Chapter 133: Matchless Tavern( four)
无双酒馆(四更)
ชายวัยกลางคนที่เอ่ยต่อลู่อี้ผิง“ท่านทั้งหลายได้ยินแล้ว,โปรดเชิญออกไปด้วย.”
ลู่อี้ผิงที่จ้องมองกู่หลินเฟิง“เจ้าบอกว่า,ไม่เพียงแค่โรงเตี้ยมอู๋ซ่วงเมืองเสวียนกู่,ทว่าทั่วทั้งดินแดนไท่สวี โรงเตี้ยมอู๋ซ่วงต่างก็อยู่ภายใต้การดูแลบิดาของเจ้า,อย่างงั้นรึ?”
กู่หลินเฟิงเอ่ย“ถูกแล้ว,บิดาของข้าก็คือบรรพชนชราตระกูลกู่,กู่กั๋วหยวน.”เขาเอ่ยด้วยท่าทางภาคภูมิอย่างที่สุด.
บรรพชนชราตระกูลกู่,กู่กั๋วหยวน,เป็นผู้จัดการดูแลโรงเตี้ยมอู๋ซ่วงทั้งหมดในดินแดนไท่สวี.
แม้แต่เหล่ายักษ์ใหญ่,เห็นบิดาของเขา,ยังต้องสุภาพสามส่วน.
“เจ้ารู้จักเฒ่าแก่ในอดีตหรือไม่?”ลู่อี้ผิงเอ่ยกล่าวอย่างไม่แยแส
ในเวลานั้น,สตรีคนหนึ่งด้านข้างกู่หลินเฟิงเอ่ยปากออกมาว่า“คุณชายหลินเฟิง,พวกเราเข้าไปด้านในได้รึยัง?”นางยืนอยู่ทางเข้า,รู้สึกรอไม่ไหวขึ้นมา.
กู่หลินเฟิงเร่งรีบเอ่ยออกมาว่า“แน่นอน.”จากนั้นเขาก็โบกมือขับไล่ลู่อี้ผิง“เจ้ายังไม่รีบออกไปอีก.”
ลู่อี้ผิงยังคงยืนอยู่ที่เดิม,เอ่ยถามอย่างไม่แยแส“หลังจากเจ้าซื้อร้านเดิมที่นี่,พวกเขาย้ายไปที่ใหน?”
กู่หลินเฟิงเห็นลู่อี้ผิงไม่ขยับไปใหน,ยังคงถามเรื่องเจ้าของร้านเดิม,ก็ใบหน้ากลายเป็นเคร่งขรึม“ไม่เข้าใจคำพูดอย่างงั้นรึ? ข้าบอก ไสหัวไป!”
จากนั้นเขาก็เอ่ยแนะนำสตรีสองคนไป.
“นี่คืออาวุโสสูงนิกายเสวียนเทียน เจียงถิง.
“นี่คือแม่นางเหยียนหรูอวิ๋น ตระกูลเหยียน.”
“เจ้ากำลังขวางทางอาวุโสสูงเจียงถิงและแม่นางเหยียนหรูอวิ๋น,รู้ใหม!”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำยังคงยืนขวาง,จ้องมองสตรีทั้งสอง,หัวเราะ หึ หึ เอ่ยออกมาว่า“สาวน้อยก็ดูงดงาม,แท้จริงแล้วเป็นคนของนิกายเสวียนเทียนและตระกูลเหยียนเองรึ? เสียมารยาท เสียมารยาทแล้ว.”
เจียงถง,เหยี่ยนหรูอวิ๋นทั้งสองที่ขมวดคิ้วไปมา.
กู่หลินเฟิงเห็นลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรยังไม่หลบไปใหน,ใบหน้ากลายเป็นมืดครึ้มเย็นชา“ต้องการสร้างปัญหารึ? หากต้องการมีเรื่องกับโรงเตี้ยมอู๋ซ่วง,เจ้ามาผิดที่แล้ว!”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่กวาดตามองไปรอบ ๆ,เอ่ยออกมาว่า“ที่นี่ดูคึกคักทีเดียว,นับว่าประสบความสำเร็จดี,คนทั่วไปไม่อาจค้าขายได้,ไม่ใช่ว่าเจ้าช่วงชิงมาหมดเลยหรอกนะ?”
กู่หลินเฟิงที่ตบหน้าชายวัยกลางคน,เอ่ยคำรามด้วยความโกรธ,“ยังไม่เรียกคนอีก!”
ชายวัยกลางคนเร่งรีบเรียกยอดฝีมืออกมาทันที.
เวลานี้เป็นเวลาเย็นผู้คนจึงค่อนข้างมาก,เห็นพวกลู่อี้ผิงมาหาเรื่องในโรงเตี้ยมอู๋ซ่วงก็ประหลาดใจ,คาดไม่ถึงแม้แต่น้อย.
“ใครกัน,กล้ามาหาเรื่องที่โรงเตี้ยมอู๋ซ่วง!”
“แส่หาความตาย,โรงเตี้ยมอู๋ซ่วงแม้ว่าจะไม่ถูกจัดอยู่ในสิบสุดยอดกลุ่มอิทธิพล,ทว่าความแข็งแกร่งไม่ได้ด้อยกว่าสำนักกระบี่ไท่ชิง,นิกายเสวียนเทียน,นอกจากนี้พวกเขายังมีหุ้นส่วนร่วมกับสำนักกระบี่ไท่ชิง,นิกายเสวียนเทียน,และตระกูลเหยียนด้วย.”
ผู้คนต่างก็ส่ายหน้าไปตาม ๆ กัน.
เพียงไม่นาน,ผู้คุ้มกันก็หลั่งไหลออกมาเต็มไปหมด.
ยอดฝีมือคุ้มกัน,บางคนเป็นศิษย์สายตรงของตระกูลกู่?
บางคนเป็นยอดฝีมือภายนอก.
กล่าวได้ว่าโรงเตี้ยมอู๋ซ่วงรวบรวมพวกเขามาได้อย่างไร.
ในจิวเทียน,สามารถทำได้ทุกอย่างขอเพียงร่ำรวยเพียงพอ.
สามารถจ้างได้แม้แต่เทพสวรรค์ขั้นสุดท้ายปลาย?
แน่นอน,แม้แต่จ้าวพิภพก็ไม่มีปัญหา.
กระนั้นระดับจ้าวพิภพ,ถือว่าจ้างมาได้ยากอย่างที่สุด,นอกจากนี้ยังมีราคาสูงมาก.
นอกจากนี้ระดับจ้าวพิภพยังมีอยู่น้อยมากอีกด้วย.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเห็นยอดฝีมือของโรงเตี้ยมอู๋ซ่วงหลายร้อยคนออกมาเต็มไปหมด.
จึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“แค่นี้รึ?”
แม้นว่าจะมีร้อยกว่าคน,ทว่าแข็งแกร่งที่สุด,เพียงแค่เทพสวรรค์ขั้นต้นเท่านั้น.
นอกจากนี้ยังมีเทพสวรรค์ขั้นต้นเพียงแค่คนเดียว.
กล่าวตามจริง.
ยอดฝีมือระดับเทพสวรรค์,ก็ถือว่าเป็นหนึ่งกลุ่มอิทธิพลแล้ว,นอกจากนี้พวกเขาส่วนมากมักจะเป็นระดับบรรพชนชรา,แม้แต่ในสุดยอดกลุ่มอิทธิพลเองก็ต้องเก็บพวกเขาไว้ เพื่อขยายสาขาส่งพวกเขาไปดูแลพื้นที่ต่าง ๆ.
เหมือนกับนิกายกระบี่กุยหยวน,บรรพชนชราฉิวเยว่.
ดังนั้นระดับเทพสวรรค์จึงหาไม่ง่ายเช่นกัน.
เวลานี้ต่อหน้าวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ระดับเทพสวรรค์,จะมีมากมายเท่าไหร่นั้น.
บอกได้เลยว่า มันไม่พอ.
หลินเฟิงที่ได้ยินคำพูดแค่นี้ก็ใบหน้ามืดครึ้ม,“หักขาพวกมันทั้งหมด แล้วโยนมันออกไปซะ.”
เทพสวรรค์ขั้นต้นที่ก้าวออกไป,ยืนประจันหน้าวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ.
เอ่ยออกมาว่า“เชิญ!”
ในเวลานั้นเขาก็ชี้นิ้วออกไปด้านหน้า.
โจมตีไปยังวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ.
“ดัชนีไร้สวรรค์!”
“ดัชนีไร้สวรรค์,นั่นคือทักษะพิเศษของจ้าวไร้สวรรค์ในจิวเทียน.”
บางคนได้เผยความประหลาดใจออกมา.
จ้าวไร้สวรรค์,ถือว่าเป็นหนึ่งคนที่มีชื่อเสียง.
โรงเตี้ยมอู๋ซ่วงมียอดฝีมือเช่นนี้ด้วยรึ?
เจียงติงที่เห็นศิษย์จ้าวไร้ไร้สวรรค์ รับใช้โรงเตี้ยมอู๋ซ่วงก็เผยความประหลาดใจออกมาเช่นกัน.
ต้องไม่ลืมว่าชื่อเสียงของจ้าวไร้สวรรค์ในจิวเทียนนับว่ามีไม่น้อย.
อย่างไรก็ตาม,ขณะที่ศิษย์ของจ้าวไร้สวรรค์จะโจมตีวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ที่ด้านหน้าปรากฏหมัดของใครที่ต่อยออกมา.
คนที่ก้าวออกมาก็คือหวงจิวนั่นเอง.
ตูมมม
ศิษย์จ้าวไร้สวรรค์ที่ถูกหมัดหวงจิวกระเด็นออกไป,ร่างกายที่หลุดลอยแทบไปออกไปนอนกองบนถนนด้านนอก.
ศิษย์จ้าวไร้สวรรค์,แม้นว่าจะไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก,ทว่าดัชนีจ้าวไร้สวรรค์นั้นแข็งแกร่งมาก,ทว่าร่างของหวงจิวคือฟินิกซ์อมตะทองคำ,เรื่องพลังต่อสู้,เหนือกว่าเทพสวรรค์ขั้นกลางหรือแม้แต่ขั้นกลางปลายด้วยซ้ำ,การจะป้องกันดัชนีจ้าวไร้สวรรค์นั้นเป็นเรื่องง่าย ๆ.
หวงจิวจ้องมองฝ่ายตรงข้าม,เอ่ยอย่างไร้อารมณ์,“เจ้าไม่คู่ควรกับท่านเสี่ยวจิน,ชนะข้าได้ค่อยมากร่าง.”
ทุกคนที่ตื่นตะลึง.
“คนผู้นี้มีระดับเทพสวรรค์ขั้นต้น.”
“ทว่ากายเนื้อนั่น,คือสุดยอสูรเทวะหรือไม่?”
ภายในโรงเตี้ยม,ผู้เยาว์คนหนึ่งที่ถือพัดหยกเอ่ยอุทาน.
กู่หลินเฟิงที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เปิดค่ายกลเทวะสุสานสวรรค์!”
สิ้นเสียงของกู่หลินเฟิง,ทันใดนั้นบนท้องฟ้าโรงเตี้ยมอู๋ซ่วง,ปรากฏแผนผังขนาดยักษ์,ส่องแสว่างวับวาวส่งเสียงโหยหวนบ้าคลั่ง.
“ค่ายกลเทวะสุสานสวรรค์! ตั้งแต่ก่อสร้างโรงเตี้ยมอู๋ซ่วง,ท่านกู่กั้วหยวนได้ร่วมมือกับยอดฝีมือเทพสวรรค์ขั้นปลายท้ายหลายสิบคนร่วมกันสร้างค่ายกลดังกล่าวนี้ขึ้นมา!”
“ด้วยค่ายกลนี้,เมื่อเปิดใช้งาน,ถึงจะเป็นเทพสวรรค์ชั้นปลายท้ายก็ไม่อาจต้านทานได้!”
อย่างไรก็ตาม,เมื่อพลังของค่ายกลเทวะสุสานสวรรค์กำลังจะโจมตีมายังพวกลู่อี้ผิง,ทันใดนั้นลู่อี้ผิงก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า.
ตูมมมมมมมม
เพียงแค่กวาดตามองเท่านั้น,ค่ายกลเทวะสุสานสวรรค์ก็ระเบิดออกมาเสียงดัง,แสงสีสะเก็ดเพลิงที่แตกกระจายเป็นดอกไม้ไฟ,ส่องสว่างไปทั่วเมืองเสวียนกู่.
ทุกคนที่ยืนตะลึงตาค้าง.
กู่หลินเฟิงที่ยืนอ้าปากค้างเช่นกัน.
เกิดอะไรขึ้น?
ค่ายกลเทวะสุสานสวรรค์ระเบิดเองอย่างงั้นรึ?
เรื่องเช่นนี้มันประหลาดเกินไปแล้ว.
แม้นว่าลู่อี้ผิงจะมองขึ้นไปเมื่อครู่นี้,ทว่าไม่มีใครคิดว่ามันจะเกี่ยวข้องกับลู่อี้ผิงแต่อย่างใด.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ยกมือขึ้นทันที,ก่อนที่จะคว้าดึงร่างของกู่หลินเฟิงขึ้น.
“หักขาพวกเรารึ?”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ย,พร้อมกับกุมศีรษะอีกฝ่ายเหวี่ยงใส่พื้น.
ปัง!
จากนั้นขาทั้งสองข้างของกู่หลินเฟิงที่ห้อยต่องแต่งไปในทันที.
เจียงถิง,เหยี่ยนหรูอวิ๋นและคนอื่น ๆ ที่อ้าปากค้าง.
“อ๊ากกก!”
เสียงของกู่หลินเฟิงที่ร้องโหยหวนไปในทันที.
“คุณชายหลินเฟิง!”ศิษย์จ้าวไร้สวรรค์ที่ตกใจโกรธเกรี้ยว,พุ่งเข้าหาวัวกะทิงมังกรเขาทองคำ,ส่วนยอดฝีมือคนอื่น ๆ ที่ได้สติก็ลงมือเช่นกัน.
หวงจิวที่ขวางศิษย์จ้าวไร้สวรรค์,ส่วนเห่าผีที่ขวางกั้นยอดฝีมือคนอื่น ๆ.
กล่าวได้ว่ายอดฝีมือผู้คุ้มกัน คนอื่น ๆแข็งแกร่งสุดก็เพียงเทพแท้จริง,จึงไม่อาจสู้กับเห่าผีได้.
ลู่อี้ผิงที่ยกมือดูดึงร่างกู่หลินเฟิงมา,พร้อมกับค้นวิญญาณอีกฝ่ายทันที.
จากความทรงจำฝ่ายตรงข้าม,เฒ่าแก่ร้านขายของเก่าแห่งนี้,ถูกกู่หลินเฟิงบังคับซื้อ,นอกจากนี้เถ้าแก่ร้านเดิม,ยังถูกกู่หลินเฟิงสังหารอีกด้วย!