Chapter 147 Ancient Times Reverend One
上古世尊(三更)
ชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังต่อยไปยังหลุมศพของฟู่ซี.
“ตูมมมมม.”เสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหว.
ป้ายหลุมศพที่สั่นไปมา,ทำให้ชายหนุ่มคนดังกล่าวถอยหลังออกมาสองสามก้าว.
เหล่าผู้เยาว์หลายคนที่ตื่นตะลึงไปเหมือนกัน.
“ค่ายกลป้องกันอย่างงั้นรึ?”ชายหนุ่มที่สวมชุดคลุมสีทอง,นามจางฉางอัน.ที่จ้องมองป้ายหลุมศพด้วยความอัศจรรย์ใจ.
“เป็นค่ายกลป้องกันที่ทรงพลังมาก,ไม่รู้ว่าเป็นใครมาวางค่ายกลเอาไว้ที่นี่.”ชายหนุ่มอีกคน นามเฟิงซินเอ่ยปากออกมาเช่นกัน.
จางฉางอันก้าวไปด้านหน้า,จับจ้องมองตัวอักษรบนป้ายหลุมศพ,เอ่ยออกมาว่า“หลุมศพฟู่ซีอรหันต์ปิศาจยุคโบราณ,จากสหาย เฉียงเหลียง!”
ผู้คนต่างก็ตะลึงงัน.
“สุสานยุคโบราณรึ? ทว่าจากสภาพหลุมศพแล้ว,เพิ่งสร้างขึ้นมาเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง”เฟิงซินเอ่ยด้วยความสงสัย“อรหันต์ปิศาจยุคโบราณ,เจ้าเคยได้ยินใหม? แล้วเฉียงเหลียงนี้เป็นใครกัน?”
“หากนี่คืออรหันต์ปิศาจยุคโบราณ,ข้าก็ควรจะเป็นซีจวินยุคโบราณแล้ว.”จินเทียนหงที่จ้องมองหลุมศพ,พลางแค่นเสียง.
[世尊 Shìzūn ผู้ทรงเกียรติหนึ่งเดียว.]
อรหันต์ปิศาจไม่ได้เป็นหนึ่งในสิบสุดยอดฝีมือยุคหมื่นทวยเทพโบราณ,และเวลาก็ผ่านมานานแล้ว,ดังนั้นภายในจิวเทียนยุคปัจจุบันจึงมีคนรู้จักอรหันต์ปิศาจน้อยมาก.
หนำซ้ำจางฉางอัน,เฟิงซิน,จินเทียนหงยังเป็นผู้เยาว์รุ่นหลัง,แม้แต่คนยุคนักบุญปิศาจ,หรือคนยุคจ้านเทียน,เหล่าอสูรกายชราหลาย ๆ คน พวกเขายังไม่รู้จักเลย.
ได้ยินจินเทียนหงเอ่ยว่าตัวเองเป็นซีจวินยุคโบราณ,จางฉานอัน,เฟิงซินและจางกวงเสิ่นที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
“เทียนหงอย่าพูดจาเหลวไหล.”จางฉานอันเอ่ย.
จินเทียนหงที่เอ่ยราวกับไม่ใส่ใจ“ซีจวินยุคโบราณไม่รู้ว่าตายห่าไปแล้วหรือไม่,เพียงแค่เอ่ยนาม,จำเป็นต้องกลัวด้วยรึ?”จากนั้นเขาก็ก้าวไปด้านหน้า,จ้องมองป้ายศิลาวิญญาณ“ข้าไม่เชื่อว่าข้าไม่สามารถทำลายสุสานแห่งนี้ได้!”จากนั้นเขาก็ต่อยออกไปอีกครั้ง.
พลังหมัดของเขา,ก่อรูปเป็นแสงสีทองพุ่งออกไปเป็นละลอกคลื่น,พลังเทพสวรรค์ที่กวาดม้วนราวกับคลื่นทะเล.
ป้ายวิญญาณศิลาที่ส่องแสงสั่นไปมา,ก่อนที่จะกระแทกพลังส่งกลับคืนมายังร่างจินเทียนหงจนเขากระเด็นออกไป.
ร่างของจินเทียนหงที่ถูกพลังสะท้อน,จนเวลานี้แขนของเขาได้รับบาดเจ็บ.
ทั้งสามที่เผยความประหลาดใจออกมา.
ความแข็งแกร่งของจินเทียนหงนั้น,พวกเขาทั้งสามรู้ดี,ซึ่งอยู่ในระดับไม่ต่างกันกับพวกเขา,แม้นว่าจะเป็นเทพสวรรค์ขั้นต้น,ทว่าก็ตระหนักรู้กฎเทพสวรรค์ 20,000 กฎแล้ว.
จินเทียนหงที่ใช้พลังทั้งหมด,กับไม่อาจทำลายค่ายกลคุ้มกันป้ายหลุมศพได้อย่างงั้นรึ?
จินเทียนหงที่ถูกพลังสะท้อนกลับ,ใบหน้ากลายเป็นแดงกล่ำ,จากนั้นก็นำค้อนยักษ์สีทองออกมา.
“ค้อนแสงทองคำ.”จางฉางอันที่เผยความประหลาดใจออกมา.
เฟิงซินเอ่ย,“ค้อนแสงทองคำ,เป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะชั้นพิเศษ,ไม่คาดคิดเลยว่าอาวุโสจินกวงจะมอบให้กับสหายเทียนหง.”
จินเทียนหงที่เผยยิ้ม“ค้อนแสงทองคำ,บิดาของข้าเอ่ยว่าหากข้าบ่มเพาะกฏแสงทองได้ถึงชั้นสิบ,จะทำให้มันกลายเป็นสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ได้!”
กล่าวจบ,เขาก็ก้าวไปยังหลุมศพ,มือขวาที่ยกขึ้นรวมพลังเทพสวรรค์,ค้อนทองคำได้ส่องแสงสีทองสว่างจ้า,ก่อนที่เขาจะกระโดดพร้อมกับฟาดลงไป.
“พังไปซะ!”จินเทียนหงที่คำรามลั่นพร้อมกับฟาดค้อนแสงทองลงไป.
ตูมมมม.
พลังอันบ้าคลั่งสาดกระเซ็นกวาดม้วนไปทั่วสารทิศ.
เสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหว.
อย่างไรก็ตาม,ค้อนแสงทองของจินเทียนหงที่ฟาดลงมานั้น,ปรากฏเปลวเพลิงทองคำที่แหวกอากาศพุ่งมา,กระแทกไปยังค้อนแสงทองส่งทั้งคนทั้งค้อนกระเด็นออกไป.
จินเทียนหงลอยกระเด็นหมุนเคว้งบนอากาศ,ก่อนที่จะหล่นลงพื้นเสียงดังพร้อมกับกระอักโลหิตคำโต.
จางฉางอัน,เฟิงซิน,จางกวงเสิ่น,ทั้งสามที่ตื่นตกใจ,จ้องมองร่างสามร่างที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า.
คนที่มา,เป็นลู่อี้ผิง,วัวกระทิงมังกรและหวงจิวนั่นเอง.
หลังจากออกจากวังม่านหมอก,อ้าวอี้เสวียนและอ้าวผี,สองพ่อลูก็ออกจากจิวเทียน,กลับไปยังโลกศักดิ์สิทธิ์.
ส่วนเห่าผีเรื่องร้านขายของเก่าเมืองเสวียนกู่เสร็จสิ้นแล้ว,ลู่อี้ผิงจึงให้เขากลับนิกายกระบี่กุยหยวนไป.
ลู่อี้ผิงได้มาถึงเทือกเขาหกตา,พร้อมกับร่อนลงพื้น.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่เห็นหลุมศพฟู่ซียังสมบูรณ์ดีก็วางใจ,จากนั้นก็จ้องมองจินเทียนหงด้วยแววตาเย็นชา.
จินเทียนหงที่พยุงร่างลุกขึ้น ปาดโลหิตที่มุมปาก,กล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว“เจ้าเป็นใคร?”
ตั้งแต่เด็กจนโต,ล้วนแต่มีคนเอาใจเขามาตลอด,ไม่เคยมีใครกล้าหาเรื่องเขาเลยแม้แต่คนเดียว.
เขาที่กำลังทำลายหลุมศพแห่งหนึ่ง,กับถูกทำร้ายอย่างคาดไม่ถึง.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่จ้องมองไปยังจินเทียนหงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หักแขนทั้งสองข้างของเจ้าแล้วไสหัวไปซะ.”
จินเทียนหง,จางฉางอัน,เฟิงซิน,จางกวนเสิ่น ต่างก็ตกใจไปตาม ๆ กัน.
“เจ้าพูดอะไรนะ?”จินเทียนหงเอ่ยพร้อมกับหัวเราะดังลั่น“เจ้าบอกให้ข้าหักแขนตัวเอง แล้วไสหัวไปอย่างงั้นรึ?”
จากนั้นเขาก็เอ่ยออกมาว่า“เจ้ารู้ใหมว่าข้าเป็นใคร?”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา.“เจ้าเป็นใครข้าต้องสนใจด้วยรึไง,ต่อให้เป็นบรรพชนเจ้า,ปู่เจ้า,แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ของจิวเทียน ข้าก็จะพูดเหมือนกัน,อย่าให้ข้าต้องเอ่ยเป็นครั้งที่สอง.”
จินเทียนหงที่โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก,ค้อนแสงทองในมือของเขาที่รวมพลังเทพสวรรค์จนถึงขีดสุด,ค้อนส่องแสงทองแผ่กลิ่นอายที่รุนแรงจนเกิดเสียงดังหวีดหวิว.
บนค้อนแสงทองที่แผ่รัศมีสีทองอย่างรุนแรง.
หวงจิวที่ยกมือขึ้น,ส่งเพลิงฟินิกซ์ทองคำฟาดไปยังรัศมีค้อนทองคำ กวาดม้วนทำลายรัศมีทองคำจนสิ้นและยังพุ่งตัดแขนทั้งสองข้างของจินเทียนหงขาดหลุดล่วงออกไปทันที.
จินเทียนหงที่ร้องโอดโอย.
โดยเฉพาะแขนที่ขาดออกไปนั้น,ถูกเพลิงฟินิกซ์เผาไหม้จนสลายหายไป,ทำให้เขาเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก.
ในเวลานั้น,จางฉานอัน,เฟิงซิน,จางกวนเสิ่นที่ยืนตะลึงงงงัน.
พวกเขาพบว่าหวงจิวที่มีพลังเทพสวรรค์ขั้นต้นเช่นพวกเขา,คาดไม่ถึงว่าพลังต่อสู้จะมากมายขนาดนี้,แม้แต่ สามารถจัดการจินเทียนหงได้อย่างง่ายดายเพียงสะบัดมือเท่านั้น.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่จ้องมองจินเทียนหงที่ร้องโอดโอย,เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เจ้าควรจะดีใจที่หลุมศพฟู่ซีไม่เป็นอะไร,หากมันมีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย,ข้าไม่เพียงแค่ตัดแขนของเจ้าแน่นอน!”
“ไสหัวไปให้พ้น!”
เสียงที่เหมือนกับสายฟ้าฟาดดังกึกก้อง.
จินเทียนหงที่กระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง.
จางฉางอัน เฟิงซิน,จางกวนเสิ่นทั้งสามที่สั่นสะท้าน,เร่งรีบเข้าไปพยุงจินเทียนหง.
“เทียนหง,พวกเราไปก่อน.”จางฉางอันเอ่ย.
จินเทียนหงเองก็รู้ตัวดี,ว่าไม่ใช่คู่มือของหวงจิว,แม้นว่าจะโกรธเกรี้ยว,ทว่าก็จากไปพร้อมกับพวกจางฉางอัน.
หลังจากที่จินเทียนหงจากไป,ลู่อีผิ้งได้ยกมือขึ้น,จากนั้นอักขระค่ายกลมากมายได้ลอยออกไปปกคลุมหลุมศพอย่างต่อเนื่อง,ยกระดับพลังคุ้มกันของสุสานให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก.
......
หลังจากที่จินเทียนหงและพรรคพวกจากมา,ก็บินไปยังเมืองที่ใกล่ที่สุด.
ภายในคฤหาสน์สุดหรู,ซ่างเหรินจินกวงกำลังปลอบสตรีผู้งดงามคนหนึ่ง.
สตรีผู้งดงามก็คือพี่สาวของเขา จินเหม่ยจวน,เป็นภรรยาของเฟยเจียเจ้านิกายเทวะคุนเผิงนั่นเอง.
“พี่สาว,อย่าได้เสียใจ,ท่านเหล่ยเห่าได้ท้าประลองลู่อี้ผิงแล้ว,ลู่อี้ผิงคนนี้จะมีชีวิตได้อีกไม่นาน!”ซ่างเหรินจินกวงเอ่ย.
จินเหม่ยจวนเอ่ยด้วยความเกลียดชัง,“ข้าเกลียดตัวเองนักที่ไม่อาจสังหารลู่อี้ผิงด้วยตัวเอง!”
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันในห้องโถง,จากนั้นพวกเขาก็เห็นจินเทียนหง,เฟิงซิน,จางฉางอันและจางกวนเสิ่นเข้ามา.
“เทียนหง,เกิดอะไรกับแขนของเจ้า?”ทั้งสองที่เห็นจินเทียนหงแขนด้วน,ก็ลุกขึ้นเอ่ยด้วยความตกใจ.
“ท่านพ่อ,ท่านป้า.”จินเทียนหงที่เห็นทั้งสอง,ก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง“พวกเราเพิ่งไปพบกันอันธพาลสามคนที่ภูเขาหกตา,พวกมันตัดแขนของข้าไป.”
“ภูเขาหกตา.”ซ่างเหรินจินกวงที่ประหลาดใจ.
ภูเขาหกตาอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก.
“ท่านพ่อ,พวกมันตอนนี้น่าจะยังคงอยู่ในภูเขาหกตา.”จินเทียนหงเอ่ย.
ปล.วันนี้ลองสองตอนครับ มาลงห้าตอนพรุ่งนี้.