Chapter 12 Defective product
残次品
“เม็ดยาทองคำนี้,พวกเจ้ารับไป.”ลู่อี้ผิงเอ่ย,พร้อมกับส่งเม็ดยาทองคำลอยออกไปหาหยางเฉิงและเฉินหงกับพวก.
หยางเฉิง,เฉินหงและคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะมองเม็ดยาเทพวิญญาณสีทองด้วยหัวใจเต็นไปมาไม่เป็นจังหวะ.
พริบตานั้น,หยางเฉิง,เฉินหงและคนอื่น ๆ ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น,พร้อมกับโค้งคำนับอย่างซาบซึ้ง“ขอบคุณต้าเหรินที่ประทานเม็ดยา!”
“ลุกขึ้น.”ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่สนใจ“เพียงแค่ของที่มีตำหนิเท่านั้น.”
หยางเฉิงและคนอื่น ๆ รู้สึกจุกที่ลำคอ.
เม็ดยาทองคำที่หลอมจากเทพวิญญาณ,คาดไม่ถึงว่า,จะเป็นของที่มีตำหนิอย่างงั้นรึ?
เป็นไปได้ว่าจะต้องเป็นเม็ดยาทองคำที่หลอมขึ้นจากเทพแท้จริงที่มีรัศมีเทพ,ถึงจะมีคุณสมบัติอย่างงั้นรึ?
เพราะว่าดินแดนบรรพชนยังมีพลังค่ายกลปิดกั้นเหลืออยู่,ทำให้ด้านนอกเขตแดนบรรพชน,กงจู่ไท่เหยี่ยน,เซียวฉางเฟิง,เจิ้งเยว่และผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ ไม่เห็นเหตุการณ์ด้านใน.
พวกเขาเห็นเพียงมารตะวันตกเข้าไปในตำหนักกระบี่ดินแดนบรรพชน,จากนั้นก็เงียบหายไป.
“ไม่รู้ว่าอาวุโสหยางเฉิงเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้.”กงจูไท่เหยี่ยนที่เหมือนกับมดบนกระทะร้อน.
ไท่หงเทาที่ถอนหายใจ,“เกรงว่าอาวุโสหยางเฉิงคงโชคร้ายมากกว่าโชคดี,อาวุโสหยางเฉิงที่กระตุ้นค่ายกลกระบี่เหมันตร์สวรรค์ก่อนหน้านี้,แต่กับไม่อาจต้านมารกระบี่ตะวันตกได้.”
“ค่ายกลกระบี่เหมันตร์สวรรค์,นี่คือค่ายกลที่แข็งแกร่งที่สุดของนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน!”
“เว้นแต่อาวุโสเทพกระบี่หยางตงคงอยู่เท่านั้น.”
“ไม่เช่นนั้น...!”
กงจู่ไท่เหยี่ยนและคนอื่น ๆ ที่ได้ยินต่างก็รู้สึกเศร้าใจไปด้วย.
เทพกระบี่หยางตง,ที่หายไปหลายหมื่นปีแล้ว.
แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะปรากฏขึ้น.
ทั่วทั้งนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน,ที่เวลานี้เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและสิ้นหวังไปตาม ๆ กัน.
ขณะที่ทุกคนหวาดกลัวสิ้นหวังอยู่นั้น,ทันใดนั้นจากภายในดินแดนบรรพชน,ปรากฏเงาร่างหนึ่งที่บินออกมา.
ออกมาแล้ว,เป็นเฉินหงนั่นเอง!
ก่อนหน้านี้เฉินหงและคนอื่น ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บจากมารกระบี่ตะวันตก,ทว่าตอนนี้กับไม่เห็นร่องรอยอาการบาดเจ็บแม้แต่น้อย.
เห็นเฉินหงที่ปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน,ทุกคนต่างก็ประหลาดใจ.
“มารกระบี่ตะวันตกถูกอาวุโสนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนของข้าสังหารไปแล้ว,ทุกคนไม่จำเป็นต้องกังวล.”
“อะไรนะ?! มารกระบี่ตะวันตก,ถูกสังหารแล้ว!”
“ใครที่สังหารมารกระบี่ได้? เป็นไปได้ว่าเป็นอาวุโสเทพกระบี่หยางตงยังคงอยู่อย่างงั้นรึ?!”
ทันใดนั้น,ผู้คนที่ส่งเสียงดังอื้ออึงขึ้นมาทันที.
ไม่มีใครที่ไม่ตื่นตะลึง.
ความแข็งแกร่งของมารกระบี่นั้น,พวกเขาสามารถมองเห็นด้วยตาตัวเอง,แม้แต่หยางเฉิง,เฉินตงและบรรพชนชรานิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนกระตุ้นค่ายกลเหมันตร์สวรรค์ก็ยังไม่อาจต้านทานได้.
ตอนนี้,เฉินหงที่กลับออกมาอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน,พร้อมกับประกาศเอ่ยว่ามารกระบี่ตะวันตกถูกสังหารแล้ว.
กงจู่ไท่เหยียน,เซียวฉางเฉินและคนอื่น ๆ ต่างก็เผยความประหลาดใจอย่างที่สุด.
เฉินหงที่แจ้งข่าวก่อนสั่งการอาวุโสต่าง ๆ “ทำให้ทุกอย่างกลับเป็นปรกติ,อาวุโสทดสอบให้ทำหน้าที่ต่อไป.”จากนั้นเขาก็นำซ่งหนิงที่บาดเจ็บกลับเข้าไปยังเขตแดนบรรพชน.
เห็นเฉินหงนำซ่งหนิงกลับไปยังดินแดนบรรพชนนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน,ทุกคนได้แต่ส่งเสียงดังอื้ออึง.
“เป็นไปได้ว่าเทพกระบี่หยางตง,ยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ รึ?”กงจู่ไท่เหยี่ยนที่เผยท่าทางประหลาดใจ“เป็นไปได้ว่าได้ปิดด่านอยู่ด้านในส่วนลึกของดินแดนบรรพชนนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนมาตลอดเลยอย่างงั้นรึ?!”
ไท่หงเทาที่ใบหน้ากลายเป็นจริงจัง“เกรงว่าจะไม่ใช่เทพกระบี่หยางตง,แต่เป็นอีกหนึ่งตัวตนที่น่าเกรงขามเช่นเทพกระบี่หยางตงนะสิ.”
นิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน,มีตัวตนที่น่าพรั่นพรึงเช่นนี้ปรากฏขึ้น,เกรงว่าราชวงศ์จักรพรรดิอู๋จี้จะเสียเปรียบแล้ว.
ขณะกงจู่ไท่เหยียน,เซียวฉางเฟิงและคนอื่น ๆ ต่างก็คาดเดาเรื่องราวอันน่าแปลกประหลาด,ใครบางคนในป่าโบราณของดินแดนเหิงหยวน(ต้นกำเนิดสุดท้าย)ชายวัยกลางคนที่ร่อนลง,พร้อมกับกระอักโลหิตคำโต.
แววตาของเขาที่เผยความประหลาดใจเหลือเชื่อ,เขาที่สามารถสร้างรัศมีเทพได้กว่า 99 ส่วน,กลายเป็นเทพแท้จริงท่ามกลางสวรรค์และปฐพี,ด้วยรัศมีเทพของเขานั้นทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งมากแทบจะเรียกได้ว่าไร้เทียมทานในดินแดนเหิงหยวน,ทว่าเพียงแค่หนึ่งหมัด,ร่างศักดิ์สิทธิ์กายเทพของเขากับแตกสลายไปในทันที.
มันแทบระเบิดพังทลายกลายเป็นเศษซาก!
“นิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน?”เขาที่กล่าวพึมพำไปมา,จากนั้นก็ใช้ยันต์สื่อสาร,พร้อมกับบดขยี้,สังการออกไปทันที.
หนึ่งวันผ่านไป.
เวลากลางคืน.
ลู่อี้ผิงที่ยืนมองท้องฟ้าในตำหนักบรรพชนนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน,กวาดตามองแสงกลางคืน,พลางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.
หยางเฉิง,เขาได้เอ่ยว่าเมื่อสี่หมื่นปีที่แล้ว,หยางตงได้รับข้อความจากยันต์สื่อสารที่ส่งผ่านมา,จากนั้นก็เดินทางไปยังสนามรบแห่งทวยเทพ.
ทว่า,หลังจากที่อีกฝ่ายเข้าไปยังสนามรบแห่งทวย,หยางตงก็ไม่เคยส่งข้อความกลับมาเลย.
“สนามรบแห่งทวยเทพ.”ลู่อี้ผิงที่เอ่ยพึมพำ.
ในอดีตเหล่าเทพที่ได้ต่อสู้กัน,มีเทพมากมายที่ล่วงหล่นจากไป,โลหิตที่ไหลเป็นสายธาร,แผ่นดินที่กลายเป็นหลุมลึกนับไม่ถ้วน,ท้องฟ้าที่มีรูเจาะอยู่เต็มไปหมด,การต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรงเป็นอย่างมาก,เป็นสถานที่เลวร้ายที่ยังคงฝังอยู่ในความทรงจำส่วนลึกของเขา.
ในบรรดาเทพมากมาย กับมีเขาที่เหลือรอดชีวิตเพียงคนเดียว,ไม่ใช่แค่เพราะว่า ในอดีตเขานั้นแข็งแกร่งไร้เทียมทาน,ทว่าเขายังมีสุดยอดของวิเศษแดนสวรรค์,หม้อจักรวาลนั่นเอง.
ดูเหมือนว่าข้าจะต้องไปยังสนามรบแห่งทวยเทพแล้ว.
การต่อสู้ของเหล่าทวยเทพในอดีตนั้น,เขาได้คิดมาตลอด ว่ามีใครชักใยอยู่เบื้องหลัง,กับความสงสัยในเวลานั้น,เขาต้องการที่จะค้นหาคำตอบอยู่เหมือนกัน.
ขณะลู่อี้ผิงที่ครุ่นคิดถึงสงครามเทพในอดีต,ที่อีกหนึ่งห้องโถง,เฉินหงที่เอ่ยกล่าวกับหยางตง“อาจารย์,เรื่องนี้,ข้ามีเรื่องที่ต้องเอ่ยรายงานท่าน.”
“วันนั้นที่หน้าผากระบี่,เมื่อครั้งลู่ต้าเหรินดึงกระบี่เพลิงชาติออกมา,อาวุโสหยวนฉู่ตะกูลเซียวต้องการแย่งชิงกระบี่ไป,ทว่าหลังจากนั้นก็ถูกลู่ต้าเหรินสังหารไป.”
“เซียวฉางเฟิงและคนตระกูลเซียวล้วนแต่ต้องการลงมือกับลู่ต้าเหริน.”
ได้ยินคำพูดของเฉินหง,หยางตงที่ใบหน้าเปลี่ยนสี,กลายเป็นมืดครึ้ม“เรื่องนี้,ทำไมเจ้าเพิ่งมารายงานข้า?”
เฉินหงเอ่ย“วันนี้แทบทั้งวันท่านอยู่กับต้าเหรินตลอด ข้าจึงไม่กล้าเอ่ยรายงาน.”
หยางเฉิงที่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย,เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม“ถ่ายทอดคำสั่ง,ศิษย์ตระกูลเซียวทั้งหมดจะถูกขับออกจากนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน.”
เฉินหงที่ตกใจ,ก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยความเคารพ,“รับทราบ,ข้าจะให้ซ่งหนิงไปจัดการ.”
ซ่งหนิงแม้นว่าจะถูกปราณกระบี่ดับวิญญาณของมารตะวันตกไป,ทว่าลมปราณดับวิญญาณนั้นก็ถูกลู่อี้ผิงขจัดออกไปทั้งหมดอย่างง่ายดาย.
......
ตำหนักแห่งหนึ่งของนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน,เหล่าศิษย์ตระกูลเซียวที่มาแสดงความยินดีกับเซียวฉางเฉินที่ผ่านการทดสอบเข้าร่วมนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน,นอกจากนี้ยังคว้าอันดับหนึ่งมาได้ด้วย.
ศิษย์ตระกูลเซียวคนหนึ่งเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม“นายน้อยได้อันดับหนึ่งในการทดสอบ,พรสวรรค์ของนายน้อย,อาวุโสเฉินหงจะต้องรับนายน้อยเป็นศิษย์ส่วนตัวอย่างแน่นอน!”
เซียวฉางเฟิงที่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง.
“แล้วเจ้าหนุ่มชุดน้ำเงิน,ออกมาจากดินแดนบรรพชนรึยัง?”เซียวฉางเฟิงที่เอ่ยสอบถามทันที.
“ยังไม่ได้ออกมาเลย.”ศิษย์ตระกูลเซียวเร่งรีบตอบ.
แววตาของเซียวฉางเฟิงกลายเป็นเย็นชา“มันออกจากนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนเมื่อไหร่,ค่อยจับตัวมัน! อย่าเพิ่งสังหารล่ะ,ข้าจะให้มันตายทั้งเป็น.”
“รับทราบ,นายน้อย.”
ทว่าในเวลาเดียวกัน,ศิษย์ตระกูลเซียวคนหนึ่ง ที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา“นายน้อย,เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! ข้าเพิ่งได้รับข่าวมา,เจ้านิกายซ่งหนิงเพิ่งมีคำสั่ง,ขับศิษย์ตระกูลเซียวทั้งหมดออกจากนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน!”
เซียวฉางเฟิงและคนอื่น ๆ ต่างก็ตื่นตะลึงไปตาม ๆ กัน.
“ข่าวเจ้ามีอะไรผิดพลาดหรือไม่?”เซียวฉางเฟิงเอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง.
ตระกูลเซียวและนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนล้วนแต่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอด.
จู่ ๆ ซ่งหนิงกับไร้ซึ่งเหตุผลขึ้นมาในทันทีอย่างงั้นรึ?
“ข่าวนี้เป็นความจริงแน่นอน!”ศิษย์ตระกูลเซียวเอ่ยเสริม“นอกจากนี้ซ่งหนิงยังสั่งการ,ให้ศิษย์ตระกูลเซียวทั้งหมด,ออกจากยอดเขานิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนภายในเวลาครึ่งชั่วยามด้วย!”
เซียวฉางเฟิงได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็คำรามด้วยความโกรธ,“ซ่งหนิงเสียสติไปแล้วรึ? ทำไมเขาต้องการทำเช่นนี้กัน?!”