ตอนที่ 1188 เจ้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นหนี้เท่าไหร่?
จีอู๋ลี่มองเย่ว์หยางอยู่นานโดยไม่พูดอะไร
ในที่สุด เขาโบกมือให้อสูรสยองขวัญและอสูรไม้เก่าออกคำสั่งฆ่า
ก่อนหน้านี้เขาใช้ความระมัดระวังและทดลองตามปกติเพื่อทดสอบชี่เฉียวผู้นี้เป็นพิเศษยิ่งเขาพยายามมากเท่าใด จีอู๋ลี่ยิ่งรู้สึกว่านั่นคือศัตรูคู่แข่ง
ตอนแรกเขายังมีความคิดว่าจะดูดพลังเทพของชี่เฉียวนี้มาเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความเคลื่อนไหวนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ความแข็งแกร่งของชี่เฉียวไม่ด้อยไปกว่าสือเซิ่น เกินความคาดหมายไม่มีวิธีใดที่มีประสิทธิภาพในการจัดการยับยั้งได้ดังนั้นเขาทำได้แต่เพียงเปลี่ยนแผนชั่วคราวเท่านั้น
การตัดสินใจที่ดีที่สุดกับสิ่งที่มิอาจได้มานั่นคือทำลายเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
นอกจากนี้ชี่เฉียวยังเป็นเหยื่อที่อันตราย
ต้องจัดการให้ได้ก่อนที่ซื่อเสินจะออกมาจากสายใยรักได้ เมื่อซื่อเสินได้รับอิสรภาพและผนึกพลังกับชี่เฉียวผลที่ตามมาเป็นเรื่องที่มิอาจคาดคิด
รู้แจ้งเจตจำนงราชันย์เหมือนกัน แต่ไม่มีดาวข่มทั้งยังหลบหนีออกมาจากโลกสยองขวัญได้อย่างง่ายดาย
นี่คือผู้ที่มิอาจควบคุมได้
ต้องกำจัดให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้!
มิฉะนั้นแผนสังหารเทพทั้งหมดมีแนวโน้มว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ไม่แน่นอนคาดไม่ถึงเลยว่านี่เป็นจุดที่จีอู๋ลี่ทนไม่ได้มากที่สุดในชีวิต!
จีอู๋ลี่สั่งอสูรสยองขวัญให้รีบไปที่เทพอุดรจ้าวซีที่ยังมึนงงสับสนและเมาสุราและใช้เนตรตรึงเทพฉายแสงออกไปทันที จ้าวซีไม่มีแม้แต่ปฏิกิริยาดิ้นรน เขาถูกดูดเข้าสู่โลกสยองขวัญโชคดีกว่าซวงหาน เพราะจ้าวซีเมามายสูญเสียสติ โลกสยองขวัญมีผลทรมานเขาน้อยมาก แต่จ้าวซีไม่เคยดิ้นรนหลบหนี เพราะไม่มีช่องว่างโอกาสให้หนี
คนที่สามที่ถูกดูดเข้าไปในโลกสยองขวัญคือชิงหวิน
เขากำลังจะตาย ความรู้สึกของเขาเกือบหายไป ความเจ็บปวดทรมานน้อยกว่าซวงหานไม่มาก
อีกด้านหนึ่งอสูรไม้เก่าเริ่มลงมือโจมตี
ที่อสูรไม้เก่าโจมตีไม่ใช่เย่ว์หยาง
แต่กลับขู่ขวัญเสนาบดีเป่าซู่จนตกใจ
เสนาบดีเป่าซู่เป็นผู้ภักดีต่อเฮยโจวเทพประจิมอย่างมิต้องสงสัย เขาแค่ติดตามดูซาฟงที่มาถึงสนามรบจากนั้นก็ยืนอยู่ที่มุมด้านหนึ่งรอรับคำสั่งเฮยโจว อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปทำให้เขาคาดเดาไม่ได้ ตอนนี้ความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องไกลเกินจินตนาการเกินกว่าสมองของเขาจะรับได้
เขานอนมองดูสนามรบไม่รู้ว่าจะสนองตอบอย่างไรดี
ในที่สุดก็ยังเป็นผู้ภักดีต่อเฮยโจวเจ้านายเขา หรือจะภักดีต่อจีอู๋ลี่เจ้านายใหม่ ใครจะควบคุมสถานการณ์ได้
ต่อมาซาฟงกลายเป็นชี่เฉียวที่ไม่เพียงแต่มีพลังเพิ่มขึ้นมากมายเท่านั้น
เขายังรู้แจ้งเจตจำนงราชันย์
สถานการณ์ทั้งหมดยุ่งเหยิงและความคิดต่างๆ วนเวียนอยู่ในหัวของเขาไม่รู้จะดำเนินการอย่างไรดี ซาฟงกลายเป็นชี่เฉียว พันธมิตรกลายเป็นศัตรูไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวของเขา มันค่อนข้างไม่สมเหตุผลเล็กน้อยเพราะซาฟงผู้นี้ถูกส่งมาโดยตัวเขาเอง แต่ถ้าเอามาเกี่ยวข้องกับตัวเขา นับว่าผลที่ได้ไม่ยุติธรรมเลย
เมื่อเห็นอสูรไม้เก่าบินเข้ามาหา เสนาบดีเป่าซู่รู้ว่าเขาต้องเลือกเพียงหนึ่งจะสู้หรือ?
จะเลือกเจ้านายใหม่หรือภักดีต่อเจ้านายเก่าต่อไป?
เขามองดูหยวนจี๋ไล่ล่าทำร้ายเฮยโจวและมองไปที่เทพทักษิณเทียนโฉวที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามแล้ว เขารู้สึกหนาวสะท้านในใจจากนั้นมองเห็นอสูรไม้เก่ากำลังจะเข้ามาฆ่า เขารีบตะโกนทันที “ข้ายินดีจะรับท่านจีอู๋ลี่เป็นเจ้านายข้า”
“ของเสียไร้ประโยชน์ทำไมเจ้ายังต้องการด้วยเล่า!” อสูรไม้เก่าแค่นเสียงเยาะเย้ย
เขากราดพลังฝ่ามือใส่เสนาบดีเป่าซู่อย่างหนักหน่วง
เสนาบดีเป่าซู่ไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่ยกมือป้องกันตนเองชั่วคราว เขาหวังว่าจะถ่วงเวลาและหาโอกาสเอาชีวิตรอดฝ่ามือของอสูรไม้เก่าประกบกับฝ่ามือของเสนาบดีเป่าซู่ทันทีเขาทุ่มพลังเพื่อใช้ปกป้องชีวิตตนเอง แต่ไม่ตั้งใจทำร้ายศัตรูอสูรไม้เก่าเคลื่อนไหวฝ่ามืออย่างนุ่มนวล
เงียบ
ฝ่ามือทั้งสองข้างประกบเข้าด้วยกัน
เสนาบดีเป่าซู่รู้สึกได้ถึงความแตกต่างเขาร้องลั่นและพยายามถอยหนี แต่มือของอสูรไม้เก่าดูเหมือนจะดูดติดแน่น เสนาบดีเป่าซู่ไม่สามารถจะหลบหนีได้ แต่เขารู้สึกว่าพลังทั้งร่างที่ทุ่มเทออกไปเหมือนกับถมทะเล และดูเหมือนจะถูกสูบพลังออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“ไว้ชีวิตข้าด้วย!” เสนาบดีเป่าซู่หวาดกลัวแทบตายร้องขอชีวิต
“พลังใช้ได้ ไม่ได้เสียเปล่าเลย สำหรับร่างเอาไปใช้เพาะปลูกได้!” อสูรไม้เก่าฟาดร่างเสนาบดีเป่าซู่กับพื้นจากนั้นใช้มือจับที่กระหม่อมของเขาและดูดกินพลังของเสนาบดีเป่าซู่ ขณะดูดกินพลังงานใบหน้าของอสูรไม้เก่ามีความสุข ตามความเห็นของเย่ว์หยางนั่นดูคล้ายกับความสุขของคนเสพติดยา สีหน้าที่บิดเบี้ยวชั่วร้าย พลังงานของเสนาบดีเป่าซู่ถูกสูบกินผิวหนังของเขาเริ่มเหี่ยวแห้งในระดับความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าพลังงานที่สะสมมานานนับพันปีถูกดูดซับโดยอสูรไม้เก่าและทักษะแฝงเร้นของจีอู๋ลี่
เมื่อเสนาบดีเป่าซู่ล้มลงกับพื้นเขาอ่อนแอจนแม้แต่เด็กสามขวบสามารถฆ่าเขาตายได้ในหมัดเดียว
อสูรไม้เก่ายิ้มซึมเซา
ในแขนเสื้อของเขามีเมล็ดสีดำ
จากนั้นเขายิงเมล็ดพันธุ์พืชเข้าที่อกและท้องของเสนาบดีเป่าซู่ฝังเข้าไปในเนื้อหนังสดเมล็ดสีดำเหมือนกับปีศาจแตกรากงอกอย่างรวดเร็วและดูดกินเลือดเนื้อของเสนาบดีเป่าซู่อย่างบ้าคลั่งเลี้ยงตัวเองให้เติบโตมันเป็นไม้กาฝากที่กัดกินอวัยวะภายในของเสนาบดีเป่าซู่และกระจายไปทั่วร่าง
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาทีร่างของเสนาบดีเป่าซู่ก็เต็มไปด้วยรากของเมล็ดปีศาจ ผิวหนังและเนื้อไม่มีอีกต่อไปรูปร่างหน้าตาของเขากลายเป็นมนุษย์ไม้กาฝาก
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเสนาบดีเป่าซู่ยังมีความคิดปัญญาอยู่สายตาของเขายังคงนิ่ง
อย่างนั้นเป็นใครกัน?
เขาไม่กล้ายอมรับว่ากลายเป็นมนุษย์พฤกษาปีศาจเมื่อก่อนนี้เขายังเป็นเสนาบดีแห่งอาณาจักรเทพประจิม
เสนาบดีเป่าซู่ยืนขึ้นอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามจากรูปลักษณ์ถูกเขาถูกฆ่า เขามีความรู้สึกสิ้นหวังเห็นได้ว่าเขาไม่สามารถคืนสภาพเดิมได้อีกต่อไปและตอนนี้เขากลายเป็นมนุษย์พฤกษาที่สร้างขึ้นโดยไม้กาฝากปีศาจ เขาไม่สามารถควบคุมชีวิตและร่างกายตนเองได้อีกต่อไปและชีวิตของเขาเป็นของอสูรไม้เก่า ก่อนจะได้รับความยินยอมจากอสูรไม้เก่า แม้เขาต้องการจะตาย แต่ก็เป็นไปไม่ได้!
“ไป, ทาสอมตะของข้า ตอนนี้เป็นเวลาต่อสู้ของเจ้า!” อสูรไม้เก่าชี้ไปทางเย่ว์หยางด้วยสายตาเย็นชา
“ตุ้บ..”
ถูกควบคุมโดยพันธุ์ไม้ปีศาจเสนาบดีเป่าซู่กลายเป็นมนุษย์พฤกษาปีศาจวิ่งเข้าหาเย่ว์หยางอย่างไม่เต็มใจ คนยังมาไม่ถึงแต่เถากิ่งก้านนับไม่ถ้วนยืดออกมาจากร่างและหนามที่แหลมคมเหมือนหอกยิงเย่ว์หยางอสูรแสงลอยไวกว่ามนุษย์พฤกษาปีศาจเป็นร้อยเท่า มันไม่ยอมหยุดเฉยในท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นดาวตกพุ่งใส่เย่ว์หยาง
อสูรสยองขวัญไม่ได้ทำอะไรได้แต่จ้องมองเย่ว์หยาง
ตราบใดที่มีโอกาส
มันจะลงมือโจมตีอย่างรุนแรง
สี่อสูรร่างมนุษย์ของจีอู๋ลี่ไม่มีตัวใดเป็นสุดยอดนักสู้ แต่พลังของแต่ละตัวสามารถเอาชนะยอดฝีมือระดับเทพได้
ตอนนี้เสนาบดีเป่าซู่ที่กลายเป็นมนุษย์พฤกษายังไม่มีพลังจะโจมตีตอบโต้
ต้องร่วมกันสู้
ถ้ารอดก็ไม่ตาย
ด้วยพลังของอสูรไม้เก่าสามารถเอาชนะชิงหวินได้,อสูรลอยแสงสามารถทำให้ซวงหานพบกับความเจ็บปวดจนแทบไม่อยากมีชีวิตและอสูรสยองขวัญเป็นอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในสี่อสูรร่างมนุษย์ใช้เพื่อจัดการกับชี่เฉียว และแมงมุมใยรักใช้จัดการกับซื่อเสิน ตอนนี้นอกจากอสูรที่อำพรางเป็นเทวทูต ก็มีอสูรลอยแสง อสูรไม้เก่าและอสูรสยองขวัญสามในสี่นี้ถูกส่งมารุมล้อมเย่ว์หยางพร้อมกันจากตรงนี้จีอู๋ลี่ให้ความสำคัญกับการปลอมตัวเป็นชี่เฉียวของเย่ว์หยางมาก
การต่อสู้แบบนี้จะเป็นการสู้เต็มรูปแบบ
ความจริงในชีวิตจีอู๋ลี่ยากจะพบกับชีวิตเช่นนี้
“เฮ้อ.. ข้าไม่ต้องการโกรธหรอกนะ แต่เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่น่ารักสินะ!” เย่ว์หยางไม่ค่อยเป็นคนสำคัญเสมอไปและเขายังรักษาอารมณ์ได้ดี และแสดงบทตัวแสดงที่ไม่สำคัญต่อไปในช่วงเวลาที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขามักขโมยเล่นบทสำคัญหากนักแสดงไม่สามารถทำได้ตนเองจึงเข้ากำกับบทเสียเอง
อสูรลอยแสงพุ่งผ่านทะลุร่างเย่ว์หยางและคิดว่าการลอบโจมตีประสบผลสำเร็จ
แต่เมื่อเขาลอยตัวกลับไปอยู่ในอากาศกลับพบว่าที่อกของเสนาบดีเป่าซู่มีรูขนาดใหญ่
สายเกินกว่าจะค้นว่าเกิดอะไรขึ้นอสูรลอยแสงสังเกตว่าเหนือศีรษะของเขามีเงาร่างหนึ่งบังแสงไว้ ทันทีที่แหงนหน้ามองเขาตกใจเมื่อพบว่าชี่เฉียวผู้ที่เขาแทงหัวใจไปแล้วมาอยู่ที่เหนือศีรษะเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
หอกกลืนมังกรทำงานในตอนนี้
มันแทงเข้ากระหม่อมของอสูรลอยแสง
ในตอนแรกใบหน้าอสูรลอยแสงยังคงเยาะเย้ยอยู่แต่เมื่อเขาเริ่มใช้ทักษะพิเศษ เขายังเป็นกลุ่มแสงที่ไม่มีความสำคัญการโจมตีแบบนี้แม้ว่าพลังจะแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้หมื่นเท่า แต่ย่อมไม่ได้ผลอะไรเลย นอกจากนี้เขายังมีสัญชาตญาณในการแปลงพลังงานองค์ประกอบธาตุและสร้างความเสียหายให้พลังงานองค์ประกอบธาตุได้โดยตนเองไม่ได้รับอันตราย...หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่ว่าชี่เฉียวจะใช้ท่าโจมตีอะไรล้วนเป็นเรื่องตลกสำหรับเขา เพราะอสูรลอยแสงคือสิ่งมีชีวิตพิเศษที่ไม่มีใครทำอันตรายเขาได้
หอกกลืนมังกรก็เหมือนกับห่วงทองสวมหัวซึงหงอคง(เห้งเจีย) หวดเข้าที่ศีรษะของอสูรลอยแสงเต็มที่
“ปัง!”
หัวของอสูรลอยแสงแทบแตกระเบิด
หน้าของเขาบิดเบี้ยวเปลี่ยนแปลงไปมา
กลุ่มแสงที่เป็นร่างของเขาเปลี่ยนเป็นร่างวัตถุแข็งร่วงลงพื้นราวกับอุกกาบาตกระแทกกับพื้นโลกจมลึกลงไปในพื้น
อสูรลอยแสงถูกฟาดเจ็บปวดจนลึกถึงไขกระดูกดูเหมือนเขาไม่เข้าใจถึงสาเหตุเมื่อเขาพยายามปีนออกมาจากพื้นตามสัญชาตญาณก็พบว่ามีเงาร่างหนึ่งบดบังสายตาของเขาเป็นเรื่องแปลกที่เขาโดนฟาดลงพื้นได้ ชี่เฉียวตัวปลอมสอดหอกกลืนมังกรไว้ใต้เท้าและจับผมของอสูรลอยแสงเขาลากอสูรลอยแสงซึ่งมีรูปร่างสง่างามออกมาบนพื้นราวกับลากสุนัขตาย
ระหว่างนั้นอสูรลอยแสงพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ถูกเย่ว์หยางจับหัวโขกกับหินบนพื้นข้างล่าง
รูปหล่ออย่างนี้
จับได้ถนัดมือจริง
ดูเหมือนว่าอสูรลอยแสงเหมือนกับมีชะตาต้องถูกเขาข่มเหงตลอดไป!
อสูรไม้เก่าปากอ้าตาค้างไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เขาเห็น
ตาของอสูรสยองขวัญแทบปะทุออกจากเบ้า
อสูรลอยแสงที่ไม่เคยมีใครทำอะไรได้ถูกจับได้หรือ?ทั้งยังถูกทุบตีราวกับสุนัขตาย?
“ข้าเกลียดคนหล่ออื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่หล่อได้แค่หนึ่งในหมื่นของข้า” เย่ว์หยางวิพากษ์วิจารณ์อสูรลอยแสงอย่างน่าเชื่อถือบางครั้งก็ทุบหน้าอสูรลอยแสงจนบวมเป็นหัวหมู “เจ้าบอกว่าเจ้าหล่อมากอย่างนั้นหรือ เจ้าทำอะไร? เป็นอสูรก็ควรเจียมตัวว่าตนเองเป็นอสูรแต่เจ้าหล่อกว่าจีอู๋ลี่เจ้านายเจ้ามากนี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กแล้วเจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่? ต้องการโอ้อวดหรือ? ข้าสั่งสอนเจ้าไม่ใช่เพื่อตัวข้าเอง นายเจ้าเป็นถึงเจ้าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ หนีหรือเจ้าหนีได้ไวมาก ทำเอาเราคุณชายต้องไล่ตามจนเหนื่อยหอบ จะให้ข้าหมดแรงหรือไง! เจ้ายังจะหนีข้าอีกหรือคนที่ข้าเกลียดที่สุดก็คือพวกที่บินได้อย่างเจ้า! เจ้าสุ่มบินหนีไปทั่วฟ้า อะไรที่ทำให้เจ้าคิดว่าข้าทุบเจ้าไม่ได้? เจ้าคงจะเสียใจถ้าข้าไม่ทุบเจ้า เจ้าไม่รู้หรอกว่าเจ้าเป็นหนี้มากมายเพียงไหน?”
“อ๊า.. อ๊าคคคค!” อสูรลอยแสงร้องโหยหวนครั้งแล้วครั้งเล่า
เขาไม่มีทางตอบโต้
นอกจากนี้เขาไม่เคยคิดฝันว่าจะมีวันที่เขาถูกจับได้ ในท้องฟ้าตราบใดที่มีช่องว่างให้แสงผ่านเป็นไปไม่ได้ที่จะจับเขา ตราบเท่าที่ไม่มีใครที่มีความเร็วเหนือแสงจะไม่มีทางจับเขาหรือตามเขาทันแน่นอน
คาดไม่ถึงว่าในศึกนี้เขาจะถูกจำกัด
และจับได้ในที่สุด
อสูรลอยแสงอยากจะร้องไห้จริงๆ!
ชี่เฉียวผู้นี้มีพลังและทักษะที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษเฉพาะตัวขัดกับข้อมูลดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง... จีอู๋ลี่ที่จับเฮยโจวดูดซับพลังเทพของเขาอย่างเมามันก็ตะลึงกับภาพข้างหน้าหยวนจี๋ยิ่งตกใจอย่างหนักจนเผลอปล่อยเฮยโจว
มีเพียงเทพทักษิณเทียนโฉวที่ระวังเย่ว์หยางอยู่แล้วและเขาได้โอกาสดีที่สุด ขณะที่เย่ว์หยางปล่อยหมัดใส่อสูรลอยแสงอีกครั้ง
เขาหายตัวมาอยู่ที่ด้านหลังเย่ว์หยาง
ใช้ดาบเทพดื่มหิมะแทงอย่างรวดเร็ว