บทที่ 65 : ตงฟาง หมิงจู
บทที่ 65 : ตงฟาง หมิงจู
"สวัสดีชูโจว…นายเป็นอย่างไรบ้าง" หลิวเฉียนๆ ทักทายชูโจวด้วยรอยยิ้ม
"ฉันสบายดี" ชูโขวยิ้มเล็กน้อยและพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาในช่วงเวลานี้สั้น ๆ
"หุหุ…… ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าคุณจะเข้าร่วมโรงยิมศิลปการต่อสู้โทมาฮอว์ก เเถมยังตั้งทีมร่วมกับพวหหลิงซานทั้งสามคนอีก"
“เห้อ….. ฉันอิจฉานายจริงๆ, นายกลายเป็นนักรบได้เร็วมาก เเต่ฉันยังต้องเรียนมหาลัยเเล้วก็ต้องทำงานหนักอีกมาก” ดวงตาของหลิวเฉียนๆแสดงความอิจฉา
"แล้วเธอล่ะ….เดินทางไปถึงมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซาท์ไชน่าแล้วหรือยัง"
"ฉันอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซาท์ไชน่ามาระยะหนึ่งแล้ว…….เเถมฉันโชคดีที่ได้รับการยอมรับให้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ที่ทรงพลังมาก เเละฉันยังพบเพื่อนมากมายที่นี่, ถ้ามีโอกาสฉันจะแนะนำให้รู้จักกับนาย"
จากเรื่องที่หลิวเฉียนเฉียนเล่าให้ฟังพูดของ ชูโจวรู้สึกได้เลยว่า…..ดูเหมือนเธอจะทำได้ดีและมีความสุขกับเส้นทางของ
“อีกสามวันจะเป็นวันเกิดของหลี่ชิงฉี, บ้านของเธออยู่ในเมืองกวางตุ้งเเละฉันจะไปฉลองวันเกิดของเธอที่นั่น” ชูโจวกล่าว
เมื่อหลิวเฉียนๆได้ยินว่าชูโจวกำลังจะมาที่เมืองฐานกวางตุ้งดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นทันที "นายจะมาที่เมืองกวางตุ้งหรือ…..เยี่ยมมาก, เมื่อนายมาถึงก็อย่าลืมมาหาฉันด้วยนะ" หลิวเฉียนๆกล่าวอย่างกระตือรือร้น
“ตกลง ฉันจะไปหาคุณเมื่อถึงเวลานั้น” จากนั้นทั้งสองคุยกันสักพักก่อนจะวางสายไป
“ตืดดดดด, ตืดดดดด...” อย่างไรก็ตาม หลังจากวางสายหลิวเฉียนๆเเล้ว…..นาฬิกาสื่อสารของชูโจวก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“คราวนี้ใครอีกล่ะ” นาฬิกาสื่อสารดังสามครั้งติดต่อกัน, ชูโจวอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเล็กน้อย
คราวนี้เป็นภาพสามมิติของผู้อำนวยการเฉินปาโจวปรากฏขึ้น
“ชูโจว ฉันได้ยินมาจากเฒ่าชุยว่าคุณกำลังพยายามที่จะก้าวข้ามไปสู่ระดับพิเศษ, คุณทำสำเร็จหรือเปล่า” ทันทีที่เฉินปาโจวเห็นว่าชูโจวรับสายเเล้ว…… เขาก็อดใจรอไม่ไหวที่จะถามคำถามนี้
"มันประสบความสำเร็จด้วยดี" ชูโจวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
"ประสบความสำเร็จ?" เฉินปาโจวผงะไปครู่หนึ่ง….. จากนั้นก็หัวเราะออกมา "ฮ่าๆ มันยอดเยี่ยมมาก…….นักรบขั้นพิเศษที่มีอายุเพียง 17 ปีไม่ได้ปรากฏขั้นมาหลายปีแล้ว"
"ฉันจะรายงานสถานการณ์ของคุณไปยังสำนักงานใหญ่ระดับโลกทันที, เพื่อที่พวกเขาจะได้เตรียมเพิ่มการสนับสนุนสำหรับอัจฉริยะเเบบคุณ"
“อีกอย่าง….. ถ้าคุณมีเวลา ช่วยมาหาฉันที่เมืองกวางตุ้งหน่อยนะ….มีบางอย่างที่ฉันอยากจะเเจ้งคุณเป็นการส่วนตัว” หลังจากพูดจบผู้อำนวยการเฉินปาโจวก็วางสายไป
"ดูเหมือนว่าการเดินทางไปเมืองฐานของกวางตุ้งครั้งนี้จะใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ" ชูโจวยิ้มอย่างมีเลศนัย, เขาไม่คาดคิดเลยว่าการโทรสามครั้งที่ติดต่อมาที่เขาจะเกี่ยวข้องกับเมืองฐานกวางตุ้งทั้งหมด
เมื่อมีเรื่องที่ต้องทำเยอะเเบบนี้, เขาจึงตัดสินใจว่าไม่ต้องรออีกสามวันอีกเเล้ว, เเละเขาจะไปเมืองกวางตุ้งวันนี้เลย
อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปเมืองฐานกวางตุ้งครั้งนี้, ไม่เพียงแต่ไปพบเฉินปาโจว เท่านั้น, แต่ยังไปเพื่อฉลองวันเกิดของหลี่ชิงฉีด้วย……ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมของขวัญบางอย่างติดมือไปด้วย
ชูโจวเปิดห้างสรรพสินค้านักรบทันที และหลังจากเลือกอย่างระมัดระวังอยู่พักหนึ่ง เขาก็เลือกกล่องชาราคาแพงชื่อ "เลือดฟีนิกซ์" และขวดน้ำหอมแบรนด์เนมชื่อ "หลิงหลง"
ชูโจวไม่ได้รู้เรื่องชาและน้ำหอมมากนัก ดังนั้นเขาจึงเลือกซื้อมันเนื่องจากราคาที่ “แพง” เท่านั้น……. กล่องชา"เลือดฟีนิกซ์" มีมูลค่า 2 ล้านเหรียญ และ "หลิงหลง" หนึ่งขวดมีมูลค่า 1 ล้านเหรียญ……. สำหรับคนทั่วไปเเล้ว, สิ่งเหล่านี้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยทที่มีราคาแพงมาก
แน่นอนคำว่า "แพง" ในที่นี้ใช้สำหรับคนธรรมดาเท่านั้น……แต่สำหรับนักรบจะถือว่าเป็นราคาค่าเฉลี่ยเท่านั้น
แต่มันช่วยไม่ได้, เพราะชูโจวกลายเป็นคนจนอยู่ในตอนนี้, ณ เวลานี้เขามีเงินทั้งหมดเเค่เพียง 18.4 ล้านเท่านั้น…. เเละการทุ่ม 3 ล้านเพื่อซื้อของขวัญก็ถือว่าเป็นบั่นทอนเนื้อหนังเขาแล้ว
สั่งซื้อสินค้า, การชำระเงิน….. กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นอย่างง่ายดาย, เเละในเวลาเพียง 15 นาที พนักงานของห้างก็จัดส่ง "เลือดฟีนิกซ์" และ "หลิงหลง" ให้กับชูโจวอย่างเรียบร้อย
ชูโจวบอกพ่อและน้องสาวของเขาว่าเขามีบางอย่างที่ต้องไปทำที่เมืองฐานกวางตุ้ง, จากนั้นก็ออกจากบ้านไป
ขึ้นรถโดยสารประจำทาง, ขึ้นรถไฟความเร็วสูงเเละหลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง, ชูโจวก็มาถึงเมืองฐานกวางตุ้งโดยสวัสดิภาพ
เมื่อเทียบกับเมืองเจียงเฉิงเเล้ว เมืองฐานกวางตุ้งนั้นเจริญกว่ามาก…. ที่นี่มีตึกสูงระฟ้าอยู่ทุกหนทุกแห่งและมีรถหรูราคาแพงทุกประเภทบินอยู่ในอากาศ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ชูโจวประทับใจที่สุดคือท้องฟ้าของเมืองฐานกวางตุ้งนั้นมีโล่พลังงานรูปโดมขนาดใหญ่มากครอบคลุมไว้อยู่, นอกจากนี้ยังมีจำนวนนักรบมากกว่าในเจียงเฉิงมากมาย……. เพียงแค่ยืนอยู่นอกสถานีไม่กี่นาที, ก็พบนักรบผู้ปลุกพลังหลายสิบคน, และรวมถึงระดับพิเศษสองหรือสามคนเดินผ่านเขาไป
"นี่คือเมืองฐานของมณฑลกวางตุ้ง, หนึ่งในหกเมืองฐานหลักของประเทศมังกร ในแง่ของจำนวนนักรบ, มันชั่งห่างไกลกับเมืองบริวารเช่นเจียงเฉิง" ชูโจวถอนหายใจ… ที่นี่คือเมืองที่มีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนและต้องมีเสือซ่อนมังกรหมอบอยู่เต็มไปหมด
จากนั้นชูโจวก็ขึ้นรถบัสต่อ, เเลัในไม่ช้าเขาก็มาถึงโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ในเขตเมืองกวางตุ้ง
สำนักงานใหญ่ของโรงยิมโทมาฮอว์กนี้ดูคล้ายกับยานอวกาศขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางถนนไลหมิงซึ่งเป็นเขตที่เจริญที่สุดในมณฑลกวางตุ้ง
“ผู้อำนวยการ, ผมมาแล้ว” ชูโจวที่เดินมาถึงประตูโรงยิมศิลปะการต่อสู้และทำการติดต่อเฉินปาโจวในทันที
"หืมมมม…..มาเเล้วหรือ" เฉินปาโจวไม่คิดว่าชูโจวจะมาหาเขาทันทีที่เขาเเจ้งไป, ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย “เดี๋ยวฉันจะส่งคนไปรับคุณขั้นมา, รอนิดนึงนะ”
หลังจากนั้นไม่นาน, หญิงสาวในชุดยูนิฟอร์มก็เดินออกมาจากโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์ก
“สวัสดี คุณคือนักรบชูโจวใช่ไหม, โปรดตามฉันมา”
หญิงสาวมองไปที่ชูโจวอย่างสงสัยว่าทำไมผู้ยิ่งใหญ่อย่าง เฉินปาโจวถึงได้ให้ความสำคัญกับเด็กหนุ่มอย่างชูโจวมากนัก
เธอจึงเริ่มเดาที่มาของชูโจวอย่างลับๆ ว่าเขาอาจจะเป็นลูกหลานราชวงศ์หรือบุตรชายของผู้นำสมาคมชั้นนำต่างๆ
คุณต้องรู้ก่อนว่ามีหลายครอบครัวในเมืองฐานของกวางตุ้งที่มักจะมาขอพบผู้อำนวยการเฉินปาโจว……. เเต่โดยทั่วไปแล้วผู้อำนวยการจะปฏิเสธพวกเขาไปทั้งหมดเพราะขี้เกียจเกินไป…… ดังนั้นถ้าชูโจวไม่มีภูมิหลังที่น่าทึ่ง, เธอคงจะไม่มีทางเชื่อเลย
หญิงสาวเดินเข้ามาจากทางเข้าหลักพร้อมๆกับชูโจว, อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้พาชูโจวเข้าไปในอาคารหลักเเต่กลับพาเขาอ้อมไปทางด้านหลังและนำชูโจวมาถึงวิลล่าเดี่ยวที่หรูหราสี่หลัง
"วิลล่าเดี่ยวทั้งสี่หลังนี้เป็นที่พักของประธานและผู้อำนวยการทั้งสามคนเเละผู้อำนวยการเฉินอาศัยอยู่ในวิลล่าทางขวาสุด..."
หญิงสาวอธิบายและพาชูโจวไปที่วิลล่าทางขวาสุด, ทันทีที่เขาเข้าไปในวิลล่าชูโจวก็เห็นเฉินปาโจวที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาและมีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกับเฉินปาโจว
“ชูโจว มานี่สิ” เฉินปาโจวขอให้ชูโจวมานั่งที่ด้านข้างของเขา, จากนั้นชี้ไปที่หญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามและพูดกับชูโจวว่า
"ให้ฉันแนะนำให้คุณรู้จัก, เธอชื่อหมิงจู, เธอเป็นหนึ่งในรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นที่สุดในเมืองฐานกวางตุ้งเเละอีกไม่นานเธอจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักรับขั้นผู้ควบคุม……. เเละด้วยศักยภาพของเธอ, ในอนาคตเธอมีโอกาสสูงมากที่จะกลายเป็นมหาอำนาจระดับราชา"
“ผู้อำนวยการเฉิน, คุณประเมินค่าฉันสูงเกินไป ฉันมั่นใจว่าฉันจะสามารถเลื่อนขั้นเป็นนักรบระดับปรมาจารย์ได้…...แต่สำหรับระดับราชา, ฉันยังห่างไกลอยู่มาก” หมิงจูกล่าวอย่างถ่อมตน
หมิงจูที่เห็นเฉินปาโจวปฏิบัติต่อชูโจวด้วยท่าทีสนิทสนมเช่นนี้…… เธอก็รู้สึกตกใจมาก, เธอไม่เคยเห็นเฉินปาโจวปฏิบัติต่อใครเช่นนี้มาก่อน
“สวัสดี, ผมชื่อชูโจว” ชูโจวทักทายหมิงจูอย่างสุภาพ
พี่สาวหมิงจูที่อยู่ต่อหน้าเขานี้, น่าจะมีอายุประมาณยี่สิบห้าหรือยี่สิบหกปี มีรูปร่างเพรียวบาง, มีดวงตาที่สวยงามรวมทั้งเสน่ห์ที่ยากจะพรรณนา
"สวัสดี, ดูเหมือนว่าคุณจะอายุน้อยกว่าฉัน ต่อจากนี้ไปเรียกฉันว่าพี่สาวหมิงจูก็ได้…….ฉันไม่ได้อวดนะ, เเต่ฉันค่อนข้างกว้างขวางในเมืองฐานกวางตุ้งเเห่งนี้, ดังนั้นหากต้องการความช่วยเหลือในอนาคต ก็แค่ติดต่อฉันมา” หมิวจูดูใจดีกับชูวโจวมากและหลังจากนั้นเธอก็แลกเปลี่ยนข้อมูลการติดต่อกับชูโจว
“ฮ่าฮ่าฮ่า หมิงจู, การตีสนิทกับชูโจวเเบบนี้ถือว่าคุณทำถูกต้องแล้ว…….. ชูโจวคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา, หากไม่มีอะไรผิดพลาด, เขาจะเป็นเทพนักรบคนใหม่ของโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์กของเรา”
อะไรนะ! หนุ่มน้อยตรงหน้านี้จะกลายเป็นเทพนักรบของมนุษยชาติในอนาคต?
เมื่อได้ยินความคาดหวังของเฉินปาโจวที่มีต่อชูโจว, หมิงจูก็ตกตะลึง
เทพนักรบ, คือร่างที่ยืนอยู่บนยอดพีระมิดของมนุษย์…. หลายคนในโลกนี้รู้จักกันในชื่อผู้อยู่เหนือทุกสรรพสิ่งและมีไม่กี่คนที่จะสามารถกลายเป็นเทพนักรบของมนุษยชาติได้?
หมิงจูรู้ว่าเฉินปาโจวไม่ใช่คนที่จะพูดอย่างไม่มีเหตุผล, ดังนั้นถ้าเฉินปาโจวพูดเช่นนี้ก็หมายความว่าชายหนุ่มตรงหน้ามีศักยภาพเช่นนั้นอย่างแน่นอน
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ดวงตาของหมิงจูก็สว่างขึ้น, จริงอย่างที่เฉินปาโจวพูด การได้ทำความรู้จักกับชายหนุ่มอย่างชูโจวที่มีศักยภาพพอที่จะกลายเป็นเทพนักรบของมนุษยชาติ ถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเธอหรือแม้แต่ครอบครัวตงฟางที่อยู่เบื้องหลังเธอ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หมิงจูจึงตัดสินใจผูกมิตรกับชูโจวให้มากขึ้น
“ชูโจว คุณไม่ได้เป็นคนของเมืองฐานกวางตุ้งใช่ใหม” หมิงจูถามด้วยความสงสัย, เพราะหากชูโจวอยู่ที่เมืองฐานกวางตุ้ง มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่เคยพบเขา
“ฉันมาจากเจียงเฉิง” ชูโจวกล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนี้, หมิงจูก็ตกตะลึงทันที……..เธอไม่เคยคิดเลยว่าเมืองบริวารอย่างเจียงเฉิงจะสามารถให้กำเนิดสัตว์ประหลาดอย่างชูโจวได้
อย่างไรก็ตาม, เมื่อชูโจวมากจากเจียงเฉิง…มันก็ดีสำหรับเธอในการหาช่องทางทำความรู้จักกับชูโจวเพิ่มเติม
"ชูโจว, นี่อาจเป็นครั้งแรกที่คุณมาถึงเมืองฐานกวางตุ้ง พี่สาวอย่างฉันคุ้นเคยกับเมืองฐานกวางตุ้งมาก ทำไมไม่ให้ฉันพาทัวร์รอบๆล่ะ?”
“อะแฮ่ม... หมิงจู, วันนี้ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับชูโจว……. วันหลังเธอค่อยพาเขาไปก็ได้” ก่อนที่ชูโจวจะได้พูดอะไรเฉินปาโจวก็ขัดจังหวะเสียก่อน
"ตกลง ผู้อำนวยการเฉิน, ชูโจววันนี้ฉันกลับก่อนนะ"
หมิงจูเป็นคนประเภทรู้วิธีรุกและวิธีถอย, เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเฉินปาโจว เธอก็ไม่เเสดงท่าทีไม่พอใจ, จากนั้นลุกขึ้นยืนทันทีเพื่อกล่าวคำอำลาและเดินออกไปอย่างช้าๆ
เมื่อมองไปที่ร่างของหมิงจูที่กำลังเดินออกไป…….ชูโจวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ค่อนข้าง "น่าดึงดูด" ที่สุดในบรรดาผู้หญิงที่เขาเคยพบในโลกนี้
……………………..