Chapter 126 Your life, I wanted
你的命,我要了(二更)
ฟู่เฉาจ้องมองฉู่ถงที่ร่างกายแผ่ปราณกระบี่ออกมา,เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ก็ดี,หลายปีมานี้ไม่ได้ลงมือเลย,วันนี้,ข้าจะทำให้วิถีเทพกู่ฉินปรากฏสู่โลกหล้าอีกครั้ง!”
“ให้ผู้คนทั่วโลกได้เปิดหูเปิดตากันอีก!”
กล่าวจบ,เสื้อผ้าของเขาที่ยังคงสงบ,แต่แรงกดดันที่พุ่งทยานท้องฟ้าแล้ว,ราวกับขุนเขายักษ์ที่ตั้งตระหง่าน,แรงกดดันที่ซัดสาดกวาดม้วนฝุ่นตลบไปทั่ว.
สวีเฉี่ยวหยิน,เหออี้ต้องถอยหลังออกมาไกล.
กงอี้ฟ่านและบรรพชนชราคนอื่น ๆ เองก็ถอยห่างออกมาไกล.
เหล่าผู้ฝึกตนรอบ ๆ แทบทุกคนต่างก็วิ่งหลบฉากไปยังพื้นที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันชีวิตของตัวเอง.
เวลานี้ทั่วร่างของฟู่เฉาที่ปลดปล่อยพายุสายฟ้าที่มากล้นออกมา,เมฆสายฟ้าที่ปกคลุมหนาแน่นไปหมด,พายุเฮอริเคนมากมายนับไม่ถ้วนหมุนวนรอบร่างกาย,เสียงหวึ่ง ๆ,ท่วงทำนองตนตรีกู่ฉินที่ปรากฏขึ้นรอบ ๆ.
ไม่จำเป็นต้องมีกู่ฉิน.
อย่างไรก็ตามมีอักขระดนตรีกู่ฉินที่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าปกคลุมทั้งสวรรค์และปฐพี.
นี่ไม่ใช่ดินแดนเซียนกู่ฉินทั่วไปอย่างแน่นอน.
ส่วนทางฝั่งของฉู่ถงร่างกายแผ่ปราณกระบี่ออกมา,ปราณกระบี่ที่อ่อนนุ่มเหมือนกับพายุหิมะที่เพิ่มทวีขึ้นเอื่อย ๆ เฉื่อย ๆ,ทว่ากับหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ,สาดซัดก่อรูปกลายเป็นคลื่นอสุรกายที่ค่อย ๆ คืบคลานสู่พื้นโลกกำเนิดพายุหิมะที่น่าหวาดกลัวขึ้น.
ปราณกระบี่ที่ส่งเสียงออกมาเล็กน้อย,เสียงที่เคล้าคลุกกับกลมกลืนรวมเข้ากับสวรรค์และปฐพี.
อสุรกายนับหมื่นที่กำลังแย่งกันปรากฏสู่โลกหล้า.
เสียงของสายฟ้ามากมายนับสิบล้านสายที่แตกกระเซ็นแผ่ออกไป.
สายธาราที่เลื่อนไหลจากเทือกเขาใหญ่ยักษ์.
ในมือของฉู่ถงมีกระบี่สองเล่มเล่ม หล่มหนึ่งสีดำเล่มหนึ่งสีแดง,เวลานี้เปล่งรัศมีแสงสว่างเจิดจรัส.
ทั้งสองที่ประจันหน้ากันบนท้องฟ้า,ร่างกายที่แผ่รัศมีแสงกวาดออกไปทั่วทุกทิศทุกทาง,คลื่นพลังที่มองไม่เห็นปะทะกันดังกึกก้อง,ห้วงมิติที่แตกเป็นทางเป็นระยะ ๆ.
แม้นว่าทั้งสองจะยังไม่เริ่มโจมตี,ทว่าคลื่นอากาศก็ปะทะกันอย่างรุนแรง,ทำให้หัวใจของยอดฝีมือรอบ ๆ สั่นไปมา,แม้แต่เฟิงเหวิน,กงอี้ฟ่าน,แม้นว่าจะเป็นจ้าวพิภพขั้นต้นหัวใจของพวกเขาก็สั่นไปมาโดยไม่ได้ตั้งใจ.
“วิถีกู่ฉินของฟู่เฉา,ก้าวข้ามเซียนกู่ฉินแล้วอย่างงั้นรึ?”กงอี้ฟ่านเอ่ยเชิงไม่อยากยอมรับ.
เฟิงเฉินส่ายหน้าไปมา,“เขตแดนเซียนกู่ฉิน,ตอนนี้คือจุดสุงสุด,จะสามารถข้ามผ่านได้ง่าย ๆ ไปได้อย่างไร.”กล่าวจบเขาก็เผยความประหลาดใจ“ทว่าวิถีกู่ฉินนี้,เกรงว่าจะข้ามผ่านเขตแดนเซียนกู่ฉินได้แล้วเป็นแน่!”
ในเวลานั้น,ฟู่เฉาที่ยื่นมือออกไปด้านหน้า,กลุ่มมวลอากาศที่ให้กำเนิดเสียงกู่ฉินได้พุ่งทะลวงท้องฟ้าเคลื่อนที่เข้าปะทะกับคลื่นอสุรกายของฉู่ถง.
ท่วงทำนองกู่ฉิน,เหมือนกับเข็มที่เล็กกระจิดริดมหาศาล
มันได้ทะลวงคลื่นสัตว์เทวะยุคโบราณ.
เป็นดั่งคมดาบที่คมกล้า.
ฉีกสะบั้นห้วงมิติตัดแยกห้วงอากาศ ด้านหน้าฉีกขาดเป็นทาง.
เสียงกู่ฉินที่เต็มไปด้วยพลัง.
คลื่นอสุรกายที่พุ่งมาแทบจะแหลกสลายถูกตัดแบ่งออกเป็นชิ้น ๆ.
“วิถีกู่ฉินบรรพชนเทพกู่ฉิน,เหนือกว่าข้าไปไกลมากนัก.”สวีเฉี่ยวหยินอุทาน,ใบหน้าเต็มไปด้วยความเคารพ.
“เช่นนั้นที่เจ้าคนแซ่ลู่เอ่ยว่าเหนือเซียนกู่ฉิน,ยังมีจักรพรรดิกู่ฉิน,บรรพชนกู่ฉินนั่นก็เป็นจริงรึ?.”เหออี้เอ่ยปาก.“วิถีกู่ฉินของบรรพชนเทพกู่ฉิน,เกรงว่าจะไปถึงจักรพรรดิกู่ฉิน,หรือแม้แต่บรรพชนกู่ฉินแล้ว”
ทุกคนที่เอยอุทาน,ฉู่ถงที่สะบัดกระบี่ฟันออกไป.
กระบี่ของฉู่ถง,เปล่งรัศมีแสงสีดำแดงพุ่งออกไป,พุ่งทะลวงไปยังท่วงทำนองกู่ฉินที่พุ่งมา.
“เป็นปราณกระบี่ที่ทรงพลังมาก! วิถีกระบี่ของท่านฉู่ถง,ไม่ธรรมดา,เกรงว่าคงก้าวไปถึงเขตแดนหมื่นสัจธรรมเรียบร้อยแล้วอย่างงั้นรึ?”ที่ไกลออกมา,เหล่าเจ้านิกายต่างก็เอ่ยอุทาน.
เหนือกระบี่แห่งการสร้าง,คือสัจธรรมกระบี่,เหนือสัจธรรมกระบี่คือเขตแดนหมื่นสัจธรรมกระบี่.
เขตแดนหมื่นสัจธรรมกระบี่,ในจิวเทียนนับตั้งแต่ยุคโบราณ,มีไม่กี่คนที่ก้าวไปถึง.
“ควรจะเป็นเช่นนั้น!”บรรพชนชราที่ก้าวไปบนวิถีกระบี่ดินแดนซั่งเซิ่งเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“นอกจากนี้ไม่ใช่แค่ดินแดนหมื่นสัจธรรมขั้นต้นด้วย.”
เห็นปราณกระบี่ของฉู่ถงที่สะบั้นท่วงทำนองกู่ฉิน,ทว่าท่วงทำนองกู่ฉินกับเพียงแค่สั่นไปมาไม่หยุดหย่อน.
พลังสองสายที่ปะทะกันผลักดันกันไปมาเกิดเสียงดังกึกก้อง,หลังจากนั้นก็แตกกระจายกระเด็นออกไปทุกทิศทุกทาง.
ปราณกระบี่ที่กระฉอกกระเด็นล่วงหล่นลงบนยอดเขาสูง,ทำให้ยอดเขาดังกล่าวขาดสะบั้นกลายเป็นเพียงเนิ่นเขาไปในทันที.
ส่วนท่วงทำนองกู่ฉินที่ล่วงหล่นลงบนพื้น,พื้นดินที่แตกเป็นทางกลายเป็นแอ่งขนาดใหญ่ขึ้นมา.
จากนั้นท่วงทำนองกู่ฉินและปราณกระบี่ก็สลายหายไป.
ฟู่เฉาที่จ้องมองฉู่ถง,เอ่ยอย่างไม่แยแส“เขตแดนหมื่นสัจธรรมกระบี่,น่าเสียดายที่เจ้ายังไปไม่ถึงจ้าวพิภพขั้นปลาย,ดังนั้น,วันนี้เจ้าจึงต้องพ่ายแพ้.”
จ้าวพิภพต้องมีพลังพิภพ 30 ล้านพลังต่อสู้,จึงจะกลายเป็นจ้าวพิภพขั้นปลาย.
ส่วนฉู่ถงนั้นมี 29 ล้านพลังต่อสู้.
กล่าวได้ว่าฟู่เฉานั้นมีพลังจ้าวพิภพ 40 ล้านพลังต่อสู้เหนือกว่า,ในมือของเขาที่โบกไปมา,กำเนิดเสียงกู่ฉินจากสวรรค์และปฐพี,ทุกหนทุกแห่งได้ปรากฏอสุรกายใหญ่ยักษ์กำลังพุ่งเข้าหาฉู่ถง.
การโจมตีครั้งนี้,คลื่นพลังกู่ฉินที่แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก.
นอกจากนี้ฟู่เฉายังใช้พลังจ้าวพิภพทั้ง 40 ล้านออกมาทั้งหมด.
เสียงกู่ฉินที่ไหลบ่ากระจายออกไปปกคลุมท้องฟ้า.
ภายในจิตใจของทุกคน,ได้ยินเสียงของกู่ฉินที่ก้องไปมาไม่หยุดหย่อน.
ทั่วร่างของฉู่ถงปรากฏปราณกระบี่หมุนวน,ก่อนที่จะฟาดฟันกระบี่ในมือของเขาออกไป,ปราณกระบี่คู่ที่ฉู่ถงปล่อยออกไป.
ร่างของฉู่ถงเองก็หายไปท่ามกลางสวรรค์และปฐพี.
ทั่วท้องฟ้าที่เหลือเพียงปราณกระบี่และเสียงกู่ฉิน.
ติ๊ง!
ตูมมมมมมมมมมมม
เสียงที่ดังก้องกังวานไปทั่วท้องฟ้า.
เสียงปะทะกันของปราณกระบี่และกู่ฉินที่ทำให้สวรรค์และปฐพีแหลกสลาย.
แสงสว่างที่เจิดจรัส,เกิดระเบิดต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน.
ผ่านไปนานเหมือนกัน,ปราณกระบี่และเสียงของกู่ฉินได้หายไป,เห็นเพียงแค่ฉู่ถงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม,ขณะฉู่ถงยืนนิ่ง,ผ่านไปเล็กน้อย ท้ายที่สุดก็มีสายโลหิตไหลออกมาจากมุมปาก.
ฉู่ถงที่ยืนนิ่งท่ามกลางพื้นที่รอบ ๆ ที่พังทลายเป็นเศษซาก.
เฟิงเหวิน,กงอี้ฟ่านและคนอื่น ๆ ที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
เห็นชัดเจนว่าการปะทะก่อนหน้านี้,ฉู่ถงได้รับบาดเจ็บ.
ในเวลานี้เหล่าผู้ฝึกตนของนิกายกระบี่กุยหยวนที่หัวใจจมลึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที.
แม้นว่าฉู่ถงจะยังไม่แพ้,ทว่าหากยังต่อสู้ต่อไป,จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน,ฉู่ถงที่ยืนนิ่ง,เผยยิ้มที่ขมขื่นออกมา,แม้นว่าเขาจะก้าวไปถึงขอบเขตหมื่นสัจธรรมกระบี่,ทว่ากับไม่อาจเทียบได้กับฟู่เฉา,อีกอย่างฟู่เฉาที่ตัดผ่านไปถึงระดับจ้าวพิภพขั้นปลายแล้วด้วย.
แม้นว่าเขาจะเป็นจ้าวพิภพขั้นกลาง,ทว่าพลังพิภพของทั้งสองก็ห่างกันกว่า 10 ล้านพลังต่อสู้.
ฟู่เฉาที่จ้องมองฉู่ถงด้วยความเย็นชา“ฉู่ถง,ข้าขอถามเจ้าอีกครั้ง,จะส่งกู่ฉินบนผืนหิมะออกมาหรือไม่? จะยอมส่งกู่ฉินมังกรทมิฬมาใหม?”
“ข้าให้เวลาเจ้าหนึ่งนาทีคิดให้ดีก่อนที่จะตอบ!”
กล่าวจบ,เขากวาดตามองดูเฟิงเหวิน,กงอี้ฟ่านและคนอื่น ๆ“หลังจากหนึ่งนาที,หากไม่ส่งมา,พวกเขาต้องตาย! เจ้าต้องการกู่ฉินหรือชีวิตพวกเขาล่ะ?!”
เฟิงเหวิน,กงอี้ฟ่านและบรรพชนชรานิกายกุยหยวนที่ตกใจและโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.
ขณะนั้นฉู่ถงที่โกรธเกรี้ยวไม่น้อย ขณะจะเอ่ยปากออกมา,ทันใดนั้นบนขอบของท้องฟ้าไกล,ปรากฏเสียงแผ่ว ๆ ดังขึ้น“ชีวิตพวกเขา,เจ้าเอาไปไม่ได้! แต่ชีวิตเจ้า,ข้าเอาไปเอง!”
ทุกคนที่ตกใจไปตาม ๆ กัน.
ในเวลานั้น,จากลานเมืองหู่ มนทลเฟิงเหล่ย,ลู่อี้ผิงที่ยกมือขึ้นปะทับลงไปบนความว่างเปล่า,ห้วงมิติที่ขาดออกเป็นส่วน ๆ,พลังที่เคลื่อนที่ผ่านห้วงมิติ,ข้ามผ่านพื้นที่ไกลแสนไกล,ก่อนที่จะผุดออกมาจากความว่างเปล่าบนท้องฟ้านิกายกุยหยวน,ปรากฏเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่,เป็นฝ่ามืออรหันต์สีทอง,แสงพุทธะที่ส่องสว่างเจิดจ้า,กำราบทั่วทิศ.
“อรหันต์พิโรธ!”เสียงที่ก้องกังวานไปทั่วท้องฟ้า.
เทพกู่ฉินฟู่เฉาที่ผวา,ต้องการจะหนี,ทว่ากับรับรู้ว่าภายใต้กลิ่นอายของฝ่ามือดังกล่าว,คาดไม่ถึง เขาไม่อาจขยับตัวได้เลย,ไม่แม้แต่ขยับนิ้วได้ด้วยซ้ำ.
ฝ่ามืออรหันต์ที่ยังล่วงหล่นลงมาไม่ถึง,พลังที่น่าพรั่นพรึง,ทำให้ชุดของเขาระเบิด,เกราะเทวะที่เป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะชั้นพิเศษแตกสลายกลายเป็นผงหายไปทั้งหมด,เปื่อยยุ่ยยังกับกระดาษแช่น้ำ!
ตูมมมมมมม!
ฟู่เฉพาที่กลายเป็นสิ้นหวังในทันที.
เทือกเขารอบ ๆ ที่พังทลายลง.
กลายเป็นผุยผงไปทั้งหมด.
พลังที่มากล้นยังคงกดทับลงมาไม่หยุด.
พื้นที่ยอดเขาที่ถูกเปลี่ยนสภาพภูมิประเทศไปในบัดดล.
.
ยอดเขาในรัศมีหลายร้อยลี้ได้พังทลายกลายเป็นฝุ่นผง ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นพื้นที่ราบแทบจะทันที.
ทว่าใจกลางของพื้นที่ราบ,ปรากฏหลุมลึกรูปฝ่ามือที่ลึกสุดหยั่ง.