Chapter 154 Opening Heaven God Axe and Earth Breaking Chisel
开天神斧和辟地凿(二更)
“ไม่ใช่ท่อนไม้เจี้ยนมู่หรอกรึ?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ก้าวตามหลังมา,เห็นท่อนไม้สามท่อนก็งงงวย.
“ไม่นึกเลยว่าจะเป็นชิ้นส่วนของเจี้ยนมู่จริง ๆ!”เขาแทบไม่อยากเชื่อก้าวตรงไปด้านหน้า,พร้อมกับเคาะไปยังชิ้นส่วนดังกล่าว.
ด้วยความแข็งแกร่งของวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,เคาะไปบนท่อนไม้ดังกล่าวอย่างแรง,แต่กับไม่มีเสียงดังขึ้นมาเลย.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ตะลึงไปเหมือนกัน.
พลังของเขานั้น,เขาย่อมเข้าใจดี,การเคาะไปบนท่อนไม้,ไม่เพียงไม่มีเสียง,แม้แต่ผิวของมันยังไม่ขยับด้วยซ้ำ.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำยังคงพยายามเคาะต่อไป.
ทว่าไม่ว่าจะเพิ่มแรงเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียง.
“ไม่ต้องเคาะแล้ว.”ลู่อี้ผิงเอ่ย“ท่อนไม้ของเจี้ยนมู่,เป็นสิ่งที่แข็งแกร่งไม่ได้ด้อยกว่าศิลาเทวะฮุ่นตุ้นเลย,นอกจากนี้ยังดูดซับพลังการโจมตีได้เอง,ดังนั้น,เคาะอย่างไร,ก็ไม่มีเสียงหรอก.”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ย“กลายเป็นเพียงท่อนไม้,ยังแข็งแกร่งขนาดนี้,เจี้ยนมู่ในอดีต,จะมีพลังป้องกันมากขนาดใหนกัน.”
ลู่อี้ผิงพยักหน้า.
“เจี้ยนมู่นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,ในอดีตตาเฒ่าจักรพรรดิสวรรค์ตัดเจี้ยนมู่อย่างไรกัน?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยถามด้วยความสงสัย.
ความแข็งแกร่งของเจี้ยนมู่นั้น,ถึงจะเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด,ก็ไม่อาจสร้างรอยให้กับเจี้ยนมู่แม้แต่น้อยนิด.
ลู่อี้ผิงที่คาดเดา“เป็นไปได้ว่าจะเป็นขวานเปิดสวรรค์หรือไม่ก็พลั่วสะบั้นปฐพี!”
ในสวรรค์และปฐพี,คงมีเพียงแค่ขวานเทวะเปิดสวรรค์และพลั่วสะบั้นปฐพีที่สามารถตัดเจี้ยนมู่ได้.
ขวานเปิดสวรรค์,พลั่วสะบั้นปฐพี,ก็เหมือนกับหยกเจาหัว,เป็นสุดยอดของวิเศษปฐมกาลฮุ่นตุ้น.
“ขวานเปิดสวรรค์และพลั่วสะบั้นปฐพี.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ดวงตาเป็นประกาย“หากเหล่าหนิวมีอาวุธดังกล่าว,หมื่นพิภพในจักรวาลแห่งนี้,ข้าก็สามารถเดินกร่างไปใหนมาใหนก็ได้.”
ลู่อี้ผิงที่เอ่ยกรอกตามองบน,“ปรกติเจ้าก็เดินกร่างไปใหนมาใหนอยู่แล้ว.”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่เอ่ยอย่างไม่ละอาย,เผยยิ้มเจ้าเล่ห์,“ไว้ได้ขวานเปิดสวรรค์และพลั่วสะบั้นปฐพี,จะทำให้ข้าเดินกร่างอย่างภาคภูมิ”
ลู่อี้ผิงที่ยกเจี้ยนมู่ขึ้น,ที่ดูเหมือนว่าจะหนักยิ่งกว่าเทือกเขายักษ์ในยุคปรัมปราซะอีก.
ท่อนไม้ทั้งสาม,ที่สูงใหญ่และมีน้ำหนักมหาศาล,ทว่าเจี้ยนมู่ที่สูงใหญ่ตั้งตระหง่านเชื่อมต่ออาณาจักรมากมาย ไม่รู้ว่ามีจำนวนชิ้นส่วนมากเท่าไหร่,เกรงว่าจักรพรรดิสวรรค์ที่ตัดเจี้ยนมู่ลงมานั้น,ชิ้นส่วนต่าง ๆ เกรงว่าคงจะกระจายอยู่ในหลากหลายอาณาจักร.
ลู่อี้ผิงที่นำท่อนไม้ใส่เข้าไปในเตาจักรวาล,ขณะจ้องมองเจี้ยนมู่ที่เขาปลูกไว้ก่อนหน้านี้,เพื่อให้มันดูดซับท่อนไม้ทั้งสาม.
หากเป็นดั่งที่เขาคาดการไว้,จะสามารถลดการใช้วารีดาราฮุ่นตุ้นจำนวนมากได้.
หลายวันมานี้,เขาต้องคอยรดวารีดาราฮุ่นตุ้นทุกวัน,เกรงว่าจะไม่มีวารีดาราฮุ่นตุ้นเพียงพอ.
หลังจากนั้น,ลู่อี้ผิงก็ก้าวไปยังส่วนลึกของคลังสมบัติ,พบของดีมากมาย.
วัวกระทิงมังกรเองก็ไม่ว่างเว้น,เห็นสมบัติที่ล้ำค่า,ก็เก็บทุกสิ่งทุกอย่างไปเช่นกัน.
การเก็บเกี่ยวดังกล่าวใช้เวลาถึงหนึ่งวัน.
ท้ายที่สุดคลังสมบัติตำหนักนักบุญกู่ฉินก็ว่างเปล่า,หลังจากนั้นพวกเขาก็ก้าวไปยังตำหนักอื่น ๆ.
และมาถึงสวนสมุนไพรวิญญาณเป็นแห่งสุดท้ายของตำหนักวังนักบุญกู่ฉิน.
วังนักบุญกู่ฉินนั้นมีชื่อเสียงเทียบเท่ากับวังเทวะเป่ยโตวในอดีต,สวนสมุนไพรวิญญาณจึงค่อนข้างใหญ่,นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรวิญญาณหายาก,กล่าวได้ว่าสมุนไพรเหล่านี้ไม่เพียงแค่สมุนไพรโบราณ,ยังมีสมุนไพรจากยุคบรรพกาล,อย่างน้อยก็มีอายุล้านปีเป็นอย่างต่ำ.
เวลานี้พวกเขาที่เก็บเกี่ยวกันจนหมด.
เช่อตงหยาง เวลานี้ยิ้มจนแก้มปริ,หลังจากก้าวออกมาจากวังนักบุญกู่ฉิน.
แผนที่สมบัติเป็นของเขา,ดังนั้น,ลู่อี้ผิงจึงไม่ตระหนี่ต่อเขาอย่างแน่นอน.
หลังจากไม่มีอะไรเหลือแล้ว,ลู่อี้ผิงก็ออกจากหุบเขาเทพซ่อน.
เรื่องในวังนักบุญกู่ฉินจบแล้ว,หลังจากออกมา,ลู่อี้ผิงก็แยกกับพวกเช่อตงหยาง.
..
ค่ำคืนที่มืดมิด.
แสงจันทราที่ส่องสว่าง,แสงดาวที่อ่อนแสง.
ยอดเขาแห่งหนึ่งไม่ห่างจากหุบเขาเทพซ่อนมากนัก,ลู่อี้ผิง,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำและหวงจิวนั่งอยู่ข้าง ๆ,กองไฟที่ลุกโชน วัวกระทิงมังกรเขาทองคำกำลังเคี้ยวผลไม้วิญญาณที่เหมือนกับหยก โดยได้รับมาจากตำหนักวังนักบุญกู่ฉินนั่น.
“ผลหยกม่วง,รสชาติดีจริง ๆ.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ย.
หวงจิวที่ยิ้มฝืด,ผลหยกม่วงอายุหนึ่งล้านปี,รสชาติย่อมดีอย่างแน่นอน.
กล่าวเขาเองก็ได้กัดคำเล็ก ๆ,สัมผัสได้ถึงรสชาติที่อ่อนหวานมัน,เหนือล้ำเกินคำบรรยายโดยแท้จริง.
ลู่อี้ผิงที่จิบสุรา,พร้อมกับนำตำราหลายเล่มที่พบที่คลังสมบัติวังนักบุญกู่ฉินมาอ่าน.
ซึ่งแน่นอนว่ามีเป็นบันทึกของเจ้าวังวังนักบุญกู่ฉิน.
มีเรื่องราวหลายอย่างที่เกิดขึ้นในยุคโบราณ,ตลอดรายระเอียดเหตุการณ์ต่าง ๆ ในวังนักบุญกู่ฉินด้วย.
หลังจากอ่านไปหลายหน้า,ลู่อี้ผิงก็หยุดลง“เผ่าหยินหมิง?”
มีหลายหน้า,ที่เจ้าวังนักบุญกู่ฉินได้เอ่ยถึงเผ่าหยินหมิง.
เมื่ออ่านจบ,แววตาของเขาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.
เกี่ยวกับข้อมูลที่เจ้าวังนักบุญกู่ฉินได้บันทึกเอาไว้,เอ่ยว่าหลังจากจ้าววังเทวะเป่ยโตวล่วงหล่นจากสวรรค์,วังเทวะเป่ยโตวได้เกิดการต่อสู้ภายในไม่หยุดหย่อน,ที่จริงเป็นแผนการของเผ่าหยินหมิง อยู่เบื้องหลัง.
นอกจากนี้การล่มสลายของวังนักบุญกู่ฉินเองก็เกี่ยวข้องกับเผ่าหยินหมิงด้วยเช่นกัน.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่เห็นสายตาของลู่อี้ผิงเอ่ยถาม“มีอะไรอย่างงั้นรึ?”
ลู่อี้ผิงจ้องมองวัวกระทิงมังกรเขาทองคำพร้อมกับส่งหน้าของบันทึกสุดท้ายให้กับอีกฝ่ายได้อ่าน.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำกวาดตามอง,เผยแววตาเย็นชาออกมา“เจ้าพวกสารเลวเผ่าหยินหมิงอีกแล้ว.”
ลู่อี้ผิงครุ่นคิด.
ในบันทึกของเจ้าวังนักบุญกู่ฉินได้เอ่ยว่า,เผ่าหยินหมิงเองก็กำลังมองหาชิ้นส่วนของเจี้ยนมู่เช่นกัน.
เผ่าหยินหมิงต้องการทำอะไร? เป็นไปได้ว่าต้องการคืนชีพเจี้ยนมู่อย่างงั้นรึ?
หากเผ่าหยินหมิงเองก็สามารถคืนชีพเจี้ยนมู่ได้,ไม่ใช่ว่าพวกเขาสามารถไปใหนมาใหนในหมื่นอาณาจักรได้ง่าย ๆ หรอกรึ? เช่นนั้นพวกเขาอาจจะรุกรานยึดครองอาณาจักรต่าง ๆ ทุกหนแห่งเอาไว้เป็นแน่.
ความทะเยอทะยานของเผ่าหยินหมิงนั้นใหญ่โตมาก,หลังจากการพังทลายของศาลสวรรค์ยุคปรัมปรา,เผ่าหยินหมิงก็ต้องการควบคุมหมื่นอาณาจักร,ยึดครองสวรรค์ให้มาอยู่ใต้บัญชาของพวกเขา.
ลู่อี้ผิงที่ได้รับชิ้นส่วนของเจี้ยนมู่มา,หลังจากใช้วิชาลับพฤกษาเทวะจักรพรรดิฟ้า,ปกคลุมท่อนไม้ดังกล่าว,ผสานเข้ากับต้นอ่อน.
ต้นอ่อนเมื่อยู่ใกล้กับท่อนไม้.
ก็เริ่มดูดซับท่อนไม้เข้าไปในทันที.
ต้นอ่อนที่เหมือนกับแม่เหล็กดูดซับชิ้นส่วนเจี้ยนมู่ผสานเข้าไปทีละน้อย ๆ.
เมื่อหลอมท่อนไม้ทั้งสามเข้าไปเสร็จ,ต้นอ่อนขนาดสองสามฝ่ามือ,ก็เริ่มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว,เพียงไม่นานก็สูงครึ่งเมตรแล้ว!
จากนั้นก็ยืดขนาดเป็นหนึ่งเมตร!
สองเมตร!
เดิมที่ต้นอ่อนก่อนผสาน,มีขนาดเพียงไม่กี่ฝ่ามือ,เวลานี้ได้เติบโตพรวดพราด,ลำต้นที่ดูใหญ่กำยำ,แผ่กิ่งก้านสาขาเท่ากับแขนของผู้ใหญ่แล้ว.
ท้ายที่สุด,หลังจากต้นอ่อนเจี้ยนมู่ได้ผสานท่อนไม้ทั้งสามสมบูรณ์,ก็เติบโตจนสูงสามเมตร,และมีกิ่งสองกิ่งที่หนาเป็นอย่างมาก.
ลมปราณปฐมภูมิฮุ่นตุ้น,ที่หมุนวนไปรอบ ๆ หนาแน่น.
“อ้าว เฮ้ย!”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่จ้องมองเจี้ยนมู่ที่เปลี่ยนไป,อ้าปากหว๋อออกมา.
ภายในใจของลู่อี้ผิงที่เผยความพอใจ,ต้นอ่อนที่ดูดกลืนชิ้นส่วนเจี้ยนมู่เวลานี้เติบโตไม่น้อย.
ที่ผ่านมาเขาต้องคอยใช้วารีดาราฮุ่นตุ้นรดสองชามทุกวัน,เติบโตเพียงไม่กี่นิ้ว ตอนนี้ผสานกับชิ้นส่วนเจี้ยนมู่สามท่อน,ทำให้สูงถึงสามเตร.
หลังจากนั้นเขาก็เก็บเจี้ยนมู่,แล้วนำศิลาจารึกสวรรค์หลักและรองทั้งเก้าออกมา,เพื่อตระหนักรู้ต่อไป.
เมื่อดวงตะวันทอแสง.
ลู่อี้ผิงก็นำทุกคนเดินทางไปยังดินแดนอสูรเทวะต่อไป.
แน่นอนเป้าหมายก็คือจัดการนิกายเทวะคุนเผิง.
ดินแดนอสูรเทวะ,นี่คือดินแดนอันดับหนึ่งของจิวเทียน,เพราะมันคือที่ตั้งของนิกายเทวะคุนเผิง.
ดินแดนกู่ฉินนั้นติดกับดินแดนอสูรเทวะ,เพียงแค่วันเดียว,พวกลู่อี้ผิงก็มาถึงดินแดนอสูรเทวะแล้ว.
“เหล่ยเห่าได้ได้ส่งสารไปยังกลุ่มอิทธิพลทั้งหมด,หวังใช้พลังทั่วทั้งจิวเทียน,เพื่อล้อมสังหารลู่อี้ผิงอย่างงั้นรึ?”หลังจากที่ลู่อี้ผิงก้าวเข้ามายังดินแดนอสูรเทวะ,เหล่ายอดฝีมือนิกายต่าง ๆ ที่ได้เอ่ยพูดคุยกันเรื่องที่เหล่ยเห่าได้ส่งสารจุดงานชุมนุมรวบรวมสุดยอดกลุ่มอิทธิพลทั่วทั้งจิวเทียนมารวมตัวกัน.