ตอนที่ 1189 ราชาลาลับ
เงาร่างทั้งสองถูกแทงพร้อมกันด้วยดาบเล่มเดียวกัน
เลือด
ค่อยซึมหยดออก
และหยดลงพื้น
เทพทักษิณเทียนโฉวใช้ไม้ตายโจมตีในช่วงเวลาที่ดีที่สุดเขายังคงตรึงดาบเทพดื่มหิมะอยู่ในท่านั้นเป็นเวลานาน ที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาคือเย่ว์หยางที่ยืนตัวตรงเสื้อผ้าของเย่ว์หยางมีรอยเปื้อนเลือดเป็นรอยใหญ่สีแดงฉาน...
แต่รอยเปื้อนเลือดนี้ไม่ใช่เลือดของเขาแต่เป็นเลือดของเทพทักษิณเทียนโฉวต่างหาก!
ดาบเทพดื่มหิมะถูกเย่ว์หยางใช้มือซ้ายจับไว้ดาบแทงรอดรักแร้ของเขาในระดับอก มองผิวเผินเหมือนกับแทงทะลุอกเย่ว์หยาง
ขณะดาบแทงผ่านร่างของเขาเทียนโฉวสำนึกเสียใจทันที
เขาไม่เคยเสียใจมากขนาดนั้นมาก่อน
กับดัก
ช่วงเวลาลอบโจมตีที่ดีที่สุดที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เป็นกับดักมรณะที่ศัตรูเจ้าเล่ห์ข้างหน้ากางรอไว้อสูรลอยแสงถูกจับได้แน่นอน แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่การต่อสู้จะจบ ชี่เฉียวผู้นี้ต้องบอกว่าเจ้าเล่ห์เหลือร้าย เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะลงมือทุบตีอย่างป่าเถื่อนโหดร้ายแต่ความจริงนั่นคือเหยื่อล่อที่อยู่บนกับดัก
น่าเสียดายสายเกินกว่าจะเข้าใจ
รอจนเขาเข้าใจ
ปลาก็ฮุบเหยื่อด้วยความตะกละตะกลามตกลงไปในข่ายมรณะ
ความโลภนับเป็นความผิดพลาดเมื่อผิดพลาดก็ต้องชดใช้ราคา... ขณะนั้นเทียนโฉวระลึกถึงคำสอนของอาจารย์ของเขาได้
ในอดีตปีนั้นอาจารย์ได้สอนเขา “ในฐานะมือสังหารผู้ใช้ดาบแทนที่จะเป็นมีดสั้น เขาต้องไม่ทำตัวเป็นคนที่โง่ที่สุดในโลก แต่ไม่ควรทำตัวเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน
มิฉะนั้นเขาจะต้องชดใช้ราคาด้วยเลือดเนื้อ!
ประโยคนี้เขาไม่เคยเข้าใจได้อย่างเต็มที่จนกระทั่งบัดนี้ ทว่าสายเกินไป!
ไม่ว่าจะเป็นนักดาบหรือนักฆ่าเมื่อตกหลุมพรางกับดักที่ศัตรูจัดเตรียมไว้อย่างระมัดระวังจุดจบมีเพียงประการเดียว
นั่นคือตาย
หอกกลืนมังกรแทงลอดรักแร้ขวาเย่ว์หยางทะลวงเข้าอกเทียนโฉวจนทะลุออกหลังปลายหอกเปื้อนเลือดมีเลือดหยาดหยดทีละหยดๆ ถ้าเป็นเพียงอาการบาดเจ็บหนักทางกายคงไม่สามารถทำอันตรายนักสู้ระดับเทพได้ แต่มีพลังของเทพมหาอัคคีแฝงอยู่ในหอกกลืนมังกร ขณะเดียวกันเทียนโฉวรู้สึกถึงพลังลึกลับแข็งแกร่งระเบิดออกมาเป็นพลังสองสาย เทียนโฉวรู้สึกว่าวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงต่อให้โชคดีหลบหนีได้ไม่ถึงกับตายในสงครามเทพครั้งนี้ แต่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะฟื้นฟูพลังในช่วงเวลาสองถึงสามพันปีนี้
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเด็กหนุ่มผู้เยือกเย็นเหมือนหมาป่าผู้นี้ เขาจะมีโอกาสกลับมาอีกหรือ?
เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้!
ตาย
ชะตาของเขามาถึงจุดจบแล้วนับแต่ฝ่ายตรงข้ามวางกับดักรอเขา
“ความจริงเจ้าก็เหมือนกับซื่อเสินพวกเจ้าเป็นคนประเภทเดียวกัน! ความจริงสิ่งที่ใช้ฆ่าข้า ไม่ใช่หอกกลืนมังกร ไม่ใช่พลังของเทพมหาอัคคีแต่เป็นปราณกระบี่ชนิดหนึ่งปราณกระบี่ที่น่ากลัวยิ่งกว่ากระบี่วิถีกำศรวลของซื่อเสิน! ขุนเขาเหนือขุนเขาไม่เคยมีคนอย่างเจ้าเด็กหนุ่ม! เจ้าคือใคร?” เทพทักษิณเทียนโฉวจับตามองเย่ว์หยางนิ่ง ตอนนี้เขาหวังว่าจะได้ทราบความจริงก่อนเขาตาย
“คำตอบอยู่ในใจเจ้าแล้ว” เย่ว์หยางค่อยๆ ถอนหอกกลืนมังกรกลับคืน
“ในใจข้า?”
เทียนโฉวใช้มือกุมอยู่ที่ปากแผลตรงบริเวณอกมืออีกข้างถือดาบเทพดื่มหิมะยืนซึมเซา
อสูรลอยแสงที่ตัวสั่นอยู่กับพื้นกลัวจนลืมหนี
เมื่อเขารู้ตัวเขาต้องการจะแปลงร่างเป็นแสงแล้วหลบหนี
แต่ขณะนั้นศีรษะของเขาถูกเหยียบ
จมมิดลงไปในพื้นทราย
ไม่ได้รับอนุญาตจากเย่ว์หยางแล้วต้องการจะหลบหนี? ไม่มีทางเป็นไปได้
“ลุงเทียนโฉว” จีอู๋ลี่ตาแดงทันที เขาวิ่งเข้ามารับร่างเทพทักษิณเทียนโฉวและพยายามช่วยเทียนโฉวห้ามเลือด
“ไม่มีประโยชน์ ในฐานะนักฆ่า ข้ารู้ว่าเมื่อใดควรทำอะไร และอะไรไม่ควรทำ” เทียนโฉวโบกมือห้ามไม่ให้จีอู๋ลี่ช่วยเหลือ อาการบาดเจ็บที่ใหญ่ที่สุดของเขาไม่ใช่ที่ร่างกาย แต่เป็นที่วิญญาณ ในโลกนี้วิญญาณไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ามีพลังเทพของเทพมหาอัคคีนับไม่ถ้วน และพลังปราณกระบี่ลึกลับทำลายวิญญาณของเขาร่างกายรักษาได้ก็ไม่ต่างอะไรกับเลือดเนื้อว่างเปล่าตรงกันข้ามในโอกาสนี้เทียนโฉวตัดสินใจให้บทเรียนสุดท้ายกับจีอู๋ “ความตาย, เมื่อเลือกเส้นทางนักฆ่าก็ถูกตัดสินแล้วว่าจะต้องพบจุดจบเช่นนี้ ไม่ใช่เราฆ่าคนอื่น ก็ต้องเป็นคนอื่นฆ่าเราความตายเป็นแค่การปลดเปลื้องข้า เจ้าไม่ต้องเสียใจ”
“ไม่!” จีอู๋ลี่หลั่งน้ำตานองหน้า
โอรสสวรรค์ที่น่าภาคภูมิใจของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์หยิ่งผยองมองสิ่งมีชีวิตต่างๆเป็นเหมือนมดแมลงกลับเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมาในขณะนี้
เทียนโฉวถอนหายใจเล็กน้อย “จะไม่มีลุงเทียนโฉวต่อไปในอนาคตอีกแล้วเจ้าจะต้องเดินตามลำพังไม่ใช่ว่าทุกที่จะมีอาจารย์และลุงเทียนโฉวปูทางให้เจ้าเดินทุกที่แดนสวรรค์นั้นไร้ขอบเขต เส้นทางที่เจ้าต้องเดินยังอีกยาวไกลมากถ้าอาจารย์และลุงเทียนโฉวไม่สามารถร่วมทางไปกับเจ้าได้เจ้าต้องเดินทางตามลำพัง นักสู้ทุกคนล้วนมีชะตาเดียวดาย ก็เหมือนกับอาจารย์ของเจ้า!”
จีอู๋ลี่ตัวสั่นและดูเหมือนเขาพยายามควบคุมอารมณ์
เย่ว์หยางมองดูด้วยสายตาเย็นชา
เขามองดูทุกอย่างด้วยสายตาเย็นชาและเยือกเย็น แม้ว่าเทียนโฉวและจีอู๋ลี่จะแสดงออกถึงเรื่องความเกิดความตายได้น่าซาบซึ้งใจ แต่เขาเมินไม่สนใจ
เขาแค่ค้นหาข้อบกพร่องและจุดอ่อนอย่างอื่นที่ศัตรูมีและหาสิ่งที่เขาต้องทำ
จีอู๋ลี่คือศัตรู ไม่ใช่สหาย
แสดงความเมตตาต่อศัตรูก็เท่ากับโหดร้ายต่อมิตรสหายและญาติที่รัก!
เย่ว์หยางค่อนข้างเหมือนกับเพชฌฆาตกระหายเลือดที่ทำให้ศัตรูตกใจกลัวเขาไม่ยอมทำเรื่องโง่เง่าโหดร้ายต่อสหายและญาติมิตรของเขา
ไม่ว่าจีอู๋ลี่จะร้องไห้หรือหัวเราะเขาจะต้องตายแน่นอน ถ้าจีอู๋ลี่นี้ไม่ตายคนที่จะตายก็คือตัวของเขาเองและญาติมิตรสหายของเขาเองรวมทั้งหอทงเทียนทั้งหมด จีอู๋ลี่ไม่ตายหอทงเทียนจะถูกทำลายโดยตัวเขาและอาจารย์ของเขาโดยไม่มีวันฟื้นขึ้นอีกแทนที่จะสงสารจระเข้บีบน้ำตาผู้นี้ เขายอมแข็งใจฆ่าคนดีกว่า
“เขาไม่ใช่ซาฟง และไม่มีทางเป็นชี่เฉียวได้...ชี่เฉียวนั้นข้าก็สงสัยเหมือนกัน แต่เขาไม่ใช่ชี่เฉียว”
เทพทักษิณเทียนโฉว ตอนนี้อาการบรรเทาลงไปบ้าง
เชื่อว่าเขายังสามารถมีชีวิตได้แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่พลังของเขาได้รับบาดเจ็บเสียหายอย่างหนักแต่ก็ยังมีความเป็นไปได้กับการฟื้นฟูร่างกาย
ซื่อเสินเฮยโจวและเย่ว์หยางเห็นแล้วอดหลั่งเหงื่อพรั่งพรูมิได้ก็คือเทียนโฉวตัดร่างของเขาด้วยดาบเทพดื่มหิมะและสลายพลังเทพมหาอัคคีที่กัดกร่อนอวัยวะภายในและเลือดออกไป “เจ้าเห็นชัดเจนหรือยัง? มองผิวเผินเป็นพลังกัดกร่อนของเพลิงเทพมหาอัคคีแต่ความจริงสิ่งที่ทำให้ข้าบาดเจ็บหนักก็คือปราณกระบี่ ภายในวิญญาณของข้านอกจากมีพลังเทพมหาอัคคีแฝงอยู่ยังมีปราณกระบี่สีดำกำลังทำลายวิญญาณข้า! เชื่อได้ว่าปราณกระบี่ดำนี้ยังเป็นพลังเริ่มต้น ไม่ได้มีแค่นั้น ยังมีอีกหลายปราณกระบี่แต่นี่เป็นปราณกระบี่ที่อ่อนแอที่สุด ถึงกระนั้นนี่ก็เป็นพลังที่แฝงอยู่เพลิงเทพมหาอัคคี เด็กหนุ่มที่อยู่ต่อหน้าเจ้าในไม่ช้าจะเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหากเจ้ายังดูถูกเหยียดหยามผู้คนเจ้าจะต้องพ่ายแพ้แน่นอน!”
จีอู๋ลี่พยักหน้าหนักแน่นและร้องเสียงดัง “ลุงเทียนโฉว โปรดให้คำแนะนำแก่ข้าด้วยก่อนท่านจะเดินทางไกล!”
เทียนโฉวมองดูจีอู๋ลี่และพยักหน้าเคร่งขรึม “นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการจะบอก! อาจไม่มีใครในคนรุ่นใหม่ที่มีอัจฉริยภาพสูงล้ำเท่าคนรุ่นเจ้านั่นเป็นเหตุให้ข้ายินดีกับการสนับสนุนเจ้าอย่างไรก็ตามเจ้าต้องจำไว้ว่าเหนือฟ้ายังมีท้องฟ้ากว้างใหญ่ไม่สิ้นสุด ยังมีอัจฉริยะอย่างเช่นเจ้ามากกว่าหนึ่งคนแม้ว่าจะไม่ใช่ร้อยปี พันปี หรือหมื่นปีจะเกิดขึ้นมาสักครั้งแต่เจ้าก็ไม่ใช่คนเดียวแน่นอน หากเจ้ายังคงใช้ทัศนคติที่หยิ่งยโสและนิสัยที่ต้องเผชิญกับคนธรรมดาสามัญเวลาต่อสู้กับอัจฉริยะที่ไม่มีใครเหมือนอย่างเจ้าเจ้าจะต้องประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่แน่ เจ้าต้องจดจำสิ่งนี้ไว้ และในแดนสวรรค์นี้ไม่ควรจะลำพองใจเกินไปต่อให้เป็นอาจารย์เจ้า เขาก็ยังไม่กล้าหยุดนิ่ง เขามักคิดถึงความก้าวหน้าอยู่เสมอ...”
จีอู๋ลี่พยักหน้าหลั่งน้ำตาสีหน้าเศร้าสร้อย
เทพทักษิณเทียนโฉวกดมือเปื้อนเลือดลงบนคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของจีอู๋ลี่“อู๋ลี่, ลุงเทียนโฉวไม่มีความสามารถ ไม่สามารถมอบอะไรไว้ให้เจ้าได้ก่อนออกเดินทางไกล ข้าจะมอบพลังเทพ ความรู้ ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถก้าวหน้าเป็นบุคคลอันดับหนึ่งเหนือไปกว่าอาจารย์ของเจ้า!”
“ไม่นะ, ลุงเทียนโฉว...” จีอู๋ลี่หลั่งน้ำตา
สองสาย
ค่อยๆ หลั่งไหลนองหน้า
ร่างเทียนโฉวสั่นด้วยความเจ็บปวด
เปลวไฟสีม่วงทองแผดเผาทั่วร่างของเขาและกลืนกินทั้งร่างกายและวิญญาณของเขา
ร่างพังทลาย
วิญญาณถูกทำลาย
นี่คือจุดจบของเทียนโฉว
ก่อนนั้นเขาได้ประทับความรู้ทั้งหมดในชีวิตไว้ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของจีอู๋ลี่ผสานพลังเทพที่เขาสะสมไว้หมื่นปีโดยไม่มีเก็บเหลือไว้เพื่อตัวเอง ทักษะแฝงเร้นดูดกลืนพลังของจีอู๋ลี่ไม่สามารถดูดซับพลังเทพที่มีคุณลักษณะแตกต่างกันได้ดีนัก อย่างไรก็ตามนี่เป็นการรวมผสานที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยสำหรับการเสียสละให้โดยสมัครใจเทียนโฉวเจ้าของดาบดื่มหิมะซึ่งเป็นพลังงานเลือดและเนื้อที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ถูกถ่ายเทลงในคัมภีร์อัญเชิญของจีอู๋ลี่เป็นการสนับสนุนสุดท้ายหวังว่าสมบัติเทพและพลังของเขาจะสนับสนุนเขาได้!
เทพทักษิณเทียนโฉวไม่เหลือแม้แต่ร่างกาย
เขาอุทิศตัวและพลังทั้งหมด
ภายใต้ผลสะท้อนที่เจ็บปวดจากการใช้พลังเกินไปร่างของเขาไม่เหลือแม้แต่เถ้าธุลีในอากาศ
วิญญาณสูญสลายทั้งหมด
เมื่อสายลมเฉื่อยฉิวพัดผ่านโลกไม่มีเหลือร่องรอยการทำลายล้างใดๆ ที่สามารถเยียวยาได้ แม้หลังจากการตายของนักสู้ระดับเทพครั้งนี้เทพทักษิณเทียนโฉวสูญสลายหายไปราวกับไม่เคยปรากฏตัวมาก่อนดูเหมือนว่าไม่มีใครในโลกที่ทำประโยชน์ให้จีอู๋ลี่อย่างเต็มใจเหมือนลุงโฉวอีก!
มีแต่เพียงดาบเทพดื่มหิมะที่หลุดพ้นจากสัญญาส่งเสียงครางหึ่งๆ คร่ำครวญถึงเจ้านายเก่าไม่หยุด
ซื่อเสินเงียบ
เขาอดตรวจสอบตนเองไม่ได้ว่าเขาจะยอมทุ่มเทอย่างไม่มีเงื่อนไขเหมือนเทียนโฉวหรือไม่
เฮยโจวยิ่งเป็นไปไม่ได้มากกว่า แม้ว่าเขาจะเป็นลุงแท้ๆ ของจีอู๋ลี่แต่เขาไม่เคยทุ่มเทอะไรให้กับจีอู๋ลี่เลยเมื่อเทียบกับอาจารย์ลุงเทียนโฉว!
เย่ว์หยางยังคงมองดูเงียบๆ
แม้ว่าเทียนโฉวจะเป็นคนร้ายกาจแต่ขืนปล่อยให้เขากลับมาได้ เขาก็คงฆ่าคนได้ไม่ลังเล
แต่นี่ไม่ได้ขัดขวางไม่ให้เย่ว์หยางชื่นชมคนอย่างเทียนโฉว!
ใครบ้างที่สามารถทำเพื่อคนอื่น ไม่ต้องพูดถึงชาวขุนเขาเหนือขุนเขา แม้แต่ในแดนสวรรค์จะมีสักเท่าไหร่? เย่ว์หยางจู่ๆ ก็นึกถึงเย่คง เจ้าอ้วนไห่และเสวี่ยทันหลางที่เขาไม่ได้พบเจอมานานแล้ว..หากในช่วงเวลาสุดท้ายสหายเหล่านี้อาจทำตัวเป็นคนโง่งงงันต่อสู้กับศัตรูพวกเขาเกิดมางี่เง่าที่ทำเพื่อคนอื่นได้โดยไม่ต้องขอ เทียบกับพวกเขาแล้วตัวเขาเองยังไม่ถือว่าบรรลุความสำเร็จ... เย่ว์หยางนึกถึงแม่สี่อีกครั้ง จักรพรรดินีราตรี จื้อจุนที่กำลังรอเขาอยู่ที่บันไดสวรรค์ขั้นที่ล้านโดยส่วนตัวพวกเขาจะไม่มีทางยอมรับว่านั่นเป็นเรื่องจริง คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องตอบ!
ในการต่อสู้สาวหิมะและแม่เสือสาวพวกนางต้องต่อสู้อย่างหนักมากี่ครั้งแล้ว
ตั้งแต่แรกเริ่มกับการสู้กับสื่อจินโหว
จนกระทั่งบัดนี้
จีอู๋ลี่มีเทพทักษิณเทียนโฉวคนเดียว แต่ตัวเขาเองมีมิตรสหายและญาติพี่น้องมากมาย!
แต่ขณะที่เย่ว์หยางเตรียมใช้หอกกลืนมังกรโจมตีจีอู๋ลี่จู่ๆ จีอู๋ลี่ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างเป็นฉากภาพที่น่าซาบซึ้งใจจริงๆ! ข้าเองยังอดประทับใจตนเองไม่ได้! บางครั้งน้ำตาก็มีประโยชน์มากกว่าคำพูดเป็นล้านคำ พลังเทพที่ไม่ถูกสงวนไว้ความรู้ที่ไม่เก็บกักเอาไว้ พลังเลือดเนื้อที่ไม่มีการทดแทน... นี่คือสิ่งที่ข้าได้จากการหลั่งน้ำตาไม่กี่ครั้ง! ข้าเกลียดการฟังเทศน์นักแต่เจ้าก็เห็น ตราบใดที่ข้าแกล้งฟังด้วยจิตใจที่เปิดกว้าง พวกโง่ๆอีกฝ่ายจะยอมให้ความรู้ประสบการณ์และทุกอย่าง! นี่ก็สองสามอย่างแรกแล้ว? ฮ่าฮ่าฮ่า ที่ห้าหรือที่หก? อา..ข้ามีลุงหลายคนที่ต้องการให้คำแนะนำกับคนรุ่นใหม่... เจ้าอย่าเพิ่งหัวเราะเยาะ เจ้าได้ยินคำสอนของลุงโฉวของข้าแล้วไม่ใช่หรือ? เป็นคนต้องอ่อนน้อมถ่อมตน อย่าผยองเกินไปทำไมคำพูดของท่านลุงถึงหยาบคายนัก? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าไม่พอใจไม่คิดว่าผลประโยชน์ส่วนใหญ่ตกเป็นของเจ้า เจ้าสามารถหัวเราะเยาะลุงเทียนโฉวของข้าได้ แม้ว่าเขาจะเป็นคนโง่ แต่เจ้าก็ไม่ได้หัวเราะเยาะเขาใช่ไหม? มีแต่เพียงข้าเท่านั้นที่เป็นหลานชายที่ฟังคำสอนของท่านลุงด้วยใจที่เปิดกว้าง จึงจะมีคุณสมบัตินี้!”
หยวนจี อสูรไม้เก่าอสูรสยองขวัญและอสูรลอยแสงที่ถูกเย่ว์หยางเหยียบหัว พากันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ซื่อเสินสีหน้าเปลี่ยน เขาโกรธทันที
เฮยโจวไม่รู้สึกอะไร
ดาบดื่มหิมะมีวิญญาณ มันสั่นสะท้านดูเหมือนว่ามันไม่เชื่อความจริงเรื่องนี้
มีแต่เย่ว์หยางเท่านั้นที่ยังคงเหยียบหัวอสูรลอยแสงมองดูภาพนี้อย่างเงียบงันดวงตาเย็นชาของเขาไม่เปลี่ยนแปลง
จีอู๋ลี่หัวเราะแล้วหัวเราะเล่า
เขาปาดน้ำตา
ก่อนอื่นเขามองดูรอยเปียกบนนิ้วด้วยสายตาประชดประชัน
จากนั้นเงยหน้ามองเย่ว์หยางและมีรอยยิ้มที่เป็นมิตร “เจ้าไม่ว่ากันใช่ไหมถ้าข้าจัดการเรื่องครอบครัวก่อน? โปรดรอข้าอีกสักนิด”
จากนั้นเขาหันไปมองเฮยโจว “ลุงของข้า, ท่านยินดีจะมอบอะไรให้ข้าเหมือนอย่างลุงเทียนโฉวบ้างไหม? ถ้าท่านเป็นอย่างนั้นท่านป้าและพี่น้องทุกคนคงภูมิใจในตัวท่าน.. ข้าจะนับถึงสิบ ลุงของข้า ท่านโปรดคิดให้รอบคอบ!”