Chapter 106 I also want to experience this person
我也想见识一下此人
“วิถีกู่ฉินของข้าอาจไม่ดี,ทว่าข้ายังมีศิษย์พี่ของข้าอยู่,เมื่อถึงเวลา ข้าจะให้นางมาขอคำชี้แนะกับเจ้าก็แล้วกัน.”เหออี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ศิษย์พี่เจ้าเป็นใครอย่างงั้นรึ?”เถ้าแก่เอ่ยถาม.
“สวีเฉี่ยวหยิน.”เหออี้เอ่ย.
เถ้าแก่,ฟ่านอี้หลาน,ฟ่านเซิงที่ประหลาดใจ“ธิดาศักดิสิทธิ์สวีเฉี่ยวหยิน!”
ในจิวเทียน,นิกายใหญ่เหล่าทายาทที่จะเป็นประมุขคนถัดไป,บุรุษจะเรียกบุตรศักดิ์สิทธิ์,ส่วนสตรีจะเรียกธิดาศักดิ์สิทธิ์.
ธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีเฉี่ยวหยิน,ก็คือประมุขคนถัดไปของนิกายฉินหัวนั่นเอง.
สวีเฉี่ยวหยิน,ผู้ที่จะเป็นประมุขนิกายฉินหัวคนต่อไป,ย่อมแข็งแกร่งอย่างต้องสงสัย,แม้แต่อาจจะเป็นผู้เยาว์ที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกด้วย.
กลุ่มอิทธิพลใหญ่ในจิวเทียนหลากหลายกลุ่มอิทธิที่ได้ตัดสินผู้สืบทอดไว้แล้ว,ธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีเฉี่ยวหยิน,แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่เฉิดฉายที่สุด.
ดังนั้นเถ้าแก่ร้าน,ฟ่านอี้หลานและฟ่านเซิ่งจึงเผยความประหลาดใจออกมา.
หวงจิวที่จากจิวเทียนไปนาน,ดังนั้นจึงไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของธิดาศักดิ์สิทธิ์ฉีเฉี่ยวหยิน,ต่างจากเถ้าแก่,ฟ่านอี้หลานและฟ่านเซิ่งที่ราวกับถูกสายฟ้าฟาด เสียงที่ยังคงก้องอยู่ในหู.
“ใช่แล้ว,ศิษย์พี่ของข้าก็คือสวีเฉี่ยวอวิ๋น,ข้าคือศิษย์คนเล็กสุดของเจ้านิกายฉินหัว,สวีเฉี่ยวอวิ๋นคือพี่หญิงใหญ่.”เหออี้เอ่ยปาก,“แต่ว่า,ข้าแยกกับศิษย์พี่เมื่อเช้า,ศิษย์พี่ของข้าไม่ได้อยู่ที่นี่,เมื่อนางมา,นางต้องมาขอคำชี้แนะวิถีกู่ฉินกับเจ้าแน่.”
จากนั้น,องค์รักษ์คนหนึ่งของเขาก็พยุงร่างของเขาจากไป.
“ไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะเป็นศิษย์น้องเล็กของธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีเฉี่ยวหยิน.”เถ้าแก่ร้านที่จ้องมองเหออี้ที่จากไป,พลางอุทานออกมา.
“ธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีเฉี่ยวอวิ๋น,มีวิถีกู่ฉินสูงขนาดนั้นเลยรึ?”
เถ้าแก่ร้านที่เผยท่าทางจริงจัง,ก่อนพยักหน้ารับ“ใช่,ในจิวเทียนวิถีกู่ฉินนางคืออันดับหนึ่ง! เป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ในตำนานสวีเฉี่ยวหยิน,นางเกิดมาก็มีหัวใจหยกกู่ฉินแล้ว.”
“หัวใจหยกกู่หยิน!”หวงจิวที่ตกใจ.
ในเวลานั้นฟ่านอี้หลานได้เอ่ยเพิ่ม“ทุกคนต่างก็เอ่ยว่าสวีเฉี่ยวหยินคือตัวตนในตำนาน,บางคนบอกว่านางนั้นได้ศึกษากู่ฉินตั้งแต่สามปี,ห้าปีก็อยู่เขตแดนกู่ฉินดินแดนที่เจ็ดแล้ว,อายุสิบเอ็ดปีอยู่ในขอบเขตที่แปด บรรพชนกู่ฉิน,และอายุ 17 ปีนั้นก็ก้าวไปถึงขอบเขตที่เก้า,นักบุญกู่ฉิน!”
“17 ปี,เป็นนักบุญกู่ฉิน!”หวงจิวที่สั่นสะเทือน.
เถ้าแก่ที่เผยท่าทางจริงจัง“ในโลกนี้ไม่มีระดับเซียน,ทว่ามีบางคนบอกว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์,สวีเฉี่ยวหยินนั้นได้เข้าสู่ขอบเขตเซียนกู่ฉินแล้ว!”
“อะไรนะ,ขอบเขตเซียนกู่ฉิน!”หวงจิวที่ตื่นตะลึง,จ้องมองไปยังลู่อี้ผิง.
ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่แยแส“ขอบเขตเซียนกู่ฉินอย่างงั้นรึ?”
เถ้าแก่ร้านพยักหน้ารับ“ใช่แล้ว,นางได้ก้าวถึงขอบเขตเซียนกู่ฉินแล้ว!”เขาที่เอ่ยด้วยความจริงจังขึ้นเรื่อย ๆ“บางคนเอ่ยว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีเฉี่ยวหยินนั้นได้ก้าวเหนือประมุขนิกายฉินหัวไปแล้ว,กลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในวิถีกู่ฉินของดินแดนจิวเทียนไปแล้ว.”
“ในเมื่อสวีเฉี่ยวหยินมีวิถีกู่ฉินสูงขนาดนั้น,ทำไมเจ้าไม่ไปหาสวีเฉี่ยวหยินให้ลองทดสอบดึงกู่ฉินมังกรทมิฬล่ะ?”หวงจิวเอ่ยสอบถามด้วยความสงสัย.
เถ้าแก่ร้านเอ่ยตอบ“จูเหรินของข้าและนิกายฉินหัวนั้นมีความแค้นกันเล็กน้อย,ดังนั้นย่อมไม่เหมาะที่จะเชิญคนของนิกายฉินหัวมา.”
เป็นความแค้นเรื่องอะไรกัน,เถ้าแก่ร้านไม่ได้เอ่ย.
อย่างไรก็ตาม,จากท่าทางแล้ว,ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ความแค้นที่ดูเรียบ ๆ ธรรมดาเช่นกัน.
กล่าวจบ,เขาก็หันมาพูดกับลู่อี้ผิง,“วิถีกู่ฉินคุนชายนับว่าสูง,ทว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีเฉี่ยวหยินนั้นไม่ธรรมดา,หากว่ามาหาเรื่องคุณชาย,โปรดระวังตัวด้วย.”
ลู่อี้ผิงพยักหน้ารับ.
หลังจากนั้น,ก่อนพวกลู่อี้ผิงก็ก้าวออกจากร้าน.
เขาได้นำกู่ฉินมังกรทมิฬและกระบี่หักสุ่ยเหยี่ยนไปด้วย.
ซึ่งเวลานั้น,ลู่อี้ผิงได้ให้หวงจิว,ฟ่านอี้หลาน,ฟ่านเซิ่งเลือกสิ่งของไปด้วยเช่นกัน.
ฟ่านอี้หลาน,ฟ่านเซิ่งได้เลือกสิ่งประดิษฐ์เทวะชุดหนึ่ง,หวงจิวเองก็ได้เลือกผลึกเทวะธาตุเพลิงมา
ลู่อี้ผิงได้บอกเถ้าแก่ร้านหากเจ้านายอีกฝ่ายกลับมา,ให้นำไปหาเขาได้.
หลังจากนั้น,ลู่อี้ผิงก็นำคนอื่น ๆ ไปยังร้านอื่น ๆ.
ขณะที่พวกลู่อี้ผิงออกจากร้านตะเวนไปยังพื้นที่ต่าง ๆ,ในคฤหาสน์หรูเมืองซิงเหอ,ฉู่เสวียนเวลานี้กำลังต้อนรับกระบี่หยกเฉินอี้หยวน,ทว่านอกจากเฉินอี้หยวนแล้ว,ยังมีสาวงามล่มเมือง,สตรีผู้นี้ก็คือธิดาศักดิ์สิทธิ์นิกายฉินหัว,สวีเฉี่ยวหยินนั่นเอง.
ฉู่เสวียนเผยยิ้ม“ธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีจู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นไม่บอกไม่กล่าว,หากรู้ว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์จะมา,พวกเราต้องออกไปต้อนรับล่วงหน้าร้อยลี้แน่นอน.”
แม้นว่าเขาจะเป็นหนึ่งในห้าอัจฉริยะกระบี่ของเขตแดนซั่งเซิง,ทว่าด้วยชื่อเสียงและสถานะ,ไม่อาจเทียบกับสวีเฉี่ยวหยินได้,ดังนั้นการมาเยือนของสวีเฉี่ยวหยิน,ย่อมทำให้เขาตื่นเต้นดีใจ.
สวีเฉี่ยวหยินเผยยิ้ม“ข้าและศิษย์น้องเล็กเพียงแค่ผ่านมา,ได้ยินมาว่านิกายกุยหยวนได้จัดงานชุมนุมนิกายกระบี่,ดังนั้นจึงแวะมาชมความสนุกเท่านั้น.”
“ได้ยินว่าคุณชายฉู่เสวียนและคุณชายเฉินอี้เหยี่ยนเองก็ลงทะเบียนเข้าร่วม,ด้วยวิถีกระบี่ของทั้งสอง,คงได้อันดับหนึ่งและสองเรียบร้อยแล้ว.”
ฉู่เสวียนและเฉินอี้เหยี่ยนได้ยินก็เผยยิ้มแสดงท่าทางถ่อมตนออกมาทันที.
“มีเรื่องบางอย่าง,ข้าต้องการที่จะรบกวนคุณชายฉู่เสวียน.”สวีเฉี่ยวหยินเอ่ย.
“ธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีโปรดเอ่ย.”ฉู่เสวียนที่เร่งรีบเอ่ย,“ขอเพียงข้าสามารถทำได้,ย่อมกระทำสุดความสามารถอย่างแน่นอน.”
สวีเฉี่ยวหยินที่เผยยิ้ม“รบกวนคุณชายฉู่แล้ว,ที่จริงเรื่องนี้ไม่สำคัญนัก,ข้าเพียงได้รับแผนผังที่ไม่สมบูรณ์มา,ข้าได้ใช้หลากหลายวิธีแล้วแต่ไม่อาจฟื้นฟูแผนผังนี้ได้,แม้แต่ปรมาจารย์ค่ายกลของนิกายของข้าก็ไม่อาจฟื้นฟูกลับมาได้เช่นกัน.”
“ข้ารู้ว่าท่านฉู่ถงนั้นคือสุดยอดผู้เชี่ยวชาญค่ายกลไร้ที่เปรียบ,ดังนั้นข้าจึงต้องการให้คุณชายฉู่เสวียนช่วยให้ข้าได้พบบิดาของท่าน,นำข้าไปเยี่ยมเยือนท่านฉู่ถงได้หรือไม่?”
คนอื่น ๆ ไม่อาจไปพบกับฉู่ถงได้,อย่างไรก็ตาม,บิดาของฉู่เสวียน,เป็นน้องชายฉู่ถง,หากอีกฝ่ายรับปากย่อมสามารถเข้าพบได้อย่างแน่นอน.
ฉู่เสวียนที่ดวงตาเบิกกว้าง.
เรื่องนี้?
เขาที่ดูลังเลขึ้นมาเหมือนกัน.
“หากเรื่องนี้,คุณชายเสวียนไม่สะดวก,เช่นนั้นก็ไม่ขอรบกวน.”สวีเฉี่ยวหยินเอ่ย.
ฉู่เสวียนที่ดูลังเลเอ่ยออกมาว่า“ข้าสามารถพาธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีไปพบกับบิดาของข้าได้,ทว่าไม่อาจรับประกันว่าบิดาของข้าจะนำท่านไปพบกับท่านลุงฉู่ถงหรือไม่?”
“เป็นเรื่องธรรมดา.”สวีเฉี่ยวหยินเผยยิ้ม.
ในเวลานั้น,ยันต์สื่อสารของสวีเฉี่ยวหยินที่สั่นไปมา,หลังจากเห็นแล้วอ่านข้อความก็ตะลึงงัน,นางที่หันไปพูดกับสวีเสวียนและฉินอี้เหยี่ยนพร้อมกับเผยยิ้ม“ข้ามาในครั้งนี้ได้นำศิษย์น้องของข้ามาด้วย,เวลานี้เขานั้นได้กลายเป็นนักบุญกู่ฉินแล้ว,ทว่าเวลานี้เขาเพิ่งส่งข่าวมาว่า,เขาได้พบกับยอดฝีมือวิถีกู่ฉิน,ในที่ราบชิงหยาง!”
“เขายังเอ่ยว่าวิถีกู่ฉินของคนผู้นี้เหนือกว่าเขาเป็นอย่างมาก.”
จากนั้นเหออี้ได้อธิบายได้ว่าเขาไม่อาจเล่นกู่ฉินมังกรทมิฬได้,ทว่าลู่อี้ผิงนั้นกับสามารถเล่นมันได้อย่างง่ายดาย.
ฉู่เสวียน,เฉินอี้เหยี่ยนทั้งสองที่ตื่นตกใจไปเหมือนกัน.
ศิษย์น้องของสวีเฉี่ยวหยินนั้นกลายเป็นนักบุญกู่ฉินแล้ว,คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายนั้นกับเหนือกว่าเขาอย่างงั้นรึ?!
“ไม่รู้ว่าคนผู้นี้เป็นใครอย่างงั้นรึ?”ฉู่เสวียนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยสอบถามออกไป.
“ศิษย์น้องของข้าเอ่ยว่าเขามีนามว่าลู่อี้ผิง”สวีเฉี่ยวหยินเอ่ย.
ฉู่เสวียน,เฉินอี้เหยียนทั้งสองที่เต็มไปด้วยความสงสัย.
ลู่อี้ผิง?
“ทั้งสองไม่รู้จักอย่างงั้นรึ?”สวีเฉี่ยวหยินที่ประหลาดใจ,เดิมทีนางคิดว่าหากวิถีกู่ฉินของลู่อี้ผิงเลิศล้ำ,ฉู่เสวียนและเฉินอี้เหยี่ยนควรจะรู้จัก.
ฉู่เสวียนส่ายหน้าไปมา“ไม่เคยได้ยินเลย.”จากนั้นเอ่ยว่า“คนผู้นี้อยู่ที่ราบชิงหยางอย่างงั้นรึ?”
สวีเฉี่ยวหยินพยักหน้ารับ,จากนั้นก็ลุกขึ้น“เรื่องของท่านฉู่ถง,คงต้องรบกวนคุณชายฉู่เสวียนแล้ว,เวลานี้ศิษย์น้องของข้าได้รับบาดเจ็บจากพลังสะท้อนของกู่ฉิน,ข้าคงต้องกลับไปดูเขาในตอนนี้.”
ฉู่เสวียน,เฉินอี้เหยี่ยนทั้งสองก็ลุกขึ้นพร้อมกัน.
“ข้าจะไปกับธิดาศักดิ์สิทธิ์สวี”ฉู่เสวียนเอ่ย,“ข้าเองก็ต้องการเห็นยอดฝีมือกู่ฉินผู้นี้เช่นกัน.”