Chapter 122 Do not keep the living witness( three)
不要留活口(三更)
หนึ่งคืนผ่านไป.
ดวงตะวันทอแสง.
ลู่อี้ผิงที่หยุดบำเพ็ญ,พร้อมกับเก็บหยกเจาหัวเข้าสู่ร่างกาย.
เขาก้าวออกมาจากด้านใน,เห็นฉู่ถงที่ได้มารอ,โค้งคำนับเอ่ยต่อลู่อี้ผิง“ซือจุ้น,เห่าผีเผ่าอสูรสวรรค์ที่ท่านให้หา ได้ข้อมูลมาแล้ว.”
“เขาอยู่ที่ใหน?”ลู่อี้ผิงที่รู้สึกดีใจ.
ท้ายที่สุดก็ได้ข่าว.
“เห่าผีอยู่ในดินแดนซั่งเซิง.”ฉู่ถงเร่งรีบเอ่ย“ตอนนี้เขาอยู่ในเมืองหูมนทลเฟิงเหล่ย.”กล่าวถึงตรงนี้ก็หยุดและเอ่ยออกมาว่า“ตอนนี้ตามข่าวที่พวกเราได้รับมา,เพราะว่าเขามีแผนผังเทพสังหารของนิกายเทพสังหาร,ดังนั้นจึงถูกกลุ่มอิทธิพลมากมายไล่ล่าแย่งชิง.”
ลู่อี้ผิงที่เผยความประหลาดใจออกมา.
นิกายเทพสังหาร ,นี่คือหนึ่งกลุ่มอิทธิพลที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากในอดีต.
“ข้าจะไปเมืองหู่มนทลเฟิงเหล่ยตอนนี้.”ลู่อี้ผิงเอ่ยออกมาทันที.
“ข้าจะไปกับซือจุ้นด้วย.”ฉู่ถงเอ่ย.
“ไม่จำเป็น,เจ้าอยู่ที่นิกายกุยหยวนนี่ล่ะ,ข้าและเสี่ยวจินก็พอแล้ว.”ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา,ก่อนที่จะเรียกวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,บินตัดอากาศมุ่งหน้าไปยังเป้าหมาย.
พริบตาเดียวก็หายลับขอบฟ้าแล้ว.
......
มนทลเฟิงเหล่ย.
เมืองหู่.
ในสวนขนาดเล็กที่มีวัชพืชขึ้นเต็มไปหมด,เห่าผีที่นั่งสมาธิ,บำเพ็ญโคจรพลัง,หมอกสีฟ้าที่แผ่ออกไปทั่วร่างกายช้า ๆ.
ที่ด้านข้าง,มีชายหนุ่มที่จ้องมองอีกฝ่ายด้วยท่าทางกระวนกระวาย.
เด็กหนุ่มคนนี้ก็คือศิษย์นามซูอี้.
ทันใดนั้น,เห่าอี้ก็พ่นกระอักโลหิตสีดำจำนวนมากออกมา.
“อาจารย์,ท่านเป็นอย่างไรบ้าง.”ผู้เยาว์ซูอี้เห็นก็เร่งรีบก้าวเข้าไปหา.
เห่าผีที่ปาดโลหิตที่มุมปากเอ่ออกมาว่า“ไม่ดีนัก.”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หอวิญญาณโลหิตเฟิงหมิงเต๋อ,เจ้าสารเลวชาติชั่วนั่น,หากไม่เพราะว่าข้าช่วยมันในอดีต,เขาคงถูกมังกรปิศาจสังหารไปแล้ว,ตอนนี้กับทรยศข้า,เผยที่อยู่ของข้าให้กับคนอื่น.”
กล่าวจบ,เขาก็นำแหวนมิติออกมา,เอ่ยต่อศิษย์ซูอี้.“ในแหวนมิตินี้,มีสมบัติที่ข้าสะสมมาหลายปี,และยังมีผังเทพสังหารของนิกายเทพสังหารที่ล่มสลายไปด้วย.”
“เจ้านำมันออกไปจากจิวเทียน,แล้วซ่อนตัวอยู่ในทวีปเหิงหยวนซะ.”
ซุนอี้ได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็ส่ายหน้าไปมา“ข้าไม่ไป.”
เห่าผีที่จ้องมองศิษย์ซูอี้,ถอนหายใจ“ตายคนเดียว,ดีกว่าตายไปพร้อมกัน,เจ้านำผังสังหารเทพไปยังพิภพเหิงหยวน,พวกเขาไม่ควรหาเจ้าพบ,หลังจากนี้เจ้าค่อย ๆ ศึกษาวิชาลับเทพสังหารและค่ายกลเทพสังหารจากผังเทพสังหารนี้,ฝึกฝนให้ดี...”
“ค่อยกลับมาล้างแค้นให้กับอาจารย์.”
ในเวลานั้น.
เสียงแค่นดูแคลนที่ดังก้อง.
บนอากาศปรากฏร่างหลายร่างขึ้น.
“นิกายวายุทมิฬ!”
เห่าผีที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
คนที่มาเป็นใคร?
เป็นบรรพชนฉีอี้ฟ่านนิกายวายุทมิฬ,เทพสวรรค์ขั้นต้นปลาย!
นิกายวายุทมิฬมีเทพสวรรค์สองคน.
นอกจากฉีอี้ฟ่าน?
ยอดฝีมือเทพสวรรค์ของนิกายวายุทมิฬอีกคนก็มาด้วยอย่างงั้นรึ?
ในเวลานั้น,ร่างอีกสองสามร่างก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า.
เป็นใครอีกล่ะ?
บรรพชนชราฉีอี้ฟ่านนิกายวายุทมิฬขมวดคิ้วไปมา.
อีกคนแล้ว?
เป็นบรรพชนชราตระกูลเถา,เถาไห่โป่และคนของตระกูลเถา.
เถาไห่โปเห็นฉีอี้ฟ่าน,ก็เผยท่าทางประหลาด,ใบหน้าที่ยิ้มมิคล้ายยิ้ม“แท้จริงเป็นสหายฉีอี้ฟ่านนี่เอง,ดูเหมือนว่าสายข่าวของสหายฉีอี้ห่าน,จะรวดเร็วจริง ๆ นะ.”
“ถึงกับมาถึงก่อนข้าก้าวหนึ่ง.”
ฉีอี้ฟ่านที่หัวเราะหึหึ เผยยิ้ม“เจ้าเองก็ด้วย.”
ก่อนหน้านี้.
ทั้งสองได้ร่วมมือกันทำลายตระกูลฟ่าน,เป็นพันธะมิตรชั่วคราวเท่านั้น,ทว่าความเป็นจริงกับไม่ได้มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน.
หลังจากนั้นก็มีกลุ่มอิทธิพลกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าปรากฏขึ้น.
กลุ่มอิทธิพลเหล่านี้,ล้วนแต่เป็นกลุ่มอิทธิพลชั้นหนึ่ง.
ความแข็งแกร่งของนิกายวายุทมิฬและตระกูลเถา,ไม่ได้มากเกินกว่ากันเท่าใดนัก.
หลังจากที่มีกลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ มาถึง.
พวกเขาก็ล้อมรอบลานที่พักแห่งนี้เอาไว้.
อย่างไรก้ตาม,พวกเขาต่างก็จับจ้องมองกันและกัน.
ไม่มีใครกล้าเริ่มเป็นคนแรก.
หลังจากผ่านไปชั่วครู่หนึ่ง,ฉีอี้ฟ่านก็จ้องมองเห่าผี.
แค่นเสียงเย็นชา“ส่งผังเทพสังหารมาซะ!”
เห่าผีที่กวาดตามองยอดฝีมือรอบ ๆ กว่าสามสิบคน.
ใบหน้ากลายเป็นมืดครึ้ม.
มากกว่าสามสิบคนเลยรึ?
เทพสวรรค์เก้าคน,ส่วนคนอื่น ๆ แม้นว่าจะไม่ใช่เทพสวรรค์,ก็เป็นเทพแท้จริงขั้นปลายหรือขั้นปลายสุดท้าย.
ในเวลานี้เขารู้สึกว่าชีวิตของเขากำลังจบสิ้นแล้ว.
นึกถึงเรื่องราวชีวิตที่ใช้ในจิวเทียนหลายปีมานี้,ก็รู้สึกเศร้าสลด.
“ส่งผังเทพสังหารมาซะ,เจ้าสามารถรักษาชีวิตไว้ได้.”บรรพชนชราตระกูลเถา,เถาไห่โปเอ่ยอย่างไม่แยแส.
เห่าผีที่จ้องมองคนรอบ ๆ,เผยยิ้มอย่างเศร้าใจ,แผนผังปรากฏขึ้นในมือเขา,ดูแล้วเหมือนว่าจะหลอมกลั่นขึ้นมาจากสัตว์เทวะบางชนิด.
เขาจ้องมองคนทุกคน“นี่คือผังสังการเทพ!”กล่าวจบ,เขาก็โยนมันขึ้นไปบนท้องฟ้า.
ฉีอี้ฟ่าน,เถาไห่โปและคนอื่น ๆ ที่ตื่นเต้นดีใจ,พุ่งตัดอากาศ,ตรงไปยังผังสังหารเทพทันที.
เห็นฉีอี้ฟ่าน เถาไห่โปและคนอื่น ๆ ที่กำลังแย่งชิงผังเทพสังหาร,เห่าผีก็คว้าศิษย์ซูอี้พุ่งตัดอากาศออกไป,ทว่าขณะทั้งสองกำลังจะออกไป,ทันใดนั้นก็มีปราณกระบี่ตัดอากาศฟันลงมาทันที.
เห่าผีที่ใบหน้าเปลี่ยนสี,เร่งรีบถอยห่างออกมา,ทว่าช้าไปก้าวหนึ่ง.
ริ้วแสงกระบี่ดังกล่าว.
ได้ฟันมายังแขนซ้ายของเขากระเด็นขาดหล่นลงบนพื้น.
“อาจารย์!”ซูอี้เอ่ยอุทานด้วยความตกใจ.
ในเวลานั้น,เสียงร้องโหยหวนก็ดังก้อง,ทั้งสองที่จ้องมองขึ้นไปเห็นฉีอี้ฟ่าน,เถาไห่โปและคนอื่น ๆ ที่แย่งชิงผังเทพสังหาร,ได้รับบาดเจ็บจากปราณกระบี่,ล่วงหล่นไปคนละทิศคนละทาง.
เหล่าคนที่แย่งชิงผังเทพสังหารเหลือเพียงคนเดียว,เป็นคนในชุดสีขาว.
เหล่ายอดฝีมือต่างก็จ้องมองอักษรที่ปักบนเสื้อ“จวิน” เห่าผี,ฉีอี้ฟ่าน,เถาไป่โปและคนอื่น ๆ ต่างก็อุทานออมกาด้วยความตกใจ.
“ตระกูลจวิน!”
คนที่มา,เป็นยอดฝีมือตระกูลจวิน.
ผู้นำในครั้งนี้ก็คือประมุขน้อยตระกูลจวิน,จวินรุ่ย,ที่ด้านหลังมีบรรพชนชราเทพสวรรค์หกคน,นอกจากนี้ยังเป็นเทพสวรรค์ขั้นสุดท้ายปลายอีกด้วย.
ผังสังหารเทพที่อยู่ในมือของประมุขน้อยตระกูลจวิน,เขากวาดตามองผังสังหารเทพ,มีอักขระขนาดเล็กมากมายเต็มไปหมด.
กล่าวได้ว่าบนผังดังกล่าวนั้นเต็มไปด้วยความลึกล้ำไม่ธรรมดา.
เขาส่งมันให้กับยอดฝีมือตระกูลจวินด้านหลังเอ่ยออกมาว่า“ลุงเฉิง,ดูสิว่ามันเป็นของจริงหรือไม่?”
บรรพชนชราตระกูลจวิน,จวินซินเฉิงที่รับแผนผัง,ตรวจสอบอย่างระมัดระวัง.
หลังจากตรวจสอบอย่างดี,จวินซินเฉิงก็พยักหน้า เอ่ยออกมาว่า“เป็นผังเทพสังหารของจริง.”
ฉีอี้ฟ่านก้าวไปด้านหน้า,ยกมือประสานด้วยรอยิ้ม“ผู้ยอดเยี่ยมคือประมุขน้อยตระกูลจวินงั้นรึ? พวกเราไม่มีเจตนา จะแย่งผังเทพสังหารกับตระกูลจวิน,เช่นนั้นขอลา.”
เถาไห่โปและคนอื่น ๆ ต่างก็ยกมือผสาน,เอ่ยกล่าวขอลาเช่นเดียวกัน.
“ขอลา?”ประมุขน้อยตระกูลจวินได้ยินคำพูดดังกล่าวก็แค่นเสียง“ข้าบอกแล้วรึ?ว่าจะปล่อยพวกเจ้าไป.”
ฉีอี้ฟ่าน,เถาไห่โปและคนอื่น ๆ ที่สัมผัสได้ถึงจิตสังหารของจวินรุ่ย,แต่ละคนที่ใบหน้าซีดเซียวไปตาม ๆ กัน.
ตระกูลจวินคิดที่จะทำลายหลักฐานทั้งหมดเลยอย่างงั้นรึ?
แม้แต่เห่าผี,ซูอี้ ทั้งสองยังตกใจหน้าเปลี่ยนสีเช่นกัน.
ประมุขน้อยตระกูลจวินที่นำแหสีทอง,โยนมันขึ้นไปบนท้องฟ้า,ก่อนที่มันจะส่องประกายแสงสดใส ปกคลุมไปทั่วพื้นที่รอบ ๆ ปิดกั้นพื้นที่ดังกล่าวเอาไว้อย่างสมบูรณ์.
“แหเรือนจำเทพสวรรค์!”ฉีอี้ฟ่านที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.
“ใช่แล้ว,แหเรือนจำเทพสวรรค์.”จวินรุ่ยเอ่ยเยาะ.“ในเมื่อรู้ว่านี่คือแหเรือนจำเทพสวรรค์,เจ้าควรรู้ว่ามันร้ายกาจขนาดใหน,มันกักขังปิดพื้นที่มิติรอบ ๆ นี้เอาไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว,พวกเจ้าเป็นไปไม่ได้ที่จะหนีออกไปได้.”
ทุกคนที่หัวใจจม รัดแน่นขึ้นมาทันที.
แหเรือนจำเทพสวรรค์,เป็นสิ่งประดิษฐ์ชั้นพิเศษของตระกูลจวิน,ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขาจะนำมันออกมา,ดูเหมือนว่าต้องการทำลายข้อมูลหลักฐานเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์.
“สังหารให้หมด,รีบจัดการให้เร็ว,อย่าเหลือพยานหลักฐานเอาไว้.”จวินรุ่ยเอ่ยสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
ยอดฝีมือทั้งหกของตระกูลจวิน,พุ่งตัดอากาศเข้าหาฉีอี้ฟ่าน,เห่าผีและคนอื่น ๆ ทันที.