ตอนที่แล้วChapter 121 Hao Bi whereabouts
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 123 Best also to return to Extinguishing God Chart to me

Chapter 122 Do not keep the living witness( three)


不要留活口(三更)

หนึ่งคืนผ่านไป.

ดวงตะวันทอแสง.

ลู่อี้ผิงที่หยุดบำเพ็ญ,พร้อมกับเก็บหยกเจาหัวเข้าสู่ร่างกาย.

เขาก้าวออกมาจากด้านใน,เห็นฉู่ถงที่ได้มารอ,โค้งคำนับเอ่ยต่อลู่อี้ผิง“ซือจุ้น,เห่าผีเผ่าอสูรสวรรค์ที่ท่านให้หา ได้ข้อมูลมาแล้ว.”

“เขาอยู่ที่ใหน?”ลู่อี้ผิงที่รู้สึกดีใจ.

ท้ายที่สุดก็ได้ข่าว.

“เห่าผีอยู่ในดินแดนซั่งเซิง.”ฉู่ถงเร่งรีบเอ่ย“ตอนนี้เขาอยู่ในเมืองหูมนทลเฟิงเหล่ย.”กล่าวถึงตรงนี้ก็หยุดและเอ่ยออกมาว่า“ตอนนี้ตามข่าวที่พวกเราได้รับมา,เพราะว่าเขามีแผนผังเทพสังหารของนิกายเทพสังหาร,ดังนั้นจึงถูกกลุ่มอิทธิพลมากมายไล่ล่าแย่งชิง.”

ลู่อี้ผิงที่เผยความประหลาดใจออกมา.

นิกายเทพสังหาร ,นี่คือหนึ่งกลุ่มอิทธิพลที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากในอดีต.

“ข้าจะไปเมืองหู่มนทลเฟิงเหล่ยตอนนี้.”ลู่อี้ผิงเอ่ยออกมาทันที.

“ข้าจะไปกับซือจุ้นด้วย.”ฉู่ถงเอ่ย.

“ไม่จำเป็น,เจ้าอยู่ที่นิกายกุยหยวนนี่ล่ะ,ข้าและเสี่ยวจินก็พอแล้ว.”ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา,ก่อนที่จะเรียกวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,บินตัดอากาศมุ่งหน้าไปยังเป้าหมาย.

พริบตาเดียวก็หายลับขอบฟ้าแล้ว.

......

มนทลเฟิงเหล่ย.

เมืองหู่.

ในสวนขนาดเล็กที่มีวัชพืชขึ้นเต็มไปหมด,เห่าผีที่นั่งสมาธิ,บำเพ็ญโคจรพลัง,หมอกสีฟ้าที่แผ่ออกไปทั่วร่างกายช้า ๆ.

ที่ด้านข้าง,มีชายหนุ่มที่จ้องมองอีกฝ่ายด้วยท่าทางกระวนกระวาย.

เด็กหนุ่มคนนี้ก็คือศิษย์นามซูอี้.

ทันใดนั้น,เห่าอี้ก็พ่นกระอักโลหิตสีดำจำนวนมากออกมา.

“อาจารย์,ท่านเป็นอย่างไรบ้าง.”ผู้เยาว์ซูอี้เห็นก็เร่งรีบก้าวเข้าไปหา.

เห่าผีที่ปาดโลหิตที่มุมปากเอ่ออกมาว่า“ไม่ดีนัก.”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หอวิญญาณโลหิตเฟิงหมิงเต๋อ,เจ้าสารเลวชาติชั่วนั่น,หากไม่เพราะว่าข้าช่วยมันในอดีต,เขาคงถูกมังกรปิศาจสังหารไปแล้ว,ตอนนี้กับทรยศข้า,เผยที่อยู่ของข้าให้กับคนอื่น.”

กล่าวจบ,เขาก็นำแหวนมิติออกมา,เอ่ยต่อศิษย์ซูอี้.“ในแหวนมิตินี้,มีสมบัติที่ข้าสะสมมาหลายปี,และยังมีผังเทพสังหารของนิกายเทพสังหารที่ล่มสลายไปด้วย.”

“เจ้านำมันออกไปจากจิวเทียน,แล้วซ่อนตัวอยู่ในทวีปเหิงหยวนซะ.”

ซุนอี้ได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็ส่ายหน้าไปมา“ข้าไม่ไป.”

เห่าผีที่จ้องมองศิษย์ซูอี้,ถอนหายใจ“ตายคนเดียว,ดีกว่าตายไปพร้อมกัน,เจ้านำผังสังหารเทพไปยังพิภพเหิงหยวน,พวกเขาไม่ควรหาเจ้าพบ,หลังจากนี้เจ้าค่อย ๆ ศึกษาวิชาลับเทพสังหารและค่ายกลเทพสังหารจากผังเทพสังหารนี้,ฝึกฝนให้ดี...”

“ค่อยกลับมาล้างแค้นให้กับอาจารย์.”

ในเวลานั้น.

เสียงแค่นดูแคลนที่ดังก้อง.

บนอากาศปรากฏร่างหลายร่างขึ้น.

“นิกายวายุทมิฬ!”

เห่าผีที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.

คนที่มาเป็นใคร?

เป็นบรรพชนฉีอี้ฟ่านนิกายวายุทมิฬ,เทพสวรรค์ขั้นต้นปลาย!

นิกายวายุทมิฬมีเทพสวรรค์สองคน.

นอกจากฉีอี้ฟ่าน?

ยอดฝีมือเทพสวรรค์ของนิกายวายุทมิฬอีกคนก็มาด้วยอย่างงั้นรึ?

ในเวลานั้น,ร่างอีกสองสามร่างก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า.

เป็นใครอีกล่ะ?

บรรพชนชราฉีอี้ฟ่านนิกายวายุทมิฬขมวดคิ้วไปมา.

อีกคนแล้ว?

เป็นบรรพชนชราตระกูลเถา,เถาไห่โป่และคนของตระกูลเถา.

เถาไห่โปเห็นฉีอี้ฟ่าน,ก็เผยท่าทางประหลาด,ใบหน้าที่ยิ้มมิคล้ายยิ้ม“แท้จริงเป็นสหายฉีอี้ฟ่านนี่เอง,ดูเหมือนว่าสายข่าวของสหายฉีอี้ห่าน,จะรวดเร็วจริง ๆ นะ.”

“ถึงกับมาถึงก่อนข้าก้าวหนึ่ง.”

ฉีอี้ฟ่านที่หัวเราะหึหึ เผยยิ้ม“เจ้าเองก็ด้วย.”

ก่อนหน้านี้.

ทั้งสองได้ร่วมมือกันทำลายตระกูลฟ่าน,เป็นพันธะมิตรชั่วคราวเท่านั้น,ทว่าความเป็นจริงกับไม่ได้มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน.

หลังจากนั้นก็มีกลุ่มอิทธิพลกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าปรากฏขึ้น.

กลุ่มอิทธิพลเหล่านี้,ล้วนแต่เป็นกลุ่มอิทธิพลชั้นหนึ่ง.

ความแข็งแกร่งของนิกายวายุทมิฬและตระกูลเถา,ไม่ได้มากเกินกว่ากันเท่าใดนัก.

หลังจากที่มีกลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ มาถึง.

พวกเขาก็ล้อมรอบลานที่พักแห่งนี้เอาไว้.

อย่างไรก้ตาม,พวกเขาต่างก็จับจ้องมองกันและกัน.

ไม่มีใครกล้าเริ่มเป็นคนแรก.

หลังจากผ่านไปชั่วครู่หนึ่ง,ฉีอี้ฟ่านก็จ้องมองเห่าผี.

แค่นเสียงเย็นชา“ส่งผังเทพสังหารมาซะ!”

เห่าผีที่กวาดตามองยอดฝีมือรอบ ๆ กว่าสามสิบคน.

ใบหน้ากลายเป็นมืดครึ้ม.

มากกว่าสามสิบคนเลยรึ?

เทพสวรรค์เก้าคน,ส่วนคนอื่น ๆ แม้นว่าจะไม่ใช่เทพสวรรค์,ก็เป็นเทพแท้จริงขั้นปลายหรือขั้นปลายสุดท้าย.

ในเวลานี้เขารู้สึกว่าชีวิตของเขากำลังจบสิ้นแล้ว.

นึกถึงเรื่องราวชีวิตที่ใช้ในจิวเทียนหลายปีมานี้,ก็รู้สึกเศร้าสลด.

“ส่งผังเทพสังหารมาซะ,เจ้าสามารถรักษาชีวิตไว้ได้.”บรรพชนชราตระกูลเถา,เถาไห่โปเอ่ยอย่างไม่แยแส.

เห่าผีที่จ้องมองคนรอบ ๆ,เผยยิ้มอย่างเศร้าใจ,แผนผังปรากฏขึ้นในมือเขา,ดูแล้วเหมือนว่าจะหลอมกลั่นขึ้นมาจากสัตว์เทวะบางชนิด.

เขาจ้องมองคนทุกคน“นี่คือผังสังการเทพ!”กล่าวจบ,เขาก็โยนมันขึ้นไปบนท้องฟ้า.

ฉีอี้ฟ่าน,เถาไห่โปและคนอื่น ๆ ที่ตื่นเต้นดีใจ,พุ่งตัดอากาศ,ตรงไปยังผังสังหารเทพทันที.

เห็นฉีอี้ฟ่าน เถาไห่โปและคนอื่น ๆ ที่กำลังแย่งชิงผังเทพสังหาร,เห่าผีก็คว้าศิษย์ซูอี้พุ่งตัดอากาศออกไป,ทว่าขณะทั้งสองกำลังจะออกไป,ทันใดนั้นก็มีปราณกระบี่ตัดอากาศฟันลงมาทันที.

เห่าผีที่ใบหน้าเปลี่ยนสี,เร่งรีบถอยห่างออกมา,ทว่าช้าไปก้าวหนึ่ง.

ริ้วแสงกระบี่ดังกล่าว.

ได้ฟันมายังแขนซ้ายของเขากระเด็นขาดหล่นลงบนพื้น.

“อาจารย์!”ซูอี้เอ่ยอุทานด้วยความตกใจ.

ในเวลานั้น,เสียงร้องโหยหวนก็ดังก้อง,ทั้งสองที่จ้องมองขึ้นไปเห็นฉีอี้ฟ่าน,เถาไห่โปและคนอื่น ๆ ที่แย่งชิงผังเทพสังหาร,ได้รับบาดเจ็บจากปราณกระบี่,ล่วงหล่นไปคนละทิศคนละทาง.

เหล่าคนที่แย่งชิงผังเทพสังหารเหลือเพียงคนเดียว,เป็นคนในชุดสีขาว.

เหล่ายอดฝีมือต่างก็จ้องมองอักษรที่ปักบนเสื้อ“จวิน”  เห่าผี,ฉีอี้ฟ่าน,เถาไป่โปและคนอื่น ๆ ต่างก็อุทานออมกาด้วยความตกใจ.

“ตระกูลจวิน!”

คนที่มา,เป็นยอดฝีมือตระกูลจวิน.

ผู้นำในครั้งนี้ก็คือประมุขน้อยตระกูลจวิน,จวินรุ่ย,ที่ด้านหลังมีบรรพชนชราเทพสวรรค์หกคน,นอกจากนี้ยังเป็นเทพสวรรค์ขั้นสุดท้ายปลายอีกด้วย.

ผังสังหารเทพที่อยู่ในมือของประมุขน้อยตระกูลจวิน,เขากวาดตามองผังสังหารเทพ,มีอักขระขนาดเล็กมากมายเต็มไปหมด.

กล่าวได้ว่าบนผังดังกล่าวนั้นเต็มไปด้วยความลึกล้ำไม่ธรรมดา.

เขาส่งมันให้กับยอดฝีมือตระกูลจวินด้านหลังเอ่ยออกมาว่า“ลุงเฉิง,ดูสิว่ามันเป็นของจริงหรือไม่?”

บรรพชนชราตระกูลจวิน,จวินซินเฉิงที่รับแผนผัง,ตรวจสอบอย่างระมัดระวัง.

หลังจากตรวจสอบอย่างดี,จวินซินเฉิงก็พยักหน้า เอ่ยออกมาว่า“เป็นผังเทพสังหารของจริง.”

ฉีอี้ฟ่านก้าวไปด้านหน้า,ยกมือประสานด้วยรอยิ้ม“ผู้ยอดเยี่ยมคือประมุขน้อยตระกูลจวินงั้นรึ? พวกเราไม่มีเจตนา จะแย่งผังเทพสังหารกับตระกูลจวิน,เช่นนั้นขอลา.”

เถาไห่โปและคนอื่น ๆ ต่างก็ยกมือผสาน,เอ่ยกล่าวขอลาเช่นเดียวกัน.

“ขอลา?”ประมุขน้อยตระกูลจวินได้ยินคำพูดดังกล่าวก็แค่นเสียง“ข้าบอกแล้วรึ?ว่าจะปล่อยพวกเจ้าไป.”

ฉีอี้ฟ่าน,เถาไห่โปและคนอื่น ๆ ที่สัมผัสได้ถึงจิตสังหารของจวินรุ่ย,แต่ละคนที่ใบหน้าซีดเซียวไปตาม ๆ กัน.

ตระกูลจวินคิดที่จะทำลายหลักฐานทั้งหมดเลยอย่างงั้นรึ?

แม้แต่เห่าผี,ซูอี้ ทั้งสองยังตกใจหน้าเปลี่ยนสีเช่นกัน.

ประมุขน้อยตระกูลจวินที่นำแหสีทอง,โยนมันขึ้นไปบนท้องฟ้า,ก่อนที่มันจะส่องประกายแสงสดใส ปกคลุมไปทั่วพื้นที่รอบ ๆ ปิดกั้นพื้นที่ดังกล่าวเอาไว้อย่างสมบูรณ์.

“แหเรือนจำเทพสวรรค์!”ฉีอี้ฟ่านที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.

“ใช่แล้ว,แหเรือนจำเทพสวรรค์.”จวินรุ่ยเอ่ยเยาะ.“ในเมื่อรู้ว่านี่คือแหเรือนจำเทพสวรรค์,เจ้าควรรู้ว่ามันร้ายกาจขนาดใหน,มันกักขังปิดพื้นที่มิติรอบ ๆ นี้เอาไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว,พวกเจ้าเป็นไปไม่ได้ที่จะหนีออกไปได้.”

ทุกคนที่หัวใจจม รัดแน่นขึ้นมาทันที.

แหเรือนจำเทพสวรรค์,เป็นสิ่งประดิษฐ์ชั้นพิเศษของตระกูลจวิน,ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขาจะนำมันออกมา,ดูเหมือนว่าต้องการทำลายข้อมูลหลักฐานเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์.

“สังหารให้หมด,รีบจัดการให้เร็ว,อย่าเหลือพยานหลักฐานเอาไว้.”จวินรุ่ยเอ่ยสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

ยอดฝีมือทั้งหกของตระกูลจวิน,พุ่งตัดอากาศเข้าหาฉีอี้ฟ่าน,เห่าผีและคนอื่น ๆ ทันที.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด