Chapter 109 Does not know that Young Master can dare?
不知公子可敢?
“ปราณกระบี่นี่มัน,เป็นปราณกระบี่แห่งการสร้าง!”อู๋จินกั๋วสำนักกระบี่ไท่ชิงที่เผยความประหลาใจออกมา,“นอกจากนี้ยังฝึกฝนไปถึงดินแดนสร้างหมื่นสรรพสิ่งได้แล้ว,ไม่รู้ว่าเป็นยอดฝีมือของนิกายเจ้ากัน!”
บรรพชนชรานิกายกระบี่กุยหยวนเผยยิ้ม“ไม่ใช่ใคร,แต่เป็นเจ้าเด็กซุนหงหยวนนั่นล่ะ.”
“ซุนหงหยวน!”อู๋จินกัวที่ตะลึงไปเหมือนกัน,จากนั้นก็เผยยิ้ม“ยินดีกับน้องฉิวเยว่ด้วย,พรสวรรค์กระบี่ของศิษย์เจ้าไม่ธรรมดาเลย,ชื่อเสียงของซุนหงหยวนจะต้องก้องไปทั่วจิวเทียนอย่างแน่นอน.”
ฉิวเยว่ที่เผยยิ้ม“พรสวรรค์ของซุนหงหยวนนับว่ายอดเยี่ยมจริง ๆ,ไม่ใช่แค่พรสวรรค์กระบี่,ทว่าพรสวรรค์ค่ายกลของเขาก็ได้รับคำชื่นชมจากบรรพชนไท่จวินอีกด้วย.”
บรรพชนไท่จวิน,ถือว่าเป็นปรมาจารย์ค่ายกลอันดับหนึ่งของดินแดนซั่งเซิง,นอกจากนี้ยังเป็นปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในจิวเทียนด้วย.
อู๋จินกัวเผยยิ้ม“แม้แต่บรรพชนไท่จวินยังชื่นชมพรสวรรค์ของซุนหงหยวน,เห็นชัดเจนว่าพรสวรรค์ค่ายกลและกระบี่ของเขา,ถือว่าโดดเด่นทั้งสองวิถี,อนาคตข้างหน้าจะต้องไร้ขีดจำกัด,เกรงว่าคงไม่ด้อยกว่าท่านฉู่ถงเป็นแน่.”
ฉิวเยว่เผยยิ้ม“ไม่รู้ว่าเป็นใครกันที่กล้ายั่วยุเจ้าหนูซุนหงหยวนให้โกรธ,จนทำให้เขาลงมือเช่นนี้.”
ด้วยความแข็งแกร่งของซุนหงหยวน,เขาเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งและมั่นใจเป็นอย่างมาก,ดังนั้นจึงไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้นัก.
ที่ด้านหน้า,กระบี่ยาวของซุนหงหยวนที่แผ่ปราณกระบี่มากล้นรวมตัวกันขึ้นมาส่องแสงเจิดจรัสออกมาไม่หยุด,ผู้คนที่เห็นปราณกระบี่ที่ส่องแสงเจิดจัดค่อย ๆ หมุนวนรวมตัวกันก่อรูปกลายเป็นสัตว์เทวะตนหนึ่ง,กลายเป็นต้นไม้ที่ใหญ่ยักษ์ต้นหนึ่ง,ส่วนหนึ่งกลายเป็นทะเลเพลิง,และอีกส่วนกลายเป็นโลกน้ำแข็ง.
ผู้คนต่างก็จ้องมองความลึกล้ำดังกล่าวดวงตาแทบถลน.
“เป็นขอบเขตกระบี่แห่งการสร้างจริง ๆ!”
“ไม่ใช่แค่ขอบเขตกระบี่แห่งการสร้างเท่านั้น,ทว่ายังเป็นกระบี่แห่งการสร้างหมื่นสรรพสิ่ง,สามารถเปลี่ยนรูปแปลงปราณกระบี่ให้เป็นสิ่งต่าง ๆ ได้ดั่งที่ใจปรารถนา!”กระบี่อสนีฉู่เสวียนที่อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ.
ดวงตาคู่งามของสวีเฉี่ยวหยินเองก็จับจ้องมองปราณกระบี่ของซุนหงหยวนเอ่ยออกมาว่า“คุณชายซุนหงหยวนเกรงว่าคงตัดผ่านระดับไปยังขอบเขตกระบี่แห่งการสร้างมานานแล้ว,ไม่เช่นนั้นคงไม่อาจเปลี่ยนปราณกระบี่ได้ดั่งใจปรารถนาได้เช่นนี้แน่.”
เหออี้เอ่ย“ขอบเขตกระบี่แห่งการสร้าง,แปรเปลี่ยนรูปลักษณ์ชั่วนิรันดร,มีพลังเกินจะบรรยาย,เจ้าคนผมทองนั่นคงไม่อาจป้องกันได้แม้แต่กระบวนท่าเดียวแน่!”
ซุนหงหยวนจ้องมองวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยออกมาว่า“นำกระบี่ออกมา.”
ทันทีที่เขากล่าวจบ,เขาก็เห็นวัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ยื่นมือออกมาทันที,มันได้พุ่งทะลวงปราณกระบี่ชั้นแล้วชั้นเล่าของซุนหงหยวน,พุ่งมาอยู่ด้านหน้าของซุนหงหยวน.
พริบตานั้น,ฝ่ามือของวัวกระทิงมังกรเขาทองคำก็ฟาดตบออกไป.
เผลี๊ยะ!!!!
เสียงดังก้องกังวาน,ที่ดังก้องไปทั่วลานที่พัก.
ใบหน้าของซุนหงหยวนที่บวมปูดขึ้นมาทันที!
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเร็วมา,ฉู่เสวียน,เฉินอี้เหยี่ยนที่ยืนเซ่อไปไก่ไม้ไปในทันที.
ปราณกระบี่แห่งการสร้าง,พังทลายง่าย ๆ เช่นนี้เลยรึ?
สวีเฉี่ยวหยิน,คนของนิกายกระบี่กุยหยวนตลอดจนคนอื่น ๆ ที่อ้าปากค้างไปตาม ๆ กัน.
ซุนหงหยวนถูกวัวกระทิงมังกรเขาทองคำตบจนหน้าแหก,ใบหน้าที่บวมเปล่ง,แต่ดวงตากับเต็มไปด้วยเปลวเพลิงจ้องมองไปยังวัวกระทิงมังกรเขาทองคำด้วยความโกรธเกรี้ยวบ้าคลั่ง.
ในเวลานั้น,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ยกมือขึ้นอีกพร้อมกับฟาดออกไปอีก.
“เผลี๊ยะ!”
ในเวลานั้น,เสียงที่ดังก้องเหมือนกับจุดประทัดหลายดอกพร้อมกัน ดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า.
ซุนหงหยวนที่รู้สึกราวกับโลกกำลังหมุนอยู่,ดวงดาราที่กำลังหมุนวนรอบ ๆ ตัวเขาอย่างหนักหน่วงรุนแรง เสี่ยงหวึ่ง ๆ ที่ก้องอยู่ในรูหูไม่หยุดหย่อน.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ข้าบอกไปแล้ว,นี่ไม่ใช่เรื่องของเจ้า,ให้ไสหัวไปซะ,ไม่เช่นนั้นข้าจะตบให้คว่ำ,ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เข้าใจคำพูดของข้าเลย.”จากนั้นเขาก็ตบอีกฝ่ายอีกครั้งแล้วก็อีกครั้ง “ให้ข้าขอโทษสตรีนั่นนะรึ? ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่หัวหน้าศิษย์นิกายกุยหยวนเป็นขี้ข้าสตรีนิกายฉินหัว?”
และก็อีกครั้ง.
ฝ่ามือที่ฟาดซ้ายทีขวาที,ซ้ำแล้วซ้ำเล่า.
ฝ่ามือของวัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ฟาดจนอีกฝ่ายไม่หยุดจนไม่มีเวลาให้อีกฝ่ายได้โกรธเกรี้ยวโมโหด้วยซ้ำ
เสียงที่ก้องไปทั่ว.
ผู้คนรอบ ๆ ต่างก็ยืนเซ่อไปตาม ๆ กัน.
เหล่ายอดฝีมือมากมายไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม.
แม้แต่เหล่ายอดฝีมือนิกายกุยหยวนเองก็ทำได้แต่ยืนมองซุนหงหยวนที่เวลานี้ใบหน้าบวมปูดเป็นหัวหมูไปเรียบร้อยแล้ว.
ก่อนหน้านี้,อาวุโสเฟิงได้เข้ามาตำหนิหวงจิวเขาต้องการสังหารอาวุโสเจียงเฟิงเป็นอย่างมากแต่ก็ทำไม่ได้,ทำให้ความโกรธสะสมอยู่ไม่น้อย.
หลังจากตบซุนเห่าหยวนระบายอารมณ์,ความโกรธที่มากมายก็ลดลงเป็นอย่างมาก,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่โยนร่างของซุนหงหยวนออกไป,อีกฝ่ายที่ลอยกระแทกหน้าผาเสียงดังสนั่น,ร่างจมลึกเข้าไปในหน้าผา เศษหินดินทรายล่วงหล่นกระจายเกลื่อนเต็มพื้น.
เหล่ายอดฝีมือนิกายกุยหยวนที่เต็มไปด้วยความสับสน,ก่อนเร่งรีบพุ่งเข้าไปขุดซุนหงหยวนออกมาจากซากเศษหิน.
ฉิวเยว่และอู๋จินกั๋ว ทั้งสองที่สัมผัสได้ถึงปราณกระบี่แห่งการสร้างหายไปทันที,รู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมาเหมือนกัน,จากนั้นก็เห็นอาวุโสนิกายกระบี่กุยหยวนเร่งรีบวิ่งเข้ามา.
“บรรพชนชราฉิวเยว่,รองเจ้าหอซุนหงหยวนเกิดเรื่องแล้ว!”อาวุโสนิกายกระบี่หงหยวนที่วิ่งเข้ามารายงานด้วยท่าทางเร่งรีบเหนื่อยหอบกล่าวรายงาน.
ซุนหงหยวนไม่เพียงแค่มีตำแหน่งหัวหน้าศิษย์,ยังมีตำแหน่งรองเจ้าหอควบคุมกฏของนิกายกุยหยวนด้วย.
“เกิดอะไรขึ้น! กล่าวมาให้ชัดเจน!”ฉิวเยว่เอ่ยตำหนิ.
“รองเจ้าหอซุนหงหยวนถูกตบ!”ในเวลานั้นอาวุโสนิกายกุยหยวนที่เอ่ยเสียงเกร็ง
“โดนใครตบ?”ฉิวเยว่และอู๋จินกัวสองคนที่มองหน้ากันและกันด้วยความงงงวย.
“เกิดอะไรขึ้น,พูด!”ฉิวเยว่ที่ลุกขึ้น,แผ่นกลิ่นอายเทพสวรรค์ออกมา.
อาวุโสคนดังกล่าวที่เร่งรีบกล่าวอธิบายออกมาทันที.
ฉิวเยว่และอู๋จินกัวได้ยินว่าชายผมทองได้ทำลายปราณกระบี่แห่งการสร้างของซุนหงหยวนและพุ่งเข้ามาตบซุนหงหยวนก็เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ.
ทั้งสองที่มองหน้ากันและกัน,เต็มไปด้วยความตกใจ.
ทำลายปราณกระบี่แห่งการสร้างของซุนหงหยวนทันที,ทั้งสองสามารถทำได้เช่นกัน,ทว่าต้องรู้ด้วยว่าบรรพชนชรานิกายกุยหยวนและบรรพชนชราสำนักกระบี่ไท่ชิง,พวกเขาคือเทพสวรรค์ขั้นกลาง.
เป็นไปได้ว่าคนผู้นี้,คือยอดฝีมือเทพสวรรค์ขั้นกลางอย่างงั้นรึ?
“นำพวกเราไป!”ฉิวเยว่ที่ใบหน้าเคร่งขรึม,เอ่ยเสียงดัง“ใครมันบังอาจกล้ามาหาเรื่องถึงนิกายกระบี่กุยหยวนของข้ากัน!”
ไม่นานหลังจากนั้น,ฉิวเยว่,อู๋จินกั๋วทั้งสองก็ออกจากห้องโถงหลัง,มุ่งตรงไปยังพื้นที่ ที่ลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำอยู่.
นอกจากนี้เหล่ายอดฝีมือคนอื่น ๆที่มาเข้าร่วมงานชุมนุมกระบี่จำนวนมากที่ได้ยินข่าวต่างก็เร่งรีบไปยังพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน.
“หัวหน้าศิษย์นิกายกุยหยวนซุนหงหยวน,ถูกตบจนใบหน้ากลายเป็นหัวหมูไปแล้ว!”
“ได้ยินมาว่าอีกฝ่ายเข้าร่วมชุมนุมนิกายกระบี่ด้วย.”
ข่าวที่ทำให้,ยอดฝีมือมากมายต้องสั่นสะท้าน.
“ตอนนี้,บรรพชนชรานิกายกุยหยวนหยวนท่านฉิวเยว่กำลังนำยอดฝีมือไปแล้ว!”
เพียงไม่นาน,เหล่ายอดฝีมือกมายต่างก็มุ่งหน้าไปยังพื้นที่เกิดเรื่อง.
ลานที่พักด้านหน้า,สวีเฉียวหยิน,ฉู่เสวียน,เฉินอี้เหยี่ยนและคนอื่น ๆ ต่างก็จ้องมองวัวกระทิงมังกรเขาทองคำด้วยความตกใจ.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำแทบจะไม่สนใจซุนหงเหยียนที่โยนออกไป,เขาหันหน้าจ้องมองไปยังเหออี้,เผยยิ้ม“เจ้าหนู,สาวน้อยคนนี้คือศิษย์พี่ของเจ้าอย่างงั้นรึ? คนเหล่านี้คือคนที่เจ้านำมาอย่างงั้นรึ?”เขากวาดตามองเหล่ายอดฝีมือที่อยู่ด้านหลัง.
เหล่ายอดฝีมือหลายคนที่ตามมาตื่นตะลึง,แม้แต่ลอบถอยหลังไปสองสามกล่าว.
เหออี้ที่เอ่ยต่อสวีเฉียวหยินทันที“ศิษย์พี่หญิงใหญ่.”
สวีเฉียวหยินที่ก้าวออกไปเล็กน้อย,สายตาคู่งามที่จ้องมองวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,เผยยิ้ม“ผู้ยอดเยี่ยมมีความแข็งแกร่งจริง ๆ! อย่างไรก็ตามทำไมถึงยอมจำนนกับผู้เยาว์ไร้ชื่อ,ไม่คิดว่าความสามารถที่มี มันเสียเปล่าไปหรอกรึ?”
จากนั้นนางก็จ้องมองไปยังลู่อี้ผิง.
วัวกระทิงมังกรได้ยินคำพูดของสวีเฉี่ยวหยินเอ่ยต่อตัวเองว่ายอมจำนนต่อลู่อี้ผิง ทำให้ความสามารถเสียเปล่า,เขาก็หัวเราะออกมา,เสียงที่ดังสนั่นจนทำให้ภูเขารอบ ๆ สั่นไปมาอย่างรุนแรง.
สวีเฉี่ยวหยินที่ขมวดคิ้วไปมา,ก่อนที่นางจะนำกู่ฉินสีขาวหิมะออกมา,นางจ้องมองไปยังลู่อี้ผิง“คุณชายคงไม่ซ่อนอยู่ข้างหลังผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองหรอกนะ? ได้ยินจากศิษย์น้องว่า,วิถีกู่ฉินของคุณชายนั้นสูงล้ำ,สวีเฉี่ยวหยินต้องการขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิถีกู่ฉินกับคุณชาย,ไม่รู้ว่าคุณชายมีความกล้าหรือไม่?”