(ฟรี) บทที่ 365 ความมีเหตุผลของเหลิงอู่เหยียน
สตรีที่อยู่ตรงหน้าพวกเขางดงามหาที่เปรียบมิได้ ชุดคลุมสีขาวของนางไม่เปื้อนฝุ่นผง ดวงตาของนางเย็นชาและไม่แยแส ราวกับว่านางเป็นน้ำแข็งนิรันดร์
“ละ...เหลิงอู่เหยียน?!!”
รูม่านตาของเฉินหยุนเต๋าหดลีบ เส้นขนบนร่างกายของเขาลุกชูชัน
ปรมาจารย์หมิงหยวนขยี้ตา หลังจากยืนยันว่าไม่ใช่ภาพลวงตา หัวใจของเขาก็แทบจะหยุดเต้น
ปีศาจตนนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!
เหลิงอู่เหยียนพูดอย่างเฉยเมย “ข้าไม่ได้ไปที่เทือกเขาเฟยหยุนมาหลายปีแล้ว ในเมื่อผู้นำนิกายเฉินอัธยาศัยดีมาก ทำไมเราไม่ไปนั่งจิบชากันล่ะ?”
“เทือกเขาเฟยหยุน?”
ลมหายใจของเฉินหยุนเต๋าขาดห้วง
ถ้าแม่มดตนนี้ไปที่พระราชวังเต๋าสูงสุดจริงๆ ทั้งนิกายอาจกลายเป็นฝุ่นผงของประวัติศาสตร์!
เขาฝืนยิ้มและพูดว่า “ถ้าผู้นำนิกายเหลิงต้องการไป ข้า… แค่กๆ แน่นอนว่าข้าย่อมยินดีต้อนรับ อย่างไรก็ตาม วันนี้ที่นิกายค่อนข้างยุ่ง เราไม่สะดวกที่จะต้อนรับแขก”
ต่อหน้าเหลิงอู่เหยียน เขาไม่กล้าวางตัวเป็นผู้นำของวิถีธรรมแม้แต่น้อย
ในปีนั้น ระหว่างการต่อสู้ของวิถีธรรมและวิถีมาร แม่มดตนนี้อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ ฟัน เทือกเขาเฟยหยุนขาดเป็นสองท่อนด้วยดาบของนาง ฉากที่น่าตกใจนั้นยังคงฉายชัดอยู่ในใจของเขา
คำว่า “เหลิงอู่เหยียน” เป็นเงาชั่วชีวิตของเขา
“ไม่สะดวก?” เหลิงอู่เหยียนหันไปมองปรมาจารย์หมิงหยวน “เช่นนั้นเราไปที่วิหารอู่หวางแทนดีไหม? ข้ายังไม่เคยไปดินแดนจิตวิญญาณนภาโบราณเลย”
“……” หมิงหยวนกลืนน้ำลายและพูดด้วยเสียงแผ่ว “อมิตาพุทธ วัดเล็กๆของเราคงไม่คู่ควรกับตัวตนที่ยิ่งใหญ่เช่นท่าน ผู้นำนิกายเหลิงโปรดอย่าล้อเล่นเลย”
วิหารอู่หวางเป็นนิกายที่ยิ่งใหญ่ของวิถีธรรมและดินแดนพุทธะอันศักดิ์สิทธิ์ แต่เขากลับเรียกมันว่า “วัดเล็กๆ”
เหลิงอู่เหยียนเลิกคิ้ว “ข้าดูเหมือนล้อเล่นหรือไง?”
ขาของหมิงหยวนอ่อนลงขณะที่เขาถามด้วยเสียงสั่น “ผู้นำนิกายเหลิง… ท่านต้องการอะไรกันแน่?”
ดวงตาฟีนิกซ์ของเหลิงอู่เหยียนหรี่ลงเล็กน้อย “พวกเจ้าระดมคนไปที่เกาะดาบเมฆา ข้าเพียงมาดูความคึกคัก แต่ข้าไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเกี่ยวข้องกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ของข้า... การแสดงยังไม่จบ พวกเจ้าจะแยกย้ายกันง่ายๆได้ยังไง?”
ความอึกทึกครึกโครมของเรื่องนี้ยิ่งใหญ่เกินไป มันดึงดูดความสนใจของนิกายระดับสูงเกือบทั้งหมด วิหารโหยวหลัวเองก็ไม่มีข้อยกเว้น
ตอนแรกนางไม่ได้จริงจังกับมันมากนักและคิดว่าแค่สุนัขของวิถีธรรมกำลังกัดกัน ดังนั้นนางจึงใช้สัมผัสวิญญาณกวาดผ่านแบบลวกๆ
ผลที่ตามมาคือฉากตรงหน้าทำให้นางตกตะลึง
อัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ของวิถีธรรม ร่างเทพดาบในตำนานหลี่เถียจู่แท้จริงแล้วคือหลี่หราน?
และเฉินหยุนเต๋ากล้าที่จะโจมตีเขาจริงๆ!
นางไม่สามารถอยู่เฉยได้อีกต่อไปและมาถึงทะเลตะวันออกโดยตรง
ถ้าไม่ใช่เพราะอวี้ชิงหลันกับฉู่หลิงฉวนแข็งแกร่งพอที่จะทำให้ทั้งสองต้องทุกข์ทรมาน นางคงพลิกคว่ำเกาะดาบเมฆาไปแล้ว!
หมิงหยวนตัวสั่นและจ้องมองที่เฉินหยุนเต๋าอย่างขุ่นเคือง
คำพูดของเหลิงอู่เหยียนหมายความว่านางมาที่นี่เพื่อลงโทษพวกเขา!
เขาเพียงมาเพื่อเติมเต็มฉากเท่านั้น แต่สุดท้ายเขากลับรุกรานจักรพรรดินีสามคนพร้อมกัน...
เฉินหยุนเต๋าก็อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นกัน
เขาเพียงต้องการใช้ความตายของเฟิงว่านเจียงสะกดข่มนิกายอื่นๆและสร้างชื่อเสียงให้ พระราชวังเต๋าสูงสุด
ใครจะคิดว่าคนที่ถูกทุบตีจะเป็นเขา และพระราชวังเต๋าสูงสุดยังกลายเป็นตัวตลก…
เฉินหยุนเต๋าสงบสติอารมณ์และอธิบายว่า “เมื่อข้าได้ยินข่าวการตายของศิษย์ข้า หัวใจของข้าเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ข้าไม่ได้คาดหวังว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นนี้… แต่ตอนนี้ความเข้าใจผิดได้รับการแก้ไขแล้ว...”
“เข้าใจผิด?” เหลิงอู่เหยียนพูดอย่างเฉยเมย “ทำไมข้าถึงได้ยินว่าไม่ใช่แค่เจ้าต้องการตรวจสอบความทรงจำของหลี่หราน แต่เจ้ายังต้องการชีวิตของเขาอีกด้วย?”
เฉินหยุนเต๋าเช็ดเหงื่อเย็นแล้วพูดว่า “ข้าหุนหันพลันแล่นเกินไป แต่ข้าก็ขอโทษบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่แล้ว บุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่มีเหตุผลและเราก็ไม่ติดใจอะไรกัน”
เหลิงอู่เหยียนกล่าวว่า “เป็นเรื่องหายากจริงๆที่จะเห็นผู้นำนิกายเฉินยอมขอโทษ”
“ไม่เลย” เฉินหยุนเต๋ายิ้มแหยๆและกล่าวว่า “ในเมื่อมันเป็นความผิดของข้า ข้าไม่มีเหตุผลที่จะต้องหลีกหนีความรับผิดชอบนั้น”
“ดี” เหลิงอู่เหยียนพยักหน้า “เนื่องจากผู้นำนิกายเฉินยอมรับความผิดพลาดและข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผล ดังนั้นข้าจะให้โอกาสเจ้า”
เฉินหยุนเต๋าถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินสิ่งนี้
จากความหมายเบื้องหลังคำเหล่านี้ นางคงไม่ต้องการขัดแย้งกับเขา
อย่างไรก็ตาม หมิงหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย
มันง่ายขนาดนี้?
นี่มันดูไม่เข้ากับบุคลิกของปีศาจหน้าหยกเลยแม้แต่น้อย!
เฉินหยุนเต๋าดูราวกับได้รับการปลดเปลื้องจากภาระอันหนักอึ้ง เขายิ้มในขณะที่กล่าวว่า “ผู้นำนิกายเหลิงเป็นคนชอบธรรมอย่างแท้จริง คนใจกว้างแบบนี้น่าชื่นชม…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค เหลิงอู่เหยียนก็พูดต่อว่า “เพียงแค่รับการโจมตีสามครั้งจากข้า ไม่ว่าเจ้าจะอยู่หรือตายข้าจะไม่เอาความอีกต่อไป”
“อา?”
“สะ...สามครั้ง?”
รอยยิ้มของเฉินหยุนเต๋าแข็งค้างทันที
เขาพูดตะกุกตะกัก “ผู้นำนิกายเหลิงบอกว่าจะให้โอกาสข้าไม่ใช่เหรอ?”
เหลิงอู่เหยียนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้เจ้ายังมีลมหายใจและสนทนาได้ อีกทั้งพระราชวังเต๋าสูงสุดยังไม่ถูกทำลาย นี่เป็นโอกาสที่ข้ามอบให้”
“……” หนังศีรษะของเฉินหยุนเต๋าชาด้าน
ละเว้นโทษตายและไม่ทำลายนิกายคือการให้โอกาสที่นางพูดถึง?
มันไร้เหตุผลเกินไป!
รับการโจมตีสามครั้งจากนาง… เขาไม่มีความมั่นใจที่จะทำเช่นนั้นแม้แต่น้อย!
ดวงตาของเฉินหยุนเต๋าวูบไหวขณะที่เขาเตรียมจะวิ่งหนี
แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไร พื้นที่โดยรอบก็ถูกแช่แข็ง ความว่างเปล่าถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ เงาใต้ฝ่าเท้าของเขาขดขึ้นมาพันธนาการราวกับงูทมิฬ
เสียงเย็นชาของเหลิงอู่เหยียนดังขึ้น “เจ้าควรหวงแหนโอกาสนี้ มิฉะนั้นดาบทั้งสามจะฟันลงบนเทือกเขาเฟยหยุน!”
“เจ้า!” ดวงตาของเฉินหยุนเต๋าเต็มไปด้วยความหม่นหมอง
เหลิงอู่เหยียนเป็นคนรักษาคำพูดมาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ได้
เขาอาจจะไม่ตายหากรับดาบทั้งสามเล่มด้วยตัวเอง แต่ถ้านางโจมตีเทือกเขาเฟยหยุน ทั่วทั้งพระราชวังเต๋าสูงสุดจะเหลือแต่เถ้าถ่าน!
“เอาล่ะ ข้าจะรับการโจมตีทั้งสามครั้ง!” เฉินหยุนเต๋าสงบลง ทั่วร่างกายของเขาปะทุด้วยแสงสว่างขณะที่เสื้อคลุมนักพรตสีเข้มของเขาปลิวไสว
พลังแห่งเต๋าที่ยิ่งใหญ่แผ่ออกมาขณะที่สวรรค์และโลกทั้งหมดเต็มไปด้วยกฎแห่งเต๋าอันไร้ขอบเขต
รอยยิ้มของเหลิงอู่เหยียนเย็นยะเยือก “ดีมาก ข้าจะดูว่าเจ้าพัฒนาขึ้นแค่ไหนในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา!”
แสงสีดำสว่างวาบในมือของนางขณะที่ดาบสีดำสนิทตกลงบนฝ่ามือ
นางค่อยๆดึงดาบยาวออกมา ตัวดาบเป็นสีดำสนิทราวกับหมึกและไม่มีคมใดๆ แต่มันปลดปล่อยจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัว!
รอยแตกปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าราวกับว่าสวรรค์และโลกได้เปิดดวงตาสีดำสนิท
“ดาบที่หนึ่ง”
บูม!
โลกถูกปกคลุมด้วยความมืดมิด สุริยันและจันทรากลายเป็นไร้แสง!
/////