ตอนที่ 1177 สงสัย ข้อบกพร่อง หลอกลวง
เมื่อกาดำวิ่งออกมาจากเต็นท์เขารีบกลับไปที่ค่ายใหญ่และพบว่ามีการแขวนตะเกียง และล่าสัตว์มาฆ่าเพื่อเลี้ยงฉลอง
ฮัวยาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาหาคนถาม
และตระหนักว่าผู้โชคดีคนแรกได้รับพลังเทพโบราณภายใต้การนำของทูตพยากรณ์ชื่อว่าอู่หวังในตอนเช้ามีการจู่โจมที่ด่านหน้าชั่วคราวของหน่วยลาดตระเวนค่ายตะวันตก กองสอดแนมของค่ายตะวันตกถูกสังหารหกคนและถูกจับสี่คน ตอนนี้นักโทษถูกนำกกลับไปยังค่ายใหญ่เกิดแรงกระตุ้นให้ทุกคนกระตือรือร้น ทุกคนกระหายใคร่จะออกศึกแรกทั้งนั้น
ป้อมพายุในปัจจุบันอยู่ในสภาพตั้งรับ และทุกคนตั้งรับอยู่ในค่าย
แม้ว่าจะเป็นกองทัพทหารทั่วไป รวมทั้งนักรบหยดโลหิตบริวารของเทพบูรพาซื่อเสินและกลุ่มนักรบปีศาจคลั่งบริวารของเทพทักษิณเทียนโฉว ในระหว่างเผชิญหน้าของกองทัพทั้งสองพวกเขายังไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามทั้งหมดเป็นทหารรับจ้างอาสาและมีความระมัดระวังมากที่สุด พวกเขาเริ่มต้นได้ดีได้กับผลงานแรกของพวกเขา...
แล้วจะไม่ให้พวกเขามีความสุขได้อย่างไร?
ผู้โชคดีกลุ่มแรกทันทีที่กลับมาถึงได้รับการต้อนรับจากทหารทั้งกองทัพทันที
ไม่ว่าจะเป็นทหารรับจ้างจากอาณาจักรเทพอีสาน โจรขโมยจะทั่วทุกสารทิศหรือโจรดวงดาวที่เพิ่งเปลี่ยนจากศัตรูไปเป็นมิตรพากันเต้นฉลองอย่างมีความสุขและมีกำลังใจในการทำงาน
สำหรับผู้พยากรณ์ที่เดิมไม่มีใครรู้จักได้รับการเทิดทูนทุกคนรู้สึกว่าราชครูผู้นี้เป็นรองแค่เทพบูรพาซื่อเสินเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเขาใช้พลังเทพโบราณเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพวกทหารอาสาเข้าคู่กับคุณลักษณะความแข็งแกร่งดั้งเดิมของทหารอาสาต่อให้พวกเขาแข็งแกร่งมากกว่านี้ร้อยเท่าพวกเขาคงไม่มีทางฆ่าทัพหน้าของทหารฝีมือดีของค่ายตะวันตกได้
“ท่านขอรับท่านเคยได้ยินหรือไม่ แต่เดิมมีคุณลักษณะไม่สอดคล้องหรือมีศักยภาพไม่เพียงพอ แต่ยังสามารถได้รับเลือกเป็นครั้งที่สอง! ท่านผู้พยากรณ์สามารถขุดลึกในศักยภาพและคุณลักษณะที่ซ่อนเร้นของทุกคนได้ มุ่งมั่นไม่ให้ใครผิดพลาดได้! ฮะฮะ ข้ายังมีโอกาส ข้ารู้ความยุ่งยากจะต้องผ่านไปในอีกไม่นาน และความสำเร็จในอนาคตจะต้องเป็นของข้า! เมื่อข้าได้รับเลือกเจ้ากัวกัวจะได้ไม่ต้องล้อข้าอีกต่อไป บางทีข้าอาจมีศักยภาพลับที่สูงกว่าเขาก็ได้...” ฮัวยากลับมาหลังจากได้ยินข่าวก็อดรู้สึกตื่นเต้นมิได้
“คนของเราจะเข้าร่วมการทดสอบด้วยหรือ?” หน้าของกาดำเขียวคล้ำและเหงื่อตก
“แค่นี้ยังไม่พอ! ท่านกาดำไม่ใช่แค่คนของเรา ไม่ใช่แค่พี่น้องของเรา แต่เป็นทุกคนในค่ายทั้งหมด! ทุกคนตัดสินใจเข้าร่วมทดสอบกับท่านผู้พยากรณ์!” ฮัวยาหัวเราะส่ายหน้าแก้คำพูด
“แล้วเจ้ากระทุงเล่า?” กาดำเห็นว่าเจ้าขี้เมาไม่อยู่ใกล้เขา
“ท่านธอร์นตันได้เข้าร่วมทดสอบไปแล้ว! ท่านกา,ท่านอาจไม่ทราบว่าการเพิ่มพลังด้วยพลังเทพโบราณ ทันทีที่ทำได้สำเร็จ อย่างอ่อนแอที่สุดก็เป็นเทวทูตถ้ามีศักยภาพดีขึ้นมาอีกเล็กน้อย อาจเป็นได้ถึงขุนพลเทพนี่คือโอกาสครั้งเดียวในชีวิต! เว้นแต่คนโง่ ไม่มีใครยอมพลาด ท่านกาดำ เรากำลังจะเริ่มแล้วข้าแทบรอเป็นขุนเทพแทบไม่ไหวแล้ว ต่อให้เป็นขุนพลเทพไม่ได้ งั้นเป็นเทวทูตก็ยังดีข้าจะได้ยืดอกเชิดหน้า ไม่แพ้เจ้ากัวกัว!” ฮัวยายิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้นเขาฉุดดึงกาดำมาด้วย
“ฮัวยาเจ้าช่วยข้าเอาบัญชีไปเก็บก่อน...” กาดำปาดเหงื่อเย็นที่หน้าผาก และดูเหมือนว่าเขาจะทำการตัดสินใจครั้งสำคัญ
“นี่..ก็ได้!”
หัวใจของฮัวยาลอยไปถึงห้องโถงทดสอบข้างๆ ผู้พยากรณ์แล้ว
อย่างไรก็ตาม เขาพบว่ากาดำดูเหมือนว่าจะอึดอัดใจ แน่นอนว่าเขาไม่กล้าเพิกเฉยรีบเข้ามาช่วยพาเขากลับอย่างรวดเร็ว
ปกติแล้วกาดำจะมีเวลาช่วงหนึ่งประมาณ 3-4 เดือนมักจะเป็นช่วงเวลาที่เขาอ่อนแอและเจ็บปวดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยิ่งการต่อสู้ดุเดือดต้องใช้พลังร่างกายมาก ระยะเวลาโจมตีจะสั้นลง
นี่คือผลสะท้อนกลับจากพลังต้องห้ามและในขุนเขาเหนือขุนเขายังไม่มีทางเยียวยาได้
หากเขาไม่มีสร้อยคอผลึกโบราณอยู่บนร่างกายเขาสามารถใช้พลังเทพข่มไว้ไม่อย่างนั้นพลังสะท้อนกลับของพลังต้องห้ามจะต้องระเบิดออกแน่นอน
ฮัวยามองร่างของกาดำที่ถูกพลังต้องห้ามสะท้อนกลับไม่ใช่แค่ครั้งหรือสองครั้ง เขาคิดว่าเขาเห็นเหงื่อออกใบหน้าซีด เห็นแล้วอดถอนหายใจไม่ได้... ทันใดนั้นกาดำบอกฮัวยาก่อนเขาจากไป “ถ้าเจ้ามีเวลาหลังจากทดสอบแล้ว อย่าลืมกลับมาที่นี่ มาเรียกข้าด้วย ข้ากลัวว่าจะหลับโดยไม่ตื่นอีกเลย!”
สำหรับคำขอที่ไม่มีนัยสำคัญอะไร ฮัวยาสัญญาไปตามปกติ “วางใจได้, ท่านขนดำ ข้าจะกลับมาแน่นอน ข้าสัญญากับท่านไตตันไว้แล้วจะต้องทำงานให้สำเร็จ แล้วข้าจะรีบกลับมา”
“อย่าลืมก็แล้วกัน” กาดำโบกมือให้ฮัวยาอย่างอ่อนล้าบอกให้เขาออกไป
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใดกาดำที่นอนอยู่บนเตียงลืมตาขึ้นทันที
ในแววตายังมีร่องรอยความอ่อนล้าและเจ็บปวดแสงที่ส่องอยู่ภายในลุกไหม้ดุจเปลวไฟ แสงค่อยๆ จางลง กาดำลุกขึ้นจากเตียง
เขาลังเลเล็กน้อย
เขาดึงชิ้นส่วนวัตถุโบราณเล็กๆ ออกมาทำท่าเอื้อมมือจับหลายครั้ง อย่างไรก็ตามเขาถอนหายใจในที่สุดและวางชิ้นส่วนวัตถุโบราณบนโต๊ะ
เขาเปลี่ยนเป็นชุดดำอีกครั้งชุดขโมยสวมหน้ากากและเหน็บมีดสั้นสองเล่มอีกครั้ง จากนั้นบินออกไปไวกว่าสายฟ้าโดดขึ้นๆ ลงๆ ในหุบเขาที่ห่างออกไป
กาดำค่อยๆ ออกไปที่ด้านหลังค่ายซึ่งมีเสียงดื่มฉลองแต่เขาไม่กล้าวางใจ เขามองกลับไปอย่างหงุดหงิดเขาหันกลับไปดูด้านหลังว่ามีคนไล่ตามหรือไม่ หลังจากออกจากภูเขาและลงไปที่เนินเขากาดำจึงกล้าสูดหายใจ ขณะที่เขาคิดว่าหนีออกมาจากถ้ำเสือได้เตรียมลอบกลับไปที่ป้อมพายุตามหาพยัคฆ์บินและอินทรีป่าเพื่อถกกันถึงวิธีรับมือ ขาคู่หนึ่งปรากฏอยู่ข้างหน้าเขา
และขยายขึ้น
“ปัง!”
กาดำรู้สึกเจ็บที่หน้าปฏิกิริยาต่อมาคือทั้งร่างของเขากระแทกกับเนินหินอย่างรุนแรง
“แมลงน้อยเจ้าเล่ห์ ถ้าไม่ใช่นายท่านเตือนไว้ข้าคงถูกหลอกไปแล้ว” เท้าปรากฏที่หน้าของกาดำอีกไม่เปิดโอกาสให้กาดำได้พูด อีกเท้าหนึ่งก็ตามมา
“ไวมาก!” กาดำไม่มีเวลาตั้งตัว อย่าว่าแต่ตั้งหลักเลยแม้พยายามจะหลบก็ยังไร้ประโยชน์สิ้นเชิง
เท้าไม่ได้เหยียบบนหัวกาดำ
แต่ก็เพียงพอทำให้กาดำจมลงไปในหินครึ่งตัว
กาดำเงยหน้ามอง
และพบว่าเจ้าของเท้าเป็นบุรุษรูปงามสวมชุดชนชั้นสูงท่าทีหยิ่งผยอง สายตาที่มองลงมาจากด้านบนนั้นเย็นชาราวกับมองมดแมลงน้อย“เจ้าแมลงน้อย ถ้าเจ้าบอกข้อบกพร่องที่เจ้าสังเกตเห็นได้ข้าอาจพิจารณาปล่อยเจ้าไปอย่างสบายใจก็ได้”
น้ำตกควงหลัวอยู่ห่างจากป้อมพายุไปห้าร้อยกิโลเมตร
เป็นค่ายของพวกฝ่ายตะวันตก
อยู่ห่างจากน้ำตกไปหลายสิบกิโลเมตร
แน่นอนว่าเมืองวารีแห่งน้ำตกควงหลัวอยู่ใกล้ประตูเข้าวังของเทพบูรพาเป็นเขตหวงห้ามทั่วไปของทหารทั่วไป
ทันใดนั้นในท้องฟ้ามีเพลิงและแสงประหลาดพุ่งผ่านเข้ามาและทหารของอาณาจักรเทพหรดีพอเห็นเข้าก็ดีใจฉลองตลอดทางหนึ่งในห้าเทพที่พวกเขาบูชามาถึง พวกเขารู้ว่าเทพซาฟงและสหายมาถึง
เทพหรดีซาฟงมาถึงช้า และทหารจากอาณาจักรหรดีเป็นพันธมิตรที่ดีเสมอมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีข่าวลือที่อธิบายไม่ได้ว่าเทพซาฟงแห่งอาณาจักรหรดีไม่สามารถบุกโจมตีเทพอาคเนย์ชี่เฉียว แต่ก็ยังถูกตีโต้ แม้แต่ทหารของเทพหรดีเองยังรู้สึกเบื่อในทำนองเดียวกันนั้นในสงครามเทพ ผู้เข้าร่วมในศึกนี้อย่างเทพพายัพซวงหานเทพอุดรจ้าวซีมาถึงน้ำตกควงหลัวนานแล้วพลังเทพและร่างกายของเขาไม่ได้รับความเสียหายทั้งยังได้รับการต้อนรับจากเฮยโจ้วเทพประจิม ในทางตรงกันข้ามกับเทพหรดีซาฟง ช้าจนผู้คนยากจะเชื่อถือจริงๆ ...เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าที่เขาถูกชี่เฉียวทำร้ายบาดเจ็บสาหัส?
ทหารของอาณาจักรเทพหรดีรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
จนกระทั่งเวลานี้
เมื่อเห็นเทพของตนเองปรากฏในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักได้ว่าข่าวลือก่อนหน้านี้ไม่เป็นความจริงเทพซาฟงผู้น่าเชื่อถือติดตามมาแล้ว และไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างที่ลือในทางตรงกันข้ามเขายังเป็นวีรบุรุษยอดนิยม!
“ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับ พี่ซาฟงท่านทำให้เราพี่น้องกลัวมาก พวกเขาบอกว่าท่านจะไม่มาแต่เราพี่น้องเชื่อว่าพี่ซาฟงไม่ใช่คนที่ไม่น่าเชื่อถือ”
“ตอนนี้ก็มาแล้วจริงๆฮ่าฮ่า พี่ซาฟง เจ้าทำให้เรามีช่วงเวลาที่ดีจริงๆ!” แสงเทพสีดำลอยลงมาจากท้องฟ้า
“มาถึงก็ดีแล้วแต่ข้าไม่รู้ว่าจะเป็นเทพซาฟงพันธมิตรของเราจริงๆ หรือเปล่า?” มีเสียงเยือกเย็นดังขึ้นน้ำตกควงหลัวกลายเป็นน้ำแข็งทันที ยอดฝีมือด้านความเย็นยะเยือกคล้ายตั้งคำถาม ‘เทพหรดีซาฟง’ ถูกสงสัยว่าเป็นตัวปลอม
“ถ้าข้าเป็นซื่อเสินปลอมตัวมาข้าจะฆ่าเจ้าคนแรกก่อน” ในฐานะที่เย่ว์หยางเป็นตัวปลอมเขาไม่กลัวผิดพลาดอยู่แล้วเขาใช้คำพูดแดกดัน
“ซื่อเสินเป็นไปไม่ได้เพราะเขาไม่ถนัดเรื่องการปลอมตัวแม้แต่น้อย ถ้าซื่อเสินปลอมตัวคนตาบอดชำเลืองมองดูก็รู้แล้ว นอกจากนี้เจ้านั่น ไม่ค่อยใช้สมอง ไม่มีเล่ห์เพทุบายอะไร” เทพอุดรจ้าวซีปรากฏตัวและมองเย่ว์หยางขึ้นๆลงๆ เย่ว์หยางที่ปลอมตัวรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่เขาส่ายหน้าปฏิเสธ
“เฮอะ,ซื่อเสิน..เป็นไปไม่ได้แน่นนอน แต่อย่าลืมขุนเขาเหนือขุนเขายังมีเทพอีสานชิงหวิน!” เทพพายัพซวงหานคิดว่าเย่ว์หยางคือซาฟงที่ปลอมตัวมาโดยชิงหวิน
“น้องซาฟงจะไม่มีทางถูกชิงหวินปลอมได้!” เทพประจิมเฮยโจ้วรับรอง
“....”เทพอุดรจ้าวซีไม่พูด แค่มองทางด้านข้างอย่างสงบ
“เจ้าจะพิสูจน์ว่าเจ้าไม่ใช่ชิงหวินได้ยังไง?” เทพพายัพซวงหานยังหาเรื่องเย่ว์หยางปัญหานี้อาจยากลำบากสำหรับเด็กหนุ่มจากโลกอื่น แต่ง่ายจะพิสูจน์ว่าเป็นซาฟง เพราะได้พลังเทพและความรู้ของซาฟงมาด้วยจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะปลอมตัว แต่จะพิสูจน์ว่าไม่ใช่ชิงหวินอย่างไร? ปัญหานี้น่าปวดหัวจริงๆเพราะเย่ว์หยางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชิงหวินเลย!