ตอนที่ 1187 ความจริงข้าคือนักแสดง
ซื่อเสินที่ร่างติดอยู่กับสายใยความรักมองไปทางเฮยโจวทันที
เฮยโจวรู้สึกปวดหัว
นั่นเป็นเหมือนหนามแหลม
เขาอดเงยหน้ามองดูซื่อเสินไม่ได้
เขาพบว่าซื่อเสินมองเขาด้วยสายตาอำมหิตเหมือนมีพลังกระบี่ไร้รูปผ่านมิติเวลาไม่สนพลังเทพและทะลุทะลวงเข้าไปในหัวใจของเขาจากนั้นระเบิดจากภายใน
“ซื่อเสิน! เจ้าต้องการทำอะไร? กระบี่ของเจ้า...ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเข่นฆ่ากันเอง เราต้องร่วมมือกันต่อต้านศัตรูและผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดไปด้วยกัน! เจ้าต้องไม่ฆ่าข้าด้วยกระบี่พลังจิต และการทำร้ายข้าจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก! หยุด หยุดเดี๋ยวนี้!” เฮยโจวเจ็บปวดจนร้องออกมาเสียงดัง เขารู้สึกว่าหัวใจของเขามีกระบี่ทิ่มแทง อาการเจ็บลึกมากขึ้นทุกขณะ
หากไม่ใช่เพราะซื่อเสินติดอยู่ในสายใยรักไม่สามารถผสานพลังเทพกระบี่ออกไปภายนอกได้ แค่กระบี่พลังจิตเกรงว่าคงทำให้เฮยโจวทรุดลงกับพื้นไปนานแล้ว
เฮยโจวกำลังอดทนต่อความเจ็บปวด
เขาดิ้นรนหลบหลีกจากดาบเทพของเทียนโฉวได้
ขณะเดียวกันเขาโบกมืออย่างสิ้นหวังให้ซื่อเสินคลายกระบี่พลังจิตมิฉะนั้นเขาจะถูกพลังครอบงำทั้งหมดและถูกกำจัดออกไป
ซื่อเสินเงียบไปสองสามวินาทีและในที่สุดเขาเลิกคิดฆ่าเฮยโจวด้วยกระบี่ใจ นอกจากขับพลังกระบี่ใจออกมาแล้วซื่อเสินยังแทรกแซงเทียนโฉวด้วยกระบี่ใจ แต่เทียนโฉวเจ้าเล่ห์เขากลายเป็นเงาถอยห่างออกไปไม่ยอมให้ซื่อเสินกักตัวเขาได้ กระบี่ใจของซื่อเสินได้แต่โจมตีใส่ร่างเงาตามหลังของเทียนโฉว
แต่ร่างหลักของเทียนโฉวไม่ได้รับความเสียหาย
ซื่อเสินถอนหายใจเล็กน้อย กระบี่ใจของเขานี้ไม่ใช่สภาพที่ดีที่สุดของเขาไม่ว่าจะทรงพลังหรือแม่นยำเพียงไหน แต่ก็ยังห่างจากกระบี่วิถีกำศรวลในมือของเขา
เฮยโจวรู้สึกว่าหัวใจของเขาเบาขึ้นและเริ่มฟื้นฟูเหมือนเดิม
ถ้าซื่อเสินยืนกรานใช้กระบี่ใจต่อเขาคงทนต่อไปไม่ได้ และอาจถูกเทียนโฉวและหยวนจี๋ลงมือได้สำเร็จ... แน่นอนว่าแม้ไม่มีกระบี่ของซื่อเสิน แต่ภายใต้การรุมล้อมของเทียนโฉวและหยวนจี๋ เฮยโจวก็ยังตกอยู่ในอันตรายอยู่ดี
ร่างเงาหายวับทันที
กลับเป็นราชาฟ้าหยวนจี๋อดีตยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งทำเนียบฟ้าเหนือฟ้าเขามายืนอยู่ต่อหน้าเฮยโจว
เฮยโจวสำหรับเขาเป็นแค่เหยื่อเล่นสนุก สำหรับเขาไม่ใช่งานง่ายกับการไล่ล่าแต่เป็นเรื่องง่ายในการกระตุ้นความสนใจ
ข้างหน้าเย่ว์หยางเป็นอสูรร่างมนุษย์สวมหน้ากากดวงตาสว่างเจิดจ้าดึงดูดคน และข้างหลังเขาเป็นวงล้อแสง
เขายืนอยู่หน้าเย่ว์หยางจ้องมองเย่ว์หยางตรงๆ
จีอู๋ลี่สนใจมองดูเช่นกัน
เขาต้องการรู้เรื่องชี่เฉียว
ชี่เฉียวผู้นี้ตบตาเขาได้อย่างไรกัน?
หมื่นปีทีผ่านมาเขาได้รู้แจ้งอะไรกันแน่หรือได้ผลเก็บเกี่ยวอะไรบางอย่าง? ชี่เฉียวผู้นี้ค้นพบสมบัติโบราณหรือความลับในดินแดนลึกลับเทพสังหารถึงได้มีความก้าวหน้าเกินคาดของเขาไปมาก? ในอดีตเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกบอกเล่าอะไรเพิ่มเติมแก่ซื่อเสินและชี่เฉียวนอกจากคำพูดสุดท้ายที่เขารู้?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทพมหาอัคคีทำไมถึงซ่อนพลังเทพไว้ในหอกกลืนมังกรของชี่เฉียว?
สำหรับเรื่องทั้งหมดนี้
จีอู๋ลี่สนใจอยากรู้
เฮยโจวไม่สามารถหลบพ้นเงื้อมมือของหยวนจี๋ได้ อย่าว่าแต่เทียนโฉวและหลุมดำจากกบหลุมดำซึ่งสามารถกลืนกินพลังเทพของเขาง่ายดาย จีอู๋ลี่ไม่ให้ความสนใจด้านเฮยโจวสักนิด เขามั่นใจว่าหยวนจี๋จะค่อยๆ ล้อมจับได้
สิ่งที่เขาให้ความสนใจในตอนนี้ก็คือชี่เฉียวซึ่งทำเรื่องเหลือเชื่อได้ในตอนนี้
ภายใต้การจ้องมองของอสูรร่างมนุษย์ที่สวมหน้ากากลึกลับ เย่ว์หยางที่แปลงเป็นชี่เฉียวถูกจู่โจมและดูดเข้าไปในโลกที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งซวงหานถูกทรมานด้วยแสงประหลาดทันที... มองพื้นผิว ดูเหมือนเป็นวงล้อแสงบิดเบี้ยว แต่หลังจากเย่ว์หยางถูกดูดเข้าไปข้างใน เขาพบว่าความจริงเป็นโลกกว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต สิ่งเดียวที่เห็นได้จากข้างนอกก็คือช่องกระจกขนาดเล็ก จากช่องว่างนั้นจีอู๋ลี่สามารถชมดูภาพได้ทั้งหมด
นั่นคือวงล้อแสงบิดเบี้ยวเบื้องหลังของอสูรร่างมนุษย์
จากตรงนั้น
เขาสามารถมองเห็นภาพจากข้างนอกได้
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าคิดว่าเจ้ามีเจตจำนงราชันย์จริงๆ ใครจะคิดกันเล่าว่า ในท้ายที่สุดแล้วนักต้มตุ๋นก็เป็นนักต้มตุ๋นอยู่ดี!” จีอู๋ลี่หัวเราะอย่างมีความสุข
“ปล่อยข้าออกไป....” เย่ว์หยางเริ่มเล่นบทตัวประกอบที่ยกระดับความเข้มข้นขึ้น
“แม้ว่าอสูรแสงลอยและอู่หวังไม่ใช่อสูรที่คุ้นกับการต่อสู้ แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังต้องกลัวมัน” ขณะที่ไล่ล่าเฮยโจวอยู่หยวนจี๋หยุดมองอสูรหน้ากากลึกลับด้วยสายตาชื่นชม อสูรหน้ากากลึกลับนี้ต้องบอกว่าน่ากลัวหากดูแต่รูปลักษณ์ของมันนั้นธรรมดามาก แต่ความแข็งแกร่งของมัน ต้องนับว่ามันแข็งแกร่งที่สุดยกเว้นหยวนจี๋ที่เป็นอสูรพิทักษ์ มันถนัดในการใช้ ‘เนตรตรึงเทพซึ่งบังคับให้นักสู้ระดับเทพหรือศัตรูที่มีพลังระดับเทพเข้าสู่โลกที่น่าสะพรึงกลัวไม่มีวันสงบสุข
ในโลกที่น่ากลัวนั้นชีวิตมีอารมณ์และความรู้สึกจะสิ้นสุดด้วยความเจ็บปวด
ประสบการณ์จากการทนทุกข์ทรมาน
ในทางตรงกันข้ามถ้าเป็นอสูรสายธาตุประกอบหรืออสูรชนิดพิเศษที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกภายนอกก็สามารถออกจากกรงขังที่น่ากลัวโดยไม่มีอันตรายใดๆ
มนุษย์มีอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลายโลกในนั้นเป็นเหมือนนรก
มนุษย์คนใดก็ตามที่เข้าไปแล้วจะไม่สามารถหลบหนีออกมาได้
ทั้งหมดจะตายอย่างทรมาน
เมื่อเห็นชี่เฉียวถูกจับอยู่ในโลกที่น่ากลัวที่วงล้อแสงเบี้ยวอย่างง่ายดายจีอู๋ลี่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เขาส่ายหน้าตัดสินใจปล่อยวางเรื่องนี้ชั่วคราวและไม่สนใจสถานการณ์อีกต่อไปเขาจะรอจนกว่าชี่เฉียวและซวงหานทรมานอยู่ในนั้นสิบวันครึ่งเดือนค่อยพูดถึงอีกครั้ง เขามองไปที่ด้านเฮยโจวก็พบว่าลุงของเขายากจะต้านรับได้ และเขารู้สึกเบื่อในเวลาเดียวกันสิ่งเดียวที่ยังทำให้เขาระแวดระวังในตอนนี้ก็คือซื่อเสินที่ติดอยู่ในสายใยรัก บุรุษอันดับหนึ่งแห่งขุนเขาเหนือขุนเขาติดอยู่แต่ก็ยังไม่มีทางโจมตีทำร้ายเขาได้ ถ้าเขาไม่ระวังเขากังวลถึงพลังเทพกระบี่ที่อาจสะท้อนถึงเขาได้
จีอู๋ลี่มองดูชิงหวินที่กำลังจะตายอยู่บนพื้น
ทันใดนั้นเขาอัญเชิญอสูรร่างมนุษย์ชรามีใบหน้าเหมือนเด็กและสั่งเสียงดุ “ไม้เก่า! ข้าไม่ค่อยเข้าใจทำไมชิงหวินถึงยังพูดได้หลังจากเจ้าควบคุมเขาแล้ว? ฟังให้ดี ตอนนี้ข้าไม่ต้องการคำอธิบาย ข้าแค่ต้องการให้เจ้ากำจัดชิงหวินทันทีข้าไม่อยากได้ยินเขาพูดอีกเลย ไม่มีอะไรในชีวิตนี้ที่ทำให้ข้ารู้สึกดีกว่าการมีชีวิตอยู่ของคนสองประเภทคือคนดีและสุภาพบุรุษ มันน่าขยะแขยง น่าขยะแขยง”
“ได้เลย นายท่าน,ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ท่านต้องการ” อสูรแก่หน้าเด็กคำนับจีอู๋ลี่อย่างนอบน้อม
อสูรแก่หน้าเด็กนี่เป็นอสูรร่างมนุษย์มีนามว่า‘ไม้เก่า’
มันคือหนึ่งในสี่อสูรหลักระดับเดียวกับหยวนจี๋
อสูรอู่หวังปลอมตัวเป็นเทวทูตปนอยู่กับทหารรับจ้างและโจรดวงดาวแต่มันเพิ่งถูกนำมาใช้ยับยั้งพพลังน้ำแข็งของซวงหานสามารถเปลี่ยนน้ำแข็งให้เป็นเปลวไฟได้ บินได้รวดเร็วในท้องฟ้าและไม่ต้องการหยุดแสดงใบหน้าที่แท้จริงของมันอสูรแสงลอยและอสูรร่างมนุษย์ผู้มีลำแสงดวงตาที่น่ากลัว (อสูรสยอง) นี่คือสี่อสูรหลักของจีอู๋ลี่
บรรดาอสูรร่างมนุษย์ทั้งสี่ พลังของอสูรไม้เก่าไม่ด้อยไปกว่าอู่หวังและอสูรลอยแสงเลย
เขามีรูปร่างเหมือนมนุษย์แก่
เป็นดาวข่มที่จีอู๋ลี่ตั้งใจใช้จัดการเทพอีสานชิงหวิน
นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ช่วยสำคัญในแผนของจีอู๋ลี่ด้วยภูมิปัญญาที่เหนือกว่าอสูรศึกร่างมนุษย์มากมาย เขาคิดกลอุบายแผนการต่างๆเป็นชั้นๆ เหมือนเครื่องจักรไม่สิ้นสุด เขาได้รับความไว้วางใจจากจีอู๋ลี่มาก
แม้ว่าแผนการเกี่ยวกับขุนเขาเหนือขุนเขาจะจัดสร้างโดยจีอู๋ลี่แต่อสูรไม้เก่าก็มีส่วนร่วมเช่นกัน เป็นที่น่าเสียดายว่าภูมิปัญญาของการต่อสู้ครั้งนี้ไม่สามารถนำไปใช้กับการรู้แจ้งและพัฒนาได้ ดังนั้นในอสูรทั้งหลายที่เก่าแก่เขายังเป็นรองอสูรที่น่ากลัวอื่นของจีอู๋ลี่
อสูรไม้เก่าก้าวเดินหาชิงหวินที่ใกล้ตายช้าๆ และหยุดนิ่ง
เขากล่าวด้วยความเห็นใจจอมปลอม “ท่านเทพชิงหวิน ข้าเองชื่นชมนิสัยของท่าน แต่เจ้านายข้าไม่อาจอดทนต่อสุภาพบุรุษอย่างท่าน ดังนั้นข้าเสียใจด้วย ถ้าเกิดในชาติต่อไป ท่านควรจะกลายเป็นคนร้ายอย่าเป็นคนดี เพราะคนดีมักถูกจอมวายร้ายกลั่นแกล้ง นี่คือความจริงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตลอดกาล!”
“ขอบคุณ ข้ายังชอบเป็นคนดี แม้ว่าจะทำให้เจ้ารู้สึกไม่สบายใจก็ตาม” ชิงหวินยิ้งอย่างอ่อนล้า
“คนตาบอดมองเห็นว่าเขาอิจฉา! เป็นคนดีก็นับว่าดีมีคนดีก็ได้รับการยอมรับ การเป็นสุภาพบุรุษนั้นสำคัญกว่า มักจะได้พบเจอหญิงงามในสังคมไม่รู้ว่าเย่ว์หยางจับมือซวงหานที่ถูกไฟเผาจนเหมือนไก่งวงอบไว้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เย่ว์หยางวิพากษ์วิจารณ์อย่างเคร่งขรึม ”ข้าคือสุภาพบุรุษที่ยินดีต้อนรับสาวงามสู่อ้อมอกรับประกันได้ข้าไม่วุ่นวายไม่สับสน เพราะข้าเป็นสุภาพบุรุษตลอดไม่ต้องรับผิดชอบกับคำพูดและการกระทำ แต่พฤติกรรมของพวกเขาน่าประท้วงน่าลงโทษเสียจริง”
“รีบวางข้าลง...” ซวงหานทักท้วงครั้งแรก เขาท้วงไม่ให้เย่ว์หยางอุ้มเขาตลอดไป แม้ว่าเขาจะช่วยชีวิตก็ตาม
“ขอโทษ, ข้านึกว่าเจ้าชอบเสียอีก” คำพูดของเย่ว์หยางเกือบทำให้ซวงหานกระอักเลือด ใครกันที่ชอบให้คนอื่นหิ้วไปมาเหมือนกระเป๋า?
“วางข้าลง” ซวงหานไม่มีแรงแล้ว มิฉะนั้นเขาจะใช้พลั่วฝังเจ้าผู้นี้แน่
“เจ้าแน่ใจนะ?” เย่ว์หยางถามย้ำ
“.....” ซวงหานกระอักโลหิตออกมาเล็กน้อย
“เจ้าต้องการให้ข้าวางลงก็บอกให้เร็วกว่านี้ ไม่อย่างนั้นจะทำให้เข้าใจผิดได้ง่าย!” คำพูดของเย่ว์หยางทำให้ซวงหานอยากตายเขากำลังมองหาเชือกผูกคอตาย
เย่ว์หยางวางซวงหาน
อสูรร่างมนุษย์ที่น่ากลัวนั้นรีบใช้ดวงตาจ้องมองซวงหานกรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนาโดยไม่ได้ตั้งใจภายในโลกวงล้อแสงนั้นแต่น่าเสียดายเย่ว์หยางที่ยืนอยู่ข้างซวงหานยังคงยืนยิ้มแฉ่งร่างของเขาไม่ขยับราวกับว่าสายตาที่น่ากลัวเป็นแค่ตาผี ไม่มีผลแม้แต่น้อย
จีอู๋ลี่มองดู
สะดุ้งตกใจทันที
แม้แต่ร่างเงาทองของหยวนจี๋ที่หยิ่งที่สุดก็สูดหายใจหนาวเหน็บ...
สามารถเพิกเฉยต่อเนตรตรึงเทพที่น่ากลัวได้เขาก็สามารถหนีออกมาจากโลกสยองขวัญไร้ที่สิ้นสุดได้ทั้งยังสามารถพาซวงหานหลุดออกมาจากโลกสยองขวัญได้ชี่เฉียวผู้นี้ถ้าใครไม่สงสัยว่าเขารู้แจ้งเจตจำนงราชันย์ก็นับว่าโง่แล้ว! แต่ผู้มีเจตจำนงราชันย์ถูกเนตรตรึงเทพดูดเข้าไปในโลกสยองขวัญได้อย่างไร?
เขานึกว่ากำลังเข้าไปจ่ายตลาดหรือ? หรือว่าเข้าไปหาประสบการณ์ชมดูชีวิตนักโทษภายใน?
ชี่เฉียวนึกคิดยังไงกันแน่?
พฤติกรรมแปลกประหลาดหรือเปล่า?
ผู้คนยากจะเข้าใจได้จริงๆ!
เขากล้าเรียกจีอู๋ลี่โดยตรง.... ทุกคนก็รู้ ซื่อเสินตกอยู่ในท่ามกลางการควบคุมของเขาแล้วและยากจะป้องกันตนเองได้ในสถานการณ์ที่ล่อแหลม ชี่เฉียวผู้นี้ยังกล้าจะหยอกเล่นกับจีอู๋ลี่ แม้ว่าเขาจะมีความสามารถพิเศษ เขาไม่กลัวเนตรตรึงเทพที่น่ากลัวไม่กลัวปีศาจแมงมุม? เขาไม่กลัวกบหลุมดำหรือ? ไม่กลัวหนอนเมามายและอสูรแสงลอยที่เปลี่ยนน้ำแข็งเป็นไฟได้อย่างสบายหรือ?
ต่อให้เขาไม่กลัวทุกอย่างแต่เขาจะเอาชนะหยวนจี๋แห่งฟ้าเหนือฟ้าได้หรือ?
เฮยโจวมองดูข้างหน้าชี่เฉียวผู้นี้
ความคิดของเขาเปลี่ยนแปลงไป
เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถมองเห็นอดีตสหายข้างหน้าเขามากขึ้นทุกที..ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่ซื่อเสินที่ติดอยู่ในสายใยรักก็ยังขมวดคิ้ว พลังของน้องเขาผู้นี้เหนือจินตนาการซื่อเสินรู้สึกแปลก แต่สิ่งที่เขาสงสัยในท่ามกลางความแปลกนี้ คือเขารู้สึกคุ้นเคยอย่างลึกลับ
จะบอกว่าเป็นน้องของเขาก็ไม่ใช่
ไม่ใช่แน่!
ดูเหมือนมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงอื่นที่คนภายนอกไม่สามารถมีได้...
“เจ้าไม่ใช่ชี่เฉียว เจ้าเป็นใคร?” ผู้ที่เฝ้าระวังเย่ว์หยางมากที่สุดก็คือเทพทักษิณเทียนโฉวเขาถามความคิดของทุกคน
“ความจริง ข้า...เป็นดารา” เย่ว์หยางเฉลยราวกับใช้มาดเดียวกับกับโจวชิงสือ
ทุกคนทรุดกับพื้น
จะบ้าตาย เจ้าเด็กบ้านี่เมื่อไหร่จะเลิกเล่นเสียที? จริงจังหน่อยไม่ได้หรือ? เวลานี้เป็นช่วงเวลาของสงครามเทพและอาจเป็นจุดสุดท้ายของชีวิต!