ตอนที่ 55 ยกตนข่มท่าน
ตอนที่ 55 ยกตนข่มท่าน
“มันเกี่ยวกับพื้นที่ลี้ลับ เจ้าน่าจะรู้มาก่อนหน้านี้ว่าข้าและแอนโทนี่เคยเข้าไปที่นั่น แต่ว่าพวกข้าไม่คิดว่าที่นั่นจะใหญ่กว่าที่คิดและอันตรายมาก ตอนนั้นพวกข้าเข้าไปได้แค่ริมขอบของเส้นทางเท่านั้นก็ต้องหนีตายออกมา แต่ตอนนี้ปัญหาแม้จะมาจากพื้นที่ลี้ลับ แต่ก็ไม่ใช่ภายในแต่เป็นภายนอกแล้ว” เอ็มมากล่าวด้วยท่าทางจริงจัง
“เดี๋ยวด้านนอกหมายความว่าอย่างไร”
ทั้งลีโอและสเวนถามขึ้นมาพร้อมกัน ลีโอนั้นไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ลี้ลับมากนัก ส่วนสเวนหลัง ๆ ช่วงวันสองวันนี้ก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับการเป็นนายหน้ารับจารึกศาสตราอาคมให้กับลีโอ
“ไว้ไปถึงเดี๋ยวพวกเจ้าก็กระจ่างเอง” กล่าวถึงตรงนี้เอ็มมาก็ลุกขึ้นยืน เพราะมาถึงอาคารบริหารงานหลักของเหมืองมรณะแล้ว สถานที่นี้กลับวุ่นวายจนน่าแปลกใจ เต็มไปด้วยหมอผีฝึกหัดระดับ 3 ดาวหลากหลายคนยืนอยู่รอบทั้งอาคาร หวังจะทราบข่าวทั้งที่เป็นข่าวลือและข่าวทางการ
แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการออกมาประกาศให้ชัดเจนนอกจากข่าวลือ นับว่านี่เป็นเหตุการณ์ใหญ่ ตั้งแต่มีการสร้างฐานขุดเจาะที่เหมืองมรณะแห่งนี้มาเลยก็ว่าได้ ทำให้หลายคนอดจะหวั่นใจไม่ได้
เอ็มมา สเวนและสุดท้ายลีโอทั้งสามก้าวเดินลงจากรถอย่างว่องไวตรงไปยังประตูทางเข้า แต่ผู้คนมากเกินไปจึงเบียดเสียดกันอยู่ไม่น้อย
“พวกเจ้าที่ยืนขวางทางอยู่หลบไปซะพวกข้ามีธุระด้านบน” สเวนที่เหลืออดจึงตะโกนไป พอผู้คนเห็นว่านั้นคือสเวนพวกบ้าระห่ำที่ไม่มีใครอยากจะไปมีเรื่องมากนัก ก็พากันแหวกทางหลบให้ ทำให้พวกเขาทั้งสามสามารถมาถึงลิฟต์ได้สำเร็จ
พอขึ้นไปไม่ถึง 3 วินาทีลิฟต์ก็เปิดออกในตอนนี้พวกเขามาอยู่ที่ชั้นสามของอาคารกันแล้ว
แต่มาถึงก็มีหมอผีฝึกหัดหลายคนยืนและนั่งรอกันอยู่ตามทางเดิน คนเหล่านี้เห็นได้ชัดว่ามาจากด้านบน เพื่อรอคำสั่งต่อไป
“คนเหล่านี้ข้าสัมผัสได้ว่าทุกคนนั้นแกร่งมาก” ลีโอกระซิบกล่าวเบา ๆ
“พวกเขาเป็นศิษย์พี่หมอผีฝึกหัดระดับ 3ของสถาบันเอลาเดีย” เอ็มมาบอกถึงที่มาคนเหล่านี้
ลีโอที่ได้ยินก็พยักหน้าเข้าใจและไม่แปลกถ้าคนพวกนี้จะแข็งแกร่ง ดูเหมือนว่ากองกำลังของหมอผีฝึกหัดระดับ 3 ของสถาบันจะไม่ธรรมดาอย่างที่คิด เพราะแต่ละคนที่สัมผัสได้นั้นไม่อ่อนแอกว่าสเวน บางทีอาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ
“ยกโขยงกันมาราวกับจะทำสงครามกัน” สเวนเอ่ยเลื่อนลอย
ทั้งสามไม่มีเวลาไปหยุดทักทายใคร เพียงแต่มองผ่าน ๆ หมอผีฝึกหัดระดับ 3 ก็ไม่คิดจะกล่าวทักทายใด ๆ ด้วยเช่นกัน
เมื่อไปถึงหน้าประตู เอ็มมาก็กำลังรายงานตัวที่หน้าจอข้างประตู เพื่อเข้าไป แต่ตอนนั้นเองประตูกลับเปิดขึ้นมา ลีโอที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูพอดีก็ได้เผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่คาดว่าจะเจอกันเร็วขนาดนี้
“ฟลอยด์” เอ็มมากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ยังแฝงความรู้สึกอ่อนด้อยไว้อย่างชัดเจน นั้นเพราะแม้ทั้งสองจะเป็นศิษย์ส่วนตัวเหมือนกัน แต่ฟลอยด์คือผู้มีพรสวรรค์ระดับ 5 จึงไม่แปลกที่เอ็มมาจะรู้สึกว่าตนเองนั้นสู้ฟลอยด์ไม่ได้
ต่างกับลีโอที่ไม่กล่าวอะไร แต่เผยความรู้สึกเย็นชาออกมาอย่างชัดเจน
“ลีโอ เบลซ” ฟลอยด์กล่าวออกมาทีละคำด้วยน้ำเสียงราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะเหลือบมองไปเห็นว่าลีโอนั้นพกดาบ
“ก็ไม่เลวร้ายจนเกินไป ไว้ข้าจะแวะไปทักทายหวังว่าจะได้ประลองทักษะดาบกันสักครั้ง” ฟลอยด์กล่าวขึ้นมา
แน่นอนว่าไม่ใช่คำทักทายที่ดีอะไร
ก็ไม่เลวร้ายจนเกินไปที่ฟลอยด์กล่าวนั้นเป็นการเหน็บแนมพรสวรรค์ของลีโอ เนื่องจากฟลอยด์คิดว่าลีโอพึ่งจะกลายมาเป็นระดับ 2 โดยพรสวรรค์ระดับ 2 ของลีโอเมื่อเทียบกับช่วงเวลาแล้ว ก็สมควรที่จะถึงหมอผีฝึกหัดระดับ 2 แล้ว ซึ่งไม่เลวสำหรับคนมีพรสวรรค์แค่นี้
ทำให้เข้าใจว่าพอเป็นระดับ 2 ก็พกพาดาบและเรียนรู้ทักษะดาบ แต่ในเหมืองมรณะจะมีใครที่สอนทักษะดาบดี ๆ ได้กัน ทำให้ฟลอยด์ดูถูก
ส่วนประโยคหลังแน่นอนว่าฟลอยด์อยากท้าประลองกับลีโอ
ลีโอสัมผัสได้ว่าฟลอยด์นั้นอยู่ระดับ 3 แล้ว ระดับ 3 ท้าสู้ระดับ 2 แน่นอน เจตนาชัดเจนคือต้องการทุบตีสั่งสอนลีโอให้อับอายแน่นอน
ลีโอยืนนิ่งไม่ตอบรับ เพราะไม่อยากจะกระโดดลงไปในกับดักของฟลอยด์
แต่ฟลอยด์กลับไม่ได้สนใจ เพราะอย่างไรเขาก็คิดว่าถึงเวลาต่อให้ลีโอจะปฏิเสธแต่เขาจะลงมือแน่นอน ส่วนตอนนี้ก็หาเรื่องไปก่อน
“หลบไป”
ฟลอยด์เห็นว่าทั้งสามนั้นไม่หลบจึงกล่าวตวาดขึ้นมาดึงดูดความสนใจคนอื่น ๆ และหวังยกตนข่มท่านให้ตัวเองเหนือกว่าลีโอ โดยการให้ลีโอหลบให้ตนเดินก่อน
หลายคนมองดูอย่างสนใจ
แม้ไม่รู้ว่าทำไมเจ้าหน้าหล่อชื่อดังอย่างฟลอยด์ที่เริ่มมีชื่อเสียงกลับไปกดดันคนทั้งสามแบบนั้น แม้ในหมู่สองคนจะพอมีคนได้ยินชื่อและรู้จักอย่างเช่นสเวนที่ดังในเรื่องการสารภาพรักกับคาร่า แต่เป้าหมายกลับเป็นเด็กหนุ่มอายุน้อยคนนั้น ทำให้เริ่มมีคนสนใจถึงที่มาของลีโอบ้าง
เอ็มมานั้นหลบไปข้าง ๆ ทันที ส่วนนั้นไม่ได้ยืนขวางกลางอยู่แล้วจึงไม่คิดหลบ แต่ลีโอนั้นยืนอยู่กลางทางอย่างชัดเจน
ฟลอยด์มองดูสีหน้าบึ้งตึงของลีโอย่างพอใจ และคิดว่าอย่างไรมันก็ต้องหลบออกไป
ลีโอที่ยืนอยู่ แม้จะไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะตามจริงฉนวนเรื่องก็เป็นเพียงเรื่องไร้สาระของเขาเท่านั้น แต่หลังจากการแทรกแซงของอาจารย์หมอผีและตัวของฟลอยด์จนเขาโดนโทษมาที่นี่ก็ทำให้ลีโอไม่ชอบหน้าฟลอยด์และพวกมันไปด้วย
ลีโอยังยืนนิ่งไม่คิดจะหลบ ฟลอยด์เห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้วกำลังจะกล่าวต่อ แต่ว่าตอนนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“เจ้าคือคนที่ข้าให้เอ็มมาตามมาใช่ไหม”
“ส่วนเจ้าคิดจะยืนขวางประตูไปอีกนานแค่ไหนทำไมไม่หลบออกไป”
เสียงจากทางด้านหลังทำเอาฟลอยด์ที่โดนกล่าวตำหนิสั่นด้วยความกลัว เพราะนั่นคืออาจารย์หมอผีแท้จริง แม้จะกล้ายกตนข่มลีโอ แต่กลับหมอผีแท้จริงเขาไม่มีความกล้าในตอนนี้
“หลบไปสิ” หมอผีแท้จริงด้านหลังของลีโอกล่าวด้วยความไม่พอใจอีกครั้ง
“ขอรับท่านอาจารย์หมอผีดาร์เลเน่” ฟลอยด์ก้มหัวกล่าวและรีบหลบออกไปยืนแอบที่ด้านข้าง แม้จะไม่พอใจ แต่ก็ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนเท่านั้น
ด้านในห้องรับรองเผยให้เห็นอาจารย์หมอผีดาร์เลเน่ที่ยืนมองพวกเขาอยู่
“ตามข้ามาคนอื่นรออยู่นานแล้ว”
อาจารย์หมอผีดาร์เลเน่กล่าว ก่อนจะเดินไปด้านใน ซึ่งมีห้องแยกสำหรับใช้การประชุมโดยเฉพาะอยู่ ส่วนห้องนี้เป็นเพียงห้องรับรองเท่านั้น
ลีโอก้าวเดินทันที โดยไม่สนใจสายตาเย็นชาของฟลอยด์ที่มองจากด้านข้างอย่างคับแค้นใจ
เอ็มมาและสเวนเห็นก็ตามเข้าไปด้านในเช่นกัน
“หึ แล้วข้าจะจำไว้” ฟลอยด์พึมพำ ไม่รู้ว่ามันหมายถึงลีโอหรือว่าอาจารย์หมอผีดาร์เลเน่กันแน่
...
ลีโอเข้าไปยังห้องประชุม เขาก็ต้องเจอกับแรงกดดันมหาศาลจากการที่เหลือหมอผีแท้จริงมากกว่า 5 คนได้รวมตัวกันอยู่ ตามปกติแล้วจะมีอาจารย์หมอผีประจำอยู่ที่เหมืองมรณะแค่ 1-2 คนสลับสับเปลี่ยนไปเท่านั้น
ในห้องมีหมอผีแท้จริงที่ลีโอเคยเห็นและรู้จักชื่ออยู่ คนแรกคือ อาจารย์หมอผีดาร์เลเน่ ผู้เป็นอาจารย์ของเอ็มมาและแอนโทนี่
คนที่สองแน่นอนว่าคืออาจารย์หมอผีเธมบีเซ่
คนที่สามนั้นคืออาจารย์หมอผีแกสทอนผู้ที่ลงมาที่นี่พร้อมกับลีโอ
คนที่สี่คือ อาจารย์หมอผีไรเกอร์ เป็นอาจารย์หมอผีที่รับลงทะเบียนให้กับพวกเขาในครั้งที่เข้าเรียนที่สถาบันเอลาเดีย
ส่วนคนสุดท้ายนั้นลีโอไม่เคยพบเจอนางนั้นอายุน่าจะไม่มาก แต่ว่ากลับเป็นถึงหมอผีแท้จริงแล้วและสถานะคงเป็นอาจารย์หมอผีด้วย
นอกจากอาจารย์หมอผีทั้ง 5 ท่านแล้วยังมีเหล่าศิษย์ส่วนตัวด้วย ลีโอไม่เคยเห็นศิษย์ส่วนตัวเหล่านี้นอกจากสองคนนั้นคือ คาร่าและแอนโทนี่
ลีโอหันไปมองและพยักหน้าให้กับคาร่า คาร่าพยักหน้ากลับ โดยไม่ได้มีท่าทีอะไรอีก แต่ตอนนั้นลีโอก็เห็นว่ามีหนึ่งในศิษย์ส่วนตัวจ้องมองและสนใจเขาเป็นพิเศษ ซึ่งศิษย์ผู้นั้นอยู่ทางด้านหลังฝั่งของอาจารย์หมอผีเธมบีเซ่ ลีโอระวังต่อคนผู้นี้ทันที เพราะว่าเป็นคนฝั่งฟลอยด์
นอกจากเหล่าศิษย์ยังมีหมอผีฝึกหัดอีก 3 ที่ยืนอยู่หน้าห้องประชุม
เอ็มมาและสเวนไปหาที่นั่งตรงเก้าอี้เสริมทางด้านหลังฝั่งของอาจารย์หมอผีของตนเอง ลีโอกำลังจะเดินตามไป แต่ว่าตอนนั้นอาจารย์หมอผีดาร์เลเน่ก็กล่าวกับลีโอ
“เจ้าไม่ต้องตามมา แต่ไปรวมกับพวกเขา” สายตาของอาจารย์หมอผีดาร์เลเน่ไปทางหมอผีฝึกหัดสามคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าอย่างโดดเด่น
“ข้าอย่างนั้นเหรอ” ลีโองุนงง แต่เมื่อเห็นว่าอาจารย์หมอผีดาร์เลเน่ไม่สนใจคำถาม ทำให้ลีโอต้องจำใจไปยืนเด่นอยู่หน้าห้องกับหมอผีฝึกหัดอีกสามคน
ลีโอไปยืนทางด้านขวาของด้านหน้าห้อง หมอผีฝึกหัดก่อนหน้าทั้งสามก็หันเหลือบมองลีโอด้วยแววตาตรวจสอบ
“นี่นะเหรอคนที่เจ้ากล่าวถึง ถ้าข้าจำไม่ผิดนี่คือศิษย์ที่เข้ามาได้เพียงครึ่งปีก่อนเท่านั้น จะกลายเป็นหมอผีผู้จารึกได้อย่างไร” อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่กล่าวอย่างไม่วางใจ
“เรายืนยันแล้วว่าเขาเป็นผู้จารึก ไม่ว่าจะจากภาพที่เขาโจมตีคนที่ติดตามศิษย์ส่วนตัวของท่านและยังตรวจสอบจากบันทึกการซื้อขายและชื่อเสียงของเขาที่เหมืองมรณะนี้ เขาคืออาจารย์หมอผีแน่นอน ข้ารับรองได้” อาจารย์หมอผีดาร์เลเน่กล่าวขึ้นมา
“ต่อให้เป็นอย่างนั้นเราก็ไม่ควรไว้วางใจงานนี้ไม่อาจจะผิดพลาดได้” อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่
“เรื่องนั้นข้าจะตัดสินใจเอง”
ตอนนั้นอาจารย์หมอผีสาวคนที่ 5 ที่ลีโอไม่รู้จักได้เอ่ยขัดขึ้นมา ทำให้คนอื่น ๆ เงียบเสียงลงไป