Chapter 151 What you draw is the picture, what I draw is Heavenly Way
你画的是画,我画的是天道(三更)
หลิวหรูเซิ่งถือพู่กัน,เอ่ยออกมาว่า“นี่คือสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ยุคโบราณ,พู่กันหยินหยาง.”
“ข้ารู้.”ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ.
พู่กันหยินหยาง,เขาย่อมรู้จักอย่างแน่นอน.
ในยุคโบราณ,เขาที่เคยเห็นเจ้าของพู่กันด้วยซ้ำ.
หลิวหรูเซิ่งได้ยินลู่อีผิ้งเอ่ยว่ารู้จักพู่กันหยินหยาง,ก็ไม่ได้คิดอะไร,ต้องไม่ลืมว่าในจิวเทียนนั้นมีคนรู้จักพู่กันหยินหยางมากมาย.
“ขอคำแนะนำด้วย.”หลิวหรูเซิ่งที่ถือพู่กันหยินหยาง,ไม่จำเป็นต้องมีกระดาษ,ทว่าวาดมันลงไปบนความว่างเปล่า.
พู่กันหยินหยางที่แทรกซึมเข้าไปในห้วงมิติส่วนลึกของมิติกลายเป็นรูปเป็นร่าง,ห้วงมิติรอบ ๆ ที่สั่นไปมา,ราวกับว่าความว่างเปล่ากำลังถูกอะไรผสมลงไป.
มือขวาของหริวหรูเซิ่งที่เริ่มขยับเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว,พริบตานั้น,ก็ปรากฏเทพสงครามร่างสีทองที่ใหญ่ยักษ์ขึ้น.
คาดไม่ถึงว่าจะปรากฏเทพสงครามที่ใหญ่ยักษ์ขึ้นในอากาศ.
เวลานี้แสงสว่างบนรูปภาพได้เปล่งรัศมีแสงออกมา,จากนั้นเทพสงครามร่างทองก็ก้าวออกมาจากความว่างเปล่า!
มีชีวิต!
หวงจิว,เช่อตงหยาง,และผู้คุ้มกันทั้งสองที่เผยความอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก.
เป็นภูตผีอย่างงั้นรึ?
ภาพวาดที่มีชีวิตจริง ๆ!
ขณะหวงจิว,เช่อตงหยางเผยความสงสัยว่าเทพสงครามทองคำคือภูตผีหรือไม่?,ทันใดนั้นเทพสงครามทองคำตนดังกล่าวก็บินออกไป,ง้าวทองคำในมือที่ตะวัดโจมตีไปยังลู่อี้ผิง.
หอกสีทองที่ทะลวงแหวกทองฟ้า,ส่องแสงสีทองพุ่งเข้าโจมตีลู่อี้ผิง.
The destroying the heaven and exterminating the earth strength sweeps across.
พลังทำลายที่ราวกับจะกวาดม้วนสวรรค์และปฐพีให้แหลกเป็นชิ้น ๆ.
บนพื้นปรากฏฝุ่นหินดินทราย,ผืนปฐพีที่สั่นไหว.
พลังที่น่าเกรงขาม,ทำให้เช่อตงหยาง,หวงจิวและคนอื่น ๆ ตื่นตะลึงตกใจเป็นอย่างมาก.
“ทรงพลังเกินไปแล้ว,พลังจ้าวพิภพขั้นปลายท้ายอย่างงั้นรึ?!”เช่อตงหยางที่แทบไม่อยากเชื่อ.
ตัวตนที่เกิดจากการวาดขึ้นมา,กับมีความแข็งแกร่งขอบเขตระดับจ้าวพิภพขั้นปลายท้าย.
จ้าวพิภพขั้นปลายท้าย,อย่างน้อยต้องมีพลังพิภพ 70 ล้านพลังต่อสู้นั่นเอง.
ที่เมืองเทียนเป่ย,บรรพสายฟ้าเหล่ยยวี,มีพลังใกล้ 70 ล้าน,แต่ยังไม่เกิน 70 ล้าน.
อย่างไรก็ตาม,ง้าวสีทองของเทพสงครามทองคำที่พุ่งเข้าหาลู่อี้ผิงกับหยุดลงห่างออกมาเพียงสิบเมตรเท่านั้น,มันได้ปะทะเข้ากับพลังที่มองไม่เห็น,ไม่อาจเข้าถึงตัวของลู่อีผิ้งได้.
เทพสงครามทองคำที่หยุดนิ่งไม่อาจขยับไปต่อได้.
เทพสงคราทองคำที่ยืนนิ่งไม่อาจขยับได้อีก.
หลิวหรูเซิ่งที่จ้องมองพลางขมวดคิ้ว,มือขวาของเขาที่ขยับไปมา.
ภายใต้พู่กันหยินหยาง,เทพสงครามทองคำตัวแล้วตัวเล่าที่ก้าวออกมาจากความว่างเปล่า.
ในเวลานั้น,เทพสงครามอีกสี่ตนได้ก้าวออกไป.
เทพสงครามทั้งสี่,แผ่กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรง,แข็งแกร่งกว่าก่อนนี้มาก!
จากนั้น,เทพสงครามทองคำทั้งสี่ได้โจมตีไปยังทิศทางเดียวกัน.
ง้าวทองคำที่แผ่รัศมีแสง,อำนาจทะลวงสวรรค์.
แม้แต่ดวงดาราก็ราวกับว่าจะถูกง้าวทองคำทะลวงทำลายไปด้วย.
ตูมมมมม!”
เทพทั้งสามทั้งสี่ที่โจมตีปะทะเข้ากับกำแพงที่ว่างเปล่ามองไม่เห็น.
ไม่อาจสั่นคลอนเคลื่อนไหวทะลวงผ่านไปยังด้านหน้าได้อีก.
เหมือนกับก่อนหน้านี้แม้นว่าจะโจมตีรุนแรงกว่าเดิม,ทว่าพวกมันก็หยุดนิ่งไม่อาจขยับต่อไปได้อีก.
ราวกับว่าด้านหน้าของลู่อี้ผิงนั้นมีกำแพงเทพฮุ่นตุ้นขวางกั้นอยู่,จนไม่อาจสั่นคลอนได้เลย.
หลิวหรูเซิ่งที่ใบหน้าเปลี่ยนสี,กลายเป็นจริงจัง,เขาที่รวมพลังจ้าวพิภพทั้งหมด,ขยับพู่กันหยินหยาง,เวลานี้ส่องสว่างกระพริบซ้ำแล้วซ้ำเล่า.
ในเวลาต่อมา,บนห้วงมิติที่ว่างเปล่า,ปรากฏอสุรกายยักษ์ก้าวออกมาจกความว่างเปล่า.
อสุรกายยักษ์ที่ใหญ่โต,ไม่ต่างจากภูเขาลูกหนึ่ง.
เมื่อมันก้าวออกมาจากความว่างเปล่า,ท้องฟ้าที่ราวกับจะมืดลง,สวรรค์และปฐพีกลายเป็นเวลากลางคืนไปในบัดดล.
ขณะมันก้าวไปด้านหน้า,ร่างกายที่แผ่รัศมีสีดำทมิฬพวยพุ่งกระจายไปทั่ว.
“อสุรกายตัวนี้มัน?”กลิ่นอายที่ทำให้เช่อตงหยางหวาดผวาหวาดหวั่น,จนแทบลืมหายใจ.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยความประหลาดใจเอ่ยออกมาว่า“อสูรร้ายปฐมกาล,วาฬมังกรเสวียนไห่!”
หลิวหรูเซิ่งจ้องมองวัวกระทิงมังกรที่รู้จักวาฬมังกรเสวียนไห่ก็ประหลาดใจ,พร้อมกับพยักหน้า “ถูกต้อง,นี่คือวาฬมังกรเสวียนไห่!”กล่าวจบพู่กันหยินหยางก็ส่องแสงแรงกล้า.
วาฬมังกรเสวียนไห่ที่คำรามดังลั่น.
เสียงของมันที่กังวานไกลไปทั่วสวรรค์และปฐพี.
ภูเขามากมายที่สั่นไปมา,ก้อนหินดินทรายที่กำลังลอยฟุ้งไปทั่ว.
วาฬมังกรเสวียนไห่นั้นมีปีกยักษ์สองข้าง,มันกำลังก้าวเข้าหาลู่อี้ผิง,กงเล็บที่ใหญ่ยักษ์ง้างและฟาดลงไป.
พลังที่น่าเกรงขาม,ทำให้ผืนปฐพีรอบ ๆ ลู่อีผิ้งบุบยุบลงในทันที.
อย่างไรก็ตามเหมือนว่าจะไร้ประโยชน์,เมื่อกงเล็บยักษ์ฟาดลงมา,ไม่ต่างจากเดิมมันปะทะเข้ากับกำแพงที่มองไม่เห็นจากนั้นก็หยุดชงักไม่อาจเคลื่อนผ่านเข้าไปแม้แต่นิดเดียว.
หลิวหรูเซิ่งที่ตกใจ,วาฬมังกรเสวียนไห่,ภายใต้กงเล็บของมัน,สามารถทำลายเมืองใหญ่ได้อย่างง่ายดาย,แต่กับไม่อาจทะลวงกำแพงล่องหนของลู่อี้ผิงได้อย่างคาดไม่ถึง.
กล่าวได้ว่าทักษะจิตรกรรมของเขาไม่อาจทำอะไรอีกฝ่ายได้เลย.
ทว่าลู่อี้ผิงยี่ยยังไม่เริ่มทำอะไรเลยแม้แต่น้อย.
ในเวลานั้น,มือของลู่อีผิ้งก็ยกขึ้น,ปรากฎพู่กันเล่มหนึ่ง,พู่กันด้ามนี้,ดูผอมบางเป็นอย่างมาก,มองคราแรกแทบจะเห็นเป็นเหมือนกับกิ่งไม้,คล้ายกับว่ามีสีน้ำเงินแต่มองอีกครั้งกับไม่ใช่สีน้ำเงิน.
พู่กันด้ามนี้,แผ่กลิ่นอายที่ทำให้ผู้คนตาลายสับสน.
หลิวหรูเซิ่งจ้องมองพู่กันในมือลู่อี้ผิง,เผยความประหลาดใจ,จากประสบการณ์ของเขาไม่เคยเห็นพู่กันเช่นนี้มาก่อน.
ลู่อีผิ้งที่ขยับวาดลากเส้นในความว่างเปล่า.
มือของลู่อี้ผิงที่ลากไปบนอากาศ,สวรรค์และปฐพีที่ถูกตัดขาดออกจากกัน!
นี่คือสวรรค์,นั่นคือสวรรค์,อีกแห่งก็คือสวรรค์.
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่คาดคิดแม้น้อยว่าสวรรค์และปฐพีจะถูกตัด.
เข้าใจผิดหรือไม่?
เมื่อสวรรค์และปฐพีถูกตัด,ลมปราณฮุ่นตุ้นที่พลุ้งพล่านกระจาย.
พลังเส้นหนึ่งที่แหวกอากาศพุ่งเข้าหาหลิวหรูเซิ่ง.
พลังอำนาจของสวรรค์และปฐพีต้นกำเนิด,อำนาจที่เหนือล้ำกว่าทุกอาณาจักรโลกดินแดนของโลกหล้า.
สวรรค์และปฐพีส่องสว่างแผ่แสงที่ยิ่งใหญ่ออกมา.
พลังที่ราวกับว่าไม่มีอะไรในโลกหล้าสามารถขวางกั้นเอาไว้ได้.
พลังที่ทำลายวาฬมังกรเสวียนไห่หายไปได้อย่างง่ายดาย.
เทพสงครามทั้งห้าเองก็พังทลายลงแทบจะในทันทีเช่นกัน.
พลังดังกล่าวที่พุ่งมาถึงหลิวหรูเซิ่งทันที.
หลิวหรูเซิ่งที่ประหลาดใจเป็นอย่างมาก,เขายกพู่กันหยินหยางขึ้นป้องกัน,เห็นเพียงริ้วแสงสองเส้นที่พุ่งตัดอากาศออกไป,เพื่อป้องกันพลังของลู่อี้ผิง.
อย่างไรก็ตาม,ริ้วแสงสองเส้นที่พังทลายแทบจะในทันที.
พลังลู่อี้ผิงที่ไม่อาจหยุดได้ ทะลวงหน้าอกของหลิวหรูเซิ่ง.
หลิวหรูเซิ่งที่ถือพู่กันหยินหยาง,ยืนนิ่งไม่อาจขยับไปใหน.
“ความแข็งแกร่งนี้คืออะไรกัน?”เขาที่เอ่ยปาก,ยากที่จะเข้าใจ“วิถีจิตรกรรมของเจ้า,ก้าวสู่ขอบเขต กำเนิดสวรรค์และปฐพีแล้วอย่างงั้นรึ?”
ลู่อี้ผิงที่เก็บพู่กัน,เอ่ยปากออกมาว่า“ภาพที่เจ้าวาดก็เพียงแค่ภาพ,ส่วนสิ่งที่ข้าวาดก็คือวิถีสวรรค์!”
วิถีสวรรค์?
หลิวหรูเซิ่งดวงตาเบิกกว้าง,ไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย.
ท้ายที่สุด,เขาก็ล้มลงเสียงดัง,กลิ่นอายสลายหายไปอย่างสมบูรณ์.
พู่กันหยินหยางในมือของเขา,ยังคงส่องประกายแสงเรื่อ ๆ.
ลู่อี้ผิงที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก,แม้นว่าหลิวหรูเซิ่งต้องการประลองวิถีจิตกรรมกับเขา,ทว่าก็ต้องการสังหารเขาด้วย,,ดังนั้นการที่อีกฝ่ายตกตายไป,ถือว่าเป็นกรรมตามสนองที่เขาต้องแบกรับ.
เช่อตงหยาง,หวงจิวที่จ้องมองกลิ่นอายของหลิวหรูเซิ่งที่หายไปหมด,หัวใจเต้นไปมาไม่เป็นจังหวะ,ยากที่จะยอมรับ.
นักบุญกู่ฉิน,ตายเช่นนี้นะรึ?
ลู่อี้ผิงจ้องไปยังพื้นที่ไกลออกไป,เอ่ยอย่างไม่แยแส“คนของนิกายฉินหัว,มานำศพไปซะ.”