ตอนที่ 1183 ซื่อเสิน
ซื่อเสินดูถูก
เขาไม่ได้รั้งกระบี่เทพวิถีกำศรวลกลับแต่กวาดไปมือซ้ายและคลายเหยียดนิ้วทั้งห้า
แต่ละนิ้วควบไปด้วยปราณกระบี่แต่ละปราณกระบี่อัดแน่นไปด้วยพลังเทพที่แตกต่างกัน พลังปราณกระบี่แต่ละสายสามารถถล่มฟ้าทลายดินได้ เมื่อเผชิญหน้ากับซาฟงที่บุกเข้ามาเหมือนกับโคถึกแม้ว่าเขาจะไม่ถูกบังคับให้ใช้พลังเทพสังหารทั้งหมดแต่ซื่อเสินไม่กล้าดูแคลนเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป
พลังปราณกระบี่ห้าสายยิงออกมาทันที
ทะลวงแขน ขา อกและท้องของซาฟง
ซวงหานและคนอื่นๆพอมองเห็นก็ยิ่งรู้สึกแตกตื่นตกใจ พลังเทพพายุของซาฟงภายใต้ปราณกระบี่ห้าสายของซื่อเสินนั้นเปราะบางเหมือนกระดาษ แทบไม่สามารถขัดขวางป้องกันได้
ร่างซื่อเสินถูกปราณกระบี่ห้าสายแทงร่าง กระสุนปืนใหญ่ที่น่าสงสารแสดงบทบาทโดยเด็กหนุ่มจากโลกอื่นที่ถูกลูกพี่หักหลังได้รับการเขียนบทให้จบลงอย่างน่าเศร้าและเหมือนจักรวาลน้อยระเบิด แสงที่เกิดจากปราณกระบี่ขยายตัวเขาตวาดกึกก้องระเบิดราวกับฟ้าร้อง เหลือแต่ความว่างเปล่า เขาส่งเสียงตวาดกึกก้องต่อสู้ขณะที่เห็นปราณกระบี่ทั้งห้าทะลุร่างของเขา
“ซื่อเสิน! ข้ายังไม่ตาย ในเมื่อข้าไม่ตาย ข้าก็ยังไมแพ้!”
ซาฟงแมลงสาบผู้ตายยาก
บุกสู้ต่อ
คนเถื่อนเดินขึ้นหน้าและเลือดจากแผลกปราณกระบี่ไหลตลอดทาง
ในที่สุดก็วิ่งมาถึงหน้าซื่อเสินซาฟงร่างโชกเลือดเงื้อหมัดและพบว่าเขาไม่เหลือพลังสู้
จ้าวซีตกใจราวกับว่าเพิ่งรู้จักกับซาฟงอีกครั้ง ซวงหานเต็มไปด้วยความโมโห มือของเขากำหมัดแน่นเพลิงโทสะอัดแน่นในอก แต่เขาไม่ได้แสดงออกมา
เขารู้ว่าเขาไม่ได้โกรธซาฟงเจ้าบ้าที่วิ่งไปหาที่ตายแต่โกรธอีกคนหนึ่ง
คนที่มีความสามารถในการหยุดแต่ไม่ยอมลงมือ
เขาต้องการให้คนอื่นขายชีวิตให้ตนเอง
แม้ว่าจะมีความคิดเช่นนั้น
แต่อย่างน้อย
ก็ควรทำอะไรบ้าง
เอาแต่มองเฉยอยู่ด้านข้างไม่ทำอะไรเลยมองดูคนอื่นสู้เพื่อตัวเขาเองอย่างเฉยเมยใจดำอำมหิต นี่ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? แม้ว่านี่จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในแง่มุมมองน่าสนใจ แต่ทำเช่นนั้นนับว่าเย็นชาเกินไป ซวงหานคิดอย่างนี้เขาตัวสั่นสะท้านกะทันหันเขาไม่เคยรู้สึกว่าร่างกายเคยหนาวมาก่อน
มีความหนาวยะเยือกพุ่งออกมาจากใจของเขาและมันหนาวจนคนไม่สงบอารมณ์ได้
“เจ้าไม่ควรต้องตาย ทำไมเจ้าต้องขายชีวิตให้คนอื่น?” ซื่อเสินยังคงมีสีหน้าเย็นชาเหมือนโลงศพ เขาเห็นซาฟงร่างโชกเลือดแต่ยังคงเคลื่อนไหวลงมือ ในที่สุดเขามองซาฟงในแง่ดีขึ้นมาบ้าง
“เขาไม่มีน้ำใจแต่ข้าจะอยุติธรรมไม่ได้” เย่ว์หยางเล่นบทซาฟงเพื่อให้อีกคนหนึ่งเห็น
“.....” หลังจากได้ยินแล้วซวงหานร่างสั่นทันที
จ้าวซีถลึงตามอง
เฮยโจวโกรธอยู่ในใจจริงๆ เจ้ามันควรตายตอนจะตายยังพูดพร่ำเรื่องไร้สาระบั่นทอนกำลังใจในการทำงานด้วยหรือ
โชคดีที่ซาฟงผู้นี้กำลังจะตาย มิฉะนั้นเฮยโจวคงอดใจไม่ได้ต้องทุบปากเขาให้เละจนได้...สายเกินกว่าเฮยโจวจะตอบสนองใดๆ ได้ ซาฟงได้รวบรวมพลังอึดสุดท้ายต่อยใส่อกซื่อเสิน ซื่อเสินไม่ป้องกันแต่อย่างใดดังนั้นซาฟงจึงต่อยเขาได้หนึ่งหมัด เลือดออกที่มุมปากเขา “เห็นว่าเจ้าพูดเหมือนมนุษย์บ้างยอมให้เจ้าหนึ่งหมัด”
ซาฟงคำราม “ข้าไม่เพียงแต่ทุบเจ้า แต่จะฆ่าเจ้าด้วย
ซื่อเสินยิ้มเย็นชา
ปากของเขาพูดออกมาหนึ่งประโยค “ไม่ประมาณตัวเอง”
ขณะที่ซาฟงเหวี่ยงหมัดครั้งสองซื่อเสินใช้มือซ้ายคว้ามือของซาฟงและเหวี่ยงเขาออกไปเหมือนกระสอบนุ่น
“บึ้ม!”
ไม่ทราบว่าเขาโดนเหวี่ยงกระเด็นไปกี่กิโลเมตรแต่ยอดเขาพังทลายไปสองลูก
ในที่สุดซาฟงก็ทะลวงลึกลงไปในพื้นเหมือนกับอุกกาบาตยักษ์พุ่งชนโลกกลุ่มควันรูปดอกเห็ดลอยม้วนตัวสูงขึ้นในท้องฟ้า
พลังของซื่อเสินน่ากลัว ซวงหานเห็นหนังตากระตุกทันที แค่มือซ้ายข้างเดียวก็ฆ่าซาฟงได้อย่างง่ายดายกระบี่เทพวิถีกำศรวลไม่ได้ใช้ออกเป็นครั้งที่สอง นี่คือความแข็งแกร่งของซื่อเสินนี่คือพลังของยอดฝีมืออันดับหนึ่งของขุนเขาเหนือขุนเขา! ถ้าไม่มีแผนที่สมบูรณ์มากคนเพียงไม่กี่คนคงไม่สามารถฆ่าซื่อเสินได้ ซวงหานกับจ้าวซีมองหน้ากัน ทุกคนมองเห็นแววสยองขวัญอยู่ในดวงตาของกันและกัน
อย่าว่าแต่พวกเขาเลย เฮยโจวผู้มั่นใจ
ยังรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
ซื่อเสินทรงพลังน่ากลัวมากจริงๆ!
มีเสียงอู้อี้ดังมาจากขอบฟ้าไกลราวกับว่ามียักษ์สั่นสะเทือนเมฆในท้องฟ้า และเสียงเริ่มสั่นสะท้านราวกับฟ้าถล่ม
มีมีดแสงที่แปลกประหลาดราวกับผ่ามิติเวลาเป็นประกายมาแต่ไกล
ฝ่าวงล้อมของเฮยโจว ซวงหานและจ้าวซี
เขาเข้ามาในวงล้อม
คนเหมือนกับดาบ
ดาบก็เหมือนกับคนเช่นกัน
ถ้าซื่อเสินคือกระบี่เทพศักดิ์สิทธิ์ อย่างนั้นคนผู้นี้ก็คือดาบเทพ.. ดาบของเขาฟันเป็นกากบาทในท้องฟ้าผ่าแบ่งโลกและสวรรค์ออกเป็นสี่ส่วน ในทิศ ทางตะวันออกเฉียงใต้ และทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือกันซื่อเสินและเฮยโจวไว้ทางหนึ่งเจ้าของดาบและกันจ้าวซีและซวงหานไว้ในทิศเหนือและใต้ แม้ว่าจะไม่พูด แต่คนถือดาบยืนอยู่ทางทิศใต้ ก็สื่อความหมายเดียวต้องการสู้กับเทพอุดรจ้าวซีและเทพพายัพซวงหานสู้กับเทพสองต่อหนึ่ง ถึงจะไม่ใช่ซื่อเสินแต่ก็มีความหยิ่งภูมิใจพอกัน
ผู้มาคือผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของค่ายตะวันออกขุนเขาเหนือขุนเขา นอกจากนี้ยังเป็นสายลับคนสำคัญของค่ายตะวันตกเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือที่สุดของซื่อเสินทั้งเป็นหมากสำคัญในแผนของเฮยโจว
เทพทักษิณเทียนโฉว!
เขาถือดาบวิเศษระดับเทพ “ดาบดื่มหิมะ”
“ซื่อเสิน! จ้าวซีและซวงหานปล่อยให้ข้ารับมือเอง!” เทียนโฉวชี้ดาบเทพ เสียงกระหึ่มของดาบราวกับทหารม้านับพันนับหมื่น
“ท่านบาดเจ็บหรือ?” ซื่อเสินพบว่าพี่ชายคนนี้มีบาดแผลที่คิ้วเขาขมวดคิ้ว
“เฮอะ, แค่บาดเจ็บเล็กน้อย เฮยโจวข้าอาจเคลื่อนไหวไม่ได้ แต่จ้าวซีและซวงหาน ข้ายังจัดการได้อยู่” เทียนโฉวยืนขึ้นอย่างทระนงราวกับวีรบุรุษผู้ท้าทายโลกเทพทักษิณยืนหยัดแน่วแน่ แน่นอนว่าไม่ใช่แผลบาดเจ็บเล็กน้อยเขาสามารถล้มลงเมื่อใดก็ได้ ทุกคนล้วนเป็นคนบ้าที่เกิดและตายในสงคราม ไม่มีทางยอมแพ้และท้อแท้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายเอวที่ตั้งตรงดุจใบมีดของเขาได้
“นี่คือสิ่งที่ทำได้” ซื่อเสินพูดอย่างเย็นชา
เทพบูรพาไม่เคยรู้ว่าการดูแลห่วงใยคนอื่นเป็นเช่นไรนี่คือข้อเสียของเขา
ในทำนองเดียวกันเทพทักษิณเทียนโฉวเป็นคนที่ไม่ถนัดเรื่องสื่อสารกับคนอื่นนักเขาไม่ค่อยใส่ใจเห็นอกเห็นใจซื่อเสินเท่าใดนัก “วางใจได้ ข้าเทียบกับเจ้าที่ฆ่าเฮยโจว ข้าฆ่าจ้าวซีและซวงหานได้ไวกว่าแน่หากเจ้ายังทนได้ก็ไม่เป็นไร ข้าเทียนโฉวไม่ขอพลาดศึกนี้”
เทียนโฉวพูดกับจ้าวซีและซวงหานโดยตรง
ขณะนั้นเองแสงศักดิ์สิทธิ์สายหนึ่งฉายทันที
เป็นแสงที่เกิดขึ้นรวดเร็ว
จีอู๋ลี่ที่แปลงร่างเป็นเทียนโฉวหัวเราะดีใจ “ที่แท้เป็นเทพทักษิณเทียนโฉวที่บาดเจ็บกำลังจะตายแต่ยังปากดียืนอยู่ได้ด้วยทิฐิดื้อรั้น ฮ่าฮ่าขุนเขาเหนือขุนเขามีราชาจอมโวด้วยหรือนี่? ทันทีที่ข้าแทรกแซงลงมืออาการบาดเจ็บของเจ้าจะกำเริบขยาย ตัวเจ้าจะระเบิดตาย เจ้ายังกล้ามาที่นี่ ข้าจะสงเคราะห์เจ้าเอง”
“ใช้รูปลักษณ์น้องข้า มาลอบทำร้ายข้าเจ้าเล่ห์นัก เจ้าบังอาจลวงข้า วันนี้ข้าเทียนโฉวจะต้องฆ่าคนอย่างเจ้าให้ได้” เทียนโฉวมองดูจีอู๋ลี่ที่อยู่ในชุดของชี่เฉียวทันใดนั้นดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง
ดาบเปล่งแสงสีขาวเหมือนหิมะ
พริบตาเดียวพื้นเกิดรอยแตกแยกอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามก่อนที่รอยแยกจะถึงหน้าของจีอู๋ลี่และตัดร่างเขาขาดครึ่ง
ยังคงเป็นจีอู๋ลี่ใช้พลังดรรชนีปัดหลบได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าแสงจากดรรชนี้จะอ่อนแต่สำหรับซื่อเสินและเทียนโฉวผู้ได้รับอันตรายบาดเจ็บมาก่อนแสงนี้ไม่ต่างอะไรจากสายฟ้าสำหรับซื่อเสินผู้แข็งแกร่ง.. ร่างที่แข็งแกร่งอย่างซื่อเสินยังซวนเซเขาพ่นโลหิตที่คั่งในช่วงปะทะกับซาฟงออกมาทันที เลือดหยดลงบนเสื้อของเขา เทียบกับซื่อเสินแล้วร่างเทียนโฉวอาการหนักกว่า อกของเขาแทบระเบิดปากและจมูกของเขาเต็มไปด้วยเลือดต้องใช้ดาบค้ำยันตัวไว้ไม่ให้ล้มดาบเทพดื่มหิมะแทบจะรับน้ำหนักตัวเขาไม่อยู่ แต่ตอนนี้ยากจะเพ่งเล็งอยู่กับการฟื้นฟูร่างกาย
ซื่อเสินกวาดมือประคอง
มือข้างหนึ่งกดเข้าที่เสื้อเกราะเทียนโฉวขณะใช้พลังเทพรักษาเทียนโฉว
เขาช่วยประคองร่างเทียนโฉวให้มั่นคงบุรุษนักดาบผู้นี้ไม่เคยคุกเข่าในสนามรบไม่เคยล้มลงในสนามรบต่อให้ได้รับความอัปยศอดสูได้รับบาดเจ็บหนักต่อหน้าศัตรูก็ตาม
“ข้ามีทุกอย่าง” ซื่อเสินใช้มืออีกข้างหนึ่งปาดเลือดจากมุมปาก คิ้วของเขาชันขณะกล่าว “ก็แค่คนสี่คน ปล่อยให้ข้าซื่อเสินรับมือเอง แค่กระบี่เล่มเดียวในมือ ขุนเขาเหนือขุนเขาไม่มีใครหยุดยั้งพลังสังหารของข้าได้รวมทั้งเจ้าด้วยเฮยโจว!” ประโยคสุดท้ายของซื่อเสินพูดกับเฮยโจว ตอนนี้เฮยโจวมีสีหน้าผ่อนคลายมาก แผนการของเขาเป็นไปอย่างราบรื่น ตราบใดที่ไม่มีมหาเทพโบราณมาขัดขวางสถานการณ์อย่างนั้นแผนการนี้ที่เริ่มมาตั้งแต่หมื่นปีที่แล้ว สงครามครั้งนี้เขาจะเป็นผู้ชนะ!
“ขอเวลาก่อนข้าแค่ต้องการพักหอบหายใจ” เทียนโฉวสอดดาบเข้าฝักขณะรีบเร่งรักษาตัวด้วยพลังเทพ
“เตรียมตัว ฆ่าเทียนโฉว ล้อมซื่อเสิน!”
เฮยโจวตะโกน
ซวงหานและจ้าวซีแยกกันลงมือทันที
ราวกับว่าฝ่ามือนี้กำหนดโชคชะตามาเป็นเวลาพันปีแล้วเขาฟาดฝ่ามือใส่เทียนโฉว
ตราบใดที่เทพอุดรจ้าวซีกราดฟาดฝ่ามือเขาจะไม่มีทางล้มเหลวไม่มีใครสามารถหลบการโจมตีภายใต้การนำทางของกระจกเทพและสนามพลังทักษะแฝงเร้นของเขาได้ไม่มีใคร ต่อให้เป็นบุรุษหมายเลขหนึ่งแห่งขุนเขาเหนือขุนเขาเทพบูรพาซื่อเสินก็ไม่ยกเว้น
โซ่น้ำแข็งราวกับงูหิมะหลายร้อยตัวที่น่ากลัวแหวกออกมาจากช่องว่างแนวตาข่ายดูหนาแน่น
ซื่อเสินและเทียนโฉวเหมือนกับปลา
ทั้งหมดตกอยู่ในข่าย
พลังโจมตีที่น่ากลัวที่สุดไม่ได้มาจากพลังดรรชนีของจีอู๋ลี่ซึ่งทำให้ซื่อเสินและเทียนโฉวถูกพลังระเบิดบาดเจ็บ แต่เป็นเฮยโจว... พลังแข็งแกร่งสุดยอดในขุนเขาเหนือขุนเขาเมื่อเฮยโจวยิงพลังออก โลกจะมืดมิดทันทีความมืดขยายยืดยาวมืดมิดจนมองไม่เห็นนิ้วตนเอง ทุกอย่างถูกกลืนอยู่ในความมืดด้วยพลังเทพและเจตจำนงของเฮยโจว ทุกอย่างไม่สามารถหลบหนีไปได้
ในท่ามกลางความมืดมีกระบี่เล่มหนึ่งฉายประกาย
เหมือนกับรุ่งอรุณของวันใหม่ แม้ว่าท้องฟ้าจะมืดสีเทาแต่ก็ไม่สามารถขจัดแสงแห่งรุ่งอรุณได้
นี่คือกระบี่ของซื่อเสิน
ในฐานะเทพอันดับหนึ่งแห่งขุนเขาเหนือขุนเขาเทพบูรพาซื่อเสินภายใต้การรุมล้อมของสามเทพและหนึ่งเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์แห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ที่ดูเหมือนจะมีพลังไม่มากเท่ากับเทพ แต่ในที่สุด เขาชักกระบี่ออกมา
กระบี่วิถีกำศรวล
เมื่อใดก็ตามที่กระบี่เทพโบราณถูกชักออกจากฝักจะต้องมีชีวิตถูกปลิดปลงจากโลกนั่นคือกระบี่วิถีกำศรวล
“ปล่อยข้าเอง” ซื่อเสินวาดท่วงท่ากระบี่พร้อมแต่มีเสียงตวาดบอกปล่อยให้เขาลงมือเอง ทันใดนั้นคมมีดตัดผ่านมิติช่องว่างในอากาศแรงตัดฟันเทียบกับไม้ตายสังหารของจีอู๋ลี่ที่เพิ่งใช้ก่อนหน้านั้นพลังไม้ตายนี้แข็งแกร่งมากกว่าเป็นพันเท่า ซื่อเสินไม่เคยเห็นพลังดาบรุนแรงขนาดนั้น แม้ว่าเขาจะคุ้นเคยกับเทียนโฉวมาหลายปี แต่เขาไม่เคยรู้ว่าพี่น้องฝ่ายเดียวกับเขาสามารถใช้ดาบได้ทรงพลังขนาดนั้น ถ้าดาบนี้ไม่ใช่ใช้ออกเพื่อเขาแต่ใช้ลอบลงมือกับศัตรูอย่างเฮยโจวแทนอย่างนั้นซื่อเสินคงอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่านี้ร้อยเท่า และเขารู้สึกโล่งใจที่พี่น้องฝ่ายเขาสามารถก้าวหน้าบรรลุผ่านจากระดับเดิม แต่ตอนนี้นอกจากตกใจแล้ว เขายังรู้สึกผิดปกติ “ดาบดื่มหิมะ” เทียนโฉวไม่ได้มีท่าทางเหมือนคนบาดเจ็บเมื่อครู่นี้อีกแล้ว ตรงกันข้ามพลังดรรชนีที่จีอู๋ลี่เพิ่งใช้กับเขากลับเพิ่มพลังให้เขาเป็นร้อยเท่า และการลอบโจมตีเขานั้นมีพลังยิ่งใหญ่จนมิอาจคาดคิดได้
ปลายดาบแทงทะลุเสื้อผ้า
ตาของเฮยโจวมือของจ้าวซีและโซ่ของซวงหาน
ขณะเดียวกันซื่อเสินตกอยู่ภายใต้สายตากดดันของเฮยโจวเขาตวัดกระบี่วิถีกำศรวล ภายใต้พลังโซ่น้ำแข็งของซวงหาน แม้ว่าแรงฟันจะรุนแรงก็ตามแต่ความเร็วของกระบี่ลดลงมากมาย และช้าลงอย่างต่อเนื่องในที่สุดก็เคลื่อนไหวช้าไม่ต่างอะไรกับเต่าคลาน กระบี่วิเศษวิถีกำศรวลแม้ว่าจะไม่มีอาวุธใดต้านทานได้ แต่ซวงหานทำให้ความเร็วของอาวุธเทพนี้ช้าลงได้ชั่วคราว พลังฝ่ามือของจ้าวซีกราดเข้ามาเหมือนควันเบาบางแต่หนักหน่วงดุจขุนเขาฟาดใส่ชุดของซื่อเสินราวกับสายฟ้าฟาด
เขาไม่จำเป็นต้องใช้ฝ่ามือนี้
ดาบดื่มหิมะของเทียนโฉวสามารถลงมือกับซื่อเสินได้อย่างสอดคล้องกันพอดี
ก่อนหน้านี้เทพอาคเนย์ชี่เฉียวต้องพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวดด้วยการลงมือลักษณะนี้ แต่คราวนั้นเทียนโฉวไม่ได้ระเบิดปลดปล่อยพลังและไม่ได้รับพลังเสริมพิเศษจากจีอู๋ลี่ พลังจึงผิดกับครั้งนี้ห่างไกลไม่ถึงหนึ่งในสิบของพลังนี้!
ซี่.......
ข้างหลังซื่อเสิน
คมดาบที่ไม่มีใดเทียบตัดผ่านอากาศลงพื้นดินเป็นระยะทางหมื่นเมตร
ด้วยพลังฟันเพียงครั้งเดียวเกิดรอยแยกขนาดใหญ่กว้างห้าสิบเมตรลึกร้อยเมตรเป็นทางยาวหมื่นเมตร.. และซื่อเสินตกเป็นเป้าโจมตีของดาบเทพดื่มหิมะ?
หลังจากเฮยโจวเผชิญหน้ากับซื่อเสินเขารู้สึกเจ็บที่ดวงตาเล็กน้อย เขาหลับตาและฝืนทนต่อความรู้สึกเจ็บปวดเศร้าใจ
พอเขาหลับตาเท่านั้น
โลกที่มืดมิดพลันมีแสงสว่างขึ้น
จ้าวซีที่รุกบีบบังคับให้ซื่อเสินต้องป้องกันตัวถูกพลังเทพอัดกระแทกกระเด็น โซ่น้ำแข็งของซวงหานถูกตัดขาดและแขนของซวงหานถูกฟันจนเห็นกระดูก จีอู๋ลี่โยนอสูรพิเศษแปลกประหลาดให้กระบี่วิถีกำศรวลฟันจากนั้นหลบหนีรอดอย่างปลอดภัยเขาหลบพ้นวิถีกระบี่ห่างออกไปถึงสามหมื่นเมตร เดิมทีเขาคิดว่ากระบี่นี้จะทำร้ายร่างซวงหานได้เต็มที่แต่สายตาของซวงหานงุนงงและตกใจ
มีเพียงเทียนโฉวที่ยังยืนอยู่กับที่
มือทั้งสองที่จับดาบไม่ขยับเคลื่อนไหว
เขา..
เขาไม่ต้องการเคลื่อนไหว
ปรากฏว่าปลายดาบเทพดื่มหิมะถูกดรรชนีคู่ของซื่อเสินคีบจับไว้ไม่สามารถดึงดาบหลบหนีได้นั่นเป็นเหตุให้เขาจำต้องยืนนิ่งอยู่กับที่
หน้าของซื่อเสินเฉยเมยไร้ความรู้สึก ดูเหมือนว่าการลอบโจมตีของเทียนโฉวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาและเหมือนกับว่าการที่เขาใช้นิ้วคีบจับปลายดาบเทพของเทียนโฉวไว้เป็นเรื่องที่ถูกต้องสมควร ไม่มีการกระทำอะไรเป็นพิเศษ... เขามองเทียนโฉวที่อยู่ข้างอย่างสงบ
มุมปากของจ้าวซีมีโลหิตซึมจากอาการบาดเจ็บ เลือดค่อยๆ หยดใส่เสื้อสีเขียวของเขา
พวกเฮยโจวเห็นภาพข้างหน้าเช่นนี้อดถอนหายใจไม่ได้
ซื่อเสินผู้นี้เป็นบุรุษหมายเลขหนึ่งของขุนเขาเหนือขุนเขาแข็งแกร่งมากขนาดนี้เชียวหรือ?
แค่เพียงสองนิ้วเขาสามารถคีบจับปลายดาบเทพดื่มหิมะที่โจมตีสุดแรงได้เชียวหรือ? นอกจากนี้นี่ยังเป็นการลอบทำร้ายหลังจากจีอู๋ลี่ใช้วิธีพิเศษเพิ่มพลังให้เขา
ไม่มีทาง!
นี่เป็นไปไม่ได้!
“พวกเจ้าคิดว่าข้าซื่อเสินจะโง่พอปล่อยให้พวกเจ้าลอบทำร้ายซ้ำสองอีกหรือ?” ซื่อเสินค่อยๆ คลายนิ้วไม่สนใจอาการตกใจของเทียนโฉวที่อยู่ต่อหน้าเขา กระบี่เล่มหนึ่งขวางอยู่ที่หน้าอกมีเสียงคำรามหึ่งๆ เขายืนหยัดอย่างหยิ่งลำพองด้วยความรู้สึกว่าโลกนี้ไม่มีอะไร!