Chapter 145 Ancestor of Thunder Punishment
雷罚之祖(一更)
อ้าวผีที่ได้ยินซุนไห่หยินสังหารอ้าวอี้เสวียน,แววตาที่เต็มไปด้วยสีแดง,เอ่ยตะโกนด้วยความเศร้าสลด“ท่านพ่อ!”จากนั้นเขาที่บ้าคลั่งพุ่งไปหาซุนไห่อวิ๋น“ข้าจะสังหารเจ้า!”
ซุนไห่อวิ๋นที่เห็นอ้าวผีพุ่งเข้ามา,ก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“บิดาของเจ้าไม่ใช่คู่มือของข้า,แล้วตอนนี้เพียงแค่เจ้านะรึ ต้องการสังหารข้า?”จากนั้นเขาแทบไม่มองง้างมือเตรียมตบอีกฝ่ายออกไปทันที.
ในเวลาเดียวกัน,เขาก็สั่งการยอดฝีมือนิกายอู๋เซิ่ง“นอกจากมัน คนอื่น ๆ สังหารให้หมด.”
คนของนิกายอู๋เซิ่งที่พุ่งออกไป,โจมตีลู่อี้ผิง.
อย่างไรก็ตาม,ขณะยอดฝีมือของนิกายอู๋เซิ่งกำลังพุ่งโจมตีลู่อีผิ้ง,พริบตานั้นห้วงมิติรอบ ๆ ก็เฉื่อยชา,ความเร็วของพวกเขาช้าลงมากขึ้นและก็มากขึ้น,ท้ายที่สุดก็หยุดลง.
ซุนไห่หยินเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น,ราวกับว่าตัวเองกลายเป็นเหมือนกับมดตนหนึ่ง.
ดวงตาของซุนไห่หยินที่เบิกกว้างกลมโต,ไม่อยากเชื่อ.
นี่มัน?
เขตแดนกาลอวกาศ?
ใครกัน?
แม้แต่จ้าวพิภพเช่นเขายังถูกสะกด.
ตูมมมม!
ขณะซุนไห่หยินไม่อยากเชื่อหมัดของอ้าวผีก็พุ่งมายังอกของซุนไห่หยินแล้ว,ซุนไห่หยินถูกต่อยพุ่งกระเด็นกระแทกห้องโถงวังม่านหมอกเสียงดัง.
คังหนิงและคนอื่น ๆ กลายเป็นโง่งมไปเลย.
ในเวลานั้น,หวงจิวก้าวออกไป,เปลวเพลิงฟินิกซ์ที่พวยพุ่งก่อนที่จะพุ่งเข้าหายอดฝีมือสำนักอู๋เซิ่งทันที.
เหล่ายอดฝีมือของสำนักอู๋เซิ่ง เปลวเพลิงพุ่งกระแทกร่างพวกเขา,แต่ละคนต่างก็ล่วงหล่นกระเด็นออกไปร่างกายถูกเผา,ร้องครวญครางโหยหวน.
ซุนไห่หยินที่คลานออกมาจากเศษซากปรักหักพัง,ที่หน้าอกเต็มไปด้วยความเจ็บปวด,ตกใจโกรธเกรี้ยว,จ้องมองไปยังลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ“เป็นพวกเจ้า?”
อ้าวผีที่โกรธเกรี้ยวที่วิ่งเข้าไปซ้ำอีก,ต่อยออกไปทันที.
ซุนไห่อวิ๋นที่ไม่กล้าประมาท,ร่างกายที่เคลื่อนไหวเคลื่อนพลังพิภพ,ก่อรูปเป็นพลังป้องกัน,เพื่อรับหมัด.
อย่างไรก็ตาม,ขณะที่เขาจะลงมือ,ห้วงมิติรอบ ๆ ก็หนืดชงักไปอีกครั้ง.
ความเร็วของเขาที่ช้าลงเรื่อย ๆ เหมือนกับก่อนหน้านี้และหยุดลง.
ครั้งนี้,หมัดของอ้าวผีที่ต่อยเข้าเป้าเต็ม ๆ
ตูมมมมมมม
ซุนไห่หยินที่ได้ยินเพียงเสียงกระแทกร่างของเขาก็กระแทกบุบลงไปบนพื้นเสียงดัง.
คังหนิงและคนอื่น ๆ ต่างก็ยืนนิ่งเต็มไปด้วยความงงงวย.
ซุนไห่หยิน,มีพลังพิภพสี่สิบล้าน,ไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพกู่ฉินฟู่เฉา,ทว่าเวลานี้กับถูกอ้าวผีระดับเทพสวรรค์ทุบตี!
ในเวลานั้นซุนไห่หยินที่คลานขึ้นมาจากพื้น,ใบหน้าของเขาที่เขี้ยวช้ำไปหมด.
“เจ้า! เจ้าเป็นใคร?”ซุนไห่หยินที่ตกใจโกรธเกรี้ยวจ้องมองลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ.
มิติกาลอากาศรอบ ๆ เขาถูกสะกดสองครั้งแล้ว,ไม่จำเป็นต้องเอ่ยว่าต้องเกี่ยวข้องกับคนทั้งสองแน่ ๆ.
ครั้งแรกนับว่าเขาประมาท.
อย่างไรก็ตาม,ครั้งที่สองนั้น,เขาที่ได้ลงมือเต็มที่แล้ว.
ทว่าการเคลื่อนไหวของเขาก็ยังถูกสะกดอย่างคาดไม่ถึง.
ไม่จำเป็นต้องให้เขาคาดเดา,มีใครบางคนที่มีพลังเหนือกว่าเขาในกลุ่มคนพวกนี้! ไม่เช่นนั้น,พลังพิภพในร่างของเขาคงไม่ถูกพลังกาลอากาศสะกดเช่นนี้.
ลู่อี้ผิงที่ไม่เอ่ยตอบ,เขาจ้องมองไปยังคังหนิงอย่าไม่แยแส,เอ่ยออกมาว่า“ข้าให้เจ้าหนึ่งล้านศิลาวิญญาณ,เพื่อให้วังม่านหมอกสืบเรื่องซุนไห่หยิน,เจ้ารู้ว่าซุนไหหยินอยู่ที่ใด แต่ไม่แจ้ง,นอกจากนี้ยังสุมหัวอยู่กับพวกซุนไห่หยินอีก.”
“ดูเหมือนว่า,วังม่านหมอกไม่จำเป็นที่ต้องอยู่อีกต่อไปแล้ว!”
คังหนิงได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็โกรธเกรี้ยวพร้อมกับหัวเราะลั่น“เจ้าหนู,เพียงแค่ควบคุมกฏกาลอากาศได้,คิดว่าจะทำอะไรวังม่านหมอกของข้าได้อย่างไรก็ได้อย่างงั้นรึ? หากมีสมองก็ไสหัวไปซะ,วังม่านหมอกไม่ใช่คนของโลกเทวะเทียนหลงจะยั่วยุได้.”
วังม่านหมอกนั้นคือองค์กรข่าวสารอันดับหนึ่งของจิวเทียน,กล่าวได้ว่าเป็นกลุ่มอิทธิพลชั้นแนวหน้าที่มีเครือข่ายมากมาย,แม้นว่าไม่อาจเทียบได้กับสุดยอดกลุ่มอิทธิพลใหญ่,ทว่าพวกเขาก็เหมือนกับโรงเตี้ยมอู๋ซ่วง,เป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่ไม่ได้ด้อยกว่าสุดยอดกลุ่มอิทธิพล.
ภายในจิวเทียน,มีบางคนบอกว่า กล้าท้ายทายสิบสุดยอดกลุ่มอิทธิพล,ทว่าไม่มีใครกล้าหาเรืองวังม่านหมอก.
แม้นว่ะดูเกินจริง,ทว่านี่คือเรื่องจริง.
ลู่อี้ผิงได้ยินคำพูดดังกล่าวก็เผยยิ้ม.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้ยินก็เผยยิ้ม.
ในเวลานั้น,ยอดฝีมือมากมายที่เห็นคนมาหาเรื่องวังม่านหมอก,ก็หยุดชงัก,ลอบมองแต่ไกล.
“ยังมีอีกรึ? คนที่กล้าหาเรื่องวังม่านหมอก!”
“หากล่วงเกินวังม่านหมอก,วังม่านหมอกจะขุดเรื่องฉาวของบรรพบุรุษทั้งแปดรุ่นออกมาแฉไปทั่วโลก,สร้างความอับอายให้กับตัวเองและวงตระกูล,กล่าวได้ว่าจะถูกติฉินนินทากลายเป็นที่เกลียดชังของคนทั่วหล้า,จนถูกผู้คนไล่ล่า,เมื่อถึงเวลานั่นก็จะตกตายอย่างน่าอนาถอย่างที่สุด.”
ใครบางคนที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
คังหนิงที่ได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็ยิ้มเยาะอย่างภาคภูมิ.
ในเวลานั้น,ร่างกายของซุนไห่หนิงที่แผ่รัศมีแสงสีดำ,ฝ่ามือของเขาที่ฟาดไปยังเห่าผี.
คลื่นพลังสีดำ,ปราณศพที่เต็มไปด้วยพลังผีโหยที่ดุร้าย.
ก่อนหน้านี้ยอดฝีมือสำนักอู๋เซิ่งเองก็ได้ใช้ฝ่ามือหัวใจพิษภูติทมิฬไล่ล่าอ้าวผ,ทว่าก่อนหน้านี้,เขามีพลังพิภพเพียงสามล้านเท่านั้น,ทว่าซุนไห่หยินนั้นมีพลังต่อสู้ถึง 40 ล้าน.
ภายใต้พลังของซุนไห่หยิน,พิษฝ่ามือหัวใจพิษภูตทมิฬ,ย่อมรุนแรงกว่าก่อนหน้านี้สิบเท่า.
เห็นซุนไห่หยินที่ใช้ฝ่ามือหัวใจพิษภูตทมิฬ,อ้าวผีที่เผยความประหลาดใจตกใจออกมา.
อย่างไรก็ตามขณะฝ่ามือหัวใจพิษภูติทมิฬกำลังจะมาถึงเห่าผี,พลังกาลอวกาศที่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง,ฝ่ามือหัวใจพิษภูติทมิฬก็สลายหายไปทันที,ความแข็งแกร่งของฝ่ามือพิษหัวใจภูติทมิฬก็หายไปด้วยเช่นกัน.
ซุนไห่อวิ๋นกลายเป็นงงงวย.
ถึงแม้นว่าพลังกาลอากาศจะทำให้เวลาช้าลง,ทว่าการจะกำจัดพลังฝ่ามือหัวใจพิษภูตทมิฬด้วยนั้น,เป็นไปได้รึ?
นี่ไม่ใช่พลังกาลอากาศอย่างงั้นรึ?
มันยังมีพลังแห่งกฎอย่างอื่นด้วยอย่างงั้นรึ?
ทว่านี่คือพลังแห่งกฎอันใดกัน?
เวลานี้เขาตื่นตกใจเป็นอย่างมาก,หมัดอ้าวผีที่ยังคงต่อยออกมา,กระแทกร่างของเขาลอยกระเด็น,ก่อนหน้านี้ตาซ้าย,ตอนนี้ตาขวา,มันเขียวช้ำไปหมดแล้ว.
ภายในเมือง,ยอดฝีมือมากมายต่างก็เดินทางมามุง.
หลังจากบางคนมาถึง,ทันใดนั้นเมื่อมองเห็นลู่อี้ผิง,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ก็แขนขาสั่นไปในทันที.
“สหาย,เจ้าเป็นอะไร?”ใครบางคนที่มาพร้อมกับเอ่ยสอบถามออกมาทันที.
ใครบางคนที่เอ่ยเสียงสั่น“นั่นคือบรรพชนทัณฑ์สายฟ้า!”
“อะไรนะ?!”
“บรรพชนทัณฑ์สายฟ้า,ลู่อี้ผิง!”
หลังจากได้ยินคำพูดดังกล่าว,ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังลู่อี้ผิง ใบหน้าเปลี่ยนสีไปตาม ๆ กัน.
ในเมืองเทียนเป่ย,ลู่อี้ผิงได้ใช้ทัณฑ์สายฟ้าสังหารเหล่ยยวี,ดังนั้นผู้คนต่างก็ให้ฉายาลู่อี้ผิงว่าเป็น“บรรพชนทัณฑ์สายฟ้า.”
เวลานั้นเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว,ซุนไห่หยิน และคนของวังม่านหมอกแม้แต่ยอดฝีมือสำนักอู๋เซิ่ง รู้ว่าบุรุษชุดน้ำเงินคือบรรพชนทัณฑ์สายฟ้า,ก็ใบหน้าเปลี่ยนสี.
“เจ้าคือลู่อี้ผิง!”เสียงของคังหนิงที่เอ่ยเสียงสั่นจนยากจะปกปิดความหวาดกลัวเอาไว้ได้.
หลังการต่อสู้ที่เมืองเทียนเป่ย,ตอนนี้ทั่วทั้งจิวเทียนต่างก็พูดคุยเรื่องของลู่อี้ผิงไม่หยุด.
ในเวลานี้,คังหนิงต้องการร้องไห้ออกมาทันที,ก่อนหน้านี้หากว่าเขาแจ้งที่อยู่ซุนไห่หยินออกไปก็เท่ากับล่วงเกินซุนไห่หยิน,ทำให้เขาไม่คิดจะแจ้งเรื่องซุนไห่หยินต่อลู่อี้ผิง แต่กลายเป็นว่าเขาได้ล่วงเกินลู่อี้ผิงแทน.
เวลานี้เมื่อเขาคิดถึงลู่อี้ผิงสังหารเหล่ยยวีแล้ว,เขาก็รู้สึกหนังหัวชาหนึบขนลุกทั่วร่าง.
อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า.
ได้ยินมาว่า ลู่อี้ผิงชี้นิ้วขึ้นไปปบนท้องฟ้า,ปรากฏหลุมสายฟ้ายักษ์,ล่วงหล่นลงมา ในเวลานั้นไม่มีใครที่จะสามารถหลบหนีได้.
“ลงมือ.”ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่แยแส.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้ยินก็ก้าวไปด้านหน้า,พร้อมกับยกฝ่ามือขึ้นฟาดไปยังคังหนิง.
เห็นวัวกระทิงมังกรเขาทองคำก้าวเข้ามา,คังหนิงที่สั่นไปทั่วร่างเร่งรีบถอยหนีทันที.
ในเมืองเทียนเป่ย,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ต่อยยอดฝีมืออันดับหนึ่งของยุคนี้,เฟยเจียด้วยหมัดเดียว,ชื่อของวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอง,ก็ก้องไปทั่วจิวเทียนเช่นกัน.