ตอนที่แล้วบทที่ 64 : คำเชิญของหลี่ชิงฉี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 66 : คำเตือนของเฉินปาโจว!

บทที่ 65 : ตงฟาง หมิงจู


บทที่ 65 : ตงฟาง หมิงจู

"สวัสดี​ชูโจว…นายเป็นอย่างไรบ้าง" หลิวเฉียนๆ ทักทายชูโจวด้วยรอยยิ้ม

"ฉันสบายดี" ชูโขวยิ้มเล็กน้อยและพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาในช่วงเวลานี้สั้น ๆ

"หุหุ…… ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าคุณจะเข้าร่วมโรงยิม​ศิลป​การต่อสู้​โทมาฮอว์ก เเถมยังตั้งทีมร่วมกับพวหหลิงซานทั้งสามคนอีก"

“เห้อ….. ฉันอิจฉานายจริงๆ, นายกลายเป็นนักรบได้เร็วมาก เเต่ฉันยังต้องเรียนมหาลัยเเล้วก็ต้องทำงานหนักอีกมาก” ดวงตาของหลิวเฉียนๆแสดงความอิจฉา

"แล้วเธอล่ะ….เดินทางไปถึงมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซาท์ไชน่าแล้วหรือยัง"

"ฉันอยู่ที่มหาวิทยาลัย​ศิลปะ​การต่อสู้​เซาท์​ไชน่า​มาระยะหนึ่งแล้ว…….เเถมฉันโชคดีที่ได้รับการยอมรับให้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ที่ทรงพลังมาก เเละฉันยังพบเพื่อนมากมายที่นี่, ถ้ามีโอกาสฉันจะแนะนำให้รู้จักกับนาย"

จากเรื่องที่หลิวเฉียนเฉียนเล่าให้ฟังพูดของ ชูโจวรู้สึกได้เลยว่า…..ดูเหมือนเธอจะทำได้ดีและมีความสุขกับเส้นทางของ

“อีกสามวันจะเป็นวันเกิดของหลี่ชิงฉี, บ้านของเธออยู่ในเมืองกวาง​ตุ้งเเละฉันจะไปฉลองวันเกิดของเธอที่นั่น” ชูโจวกล่าว

เมื่อหลิวเฉียนๆได้ยินว่าชูโจวกำลังจะมาที่เมืองฐานกวางตุ้ง​ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นทันที "นายจะมาที่เมืองกวางตุ้ง​หรือ…..เยี่ยมมาก, เมื่อนายมาถึงก็อย่าลืมมาหาฉันด้วยนะ" หลิวเฉียนๆกล่าวอย่างกระตือรือร้น

“ตกลง ฉันจะไปหาคุณเมื่อถึงเวลานั้น” จากนั้นทั้งสองคุยกันสักพักก่อนจะวางสายไป

“ตืดดดดด, ตืดดดดด...” อย่างไรก็ตาม หลังจากวางสายหลิวเฉียนๆเเล้ว…..นาฬิกาสื่อสารของชูโจวก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“คราวนี้ใครอีกล่ะ” นาฬิกา​สื่อสารดังสามครั้งติดต่อกัน, ชูโจวอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเล็กน้อย

คราวนี้เป็นภาพสามมิติของผู้อำนวยการ​เฉินปาโจวปรากฏขึ้น

“ชูโจว ฉันได้ยินมาจากเฒ่าชุยว่าคุณกำลังพยายามที่จะก้าวข้ามไปสู่ระดับ​พิเศษ, คุณทำสำเร็จหรือเปล่า” ทันทีที่เฉินปาโจวเห็นว่าชูโจวรับสายเเล้ว…… เขาก็อดใจรอไม่ไหวที่จะถามคำถามนี้

"มันประสบความสำเร็จด้วยดี" ชูโจวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

"ประสบความสำเร็จ?" เฉินปาโจวผงะไปครู่หนึ่ง….. จากนั้นก็หัวเราะออกมา "ฮ่าๆ มันยอดเยี่ยม​มาก…….นักรบขั้นพิเศษที่มีอายุเพียง 17 ปีไม่ได้ปรากฏขั้นมาหลายปีแล้ว"

"ฉันจะรายงานสถานการณ์ของคุณไปยังสำนักงานใหญ่ระดับโลกทันที, เพื่อที่พวกเขาจะได้เตรียมเพิ่มการสนับสนุน​สำหรับอัจฉริยะ​เเบบคุณ"

“อีกอย่าง….. ถ้าคุณมีเวลา ช่วยมาหาฉันที่เมืองกวางตุ้ง​หน่อยนะ….มีบางอย่างที่ฉันอยากจะเเจ้งคุณเป็นการส่วนตัว​” หลังจากพูดจบผู้อำนวยการ​เฉินปาโจวก็วางสายไป

"ดูเหมือนว่าการเดินทางไปเมืองฐานของกวางตุ้งครั้งนี้จะใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า​จริงๆ" ชูโจวยิ้มอย่างมีเลศนัย, เขาไม่คาดคิดเลยว่าการโทรสามครั้งที่ติดต่อมาที่เขาจะเกี่ยวข้องกับเมืองฐานกวางตุ้งทั้งหมด

เมื่อมีเรื่องที่ต้องทำเยอะเเบบนี้, เขาจึงตัดสินใจว่าไม่ต้องรออีกสามวันอีกเเล้ว, เเละเขาจะไปเมืองกวางตุ้ง​วันนี้เลย

อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปเมืองฐานกวางตุ้งครั้งนี้, ไม่เพียงแต่ไปพบเฉินปาโจว เท่านั้น, แต่ยังไปเพื่อฉลองวันเกิดของหลี่ชิงฉีด้วย……ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมของขวัญบางอย่างติดมือไปด้วย

ชูโจวเปิดห้างสรรพสินค้านักรบ​ทันที และหลังจากเลือกอย่างระมัดระวัง​อยู่​พัก​หนึ่ง​ เขาก็เลือกกล่องชาราคาแพงชื่อ "เลือดฟีนิกซ์​" และขวดน้ำหอมแบรนด์เนมชื่อ "หลิงหลง"

ชูโจวไม่ได้รู้เรื่องชาและน้ำหอมมากนัก ดังนั้นเขาจึงเลือกซื้อมันเนื่องจากราคาที่ “แพง” เท่านั้น……. กล่องชา"เลือดฟีนิกซ์" มีมูลค่า 2 ล้านเหรียญ​ และ "หลิงหลง" หนึ่งขวดมีมูลค่า 1 ล้านเหรียญ……. สำหรับคนทั่วไปเเล้ว, สิ่งเหล่านี้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยทที่มีราคาแพงมาก

แน่นอนคำว่า "แพง" ในที่นี้ใช้สำหรับคนธรรมดาเท่านั้น……แต่สำหรับนักรบจะถือว่าเป็นราคาค่าเฉลี่ยเท่านั้น

แต่มันช่วยไม่ได้, เพราะชูโจวกลายเป็นคนจนอยู่ในตอนนี้, ณ เวลานี้เขามีเงินทั้งหมดเเค่เพียง 18.4 ล้านเท่านั้น…. เเละการทุ่ม 3 ล้านเพื่อซื้อของขวัญก็ถือว่าเป็นบั่นทอนเนื้อหนังเขาแล้ว

สั่งซื้อสินค้า, การชำระเงิน….. กระบวนการทั้งหมด​เสร็จสิ้นอย่างง่ายดาย, ​เเละในเวลาเพียง 15 นาที พนักงานของห้างก็จัดส่ง "เลือดฟีนิกซ์" และ "หลิงหลง" ให้กับชูโจวอย่างเรียบร้อย​

ชูโจวบอกพ่อและน้องสาวของเขาว่าเขามีบางอย่างที่ต้องไปทำที่เมืองฐานกวางตุ้ง, จากนั้นก็ออกจากบ้านไป

ขึ้นรถโดยสารประจำทาง, ขึ้นรถไฟความเร็วสูงเเละหลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง, ชูโจวก็มาถึงเมืองฐานกวางตุ้ง​โดยสวัสดิภาพ​

เมื่อเทียบกับเมืองเจียงเฉิงเเล้ว เมืองฐานกวางตุ้งนั้นเจริญกว่ามาก…. ที่นี่มีตึกสูงระฟ้าอยู่ทุกหนทุกแห่งและมีรถหรูราคาแพงทุกประเภทบินอยู่ในอากาศ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ชูโจวประทับใจที่สุดคือท้องฟ้าของเมืองฐานกวางตุ้ง​นั้นมีโล่พลังงานรูปโดมขนาดใหญ่มากครอบคลุม​ไว้อยู่, นอกจากนี้ยังมีจำนวนนักรบมากกว่าในเจียงเฉิงมากมาย……. เพียงแค่ยืนอยู่นอกสถานีไม่กี่นาที, ก็พบนักรบผู้ปลุก​พลังหลายสิบคน, และรวมถึงระดับพิเศษ​สองหรือสามคนเดินผ่านเขาไป

"นี่คือเมืองฐานของมณฑลกวางตุ้ง, หนึ่งในหกเมืองฐานหลักของประเทศ​มังกร ในแง่ของจำนวนนักรบ, มันชั่งห่างไกลกับเมืองบริวารเช่นเจียงเฉิง" ชูโจวถอนหายใจ… ที่นี่คือเมืองที่มีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนและต้องมีเสือซ่อนมังกรหมอบอยู่เต็มไปหมด

จากนั้นชูโจวก็ขึ้นรถบัสต่อ, เเลัในไม่ช้าเขาก็มาถึงโรงยิมศิลปะ​การต่อสู้​โทมาฮ​อว์ก​ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ในเขตเมืองกวางตุ้ง​

สำนักงานใหญ่ของโรงยิมโทมาฮ​อว์ก​นี้ดูคล้ายกับยานอวกาศขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางถนนไลหมิงซึ่งเป็นเขตที่เจริญที่สุดในมณฑลกวางตุ้ง

“ผู้อำนวยการ, ผมมาแล้ว” ชูโจวที่เดินมาถึงประตูโรงยิมศิลปะ​การต่อสู้​และทำการติดต่อเฉินปาโจวในทันที

"หืมมมม…..มาเเล้วหรือ" เฉินปาโจวไม่คิดว่าชูโจวจะมาหาเขาทันทีที่เขาเเจ้งไป, ซึ่ง​สิ่งนี้ทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย “เดี๋ยวฉันจะส่งคนไปรับคุณขั้นมา, รอนิดนึงนะ”

หลังจากนั้นไม่นาน, หญิงสาวในชุดยูนิฟอร์ม​ก็เดินออกมาจากโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์ก

“สวัสดี คุณคือนักรบชูโจวใช่ไหม, โปรดตามฉันมา”

หญิงสาวมองไปที่ชูโจวอย่างสงสัยว่าทำไมผู้ยิ่งใหญ่อย่าง เฉินปาโจวถึงได้ให้ความสำคัญ​กับเด็กหนุ่มอย่างชูโจวมากนัก

เธอจึงเริ่มเดาที่มาของชูโจวอย่างลับๆ ว่าเขาอาจจะเป็นลูกหลาน​ราชวงศ์หรือบุตรชายของผู้นำสมาคมชั้นนำต่างๆ

คุณต้องรู้ก่อนว่ามีหลายครอบครัวในเมืองฐานของกวางตุ้งที่มักจะมาขอพบผู้​อำนวยการ​เฉินปาโจว……. เเต่โดยทั่วไปแล้วผู้อำนวยการ​จะปฏิเสธพวกเขาไปทั้งหมดเพราะขี้เกียจเกินไป…… ดังนั้นถ้าชูโจวไม่มีภูมิหลังที่น่าทึ่ง, เธอคงจะไม่มีทางเชื่อเลย

หญิงสาวเดินเข้ามาจากทางเข้าหลักพร้อมๆกับชูโจว, อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้พาชูโจวเข้าไปในอาคารหลักเเต่กลับพาเขาอ้อมไปทางด้านหลังและนำชูโจวมาถึงวิลล่าเดี่ยวที่หรูหราสี่หลัง

"วิลล่าเดี่ยวทั้งสี่หลังนี้เป็นที่พักของประธานและผู้อำนวยการ​ทั้งสามคนเเละผู้อำนวยการเฉินอาศัยอยู่ในวิลล่าทางขวาสุด..."

หญิงสาวอธิบายและพาชูโจวไปที่วิลล่าทางขวาสุด, ทันทีที่เขาเข้าไปในวิลล่า​ชูโจวก็เห็นเฉินปาโจวที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาและมีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกับเฉินปาโจว

“ชูโจว มานี่สิ” เฉินปาโจวขอให้ชูโจวมานั่งที่ด้านข้างของเขา, จากนั้นชี้ไปที่หญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามและพูดกับชูโจวว่า

"ให้ฉันแนะนำให้คุณรู้จัก, เธอชื่อหมิงจู, เธอเป็นหนึ่งในรุ่นเยาว์​ที่โดดเด่นที่สุดในเมืองฐานกวางตุ้งเเละอีกไม่นานเธอจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักรับขั้นผู้ควบคุม……. เเละด้วยศักยภาพของเธอ, ในอนาคต​เธอมีโอกาส​สูง​มากที่จะกลายเป็นมหาอำนาจระดับราชา"

“ผู้อำนวยการ​เฉิน, คุณประเมินค่าฉันสูงเกินไป ฉันมั่นใจว่าฉันจะสามารถ​เลื่อนขั้นเป็นนักรบระดับ​ปรมาจารย์ได้…...แต่สำหรับระดับราชา, ฉันยังห่างไกลอยู่มาก” หมิงจูกล่าวอย่างถ่อมตน

หมิงจูที่เห็นเฉินปาโจวปฏิบัติต่อชูโจวด้วยท่าทีสนิทสนม​เช่นนี้…… เธอก็รู้สึกตกใจมาก, เธอไม่เคยเห็นเฉินปาโจวปฏิบัติต่อใครเช่นนี้มาก่อน

“สวัสดี, ผมชื่อชูโจว” ชูโจวทักทายหมิงจูอย่างสุภาพ

พี่สาวหมิงจูที่อยู่ต่อหน้าเขานี้, น่าจะมีอายุประมาณยี่สิบห้าหรือยี่สิบหกปี มีรูปร่างเพรียว​บาง, มีดวงตาที่สวยงามรวมทั้ง​เสน่ห์ที่ยากจะพรรณนา

"สวัสดี, ดูเหมือนว่าคุณจะอายุน้อยกว่าฉัน ต่อจากนี้ไปเรียกฉันว่าพี่สาวหมิงจูก็ได้…….ฉันไม่ได้อวดนะ, เเต่ฉันค่อนข้าง​กว้างขวาง​ในเมืองฐานกวางตุ้งเเห่งนี้, ดังนั้น​หากต้องการความช่วยเหลือในอนาคต ก็แค่ติดต่อฉันมา” หมิวจูดูใจดีกับชูวโจวมากและหลังจากนั้น​เธอก็แลกเปลี่ยนข้อมูลการติดต่อกับชูโจว

“ฮ่าฮ่าฮ่า หมิงจู, การตีสนิท​กับชูโจวเเบบนี้​ถือว่าคุณทำถูกต้อง​แล้ว…….. ชูโจวคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา, หากไม่มีอะไรผิดพลาด, เขาจะเป็นเทพนักรบคนใหม่ของโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กของเรา”

อะไรนะ! หนุ่มน้อยตรงหน้านี้จะกลายเป็นเทพนักรบของมนุษยชาติ​ในอนาคต?

เมื่อได้ยินความคาดหวัง​ของเฉินปาโจวที่มีต่อชูโจว, หมิงจูก็ตกตะลึง

เทพนักรบ, คือร่างที่ยืนอยู่บนยอดพีระมิดของมนุษย์…. หลายคนในโลกนี้รู้จักกันในชื่อผู้อยู่เหนือทุกสรรพสิ่งและมีไม่กี่คนที่จะสามารถกลายเป็นเทพนักรบของมนุษยชาติ​ได้?

หมิงจูรู้ว่าเฉินปาโจวไม่ใช่คนที่จะพูดอย่างไม่มีเหตุผล, ดังนั้น​ถ้าเฉินปาโจวพูดเช่นนี้ก็หมายความว่าชายหนุ่มตรงหน้ามีศักยภาพเช่นนั้นอย่างแน่นอน

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ดวงตาของหมิงจูก็สว่าง​ขึ้น, จริงอย่างที่เฉินปาโจวพูด การได้ทำความรู้จัก​กับชายหนุ่มอย่างชูโจวที่มีศักยภาพพอที่จะกลายเป็นเทพนักรบของมนุษยชาติ ถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเธอหรือแม้แต่ครอบครัวตงฟางที่อยู่เบื้องหลังเธอ

เมื่อคิดได้เช่นนี้ หมิงจูจึงตัดสินใจผูกมิตรกับชูโจวให้มากขึ้น​

“ชูโจว คุณไม่ได้เป็นคนของเมืองฐานกวางตุ้งใช่ใหม” หมิงจูถามด้วยความสงสัย, เพราะ​หากชูโจวอยู่ที่เมืองฐานกวางตุ้ง มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่เคยพบเขา

“ฉันมาจากเจียงเฉิง” ชูโจวกล่าว

เมื่อได้ยินเช่นนี้, หมิงจูก็ตกตะลึง​ทันที……..เธอไม่เคยคิดเลยว่าเมืองบริวารอย่างเจียงเฉิงจะสามารถให้กำเนิดสัตว์ประหลาดอย่างชูโจวได้

อย่างไรก็ตาม, เมื่อชูโจวมากจากเจียงเฉิง…มันก็ดีสำหรับเธอในการหาช่องทางทำความรู้จักกับชูโจวเพิ่มเติม​

"ชูโจว, นี่อาจเป็นครั้งแรกที่คุณมาถึงเมืองฐานกวางตุ้ง พี่สาวอย่างฉันคุ้นเคยกับเมืองฐานกวางตุ้งมาก ทำไมไม่ให้ฉันพาทัวร์รอบๆล่ะ?”

“อะแฮ่ม... หมิงจู, วันนี้ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับชูโจว……. วันหลังเธอค่อยพาเขาไปก็ได้” ก่อนที่ชูโจวจะได้พูดอะไรเฉินปาโจวก็ขัดจังหวะเสียก่อน

"ตกลง ผู้อำนวยการ​เฉิน, ชูโจววันนี้ฉันกลับก่อน​นะ​"

หมิงจูเป็นคน​ประเภท​รู้วิธีรุกและวิธีถอย, เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเฉินปาโจว เธอก็ไม่เเสดงท่าที​ไม่พอใจ, จากนั้นลุกขึ้นยืนทันทีเพื่อกล่าวคำอำลาและเดินออกไปอย่างช้าๆ

เมื่อมองไปที่ร่างของหมิงจูที่กำลังเดินออกไป…….ชูโจวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ค่อนข้าง​ "น่าดึงดูด" ที่สุดในบรรดาผู้หญิงที่เขาเคยพบในโลกนี้

……………………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด