Chapter 11 Dark Demon Hall
暗魔殿
ผ่านไปนานเหมือนกัน,มารกระบี่ตะวันตกที่ตะเกียกตะกายคลานออกไปยืนหยัดพยุงร่างลุกขึ้น,เงยหน้าจ้องมองลู่อี้ผิงด้วยแววตาหวาดกลัวโดยสมบูรณ์.
ทักษะกระบี่นิรันดร,คือทักษะที่เขามั่นใจที่สุด,แม้จะเป็นเทพกระบี่หยางตงในอดีต,ก็ไม่มีทางที่จะรับมือได้,ตอนนี้อีกฝ่ายแค่พ่นลมหายใจทักษะของเขาก็พังทลายแล้ว.
มารกระบี่พยายามกลืนโลหิตลงคอ,เอ่ยเสียงแหบเครือ,“ผู้ยอดเยี่ยม,เป็นใคร?!”
“เป็นไปได้ว่าอยู่ในเขตแดนเทพแท้จริงอย่างงั้นรึ?!”
เทพแท้จริง!
หยางเฉิง,เฉินหงและเหล่าบรรพชนชรานิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนที่ร่างกายสั่นไปมา,ลอบมองไปยังลู่อี้ผิง.
เทพแท้จริงรึ? ลู่อี้ผิงที่เผยยิ้มเล็กน้อย.
รอยยิ้มที่ไร้พิษภัย,ดูดีมีสุขเหมือนกับกำลังเหยียดหยันอีกฝ่ายอยู่,กระนั้นมารกระบี่,หยางเฉิงและคนอื่นๆ ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่น้อย.
“ข้ามาจากป่าศักดิ์สิทธิ์.”ลู่อี้ผิงเอ่ยออกมาเล็กน้อย.
เสียงไม่ดังนัก.
ค่อนข้างเย็นยะเยืองด้วยซ้ำ.
อย่างไรก็ตามมันราวกับทัณฑ์สยฟ้าเทพวิญญาณที่น่าพรั่นพรึง มารกระบี่,หยางเฉิง,เฉินหงและเหล่าบรรพชนชรานิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนรู้สึกราวกับถูกสายฟ้าฟาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า.
มารกระบี่,หยางเฉิน,เฉินหงและคนอื่น ๆ,ใบหน้าซีดเซียวไม่กล้าแม้แต่จ้องมองออกไป,มารกระบี่ที่ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาตอนแรก,ไม่รู้เป็นอะไร ความหวาดกลัวที่มากล้นทำให้เขาขาอ่อน,ทรุดลงกับที่.
ทว่าหยางเฉิง,เฉินหง,และเหล่าบรรพชนชรา,ร่างกายของพวกเขาสั่นไปมาไม่เป็นจังหวะ.
“เทพ,ป่าศักดิ์สิทธิ์!”มารกระบี่ที่ลิ้นแข็งคำพูดที่จุกอยู่ที่ลำคอ.
ป่าศักดิ์สิทธิ์!
คำพูดดังกล่าว,กับดูมีพลังที่ทำให้สวรรค์และปฐพีเงียบลง.
ไม่มีใครกล้ามีความคิดใด ๆ.
“อาวุโส,ท่าน,ท่านคือ?!”หยางเฉิงที่ดวงตาเบิกกว้าง,พูดติด ๆ ขัด ๆ.
ลู่อี้ผิงที่จ้องมองไปยังหยางเฉิง,พร้อมกับโยนตราสีทองออกไป.
หยางเฉิงเห็นตราสีทอง,ก็ตื่นตะลึง,ไม่กล้าลังเล,ร่างที่สั่นเทิ้มดีใจ,แม้แต่คุกเข่าให้กับลู่อี้ผิง,“บุตรของหยางตง,หยางเฉิงนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน,คารวะต้าเหริน,ขอต้าเหรินอายุยืนนาน!”
“พวกเราไม่รู้ว่าต้าเหรินเดินทางมา,ไม่ได้ออกไปต้อนรับ,บาปนี้ตายหมื่นครั้งก็ไม่สาสม!”
เฉินหงและบรรพชนชรานิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน,เห็นท่าทางของหยางเฉิงที่คุกเข่าแทบคลานออกไปด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุด,คิดว่าลู่อี้ผิงจะต้องเป็นตัวตนที่สูงส่งเป็นแน่,จึงได้คุกเข่าตาม.
เห็นหยางเฉิงและคนอื่น ๆ ที่คุกเข่าลง,ลู่อี้ผิงไม่ได้ประหลาดใจแต่อย่างใด,เอ่ยออกมาอย่างไม่แยแส,“ลุกขึ้น,ข้าเพียงแค่ผ่านมา,แวะมายังนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนเพื่อมาดูเจ้าหนูหยางตงเท่านั้น.”
หยางเฉิง,เฉินหงและคนอื่น ๆ ที่ลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง,ทว่าก็ไม่กล้าแม้แต่มองไปยังอีกฝ่าย,ทำได้แค่โก่งโค้งก้มหน้าอย่างสุภาพ,ไม่แม้แต่กล้าหายใจแรง.
ในเวลานั้น,มารกระบี่ตะวันตกเอ่ยออกมาทันที“แท้จริงแล้วเป็นผู้ยอดเยี่ยม ต้าเหรินจากป่าศักดิ์สิทธิ์,ข้านั้นมาจากวิหารมารทมิฬ,ขอต้าเหรินเห็นแก่วิหารมารทมิฬ,ไว้ชีวิตข้าด้วย.”
“อะไรนะ,วิหารมารทมิฬ!”หยางเฉิง,เฉินหงและคนอื่น ๆ ที่อดประหลาดใจไม่ได้.
วิหารมารทมิฬ,คือกลุ่มอิทธิพลที่ปรากฏขึ้นหลายหมื่นปีแล้ว,ตอนนี้ยังเป็นหนึ่งในกลุ่มอิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนเหงหยวน(ต้นกำเนิดสุดท้าย)อีกด้วย.
หยางเฉิงและคนอื่น ๆ ไม่คาดคิดแม้แต่น้อยว่ามารกระบี่ตะวันตกจะได้เข้าร่วมวิหารมารทมิฬ.
“ใช่แล้ว,วิหารมารทมิฬ!”มากระบี่ตะวันตกเผยยิ้มออกมา.
ลู่อี้ผิงที่ยกมือขึ้น,ปรากฏพลังดูด ดึงร่างของมารกระบี่ตะวันตกเข้ามาหาตัวเขาทันที.
มารกระบี่ที่สะดุ้งตกใจ“เจ้า!”
“วิหารมารทมิฬรึ? ไม่เห็นเคยได้ยิน.”ลู่อี้ผิงที่กล่าวอย่างไม่แยแส,ในมือปรากฏรัศมีสายฟ้าปรากฏขึ้น.
สัมผัสได้ถึงพลังสายฟ้าทำลายล้าง,มารกระบี่ตะวันตกหวาดผวาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง“เจ้าวิหารมารทมิฬของข้านั้นเป็นตัวตนที่เจ้าไม่อาจจินตนาการถึงได้!”
แม้นว่าจะรู้ว่าตำนานป่าศักดิ์สิทธิ์นั้นมีมากมาย,ทว่าเขาก็ยังคงมั่นใจในตัวเจ้าวิหารมารทมิฬที่มีความแข็งแกร่งน่าเกรงขาม.
“เป็นตัวตนที่ข้าไม่อาจจินตนาการถึงอย่างงั้นรึ?”ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม“ข้าต้องการเห็นตัวตนแบบนั้นเช่นกัน,”จากนั้นมือของเขาก็สะบัดหม้อจักรวาลก็ปรากฏขึ้น.
หม้อจักรวาลสีทองฝาเปิดออก,ด้านในเต็มไปด้วยลมปราณฟ้าดินที่ลึกล้ำสีทอง.
ในเวลานั้นมารกระบีที่ตกใจ,หม้อจักรวาลได้ดึงร่างของเขาเข้าไปในหม้อ,ไม่ต้องบอกว่าเขากำลังจะถูกกลั่น.
ในเวลาต่อมา,มารกระบี่ตะวันตกร่างกายที่ส่องแสงสีดำพุ่งออกไประเบิดดังกึกก้อง.
บนท้องฟ้าดินแดนบรรรพชน,เวลานั้นท้องฟ้ากลายเป็นมืดครึ้มปรากฏฝ่ามือยักษ์สีดำขึ้น“บังอาจ! ใครกล้าทำร้ายอาวุโสวิหารมารทมิฬ!”
ฝ่ามือยักษ์สีดำกำลังกดทับลงมายังทิศทางของลู่อี้ผิงในทันที.
ห้วงมิติรอบ ๆ ที่พังทลาย,แตกเป็นทาง.
พลังทำลายล้างที่มากล้น,เหนือกว่ากระบี่นิรันดรก่อนหน้านี้ของมารกระบี่ตะวันตกหลายเท่า.
ฝ่ามือยักษ์พร้อมกับเสียงคำราม,ทำให้หยางเฉิง,เฉินหงและคนอื่น ๆ เผยใบหน้าตื่นตะหนก.
นี่คือพลังของเทพแท้จริงอย่างงั้นรึ?!
ลู่อี้ผิงที่แค่นเสียงเย็นชา,หมัดของเขาที่ต่อยขึ้นไปบนท้องฟ้า,ราวกับบัญชาเทพ,เสียงระเบิดกึกก้องกระแทกฝ่ามือยักษ์ระเบิดออกไปในทันที,หมัดสีทองของลู่อี้ผิงไม่ได้หยุดเท่านั้น,มันยังข้ามท้องฟ้าตัดอากาศ,พุ่งผ่านไปยังพื้นที่ไกลออกไป.
พลังหมัดสีทองที่ข้ามห้วงมิติกาลอวกาศ,มันได้ข้ามไปไกลกว่าหมื่นลี้ไปปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าของวิหารขนาดใหญ่.
วิหารใหญ่ยักษ์ที่แผ่รัศมีแสงค่ายกลคุ้มกันเอาไว้,พยายามต้านหมัดสีทอง.
อย่างไรก็ตามมันช่างไรประโยชน์อย่างสิ้นเชิง!
หมัดสีทองที่ฟาดลงมาทำลายค่ายกลไปอย่างราบคาบง่ายดายราวกับลูกไก่วิ่งเข้าไปในฝูงหมา,พลังระเบิดทำลายล้างที่ดังกึกก้องปรากฏขึ้นมาบนวิหารใหญ่ยักษ์ทันที.
ตูมมมมมม!
วิหารใหญ่ยักษ์ไม่รู้ว่ากินพื้นที่กี่ลี้,เวลานี้พังทลายกลายเป็นฝุ่นทราย,ระเบิดแตกออกเป็นชิ้น ๆ.
นอกจากนี้ในวิหาร,เสียงคำรามที่โกรธเกรี้ยวดังกึกก้อง.
เงาร่างหนึ่งที่พุ่งขึ้นท้องฟ้า.
ในเวลาต่อมา,ลู่อี้ผิงที่ปล่อยกงเล็บยักษ์ผ่านกาลอวกาศลงมาอีกครั้ง.
ร่างเงาที่เห็นกงเล็บพุ่งเข้ามาหา,ก็เผยแววตาตื่นตะหนกสิ้นหวัง.
“เทพโลหิตหลีกหนี!”
“เปิดออกมา!”ร่างกายของเขาที่เปล่งแสงสีโลหิต,ในเวลานั้นหยวนศักดิ์สิทธิ์ที่กลายเป็นลำแสงหลบหนีจากกงเล็บของลู่อี้ผิงไปในทันที.
ตูมมมมมมมม!
กงเล็บที่หล่นลงมายังยอดเขาวิหารยักษ์ที่เป็นฝุ่นผงก่อนหน้านี้ทำให้ยอดเขาทั้งหมดกลายเป็นฝุ่นผง สร้างพื้นที่ราบอันกว้างใหญ่ขึ้นที่นี่.
ลู่อี้ผิงที่ดึงพลังกลับ,เอ่ยอย่างไม่แยแส“หนีเร็วจริง ๆ.”
เห็นเช่นนั้นเขาก็ไม่ได้ไล่ตามไปแต่อย่างใด.
ฝ่ายตรงข้ามที่ถูกคลื่นพลังหมัดของเขา,ไม่ลังเลที่จะนำหยวนศักดิ์สิทธิ์หนีออกไป,กล่าวได้ว่าอาหารบาดเจ็บของอีกฝ่าย,หากไม่ใช้เวลาหลายร้อยปี,เป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นฟูกลับมาได้.
หยางเฉิง,เฉินหงและคนอื่น ๆ ยากจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้,แม้นว่าจะไม่เห็นเหตุกาลผ่านกาลอวกาศไป,ทว่าก็พอคาดเดาได้ว่า ลู่อี้ผิงควรที่จะจัดการกับยอดฝีมือขอบเขตเทพแท้จริงที่โจมตีมาก่อนหน้านี้เป็นแน่,นอกจากนี้ยอดฝีมือวิหารมารทมิฬยังพ่ายแพ้อีกด้วย.
ในเวลานั้นหม้อจักรวาลของลู่อี้ผิงที่ส่องแสงสว่างจ้า,มารกระบี่ตะวันตกในหม้อเวลานี้กำลังร้องโหยหวนด้วยความหวาดกลัว,เพรียงพริบตาเดียว,ร่างกายของเขาก็ถูกหลอมกลายเป็นเม็ดยาสีทองลอยออกจากหม้อจักรวาล.
จินตานที่แผ่กลิ่นบรรพกาล,มีพลังแห่งกฎแฝงอยู่ด้านใน,เปล่งรัศมีแสงสีทองเรื่อ ๆ.
หยางเฉิง,เฉินหงและคนอื่น ๆ จ้องมองเม็ดยาสีทอง,ด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ,มารกระบี่,ระดับเทพวิญญาณที่ผ่านทัณฑ์สายฟ้าเทพวิญญาณแล้ว,เวลานี้ถูกหลอมให้กลายเป็นเม็ดยาสีทองไปแล้ว.
เทพวิญญาณนั้น,จะกลืนกินลมปราณฟ้าดิน,ผสานเข้ากับพลังแห่งกฎฟ้าดิน,รวมตัวเป็นพลังเทพ,เม็ดยาสีทองที่หลอมขึ้นมาจากเทพวิญญาณ,แน่นอนว่ามันย่อมแฝงด้วยพลังตระหนักรู้แห่งกฎฟ้าดินอย่างไม่ต้องสงสัย.