Chapter 108 Very powerful sword intent
好强的剑意
ในเวลานั้น,ด้านในสวน,หวงจิวได้ชี้แนะทักษะกระบี่ให้กับฟ่านอี้หลานและฟ่านเซิ่ง.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ยืนถอนหายใจจ้องมองสองพี่น้องฝึกกระบี่อยู่,ทันใดนั้นวัวกระทิงมังกรเขาทองคำก็ก้าวเข้าไปหาลู่อี้ผิงที่นั่งอยู่ในศาลา,เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“จูเหริน,วันนี้มันร้อนมาก ๆ,ข้ารู้สึกกระหายน้ำอย่างแปลก ๆ.”
ลู่อี้ผิงแลมองวัวกระทิงมังกรเขาทองคำคราหนึ่ง,กล่าวเยาะ“เจ้าตะกละไปแล้ว,เจ้าคิดถึงรสของวารีดาราฮุ่นตุ้นแค่นั้นล่ะ?”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้ม“ไม่มีใครรู้ใจข้ามากกว่าจูเหรินแล้ว.”
เห็นท่าทางของวัวกระทิงมังกรเขาทองคำแล้ว,ลู่อี้ผิงก็เผยยิ้ม“หากเจ้าต้องการวารีดาราฮุ่นตุ้น,ก็ท่องบนกวีมาบทหนึ่ง.”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้ยิน,ถึงกับหน้าสั่นไปมาทันที.
ทว่าในเวลานั้น,ที่ด้านนอกกับปรากฏเสียงก้าวเท้ามากมายที่ดังก้องขึ้นมา,หวงจิวที่ชี้แนะกระบี่ให้กับฟ่านอี้หลานและฟ่านเซิ่งก็หยุดลง,จ้องมองออกไปยังลานด้านนอก.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่หาวหวอด ๆ,“มารดาเถอะ,เหล่าหนิวไม่ได้ดื่มวารีดาราฮุ่นตุ้นพอดี.”
กล่าวจบ,เขาก็เห็นประตูลานเปิด อาวุโสเจียงเฟิงก้าวเข้ามา.
หลังจากเจียงเฟิงก้าวเข้ามา,ใบหน้าของเขาที่บิดเบี้ยว,จ้องมองไปยังหวงจิว,แววตาเผยความโกรธเกรี้ยว“หวงจิว,เจ้าหมายความว่าอย่างไร,เจ้าต้องการสังหารข้ารึอย่างไรกัน?”
หวงจิวที่ขมวดคิ้วไปมา.
เจียงเฟิงที่โกรธเกรี้ยวอย่างหนัก,เอ่ยออกมาว่า“วันนี้เจ้าทำร้ายศิษย์นิกายฉินหัวมาอย่างงั้นรึ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาเป็นศิษย์น้องของธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีเฉี่ยวหยิง?”
“รู้แล้วทำไม.”วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยออกมาอย่างไม่แยแส.
“รู้แล้วทำไมอย่างงั้นรึ?”เจียงเฟิงที่ปอดแทบระเบิด,เอ่ยออกมาว่า“ธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีเฉี่ยวหยินเวลานี้ได้นำหัวหน้าศิษย์นิกายกุยหยวนซุนหงหยวนมารออยู่ด้านหน้าแล้ว,พวกเจ้าออกไปอธิบายพวกเขาให้ชัดเจนซะ!”
“จำเอาไว้,จะอธิบายอะไรก็ได้,แต่อย่าได้เอ่ยว่าข้าและเจ้ารู้จักกัน!”
จากนั้นเขาที่นำศิลาวิญญาณเกรดเทวะที่หวงจิวให้ก่อนหน้านี้,โยนกลับคืน“เก็บศิลาวิญญาณของเจ้าไปซะ.”
ใบหน้าของหวงจิวที่กลายเป็นเคร่งขรึม.
“ผู้น้อยสวีเฉี่ยวหยินนิกายฉินหัว,มาเยี่ยมเยือนคุณชาย,ขอให้คุณชายออกมาพบ.”ที่ด้านนอกที่พัก,เสียงของสวีเฉี่ยวหยินที่ดังผ่านเข้ามา.
ลู่อี้ผิงลุกขึ้น,เอ่ยอย่างไม่แยแส,“ออกไปดู.”เขาไม่สนใจอาวุโสเจียงเลยแม้แต่น้อย ก้าวออกไปพร้อมกับวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,หวงจิว,ฟ่านอี้หลาน,ฟ่านเซิง ก้าวออกจากลาน.
เมื่อเขาก้าวออกไปด้านนอก,ฟ่านอี้หลานและฟ่านเซิงที่เห็นผู้คนมากมายถึงกับผวาไปเหมือนกัน.
วัวกระทิงมังกรที่อยู่ในรูปลักษณ์มนุษย์,โหลวถงและโหลวเจิ้นจึงจำไม่ได้,ทว่าทั้งสองที่จ้องเขม็งไปยังลู่อี้ผิง,ราวกับสายฟ้าฟาดลงมา,จิตใจแทบระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ ยืนชงักอยู่ตรงนั้นทันที.
แววตาของทั้งสองที่ตกใจและหวาดกลัว.
คุณชายเซียนกู่ฉินลู่อี้ผิง!
คนที่ทำร้ายศิษย์ของของสวีเฉี่ยวหยิน,คือลู่อี้ผิงนี่เอง!
ลู่อี้ผิงได้มายังจิวเทียนนี่เอง.
ซุนหงหยวน,สวีเฉี่ยวหยิน,ฉู่เสวียนและคนอื่น ๆ ต่างก็จับจ้องมองไปยังลู่อี้ผิง,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตท่าทางของโหลวถงและโหลวเจิ้นเลย.
กระบี่หยกเฉินอี้เหยี่ยนเห็นลู่อี้ผิง,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ก็เผยความประหลาดใจ,ไม่ใช่ว่าคือคนที่ใช้ขนสีทองฟาดผู้คนของตระกูลฉีลอยกระเด็นที่โรงเตี้ยมอู๋ซ่วงหรอกรึ?
ฝ่ายตรงข้ามที่เอ่ยว่าขนสีทองของเขานั้นขายร้อยล้านศิลาวิญญาณเกรดสวรรค์.
ซุนหงหยวนเห็นกลุ่มของลู่อี้ผิงก้าวออกมา,สายตาของเขาที่กวาดไปทั่ว,ก่อนที่เขาจะไปหยุดที่ลู่อี้ผิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.“เป็นเจ้าที่ทำร้ายศิษย์น้องเหออี้นิกายฉินหัวรึ? ศิษย์น้องเหออี้คือแขกผู้ทรงเกียรติของนิกายกระบี่กุยหยวน,นิกายกระบี่กุยหยวนไม่ต้อนรับพวกเจ้า.”
“โปรดไสหัวออกไปจากที่พักนิกายกระบี่กุยหยวนซะ!”
“นอกจากนี้,จงมาขอโทษศิษย์น้องเหอด้วย.”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็เผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“ที่พักโทรม ๆ,ไม่ดีเท่ากับห้องสวมปู่หนิวด้วยซ้ำ.”เขายกมือขึ้นแคะขี้หู“ไอ้หนู,เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร,ให้พวกเราขอโทษ สาวน้อยนั่น?”
ผู้คนที่เผยความประหลาดใจออกมาตาม ๆ กัน.
ใบหน้าของซุนหงหยวนที่กลายเป็นมืดครึ้มขึ้นมาทันที.
เหออี้ได้ยินวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยว่าตัวเองเป็นสาวน้อย,ก็ใบหน้าบิดเบี้ยว.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยต่อซุนหงหยวน“ที่จริงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า,ไสหัวไปซะ,ไม่เช่นนั้น,อย่าว่าแต่เจ้าเป็นอะไรหัวหน้าศิษย์อะไรนั่นเลย,ต่อให้เป็นเจ้านิกายกุยหยวน,บิดาจะตบให้คว่ำเลย!”
ตบให้คว่ำ,หมายถึงให้อยู่ในสภาพครึ่งเป็นครึ่งตาย.
เหล่าผู้ติดตามและซุนหงหยวนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวขึ้นมาทันที.
“สามหาว! คาดไม่ถึงว่าจะกล้าแม้แต่ดูหมิ่นเจ้านิกายของข้า!”ศิษย์นิกายกุยหยวนต่างก็คำรามออกมาด้วยความโกรธ,กระบี่ในมือที่ตะวัดทะลวงไปยังวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ.
ความแข็งแกร่งของศิษย์นิกายกระบี่กุยหยวนไม่อ่อนแอ,อยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิ.
ขอบเขตมหาจักรพรรดิ,ถึงจะเป็นนิกายกุยหยวน,ก็ถือเป็นศิษย์หลักของพวกเขา.
ศิษย์หลักเช่นนี้,ย่อมมีศักยภาพที่จะกลายเป็นเทพวิญญาณในอนาคตได้.
เมื่อศิษย์นิกายกุยหยวน,ทิ่มแทงมา,วัวกระทิงมังกรแทบไม่มองด้วยซ้ำ,เอ่ยออกมาว่า“กระบี่!”
พริบตานั้นทุกคนเห็นว่ากระบี่ที่อยู่รอบ ๆ ไม่อาจควบคุมได้,บินออกไปราวกับห่าฝน,พร้อมกับกระแทกไปยังศิษย์นิกายกุยหยวนที่พุ่งเข้ามาทันที.
ศิษย์นิกายกระบี่กุยหยวนที่ถูกกระแทกลอยกระเด็นหล่นลงไปในฝูงชน,ขณะล่วงหล่นกองอยู่บนพื้น,ร่างกายของเขาที่กลายเป็นรูกระบี่มากมายทั่วร่าง.
ผู้คนรอบ ๆ ที่กลายเป็นงงงวยไปตาม ๆ กัน.
นี่มัน?
ซุนหงหยวนที่จ้องมองวัวกระทิงมังกรของเขาทองคำ,ใบหน้ามืดครึ้ม“ประกาศกฎอัยการศึก!”
การประกาศกฎอัยการศึกจะถูกใช้เมื่อศัตรูบุกโจมตี,พื้นที่ห้ามต่อสู้,จะสามารถใช้กฏอัยการศึกให้สามารถต่อสู้ใช้อาวุธได้.
“ศิษย์นิกายกุยหยวนทุกคนฟังคำสั่ง,ก่อตั้งค่ายกลกระบี่กุยหยวน,สังหารศัตรู!”ในเวลานั้นอาวุโสนิกายกุยหยวนที่จ้องมองไปยังวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว,พร้อมกับสั่งศิษย์นิกายกุยหยวนเตรียมลงมือทันที.
“พวกเจ้าไม่ใช่คู่มือของเขา.”ซุนหงหยวนเอ่ยปากทันที,“ข้าเอง!”เขาที่ก้าวลงจากสัตว์ขี่,ในมือที่ถือกระบี่ยาว.
เฉินอี้เหยี่ยนเห็นซุนหงหยวนลงมือด้วยตัวเอง,เอ่ยออกมาว่า“พี่ใหญ่หงหยวนหลายปีมานี้ไม่ได้ลงมือเลย,ไม่รู้ว่าขอบเขตวิถีกระบี่ของพี่ใหญ่หงหยวนก้าวไปถึงใหนแล้ว!”
ฉู่เสวียนเอ่ยปาก“วิถีกระบี่ของพี่ใหญ่หงหยวนนั้นเหนือกว่าข้ามาก,ได้ก้าวเกินขอบเขตกระบี่กาลอวกาศแล้ว.”
“อะไรนะ,เกินกว่าขอบเขตกระบี่กาลอวกาศ!”ซุนอี้เหยียนที่สั่นสะท้าน“เจ้าจะบอกว่าวิถีกระบี่ของพี่ใหญ่หงหยวนนั้นได้ก้าวถึงกระบี่แห่งการสร้างแล้ว!”
เหนือหัวใจกระบี่คือกระบี่กาลอวกาศ,ทว่าเหนือกระบี่กาลอวกาศ,คือกระบี่แห่งการสร้าง.
เหล่าผู้คนที่ได้ยินต่างก็ส่งเสียงดังอื้ออึง.
กระบี่แห่งการสร้าง,เป็นเขตแดนที่ยากจะไปถึง,ในจิวเทียนแม้แต่เหล่าคนเฒ่าคนแก่,ที่ก้าวไปถึงขอบเขตกระบี่แห่งการสร้าง,ยังมีอยู่น้อยมาก ๆ.
แม้แต่สวีเฉี่ยวหยินได้ยินยังลอบชื่นชมในใจ“ไม่คาดคิดเลยว่าวิถีกระบี่ของคุณชายซุนหงหยวนจะก้าวไปถึงขอบเขตกระบี่แห่งการสร้างแล้ว! หากมีเวลา,เกรงว่านายน้อยซุนหงหยวนคงจะมีชื่อเสียงสั่นสะเทือนไปทั่วจิวเทียนเป็นแน่!”
สวีเฉี่ยวอวิ๋นที่น้อยครั้งที่จะชมผู้คน,ทว่าตอนนี้กับเอ่ยชมซุนหงหยวน,ว่าชื่อเสียงของอีกฝ่ายจะต้องสั่นสะเทือนไปทั่วจิวเทียน.
ซุนหงหยวนที่ก้าวมาอยู่ด้านหน้าวัวกระทิงมังกรเขาทองคำยืนห่างออกมาสองสามเมตร,จ้องมองวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ร่างกายของเขาที่ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ,เวลาต่อมาร่างของซุนหงหยวนที่ราวกับว่าได้หายไปแล้ว,มันผสานเข้ากับฟ้าดินอย่างสมบูรณ์.
อย่างไรก็ตามกระบี่ในมือของซุนหงหยวนที่ส่องรัศมีแสงสว่างจับตา,แสงที่เจิดจรัสคล้ายจะส่องไปทั่วโลก,มันสว่างจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ,จนเวลานี้ปกคลุมไปทั่วเทือกเขาไปแล้ว.
เหล่ายอดฝีมือที่ไม่ได้อยู่ที่นี่,ยังตกใจกับแสงสว่างดังกล่าว.
“เป็นเจตจำนงกระบี่ที่ทรงพลังมาก! ปราณกระบี่นี่มัน,ปราณกระบี่เจิดจรัส,ใครกัน? เป็นบรรพชนชรานิกายกุยหยวนบางคนกำลังลงมืออย่างงั้นรึ?”
ทว่าในห้องโถงรับรองนิกายกระบี่กุยหยวน,บรรพชนชรานิกายกุยวหนฉิวเยว่ที่เวลานี้กำลังพูดคุยออกรสกับอู๋จินกั๋วสำนักกระบี่ไท่ชิง,พริบตานั้นสัมผัสได้ถึงปราณกระบี่ที่น่าอัศจรรย์,ก็หยุดชงักลง.