ตอนที่แล้วตอนที่ 1184 เพราะเจ้าก็เป็นหนึ่งในสารอาหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1186 ข้าก็ชอบการแสดงของเจ้า

ตอนที่ 1185 เจ้าเตรียมสั่งเสียได้เลย


เฮยโจวรู้สึกว่ามือของจีอู๋ลี่กดลงที่เสื้อนอกของเขา

เพียงหนึ่งวินาที

พลังเทพในร่างของเขาถูกสูบไปถึงหนึ่งในสิบ

เขาตกใจหวาดกลัวพยายามเต็มที่แปลงร่างเป็นแสงสีดำหลุดพ้นออกมาจากเงื้อมมือเงาทอง  เขาหลบหลีกดาบดื่มหิมะของเทียนโฉวที่สามารถฉีกพื้นโลกได้ในกลางอากาศ ทั้งยังต้องหลบหลีกดรรชนีเทพที่เงาสีทองยิงออกมาด้วยความหงุดหงิดใจ ในสภาวะที่ตื่นตระหนกเฮยโจวถูกบีบบังคับให้ต้องหนีไปทางซื่อเสินศัตรูเพียงคนเดียว...ในบางครั้งเขารู้ว่าอยู่ข้างศัตรูผู้นี้ยังปลอดภัยมากกว่าอยู่ข้างคนของเขาเอง

“ซื่อเสิน! ข้าไม่คิดแย่งชิงตำแหน่งยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งขุนเขาเหนือขุนเขาอีกต่อไปแล้ว  ตอนนี้หยวนจี๋เกิดใหม่อีกครั้งเราต้องร่วมมือกันรับมือศัตรู!” เฮยโจวเปลี่ยนตำแหน่งของเขาทอดทิ้งเป้าหมายเดิมละทิ้งความเป็นศัตรูเอาชีวิตรอดไว้ก่อน

“ข้าไม่ต้องร่วมมือกับเจ้า”  ซื่อเสินแค่นเสียงเขาเชื่อว่าไม่มีใครเชื่อใจในเฮยโจวอีก ใครจะรู้ว่านี่เป็นแผนของค่ายตะวันตกหรือไม่?

ต่อให้ไม่ใช่

สุนัขกัดกันให้ได้ยินเห็นแล้วตัวเขามีความสุขหรือไม่?

แน่นอนว่าหยวนจี๋เป็นศัตรูที่เก่าแก่ที่สุดในอดีตเขากำลังกลับมายังขุนเขาเหนือขุนเขา เป็นวิกฤติอันตรายที่มิอาจปล่อยปละละเลยได้

ซื่อเสินหายใจลึกและจับกระบี่เทพวิถีกำศรวลในมือแน่นขึ้น  ศัตรูแข็งแกร่งปรากฏขึ้นอีกครั้งการต่อสู้ครั้งนี้เขาต้องทุ่มเทสุดกำลัง แต่เขาจะไม่ร่วมมือกับเฮยโจวแน่นอนและคนที่ไม่น่าเชื่อถือเช่นนี้สามารถขายพันธมิตรของเขาได้ทุกเมื่อและทุกที่ขณะต่อสู้กับศัตรู

“เจ้า..ช่างโง่จริงๆ!”  มีทั้งความเกลียดและความโกรธเกิดขึ้นในใจของเฮยโจวเกลียดที่ซื่อเสินปฏิเสธทำให้เขาอับอาย และโกรธที่เขาถูกหลานชายทรยศ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านลุงที่รักของข้า,ซื่อเสินปฏิเสธจะร่วมมือด้วย นี่ไม่สามารถตำหนิเขาได้  ผู้อื่นคือเทพบูรพา ท่านควรจะแสวงหาเหตุผลด้วยตนเอง  ถ้าไม่ใช่เพราะท่านมักทรยศหักหลังพันธมิตรโดยไม่มีความเมตตา  อย่าว่าแต่คนนอกเลยแม้แต่ข้าที่เป็นหลานชายก็เชื่อท่านได้ไม่ถึงครึ่ง  ตราบใดที่ใครชอบท่านล้วนตายโดยไร้ที่กลบฝัง  จำซาฟงที่ตายอย่างอยุติธรรมได้ไหม?  ฉากภาพนี้ยังคงชัดเจน เสียงยังดังก้องอยู่ในหู  โดยเฉพาะคำพูดของเขาตอนใกล้ตาย ฮ่าฮ่าฮ่า  ซาฟงกล่าวว่า”เขาใจร้าย แต่ข้าไม่อาจไร้น้ำใจได้’  ฮ่าฮ่าเป็นการหักหน้าต่อหน้าลุงข้า การทรยศต่อเบื้องหน้าของท่านลุง ซาฟงก็แค่อยากร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตา ในทางกลับกัน ตอนนี้ท่านไม่มีอะไรจริงๆ ไม่เหลืออะไรจริงๆ  ความชั่วร้ายย่อมได้รับตอบแทนด้วยความชั่วร้าย!”  ข้างหน้าจีอู๋ลี่เป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เขามีแสงรัศมีจากคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์รายล้อม เขามองดูเฮยโจวเหมือนนักชิมกำลังมองอาหารมื้อโปรดบนโต๊ะ

“แค่หยวนจี๋คนเดียวเจ้าก็คิดว่าจะกินข้าได้หรือ?” เฮยโจวแค่นเสียง และตอนนี้เขาสงบจิตใจได้แล้ว

เมื่อไม่สามารถโจมตีเขาสามารถหลบเข้าไปในโลกคัมภีร์ได้

เรื่องใหญ่ก็คือการซ่อนตัวในโลกคัมภีร์สักหลายร้อยปีหลายพันปีแล้วดูว่าใครจะสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่ากัน!

หยวนจี๋แข็งแกร่งมากเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไปในโลกคัมภีร์ของคนอื่นตราบใดที่เขากลับเข้าไปในคัมภีร์อัญเชิญ วิกฤติการณ์ก็จะสลายไปได้

เฮยโจวชูมือเรียกคัมภีร์อัญเชิญ

ถูกทรยศแม้ว่าจะเป็นเรื่องเศร้าแต่การเสียตำแหน่งบุรุษอันดับหนึ่งของขุนเขาเหนือขุนเขาเป็นเรื่องน่ารังเกียจอย่างยิ่ง  แต่เหลือขุนเขาแมกไม้ไว้ ไม่กลัวไร้ฟืนไฟสิ่งที่สำคัญที่สุดคือชีวิตของตนเอง

สำหรับสิ่งที่จีอู๋ลี่จะได้รับในการต่อสู้ครั้งนี้ก็คือยึดครองขุนเขาเหนือขุนเขาและหุบเขาโลกธาตุไม่ไม่ใช่หรือ?  ชิงตำแหน่งบุรุษอันดับหนึ่ง?  เฮยโจวไม่สนใจเรื่องเหล่านี้  ทุกอย่างเพื่อปกป้องตนเอง!

สำหรับพฤติกรรมหดหัวอยู่ในโลกคัมภีร์ของเฮยโจวนั้นจีอู๋ลี่มองดูอย่างสบายใจ ไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด

วินาทีต่อมา

สีหน้าของเฮยโจวเปลี่ยนไป

เขามีสีหน้าอับอายและหวาดกลัว

ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่รวมถึงซวงหานที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและมองดูเทพอุดรจ้าวซีเงียบและประหลาดใจ

“ท่านลุงที่เคารพ!  อัญเชิญคัมภีร์ได้หรือยัง?”  จีอู๋ลี่ยิ้มเล็กน้อยบนฝ่ามือวางไว้ด้วยวัตถุโบราณ เขาเหมือนกับไกด์ที่กำลังแนะนำลูกทัวร์นักท่องเที่ยวแนะนำให้รู้จักจุดชมวิว  และเขายังคงอธิบายต่อไปว่า  “ถ้าท่านยังมีอารมณ์ดีข้าอยากจะให้คำอธิบายกับท่าน ความแตกต่างระหว่างเทพแท้และเทพเทียมแต่ดูเหมือนว่าอารมณ์ท่านไม่ค่อยดี เราข้ามบทเรียนนี้ไปเลยก็แล้วกัน! อย่างไรก็ตามด้วยสติปัญญาของท่าน ท่านไม่สามารถเข้าใจเรื่องราวที่ลึกซึ้งเหล่านี้ได้!  ตราบใดที่ท่านรู้  ในสนามพลังของข้า ตราบเท่าที่ไม่มีเจตจำนงราชันย์ก็จะถูกเล่นงานตามกฎสวรรค์ได้ ท่านคิดว่าบทบาทของวัตถุโบราณเป็นแค่เพียงการทำให้ความแข็งแกร่งของศัตรูอ่อนแอลงเท่านั้นนั่นเป็นสิ่งที่ไร้สาระ พวกท่านยังเข้าใจผิดเรื่องนี้มาหลายพันปีไม่เคยมีใครถามหรือสำรวจไปถึงรากเหง้าเรื่องเหล่านี้”

“แท้ที่จริงแล้วบทบาทของโบราณวัตถุก็คือ ‘เทพต้องห้าม’เกณฑ์ที่สำคัญสำหรับการแยกเทพเทียมและเลือกเทพแท้นั้นเป็นหลักเกณฑ์ที่สำคัญเช่นกันสำหรับนักสู้ผู้ได้รับเลือกในมิติดินแดนฝึกฝน  ท่านโง่เอง แล้วยังจะเข้าใจขอบเขตของเทพเทียมได้อย่างไร?”

“ข้าผิดเองข้าไม่ควรคาดหวังอะไรจากท่านสูงเกินไป!” ในที่สุดจีอู๋ลี่ยักไหล่และพูดเหยียดหยาม “ข้าคิดว่าในช่วงหมื่นปีที่ผ่านมาพวกท่านคนใดคนหนึ่งจะฝ่าฝืนขีดจำกัดได้รับการเลื่อนระดับจากเทพเทียมและตระหนักถึงเจตจำนงราชันย์ไม่ยอมอดทนปล่อยให้เทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกที่ช่วยให้พวกท่านได้ทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญต้องผิดหวังนึกไม่ถึงเลยว่าในพวกท่านนี้ไม่มีอัจฉริยะอยู่เลย ขยะแท้ๆ!”

คนที่ชมดูยังคงเงียบกันหมด

ซวงหานตัวสั่นอยู่กับพื้น

เขาปล่อยให้จีอู๋ลี่พูดดูถูกเหยียดหยามเขายิ่งรู้สึกใจแหลกสลาย

หมื่นปีที่แล้วเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกทุ่มเทคุณค่ามหาศาลช่วยให้พวกตนได้ทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญใครจะรู้กันว่าไม่มีใครที่มีพรสวรรค์พอทำได้ตั้งแต่หมื่นปีก่อนจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ทุกคนยังเป็นเทพเทียม! เป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดสำหรับเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกจริงๆ!

เทพอุดรจ้าวซีจมอยู่กับความโศกเศร้าความคิดของเขาหมกมุ่นอยู่กับความทรงจำของปีนั้นเป็นเวลานานเขาไม่เต็มใจจะตื่นขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้าย

“เฮอะ!”

ซื่อเสินสีหน้าเฉยเมย

เขาเหยียดมือและพลังเทพรวมตัวกันอยู่ในมือของเขา

ความสว่างราวกับว่าจะข่มได้แต่ซื่อเสินไม่ข่มรั้งความโกรธไว้ เขาคำรามและแสงพุ่งขึ้นท้องฟ้าสว่างเจิดจ้า

คัมภีร์อัญเชิญระดับทองเล่มหนึ่งลอยอยู่ข้าหน้าซื่อเสินเขาค่อยๆ พลิกทีละหน้าและใช้ปราณกระบี่ตัดขีดจำกัดทั้งหมดได้ เย่ว์หยางที่อยู่ในช่วงแกล้งตายรู้สึกตกใจเล็กน้อย เจตจำนงราชันย์ซื่อเสินก็ตระหนักถึงเจตจำนงราชันย์ด้วยเช่นกัน!แม้ว่าเจตจำนงราชันย์นี้ไม่สามารถเทียบกับตัวเขาได้  แต่เทียบกับเจ้าอ้วนไห่ เย่คง เสวี่ยทันหลางนี่นับว่าไม่อ่อนแอเลย ไม่มีปัญหาใดๆ แม้จะไม่ได้ผ่านประตูเป็นตายหากไม่ใช่เพราะคัมภีร์อัญเชิญมีขีดจำกัดเพราะถูกเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกแทรกแซงบางทีซื่อเสินอาจไปได้ไกลยิ่งกว่านี้

จีอู๋ลี่ตกตะลึงซื่อเสินอัญเชิญคัมภีร์ได้เป็นเรื่องที่เขาไม่ได้คาดไว้

เฮยโจว จ้าวซีและซวงหานมองตาค้างทุกคน

ไม่น่าเป็นไปได้

จอมกระบี่ซื่อเสินรู้ถึงเจตจำนงราชันย์ในตำนานได้หรือ? นี่หมายความว่าเขาก้าวสู่ขอบเขตเทพแท้จริงแล้วหรือ?

มิน่าเล่าซื่อเสินถึงไม่กลัวเฮยโจวท้าทาย หรือกระทั่งการสมคบคิดแผนการเล่ห์เหลี่ยมของพวกค่ายตะวันตก  ถ้าไม่ใช่เพราะจีอู๋ลี่ซื่อเสินจะเป็นนักสู้หมายเลขหนึ่งของขุนเขาเหนือขุนเขาต่อไปไม่มีใครสั่นคลอนตำแหน่งเขาได้!  ไม่ต้องพูดถึงเฮยโจวร่วมกับอีกห้าเทพโจมตี ต่อให้เพิ่มชิงหวินไปด้วย ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะ

“พวกเจ้าไปจากที่นี่ซะ”

ซื่อเสินโบกมือสั่งซวงหานและจ้าวซีกับคนอื่นให้ออกไปจากสนามพลังที่เขาอัญเชิญอสูรพิทักษ์พิเศษร่างกระบี่เมื่อผสานกับพลังเทพพลังจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า

ปราณกระบี่ควบแน่นจนเป็นรูปดาบสูงหนึ่งกิโลเมตร

ถ้าเขาโบกมือ

ซวงหานจะถูกปราณกระบี่ทำลายเป็นผุยผงอาณาจักรเทพบูรพาและแม้แต่ขุนเขาเหนือขุนเขาทั้งหมดจะถูกทำลาย

เฮยโจวมีสีหน้าละอายใจ เขาพบว่าตนเองเหมือนกับกบที่อยู่ก้นบ่อด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาเขาต้องการท้าทายยึดตำแหน่งบุรุษอันดับหนึ่งของขุนเขาเหนือขุนเขาแท้จริงเป็นเรื่องตลก ซื่อเสินยังไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาจนกระทั่งจีอู๋ลี่ปรากฏตัวเขาจึงเรียกคัมภีร์อัญเชิญและแสดงพลังที่แท้จริง นี่หมายความว่าก่อนหน้านี้ซื่อเสินไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา?

“ไม่เลว ในที่สุดก็น่าสนใจขึ้นมาบ้าง!” เงาทองของหยวนจี๋ปรบมือหัวเราะ “ถ้าเจ้าให้ข้ากินพลังของเจ้า นั่นคืออาหารเสริมขนาดใหญ่ของข้าเลยทีเดียว   มาเถอะข้าอดใจรอไม่ไหวที่จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเจ้าเสียแล้ว!”

“ดาบประหาร!”

ซื่อเสินไม่ได้ดีใจหรือโกรธ เขาใช้ปราณกระบี่ขนาดหนึ่งกิโลเมตรฟันใส่หยวนจี๋ศัตรูที่ทรงพลัง

หยวนจี๋ในร่างเงาทองไม่เคลื่อนไหว  จีอู๋ลี่เปลี่ยนหน้าตามปกติ

คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เปล่งแสง

มันแปลงร่างเป็นอสูรร่างมนุษย์ร่างกายท่อนบนเป็นหญิงงามร่างกายท่อนล่างเป็นแมงมุม เมื่อนางปรากฏตัวนางยิ้มและหัวเราะเหมือนเสียงระฆังเงิน “คนดุร้าย!  ผู้อื่นชมชอบเจ้ามากจริงๆ”

ซื่อเสินไม่สนใจคำพูดของปีศาจแมงมุมนี้ กระบี่ยักษ์ขนาดหนึ่งกิโลเมตรฟันลงที่ศีรษะปีศาจเหมือนกับคนใจแข็งฟันดาบใส่บุปผางาม

ปีศาจแมงมุมอ้าปากถอนหายใจเหมือนคนรักกระซิบรักที่ข้างหู

เส้นใยโปร่งใสนับไม่ถ้วนถูกพ่นออกมา

อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ภายใต้การจ้องมองของซวงหานจ้าวซีและเฮยโจว ดาบยาวหนึ่งกิโลเมตรของซื่อเสินขับเคลื่อนด้วยพลังเทพและเจตจำนงราชันย์เพียงพอต่อการทำลายโลกและสวรรค์  ในตอนแรกใบมีดยาวหลายพันเมตรสามารถตัดได้ช้าตัดได้แม้กระทั่งมิติ แต่ไม่สามารถตัดใยไหมโปร่งใสได้ใยแมงมุมพันดาบจนค้างอยู่ในกลางอากาศ

“เทพบูรพาซื่อเสินข้าได้ศึกษาค้นคว้าเจ้ามาเป็นอย่างดีแล้ว” จีอู๋ลี่มีความหยิ่งลำพอง “กระบี่ของเจ้าสามารถทำลายสวรรค์ทำลายดินได้  แต่เจ้าไม่รู้ว่ามีบางอย่างในโลกที่เจ้าไม่สามารถตัดได้นั่นคือความรัก!”

“ความรัก?” ครั้งนี้ซื่อเสินขมวดคิ้ว

“ปีศาจแมงมุมใยรักของข้าเป็นหนึ่งในอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนสวรรค์   ตราบใดที่นางหลงรักเป้าหมายของนาง  และเหยื่อติดอยู่ในสายใยรักของนางไม่มีเหยื่อตนไหนในโลกที่หนีรอดได้ ความรักไม่สามารถทำลายได้ด้วยกำลังใดๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็นดาบหรือไฟ  ในระยะสั้นๆ ทุกชีวิตในโลกไม่สามารถหลบหนีจากความรักได้!” ก่อนที่จีอู๋ลี่จะพูดจบซื่อเสินพบว่าตัวเขาติดอยู่ในสายใยรักกว้างไม่มีขีดจำกัด

ปีศาจแมงมุมเป็นปีศาจนักกิน

ความแข็งแกร่งของนางยังไม่อาจฆ่าซื่อเสินได้  แต่นางไม่จำเป็นต้องฆ่าเทพบูรพาที่ทรงพลังตราบใดที่นางหลงรักเขาและจับเขาไว้ในสายใยรักของนางอย่างหนาแน่นทุกอย่างในขุนเขาเหนือขุนเขา จะตกเป็นของเจ้านายนาง ไม่มีใครหยุดได้

“ไปตายซะ!” ซวงหานใช้โซ่น้ำแข็งยิงไปที่นางปีศาจแมงมุมเขาเห็นว่าปีศาจแมงมุมไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าตัวเขา พลังที่น่ากลัวของนางคือพลังใยรักที่นางใช้ไล่ตามเป้าหมายที่นางตกหลุมรัก

ตราบเท่าที่ฆ่านางซื่อเสินถึงจะหลุดพ้นจากปัญหานี้ได้

จีอู๋ลี่พลิกหน้าคัมภีร์อย่างไม่ตั้งใจลำแสงพุ่งออกมาและกวาดไปทางโซ่น้ำแข็งเปลี่ยนโซ่น้ำแข็งกลายเป็นโซ่ไฟทันทีและเผากลับไปหาซวงหานเอง   ไฟแผดเผาร่างของเขาจนเจ็บปวด เขาพบว่ายิ่งเขาระเบิดพลังน้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์ออกมา ไฟก็เผารุนแรงมากขึ้น

“ศัตรูสามารถเปลี่ยนพลังน้ำแข็งของเจ้าได้!”  จ้าวซีเห็นความจริงในกระจกเทพได้

“เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถเห็นความจริงของโลกได้   เจ้าจะเห็นว่าหัวใจของเจ้าสับสนจริงหรือ?”  เขาไม่รู้ว่าใครอยู่ด้านหลังจ้าวซีกำลังดื่มเหล้าสูบบุหรี่

แม้แต่จ้าวซีกลับเงียบทันที

แต่เขาพบว่า

นั่นเป็นคนเมาผู้หนึ่ง

ของวิเศษที่น่าทึ่งยังใช้งานได้อยู่แต่ทำอะไรไม่ได้  จ้าวซีอดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับไปมองดูศัตรูที่กำลังจ้องมองเขาโดยไม่รู้ตัว สิ่งที่เขาเห็นคือขวดเหล้าที่มีกลิ่นดึงดูดใจ ใครก็ตามที่ดมกลิ่นนี้จะรู้สึกเหมือนกับมีหนอนกัดกินใจ ทำลายเหตุผลและความอดทนของผู้นั้น

ทั้งที่รู้ว่านี่คือพิษร้ายแรงแต่จ้าวซีไม่สามารถต้านทานได้ เขาก้าวหาขวดเหล้าทีละก้าวๆ

เขาไม่ต้องการทำอย่างนั้น แต่พฤติกรรมของเขาไม่อาจควบคุมได้อย่างสิ้นเชิง

ราวกับว่ามีแมลงบางอย่างคอยควบคุมร่างของเขา

เมื่อเทียบกับซวงหานซึ่งถูกไฟเผาผลาญจ้าวซีรู้สึกว่าสถานการณ์ของเขาในตอนนี้ย่ำแย่มากกว่า...นี่คืออสูรบางอย่างที่จีอู๋ลี่ใช้ควบคุมตัวเขา แต่ข้ารู้ว่ากำลังอยู่ในกับดัก แต่เขาไม่มีเจตจำนงราชันย์ ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ต้องก้าวเท้าเข้าไปสู่การทำลายล้าง

“หนอนขี้เมา.. เพื่อจะควบคุมเจ้าให้ได้  ข้าแสวงหามันในแดนสวรรค์เป็นเวลานานและพบว่ามันเป็นอสูรที่เหมาะสม! ถ้าเจ้าให้ความสำคัญกับเจตจำนงราชันย์เหมือนกับเทพบูรพาซื่อเสินมันจะเป็นอันตรายจริงๆ  แต่น่าเสียดายเจ้ามีกระจกเทพที่น่าทึ่ง แต่ถูกตัดสินให้ตายอย่างน่าอนาถ ... เจ้ายังดีกว่าซวงหานมากอย่างน้อยเจ้าก็ยังได้เมา!” จีอู๋ลี่ดูเหมือนให้ความสนใจจ้าวซีมาก ตรงกันข้ามเขากลับไม่ให้ความสนใจซวงหานเลย

“อย่าลืม ยังมีข้าอยู่!” เฮยโจวมุ่งมั่นทุ่มเทกำลัง ซื่อเสิน จ้าวซีและซวงหานติดอยู่ในกับดักหมด ถ้าไม่ทุ่มเทกำลังในตอนนี้จะใช้โอกาสตอนไหน?

“โอวลุงที่เคารพรักของข้า  ข้าจะลืมท่านไปได้อย่างไร?”  จีอู๋ลี่ได้ยินแล้วก็ยิ้ม

เขาทำเป็นเปิดคัมภีร์ไปอีกสองสามหน้าเหมือนกับจะเลือกอสูรที่เหมาะสม

เขายื่นมือออกและปรากฏหลุมดำในท้องฟ้าทันที  ในส่วนลึกของหลุมดำดูเหมือนจะมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวแฝงตัวอยู่ปากของมันมีขนาดใหญ่เท่ากับหลุมดำเมื่อรวมกับหลุมดำมันสามารถกลืนกินโลกไม่มากขึ้นสองเท่า  หลังจากเฮยโจวระเบิดพลังเทพท้องฟ้าและโลกเป็นสีดำทำให้มันกลืนอย่างไม่คาดฝัน... หลังกลืนลงไปแล้วสัตว์ประหลาดรู้สึกว่ายังน้อยเกินไปไม่พอกิน

เฮยโจวตะลึงมองดูหลุมดำด้วยความตกใจและพบว่าสัตว์ประหลาดที่ซ่อนอยู่ในหลุมดำสามารถกลืนกินสวรรค์และโลกได้นั้นก็คือกบประหลาดยักษ์

หยวนจี๋หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  “กบยักษ์กินหลุมดำมันคือกบยักษ์ยุคดึกดำบรรพ์ที่สามารถล่าเหยื่อในท้องฟ้าได้  เฮยโจว พลังเทพเล็กๆ น้อยๆของเจ้าคืออาหารบำรุงมันที่ดีที่สุด เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถมีชีวิตรอดได้หรือ? ยิ่งเจ้าโกรธมากยิ่งดี  ยิ่งโกรธมากอย่างนั้นเรายิ่งกินอย่างอร่อยมาก

เมื่อเผชิญกับจีอู๋ลี่ที่เป็นนักสู้ผิดธรรมดาซวงหานและเฮยโจถึงกับสิ้นหวัง

จ้าวซีจมอยู่กับความเมา

ใจของเขาไม่มีสติอีกต่อไป

แม้แต่ซื่อเสินเทพผู้ทรงพลังที่สุดของขุนเขาเหนือขุนเขาก็ยังติดอยู่ในใยรักไม่สามารถหนีออกมาได้...ไม่มีใครนึกถึงเลยว่าสงครามเทพผู้ชนะจะกลายเป็นคนอื่นที่พลังยังไม่ถึงระดับเทพจีอู๋ลี่!

“พวกเจ้าสั่งเสียคำสุดท้ายได้เลย”  จีอู๋ลี่ให้โอกาสทุกคนได้พูดคำสุดท้าย

“ข้าเอง, ให้ข้าพูดก่อน!” เย่ว์หยางที่แกล้งตายมานานอาจคิดว่า ใครๆ ก็คงมีบุคลิกภาพพจน์เหมือนหนังตลกโจวชิงสือ เขารีบยกมือขึ้นอาสาพูดคำสุดท้ายที่ตัวประกอบหาโอกาสเล่นยาก...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด