
หากคลื่นเสียงโจมตีพวกเขา,เกรงว่าพวกเขาคงกลายเป็นฝุ่นผงอย่างแน่นอน.
นี่คือพลังเหนือจ้าวพิภพอย่างงั้นรึ?
ถึงจะเป็นพวกเขาที่เป็นจ้าวพิภพปลายท้าย,มีพลังจ้าวพิภพ 90 ล้าน,ต่อให้รวมมือกัน,ก็ไม่มีทางต้านทานได้อย่างแน่นอน.
เหล่ยเห่า,เฉินโหยวเฉียน,สองอสุรกายซีจุและคนอื่น ๆ ที่หวาดกลัวโดยสมบูรณ์,คลื่นเสียงที่โจมตีไปยังลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำแทบจะในทันที.
ในเวลานั้น,ลู่อี้ผิงที่ยกมือขึ้น,ป้องกันแท่งคลื่นเสียงที่น่าหวาดกลัวเอาไว้.
เสาเสียงที่น่าพรั่นพรึง มีอำนาจทำลายสวรรค์และปฐพี,เวลานี่หยุดอยู่ที่ด้านหน้าลู่อี้ผิง.
จากนั้นก็พังทลายลงอย่างง่ายดาย.
เหล่ยเห่า,เฉินโหยวเฉียนและคนอื่น ๆ ต่างก็ตื่นตะลึง.
คลื่นเสียงที่น่าเกรงขาม,พลังอำนาจที่ทำลายสวรรค์และปฐพีได้,กับสลายหายไปเช่นนี้นะรึ?
ลู่อี้ผิงเพียงแค่ยกมือขึ้นเบา ๆ.
นอกจากนี้,ยังไม่เห็นลู่อี้ผิงกระตุ้นพลังพิภพเลยแม้แต่น้อย.
ฝ่ามือของลู่อี้ผิงเอง,ไม่เห็นมีคลื่นพลังหรือความผันผวนใด ๆ ด้วย.
แม้แต่อสูรเทวะคุนเผิง,คุนซินก็งงงวยเช่นกัน.
คลื่นเสียงของเขา,ถึงจะเป็นยอดฝีมือขอบเขตเดียวกัน,ก็ยังยากจะต้านทาน.
ขณะที่ทุกคนตื่นตกใจ,ลู่อี้ผิงก้าวออกไปด้านหน้า,ยืนต่อหน้าอสูรเทวะคุนเผิงคุนซิน,จากนั้นมือขวาก็ยื่นออกไปก่อเกิดเป็นมืออากาศคว้าจับไปยังปีกฝ่ายตรงข้าม.
จากนั้นก็เหวี่ยงออกไป!
คุนเผิงที่ใหญ่ยักษ์หลายหมื่นลี้เท่ากับครึ่งหนึ่งของเทือกเขาเทวะคุนเผิง,พลิกกลับฟาดลงบนพื้นฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจาย.
ร่างกายของอสูรเทวะคุนเผิงที่กระแทกสิ่งก่อสร้างตำหนักของนิกายเทวะคุนเผิง.
ครืนนนนนนนน!
ยอดเขาเทวะคุนเผิงพังทลายราบเป็นหน้ากลอง.
พื้นที่ขนาดใหญ่กินพื้นที่หลายหมื่นลี้,พังทลายยอดเขากลายเป็นเรียบเตียน,ผืนปฐพีที่สั่นไปมาอย่างรุนแรง.
สิ่งก่อสร้างมากมายที่แหลกละเอียดกลายเป็นฝุ่นทราย.
เหล่ยเห่า,เฉินโหยวเฉียนและเหล่ายอดฝีมือนิกายเทวะคุนเผิงที่ยืนงงเป็นไก่ไม้.
ยอดเขาสูง,นับตั้งแต่นิกายเทวะคุนเผิงกำเนิดขึ้นมา,ยืนตะหง่านยิ่งใหญ่มาตั้งแต่ยุคโบราณ.
ตอนนี้กลายเป็นฝุ่นผงไปแล้ว!
ผู้คนมากมายที่ยืนตะลึง,ลู่อี้ผิงที่จับคุนเผิงฟาดลงพื้นพื้น,กวาดไปยังเทือกเขาตำหนักต่าง ๆ รอบ ๆ.
อสูรเทวะคุนเผิง,ในมือของลู่อี้ผิง,เป็นเพียงแค่กระบองของเล่น,เอาไว้ใช้เหวี่ยงไปมา.
เทือกเขาสูงใหญ่หลายแห่งเวลานี้ถูกลู่อี้ผิงจับอสูรเทวะคุนเผิงฟาดกวาดไปทั่ว.
ยอดเขาหลายลูกต่างก็พังทลายลงไม่หยุด.
เศษหินดินทรายที่ลอยกระเด็นไปทั่วสารทิศ.
มองไปไกล ๆ,บอกได้ว่านิกายเทวะคุนเผิงที่ยิ่งใหญ่โอ่อ่า,กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว.
ไม่ว่าจะเป็นใครที่เห็น,ไม่มีใครไม่ตกใจตาค้าง.
แม้แต่พื้นที่หลายแห่งของเหล่าบรรพชนชราที่มีค่ายกลที่แข็งแกร่งป้องกันยังพังทลาย,ผู้คนที่บินหนีตายกันไม่หยุดหย่อน.
ในเวลานี้,หลังจากลู่อี้ผิงจับอสูรเทวะคุนเผิงเหวี่ยงฟาดไปทั่ว,ทำให้พื้นที่มากมายพังทลายลง,แม้นว่าจะมีบรรพชนชรานิกายเทวะคุนเผิงหนีตายออกมาได้,ทว่าก็ได้รับบาดเจ็บเสียหายไม่น้อย.
“เป็นไปไม่ได้!”เหล่ยเห่า,เฉินโหยวเฉียนและคนอื่น ๆ ที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ,หลาย ๆ คนที่แข้งขาอ่อนไปตาม ๆ กัน.
อสูรเทวะคุนเผิง,ขอบเขตเหนือจ้าวพิภพ,คาดไม่ถึงว่าจะไม่อาจต่อต้านได้อย่างงั้นรึ? ความแข็งแกร่งเช่นนี้ยังกลายเป็นเพียงแค่ของเล่นให้ลู่อี้ผิงจับเหวี่ยงแทนกระบองเท่านั้น.
นิกายเทวะคุนเผิง,สำนักอู๋เซิ่ง,สำนักกระบี่ไท่ชิง,สำนักอสูรสวรรค์,และสำนักร้อยแปลง,เวลานี้เต็มไปด้วยความตะลึงงัน,ใบหน้าซีดเผือด.
ลู่อี้ผิงหลังจากเหวี่ยงอสูรเทวะคุนเผิงเล่นเสร็จ,ก็จับจ้องมองมายังเหล่ยเห่า,เฉินโหยวเฉียนและคนอื่น ๆ.
สายตาของเขา,ทำให้คนเหล่านี้หัวใจเต้นแรงแทบหลุดกระเด็นออกมานอกอก.
เหล่ยเห่า,เฉินโหยวเฉียนและคนอื่น ๆ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว.
“บรรพบุรุษหยวน,ช่วยด้วย!”เหล่ยเห่าที่ตะโกนลั่นไปยังดินแดนบรรพชนนิกายเทวะคุนเผิงทันที.