Chapter 136 Black Ghost Poisonous Heart Palm
黑鬼毒心掌(三更)
“คนของสำนักอู๋เซิ่ง!”
“หนีเร็วเข้า!”
เมื่อเหล่ายอดฝีมือกลุ่มหนึ่งปรากฏบนท้องฟ้า,ผู้คนต่างก็อุทานตกใจ,เร่งรีบหนีตายออกไปทั่วสารทิศ.
สำนักอู๋เซิ่ง!
ในโหยวหมิง,สิบสุดยอดกลุ่มอิทธิพลพวกเขาอยู่อันดับสอง.
พริบตานั้น,พื้นที่รอบ ๆ จึงเหลือเพียงกลุ่มลู่อี้ผิง.
อ้าวผีเห็นคนเหล่านี้ปรากฏ,ก็ตกใจโกรธเกรี้ยว,หากเขาไม่ใช้สัญลักษณ์มังกรหลบหนี,เขาคงตายไปแล้ว,กระนั้นคนเหล่านี้ก็ยังไล่ตามเขามาไม่หยุด.
ยอดฝีมือสำนักอู๋เซิ่งร่อนลงบนพื้นด้านหน้าลู่อี้ผิง.
คนทั้งสี่จ้องมองอ้าวผี,ชายชราคนแรกจ้องมองอ้าวผีพร้อมกับเลียริมฝีปาก“ร่างต้นของเจ้าคือมังกร,แม้นว่าจะยังอ่อนเยาว์,เนื้อคงไม่แข็งหยาบเหมือนกับบิดาของเจ้า,รสชาติควรจะดีกว่า.”
อีกสามคนที่มาด้วยเอ่ยออกมา“ดูเหมือนว่าหากแร่เนื้อออกมาไม่ขำเป็นต้องผ่านความร้อนก็กินได้เลยอย่างงั้นรึ?”
ทั้งสามก็หัวเราะออกมาเสียงดัง.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ยื่นมือออกไป,ขยายใหญ่พร้อมกับตบไปยังชายชราคนแรก.
ชายชราผู้นำเห็นวัวกระทิงมังกรกล้าโจมตีเขาอย่างคาดไม่ถึงก็หัวเราะลั่น“ไอ้หนู,ไม่ใช่ธุระของเจ้า,แต่กับกล้าลงมือกับข้า,เจ้าคงรู้สินะ คำว่า”ตาย“สะกดอย่างไร?”
จากนั้น,พลังพิภพถูกกระตุ้น,ฝ่ามือของเขาที่พุ่งเข้าหาฝ่ามือของวัวกระทิงมังกรเขาทองคำทันที.
ชายชราผู้นำ,เป็นจ้าวพิภพคนหนึ่ง,นอกจากนี้ยังมีพลังพิภพ 360,000 พลังต่อสู้.
นับว่ามีความแข็งแกร่งอยู่เล็กน้อย,แม้แต่อ้าวผีที่ใช้อักขระมังกรหลบหนี,ทว่าฝ่ายตรงข้ามก็ยังไล่หลังมาไม่ห่างเสมอ.
ฝ่ามือสีดำที่ส่งเสียงโหย,เสียงครวญครางเย็นยะเยือบของภูตผีดังแสบเสียดแก้วหูเป็นอย่างมาก.
“ฝ่ามือหัวใจพิษภูตทมิฬ! ท่านเสี่ยวจินอย่าได้แตะต้อง.”
อ้าวผีที่เผยความประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
ฝ่ามือหัวใจพิษภูตทมิฬ,นี่คือฝ่ามือปิศาจที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในดินแดนโหยวหมิง,เพื่อจะฝึกฝนฝ่ามือดังกล่าว,จำเป็นต้องดูดซับวิญญาณและพิษหยินจากศพมากมาย,เพียงแค่สัมผัสจะทำให้ได้รับพิษกระจายไปทั่วร่าง,ในเวลานั้นเมื่อพิษลามไปถึงหัวใจก็สามารถช่วงชิงชีวิตศัตรูได้.
อย่างไรก็ตาม,เพียงแค่อ้าวผีเอ่ย,ก็เห็นฝ่ามือของวัวกระทิงมังกรทมิฬปะทะเข้ากับอีกฝ่ายแล้ว.
ปัง! เกิดเสียงดังสนั่น.
ในเวลาต่อมา,ชายชราสำนักอู๋เซิ่งที่คิดว่าพลังที่ร้ายกายของเขากำลังกัดกินอีกฝ่าย.
แขนของเขากับสั่นไปมา,ท้ายที่สุดก็พังทลายลงอย่างคาดไม่ถึง.
ส่วนร่างของเขาที่เหมือนกับใบไม้ร่วงกำลังลอยละล่องไปบนอากาศ.
ขณะที่เขาหล่นลงพื้น,เห็นเพียงมือขวาของเขากลายเป็นหมอกโลหิต,สาดกระเซ็นอาบไปทั่วใบหน้าของตัวเอง.
สำนักอู๋ซ่วงอีกสามคนต่างก็อึงตะลึงไปตาม ๆ กัน.
อ้าวผีที่เผยความประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
วัวกระทิงมังกรที่ขยับฝ่ามือดูดดึงร่างอีกฝ่ายลอยมาอยู่ด้านหน้า,เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่รู้เลยจริง ๆ คำว่า”ตาย“สะกดอย่างไร,เจ้ารู้ใหมว่าเขียนอย่างไร?”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่จ้องมองชายชราผู้นำที่กำลังตะลึงอ้าปากค้างอยู่.
ชายร่างใหญ่ยักษ์เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อมีขนสีทอง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นจ้าวพิภพขั้นกลางอย่างงั้นรึ?
ถึงจะไม่ใช่ขั้นกลาง,เกรงว่าอาจจะเป็นขั้นต้นปลาย.
ในเวลานั้น,เขาก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา,“เจ้าแข็งแกร่งกว่าข้าแล้วอย่างไร,ฝ่ามือของเจ้ารับฝ่ามือหัวใจพิษภูตทมิฬที่ข้าสะสมมาจากบึงซากซบมาช้านาน,อีกไม่ช้าพิษก็จะลามไปถึงหัวใจของเจ้า.”
“พิษซากศพโจมตีหัวใจอย่างงั้นรึ?”วักกระทิงมังกรเขาทองคำ,“แล้วยังไง?”เขาที่ยกฝ่ามือที่ปะทะฝ่ามือกับอีกฝ่ายก่อนหน้านี้ขึ้น.
มือขวาของวัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่สะอาดเอี่ยมไร้ซึ่งร่องรอยใด ๆ.
“เจ้าไม่เป็นไรอย่างงั้นรึ?!”ชายชราที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย.
“ฝ่ามือเทพพิษโลหิตที่ร้ายกาจที่สุดในมหาอเวจี,เหล่าหนิวก็รับมาแล้ว,เพียงแค่ฝ่ามือพิษหัวใจภูตทมิฬกระจ้อยร่อย,ไม่ได้ร้ายแรงเท่ากับฝ่ามือพิษโลหิตหนึ่งในพันล้านด้วยซ้ำ.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยอย่างไม่แยแส.
ในเวลานั้น,ยอดฝีมือสำนักอู๋เซิ่ง,ก้าวออกมาด้านนอก,ขณะจ้องมองวัวกระทิงมังกรเขาทองคำด้วยความประหลาดใจ“ผู้ยอดเยี่ยมคงไม่รู้ว่าพวกเราเป็นใคร? ขอให้โปรดปล่อยท่านเหมียว.”
“นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของสำนักอู๋เซิ่งและโลกเทวะเทียนหลง,ขอให้ผู้ยอดเยี่ยมอย่าได้เข้ามายุ่งเกี่ยว.”
ขณะที่วัวกระทิงมังกรเขาทองคำคว่าขับบีบร่างของชายชราสำนักอู๋เซิ่ง,แรงบีบมหาศาลก็บีบรัดร่างของฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรงทันที,ท้ายที่สุดอีกฝ่ายก็ระเบิดกลายเป็นฝุ่นหมอกโลหิต.
ท้ายที่สุด,ชายชราสำนักอู๋เซิ่งก็ถูกบดร่างจนระเบิดไป.
อ้ายผีที่กลืนน้ำลายฝืดลงคอ.
ชายชราสำนักอู๋เซิ่งอีกสามคนที่ตกใจและโกรธเกรี้ยว.
“สังหาร.”ลู่อี้ผิงเอ่ยออกมาเล็กน้อย.
ในเวลานั้น,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้ชี้นิ้วปล่อยลำแสงสามสาย,ฟาดไปยังชายชราทั้งสามของสำนักอู๋เซิ่งระเบิดตามกันไป.
ลู่อี้ผิงปล่อยลำแสงสีเขียว,ลอยออกไปแทรกเข้าไปในร่างของอ้าวผี,อ้าวผีที่รับรู้ว่าพลังชีวิตของตัวเองที่พลุ้งพล่านขึ้นมา,อาการบาดเจ็บเองก็หายไปช้า ๆ จนสลายเป็นปลิดทิ้ง.
“บิดาของเจ้าอยู่ที่ใด?”ลู่อี้ผิงเอ่ย,“บอกข้ามา.”
อ้าวผีเร่งรีบบอกสถานที่.
ลู่อี้ผิงที่คว่าร่างอ้าวผีจากนั้นก็ฉีกกระชากห้วงมิติข้ามผ่านไปยังพื้นที่ดังกล่าวทันที.
ลู่อี้ผิงที่นำอ้าวผี ข้ามผ่านกระแสมิติแห่งความโกลาผลผ่านทะเลแห่งความว่างเปล่าไป.
อ้าวผีที่จ้องมองกระแสมิติแห่งความวุ่นวาย,สัมผัสได้ถึงพลังที่น่าพรั่นพรึง,ถึงกับชงักอ้าปากค้าง.
“ต้าเหริน,นี่คือห้วงกระแสมิติอย่างงั้นรึ?”อ้าวผีเอ่ยเสียงอ่อน.
ลู่อี้ผิงที่พยักหน้ารับ,จากนั้นก็นำอ้ายผีออกจากกระแสมิติ.
อ้าวผีที่จดจ้อง,เห็นเพียงท้องฟ้าเมืองเทวะเทียนหลงสถานที่พวกเขาถูกปิดล้อมก่อนหน้านี้.
ลู่อี้ผิงที่จ้องมองไปยังพื้นที่เมืองที่พังทลายลง,พลางขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
ทั่วทั้งเมืองได้พังราบเป็นหน้ากลองแล้ว,มีคราบโลหิตถูกทิ้งเอาไว้,มีกลิ่นอายของยอดฝีมือเผ่ามังกร,และโลหิตของคนสำนักอู๋เซิ่ง,แผ่กลิ่นอายที่เย็นยะเยือบออกมา.
กล่าวได้ว่าเวลานี้ไม่เห็นร่างของยอดฝีมือสำนักอู๋เซิ่งและคนของโลกเทวะเทียนหลงอีกต่อไปแล้ว.
อ้าวผีที่ชงักงันก่อนที่จะได้สติก็พบว่าทุกอย่างนั้นว่างเปล่าไปแล้ว,เขาที่เอ่ยร้องโอดครวญ“ท่านพ่อ!”
แม้นว่าจะไม่เห็นร่างของบิดา,ทว่าเกรงคงจะโชคร้ายมากกว่าโชคดี.
ลู่อี้ผิงที่นำอ้าวผี ข้ามผ่านห้วงมิติมาทันที,แต่เวลานี้ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนสำนักอู๋เซิ่งและคนของโลกเทวะเทียนหลงแล้ว,ที่หน้าผากของเขาปรากฏเนตรทัณฑ์อสนีปรากฏ,ลำแสงสายฟ้าที่กวาดม้วนไปรอบ ๆ,ค้นหามิติย่อย,แต่กับไม่พบอะไรเลยแม้แต่น้อย.
แม้นว่าเขาจะมีพลังแข็งแกร่งไร้เทียมทาน,ทว่าก็ไม่ใช่จะสามารถทำได้ทุกอย่าง.
ดังนั้นจึงไม่อาจบอกได้ว่าคนของโลกเทวะเทียนหลงอยู่ที่ใด,หากเขามีพลังค้นหาที่ร้ายกาจขนาดนั้น,เขาคงไม่ต้องตามหาชิ้นส่วนของหยกเจาหัวไปทั่ว,ไม่ต้องเสียเวลาและแรงกายไปเป็นจำนวนมาก.
เมื่อไม่อาจหาร่องรอยอะไรได้,ลู่อี้ผิงก็หยุด.
ใบหน้าอ้าวผีที่เศร้าสลด,สิ้นหวัง,ราวกับว่า ถูกสูบพลังทั้งหมดออกจากร่าง.
ลู่อี้ผิงเอ่ย,“วางใจได้,ขอเพียงบิดาของเจ้ายังมีชีวิต,ข้าย่อมช่วยเขาออกมาได้.”
อ้าวผีที่คุกเข่าลงด้านหน้าลู่อี้ผิง,กล่าวขอบคุณ.
“เอาล่ะ,พวกเรากลับก่อน.”ลู่อี้ผิงที่นำอ้าวผีตัดผ่านห้วงมิติกลับเส้นทางเดิม.
วัวกระทิงมังกรเห็นลู่อี้ผิงกลับมา,แต่ไม่เห็นคนของโลกเทวะเทียนหลง,แววตาที่ดูสงสัย,ลู่อี้ผิงที่ส่ายหน้าไปมาตอบ.
จากนั้นลู่อี้ผิงที่ใช้ยันต์สื่อสาร,ติดต่อฉู่ถงให้ช่วยสืบเรื่องของสำนักอู๋เซิ่งและข่าวของราชาโลกเทวะเทียนหลง,จากนั้นเขาก็นำคนของเขาไปยังสาขาวังม่านหมอกเพื่อสืบข่าว.
ลู่อี้ผิงได้ให้วังม่านหมอกสืบข่าวเรื่องของสำนักอู๋เซิ่ง,และราชาโลกเทวะเทียนหลง,นอกจากนี้ยังสืบข่าวเรื่องหวงหยวนตงและราชันย์หมาป่ายวีเหมียนด้วย.