ตอนที่ 23 หญ้าซิงเจียน
ผลของยาฟื้นวิญญาณนั้นยอดเยี่ยมมากดังนั้นจึงไม่มีทางที่นิกายเลือดทมิฬจะไม่ต้องการมัน
และผู้ชายคนนี้กำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่?
เฟิงยี่ไถ่อาจดูแข็งแกร่งมากก็จริงๆแต่เขาเป็นเพียงคนโง่คนหนึ่งเท่านั้น เขาจะวางแผนแบบนี้ได้อย่างไรกัน?
แม้ว่าเขาจะประมูลยาฟื้นวิญญาณได้สําเร็จแต่หลินหยูก็รู้สึกถึงลางร้ายบางอย่าง
"65 ล้านครั้งที่หนึ่ง..." "65 ล้านครั้งที่สอง..."
"65 ล้านครั้งที่สาม..."
"ขอแสดงความยินดีกับรองหัวหน้าหอคอยแห่งเงาที่การชนะการประมูลยาฟื้นวิญญาณ"
เมื่อผู้ดำเนินการประมูลหญิงทุบค้อนเพื่อปิดการประมูลยาฟื้นวิญญาณนี้
ความจริงจะพิสูจน์ว่าลางสังหรณ์ของหลินหยูนั้นถูกต้อง
เฟิงยี่ไถ่จะไม่ยอมเลิกยุ่งกับยาฟื้นวิญญาณ และเขาได้วางแผนที่จะทำให้หลินหยูประมูลมันในราคาที่สูงแทน ส่วนวิธีที่เขาจะได้รับยาฟื้นวิญญาณนั้นง่ายมาก เขาจะฆ่าพวกเขาและขโมยสินค้านั้นมาให้ได้แทน!
เมื่อคนจากหอคอยแห่งเงาออกจากพื้นที่ของงานประมูลมือสังหารที่เฟิงยี่ไถ่เตรียมไว้จะดําเนินการทันที!
"ทุกคนการประมูลกําลังจะสิ้นสุดลงแล้ว สิ่งต่อไปที่เรากําลังประมูลคือสมบัติสุดท้ายของการประมูลวันนี้!"
ในตอนนี้ผู้ดำเนินการประมูลหญิงพูดช้าๆด้วยรอยยิ้ม
"สมบัติชิ้นนี้พิเศษมาก สําหรับผู้ฝึกตนบางคนนั้นมันเป็นสมบัติล้ำค่า แต่สําหรับคนอื่นๆมันอาจเป็นเพียงวัชพืชที่ไร้ค่าเท่านั้น!"
"สมบัติที่เรากําลังประมูลชิ้นสุดท้ายคือหญ้าซิงเจียน!"
เมื่อผู้ดำเนินการประมูลหญิงพูดจบ แววตาของยื่อซวนก็โตขึ้นมา
เขาไม่คิดว่าจะได้เจอกับหญ้าซิงเจียนในการประมูลครั้งนี้ ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ...
"นิกายเลือดทมิฬของข้าเสนอราคา 60 ล้าน!" ก่อนที่ยื่อซวนจะพูดเสียงของเฟิงยี่ไถ่ก็ดังขึ้น
"ข้าขอประมูล 65 ล้าน"
เมื่อเห็นแบบนี้ ยื่อซวนจึงมองไปที่เฟิงยี่ไถ่ก่อนแล้วจึงพูดเบาๆ
เมื่อเห็นแบบนี้เฟิงยี่ไถ่ก็โกรธว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น? ทําไมถึงมีแต่คนที่คอยแข่งขันกับเขาประมูลของตลอด? ชื่อเสียงของนิกายเลือดทมิฬนั้นไม่น่ากลัวเหมือนเมื่อก่อนแล้วหรืออย่างไรกัน? หรือว่าพวกเขาอยู่กันสงบสุขมากเกินไป?
ในความคิดของเฟิงยี่ไถ่นั้น ใครก็ตามที่เสนอราคาแข่งกับเขาและขัดขวางเขาจากการได้รับสิ่งที่เขาต้องการคือศัตรูของเขา
เฟิงยี่ไถ่ค้นหาแหล่งที่มาของเสียงทันทีและพบว่าคนที่ประมูลกับเขานั้นเป็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง
แต่เนื่องจากชายหนุ่มคนนั้นไม่มีความรู้สึกใดๆ เขาจึงเพิกเฉยไปในทันที
แม้ว่ายื่อซวนจะมีชื่อเสียงมากในราชวงศ์เฉียนผู้ยิ่งใหญ่และผู้ฝึกตนส่วนใหญ่เคยได้ยินชื่อเสียงของเขา แต่คนส่วนใหญ่มักจะจําใบหน้าของเขาไม่ได้
"ข้าประมูล 70 ล้าน" เฟิงยี่ไถ่มองไปที่ยื่อซวนอย่างดุเดือดในขณะที่ค่อยๆพูดออกมา
"ข้าประมูล 75 ล้าน" ยื่อซวนไม่ได้มองไปที่เฟิงยี่ไถ่ราวกับว่าเหรียญทองหลายสิบล้านเหรียญเหล่านี้ไม่มีค่าอะไรนอกจากเงินทอน "ไอ้ห่านี่! เจ้ากําลังพยายามแข่งกับข้าอยู่งั้นหรือ?" เฟิงยี่ไถ่พูดออกไปด้วยความโกรธแค้น
ทันทีที่เขาเห็นหญ้าซิงเจียนเขาได้ตัดสินใจที่จะประมูลมันด้วยเงินทั้งหมดที่เขามี
ยิ่งไปกว่านั้นในสายตาของเขามูลค่าของหญ้าซิงเจียนนั้นเหนือกว่ากล้วยไม้สีม่วงในหุบเขา ที่เขาเคยประมูลได้มาก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ!
ระดับการฝึกตนของเขาถึงขั้นที่สิบของรูปแบบจิตวิญญาณสีม่วงเมื่อสิบปีก่อน แต่ถึงอย่างนั้นแม้จะใช้เวลาสิบปีในการฝึกตน แต่เขาก็ยังไม่สามารถก้าวข้ามระดับรูปแบบจิตวิญญาณสีม่วงได้
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ที่เขาก้าวข้ามไปไม่ได้เพราะความสามารถของเขา แต่เป็นเพราะเขาเคยได้พบกับเหตุการณ์บางอย่างมาก่อน
เมื่อเก้าปีที่แล้วเขาได้เข้าไปในซากปรักหักพังลึกลับที่เรียกว่าสุสานดาบโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
ไม่เพียงแค่นั้นเขายังได้ซึมซับพลังฉีของดาบลึกลับเข้าไปด้วย แม้ว่าพลังฉีของดาบลึกลับเล่มนั้นจะไม่สร้างความเสียหายต่อเส้นลมปราณของเขา แต่ก็พลังที่มองไม่เห็นนั้นกําลังข่มพลังฉีสีม่วงในเส้นลมปราณของเขาอย่างหนัก มันจึงเป็นเพราะเหตุผลนี้ที่ทำให้เขาติดอยู่ที่จุดสูงสุดของรูปแบบจิตวิญญาณสีม่วงเป็นเวลาเก้าปีแล้ว!
รูปแบบจิตวิญญาณสีม่วงเป็นระดับสำคัญที่จะข้ามได้หลังจากที่ผ่านระดับรูปแบบแก่นแท้จริงไปแล้ว!
เมื่อสถานะของการฝึกฝนของเขามากถึงจุดสูงสุดของรูปแบบแก่นแท้จริง หากพวกเขาต้องการทะลุผ่านไประดับถัดไปพวกเขาต้องเปิดพลังฉีสีม่วงในเส้นลมปราณของพวกเขาด้วย!
หากผู้ฝึกตนประสบความสําเร็จในการเปิดพลังฉีสีม่วงของพวกเขาได้ เส้นลมปราณของพวกเขาจะมีพลังฉีสีม่วงถ่ายทอดเข้าไปในร่างกายของพวกเขาแล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นระดับพลังที่สูงขึ้นจนกลายเป็นพลังของจิตวิญญาณสีม่วง!
ยิ่งมีพลังจิตวิญญาณสีม่วงในพลังฉีสีม่วงมากเท่าไหร่ผู้ฝึกตนก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้พื้นที่ภายในพลังฉีสีม่วงนั้นจะขยายตัวเมื่อผู้ฝึกตนหยั่งถึงได้ เมื่อพื้นที่ภายในพลังฉีสีม่วงถึงขีดจํากัด พลังจิตวิญญาณสีม่วงภายในพลังฉีสีม่วงจะควบแน่นและหลอมรวมอย่างรวดเร็ว
เมื่อเป็นแบบนั้นเส้นลมปราณของผู้ฝึกตนจะพัฒนาเป็นระดับของแก่นหลักว่างเปล่า!
หรือเรียกง่ายๆว่าระดับรูปแบบการก่อตัวหลัก!
หากเฟิงยี่ไถ่ต้องการก้าวเข้าสู่ระดับรูปแบบการก่อตัวหลักเขาต้องควบรวมพลังจิตวิญญาณสีม่วงทั้งหมดในพื้นที่พลังฉีสีม่วงของเขาแล้วหลอมรวมกับจิตวิญญาณสีม่วงของเขาอย่างสมบูรณ์ให้ได้
แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากการข่มของพลังฉีจากดาบลึกลับนั้น ทำให้พลังจิควิญญาณสีม่วงในพื้นที่พลังฉีสีม่วงของเขาไม่สามารถหลอมรวมกับพลังฉีสีม่วงของเขาได้อย่างสมบูรณ์
เฟิงยี่ไถ่ได้พยายามนับไม่ถ้วนเพื่อแก้ไขปัญหานี้ แต่มันก็ไร้ประโยชน์
โชคดีที่สวรรค์ไม่ทําให้ผู้ที่พยายามนั้นต้องผิดหวัง เขาเจอวิธีการในหนังสือเล่มหนึ่งได้บอกเอาไว้ว่า หากผู้ฝึกตนได้บริโภคหญ้าซิงเจียนพวกเขาจะสามารถขัดเกลาพลังฉีของดาบลึกลับในพื้นที่พลังฉีสีม่วงได้!
เพราะหญ้าซิงเจียนนั้นมีพลังพิเศษอย่างมากในการข่มพลังและปรับแต่งพลังฉีของดาบลึกลับนั้นได้
แม่งเอ้ย
ด้วยเหตุนี้เองที่ เฟิงยี่ไถ่จึงพยายามตามหาที่อยู่ของหญ้าซิงเจียนมาตลอด แต่ถึงอย่างนั้นแม้จะใช้เวลาถึงห้าปีเขาก็ยังไม่พบร่องรอยของมัน
เดิมทีเขากําลังจะเลิกหามันไปแล้ว แต่เขาไม่คิดว่าจะเจอหญ้าซิงเจียนในการประมูลครั้งนี้ได้!
ข้อมูลที่เขาได้รับก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการประมูลครั้งนี้ไม่ได้ระบุว่าจะมีการประมูลหญ้าซิงเจียนในวันนี้ด้วย เห็นได้ชัดว่าสมบัติชิ้นนี้ถูกเพิ่มงานประมูลในนาทีสุดท้าย
หากเขาได้กินหญ้าซิงเจียนและกําจัดพลังของพลังฉีจากดาบลึกลับนั้นในพื้นที่พลังฉีสีม่วงของเขาได้ เขามั่นใจว่าเขาสามารถก้าวเข้ารูปแบบการก่อตัวหลักได้โดยอาศัยการสะสมการฝึกฝนถึงสิบปีของเขาที่อยู่ในจุดสูงสุดของรูปแบบจิตวิญญาณสีม่วงได้!
เมื่อเขาก้าวเข้าระดับรูปแบบการก่อตัวหลักได้ เขาจะกลายเป็นหนึ่งในผู้ฝึกตนที่ทรงพลังที่สุดในราชวงศ์เฉียนอันยิ่งใหญ่ นี่จึงเป็นสิ่งล่อใจเขาอย่างมาก!
ดังนั้นไม่ว่าเขาจะต้องจ่ายด้วยราคาเท่าไหร่เขาก็จะไม่พลาดโอกาสดังกล่าวไป ยิ่งไปกว่านั้นหญ้าซิงเจียนนั้นมีความสําคัญมากกว่ายาฟื้นวิญญาณ เพราะแม้ว่าเขาจะชนะการประมูลยาฟื้นวิญญาณและรักษาอาการบาดเจ็บของผู้นำนิกายได้สําเร็จ แต่เขาก็ยังคงเป็นรองหัวหน้าของนิกายเลือดทมิฬเท่านั้น
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนระดับรูปแบบการก่อตัวหลักที่ทรงพลังเขาก็ไม่ต่างอะไรกับสุนัขตัวน้อยเท่านั้น!