ตอนที่ 1176 ข่าวดี ผู้พยากรณ์ ผู้โชคดี
หลังจากปลอบโยนพวกปิงเอ๋อเย่ว์หยางอยากจะคุยบอกพวกนางถึงความรู้สึกในการรู้แจ้งระดับใหม่
อู๋เหินเตือนเขา
เสียเวลานานเกินไปและยังไม่ได้เริ่มออกเดินทางคาดว่าสงครามเหล่าเทพจะเริ่มกันแล้ว
เย่ว์หยางถ้าไม่ได้ปลอมตัวเป็นเทพหรดีซาฟง อย่างนั้นไม่สำคัญว่าสงครามเทพจะเริ่มเมื่อไหร่ตราบใดที่ยังไม่จบ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เขาได้รับหอกกลืนมังกรและพลังเทพของชี่เฉียว อดรู้สึกว้าวุ่นไม่ได้ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องชักช้า เทพบูรพาซื่อเสินมีแนวโน้มว่าอาจถูกฆ่า อย่างน้อยเทียนโฉวคงมีแผนโจมตีทำให้บาดเจ็บสาหัสซึ่งขัดกับแผนอย่างสมบูรณ์
ดังนั้นเย่ว์หยางจึงข่มความคิดแบ่งปันความรู้สึกพลังในขอบเขตใหม่กับทุกคนชั่วคราว
เขากล่าวลาทุกคนและออกไปจากโลกคัมภีร์
รอให้สถานการณ์ชัดเจนก่อน
พอมีเวลามาก
ค่อยกลับมาพบกับทุกคน
มุกมังกรไม่ใช่มุกมังกรที่แท้จริงและมังกรพิรุณที่พัฒนาเต็มที่ เขายังไม่มีเวลาวิเคราะห์ในตอนนี้
แม้แต่จะตรวจสอบโลกคัมภีร์อัญเชิญเขาก็ยังไม่มีเวลา
เย่ว์หยางเก็บกงจักรสมบัติกึ่งเทพที่ยึดมาจากซาฟงโดยตรง
กลับมาที่ขุนเขาเหนือขุนเขา
ทักษะแฝงเร้นพรางเงาปีศาจสนามพลังสร้างโลกสามอย่างรวมกันเพียงพอต่อการสร้างความสับสนให้กับตาผู้คนได้บวกกับมุกมังกรที่มีพลังและองค์ความรู้ของซาฟง และด้วยเพลิงอมฤตกับกงจักรของซาฟงเขาเชื่อว่าน่าจะผ่านไปได้ เย่ว์หยางเชื่อว่าโจรล่มฟ้ากับเทพประจิมเฮยโจ้วมีความสัมพันธ์กันและซาฟงเฮยโจ้วมีความสัมพันธ์กันเป็นหมื่นปีเป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นสถานะซาฟงในฐานะตัวปลอมด้วยความรู้แจ้งขอบเขตมังกรแท้จริงเย่ว์หยางมั่นใจว่าจะฆ่าจีอู๋ลี่เป้าหมายหลักของเขาได้
ถ้าเป็นไปได้เย่ว์หยางยังต้องการฆ่าแม้กระทั่งเทพประจิมเฮยโจ้ว
ถ้าเฮยโจ้วตายจะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์
ตรงกันข้ามถ้าเขามีชีวิต
และเขาต้องการโจมตีตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ในอนาคตเฮยโจ้วผู้นี้จะต้องเป็นแนวต้านรับใหญ่แน่นอนเย่ว์หยางไม่หวังว่าในอนาคตเมื่อเขาต้องบุกฆ่าพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ในอนาคตและต้องสู้กับเจ้าตำหนักสูงสุดจะได้ไม่ต้องพบกับผู้บัญชาการระดับรองๆ ที่น่ารำคาญอีก
การเทเลพอร์ตได้ครั้งละร้อยลี้ทำให้เย่ว์หยางไม่ต้องใช้ความพยายามมากเท่าใดไปถึงป้อมพายุแห่งอาณาจักรเทพบูรพา
ป้อมพายุ
ขณะนั้นนักรบฝีมือดีของค่ายตะวันออกทั้งหมดได้มารวมตัวกัน เพราะจำนวนคนมากเกินรวมถึงการเสริมกำลังหลังจากนั้น จอมพลฟงเอ๋อขอให้ทหารค่ายตะวันออกตั้งค่ายอยู่ด้านหลังป้อมพายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทหารรับจ้างอิสระและกบฏจากอาณาจักรเทพอีสานเทวทูตและขุนพลเทพถูกระแวงว่าพวกเขาจะเป็นไส้ศึกที่ค่ายตะวันตกส่งเข้ามาดังนั้นพวกเขาจึงพยายามกันคนเหล่านี้ให้อยู่ห่างจากป้อมพายุ ในฐานะเป็นกำลังเสริม
บังเอิญว่าโจรดวงดาวถูกจัดให้ต่อสู้ในหุบเขาและอยู่ในกลุ่มนี้
จำนวนคนของพวกเขาไม่มากแต่พวกเขามีชื่อเสียง
ถ้าไม่ใช่เพราะคนสำคัญอย่างจอมพลฟงเอ๋อและจอมพลกริฟฟินรับผิดชอบต้อนรับ คนเหล่านี้คงไม่ได้รับการต้อนรับเป็นแน่ ไม่มีใครต้องการโจรเป็นพันธมิตรอยู่ในค่ายเดียวกัน
ถ้าอินทรีป่าพยัคฆ์บินและฟลามิงโกมีชื่อเสียงสูงส่ง ยานกระทุงซึ่งต่อมาเย่ว์หยางเปลี่ยนชื่อเป็นหงส์เหินได้บินถึงน่านฟ้าป้อมพายุอย่างนั้นโจรดวงดาวคงไม่ได้รับการตอบสนองแน่นอน พวกอินทรีป่าไม่ต้องการทำเช่นนี้พวกเขาไม่ต้องการโดดเด่นจัดการเรื่องยานหงส์เหินเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับทหารอาณาจักรอาคเนย์และถ้าต้องการใช้กลยุทธ์บางอย่างยานหงส์เหินสามารถทำเรื่องน่าทึ่งได้และได้ผลดีกว่าปรากฏต่อหน้าสาธารณะ
ความจริงกองเรือของอาณาจักรเทพบูรพาและอาณาจักรเทพทักษิณและเทพอาคเนย์มีการซุ่มโจมตีหรือหลอกลวงทางยุทธวิธี
จะไม่เปิดเผยร่องรอยที่แท้จริง
ผู้บัญชาการที่แสดงให้เห็นยานพาหนะจงใจอวดกลยุทธ์ต่อศัตรูล้วนแต่เป็นคนโง่ทั้งนั้น ไม่มีใครทำอย่างนี้เว้นแต่พลังของทั้งสองฝ่ายไม่สมดุลกัน ฝ่ายหนึ่งข่มขู่ฝ่ายที่ด้อยกว่าการสู้รบจะต้องปรากฏผลแพ้ชนะแน่นอน
บวกกับความจริงที่ว่าเจ้าหน้าที่ทางการห่วงแต่หน้าตา และเห็นแก่สบาย
มิฉะนั้นคนทั่วไปเลิกคิดได้เลย
“ข้าเกลียดสันเขาสุนัขผอมนี้เกลียดหุบเขาที่นี่ เกลียดทุกอย่างที่นี่” อินทรีป่านำยานกระทุงเข้ามาจอดในหุบเขาและนำกลุ่มลาดตระเวนเมื่อไม่นานมานี้พวกเขายังใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายบนยานหงส์เหิน ในตอนนั้นนั่นเป็นชีวิตเหมือนฝันไม่จำเป็นต้องทำอะไรทุกคนแม้กระทั่งใช้สมองกองทหารเกราะเต่าดำได้จัดเสบียงของดื่มกินทั้งหมดให้พวกโจรดวงดาวได้ดื่มกินพวกทหารเกราะเต่าดำไม่มีการบ่นว่าอะไรมาก พวกเขาทำงานขยันขันแข็งเหมือนกับผึ้งงาน หรือมดงานเป็นระเบียบเมื่อออกจากยานหงส์เหิน เจ้ากระทุงพบว่าเขายังไม่เคยได้กินอาหารที่น่าพอใจอาหารที่เขาได้กินที่ภาคพื้นเป็นขนมปังแข็งพอๆ กับหินและเนื้อตุ๋นชนิดหนึ่งที่ปรุงโดยพวกทหารที่ไร้ความรู้สึก ถ้าได้เจอแมลงสาบในเนื้อตุ๋นแทนที่จะเจอเนื้อหนูเน่าๆก็นับว่าโชคดีมากแล้ว
“อดทนหน่อยเถอะเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อสนุก แต่มาเพื่อต่อสู้” กาดำอดปลอบใจเขาไม่ได้ ความจริงเขาใช้ประโยคคำพูดเดียวกันนี้ปลอบคนไปไม่รู้เท่าใดแล้ว
“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ข้าสงสัยว่าคงจะอดตายเสียก่อนแทนที่จะได้ตายในสนามรบ” กัวกัวถ่มน้ำลายบ่นบ้าง
“หุบปากไปเลยเจ้าคนทรยศและเชลย” เจ้ากระทุงตีเขา
“เจ้าบอกว่าข้าเป็นเชลยข้าพอจะลืมได้ แต่ทำไมต้องมาว่าข้าเป็นคนหักหลังด้วย?” กัวกัวเมื่อได้ยินก็โกรธจัด เมื่อห้าจอมโฉดและขุนพลห้าสัมผัสเข่นฆ่าคนในยานกระทุงทุกคนต่างผ่านเวลายากลำบากด้วยกัน หลังจากนั้นเขาก็ไม่อยากกลับไปหาผู้เฒ่าเหมานอกจากนี้พวกโจรดวงดาวไม่อาบน้ำครึ่งเดือนตัวเหม็นเหล้าคละคลุ้งนี่หมายความว่ายังไง เขาไม่คิดเลยว่าพวกที่อยู่รวมกันนี้ไม่ใช่คนเลว ดูแล้วมีความสุขมากแต่ตอนนี้เขาโดนกล่าวหาว่าหักหลังผู้น่าหงุดหงิด ยังมีคนหักหลังโง่ๆ อยู่ในโลกอีกหรือ?
“ข้าพูดไม่ผิด จุดยืนของเจ้าไม่มั่นคงแน่นอน ในตอนแรกเจ้าหักหลังท่านไตตันแต่ท่านไตตันไม่สนใจถือสาเจ้าในฐานะคนหักหลังเลย! บางทีในสนามรบ เจ้าเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีเจ้าอาจหันไปเข้ากับศัตรูอีกก็ได้ ดังนั้นข้าจึงต้องจับตามองเจ้าอย่างระมัดระวัง ถ้าเจ้ามีความคิดเป็นอย่างอื่น ข้าจะฆ่าเจ้า!” แม้ว่าปากของเจ้ากระทุงจะพูดเช่นนั้น แต่ใจจริงของเขาไม่ได้คิดจะทำเช่นนั้นเขาใช้แขนใหญ่ล็อคคอกัวกัวแกล้งทำท่าทรมาน จากนั้นหัวเราะอย่างรวดเร็ว “แน่นอนว่าเจ้าไม่ได้ทรยศ ข้าให้โอกาสคนดีอยู่แล้ว มาดื่มกัน ถ้าเจ้าแพ้ เจ้าเป็นคนหักหลัง”
“เหลวไหล, ดื่มแพ้จะกลายเป็นคนหักหลังได้อย่างไร?” กัวกัวรู้สึกพูดไม่ออก
“ข้ากำลังบอกว่าเจ้าไม่กล้าดื่ม, กลัวใช่ไหม?” เจ้ากระทุงตบไหล่กัวกัวและหัวเราะ กัวกัวผู้เข้าร่วมงานแบบครึ่งๆ กลางๆแต่ปฏิเสธจะเป็นโจรดวงดาวถูกลากไปร่วมวงดื่มเหล้าทันที
“แค่ดื่มเท่านั้นหรือ? ใครกลัวกันเล่าแต่เหล้าที่มีชื่อเสียงของอาณาจักรอาคเนย์ก็คือเหล้าขุนพลเทพ...” ข้อบกพร่องของกัวกัวก็คือชอบคุยโวแต่เขาชอบดื่มเหล้าแน่นอน
เมื่อเห็นสองคนไม่มีความคิดอะไรไปดื่มเหล้าแก้เบื่อ
กาดำยืนบนหินเงียบๆ
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาไม่ได้ใส่ใจว่ากัวกัวจะเป็นคนทรยศหรือจะทรยศอีกครั้งก็ตาม ต่อให้คนอย่างกัวกัวมีพลังมากกว่าร้อยเท่าหรือพันเท่าก็ไม่มีผลกระทบกับสถานการณ์ต่อสู้ยิ่งไปกว่านั้นหากสถานการณ์ถึงขนาดที่กัวกัวสามารถก่อความวุ่นวายได้ เขาเกรงว่ากัวกัวก็คงตายในเวลานั้นคาดว่าไม่เพียงแต่กัวกัวเท่านั้นแต่เขาไม่รู้ว่าจะมีคนหักหลังอีกมากเท่าใดรวมทั้งกลุ่มสหายของโจรดวงดาวอาจจะไม่อดทนจนถึงที่สุด
นี่ไม่ใช่เหตุผลที่กาดำปวดหัว
สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็คือวิธีใช้พลังตนเองและพลังของโจรดวงดาวช่วยค่ายตะวันออก ท่านซื่อเสิน เย่ว์ไตตันอินทรีป่า พยัคฆ์บิน ฟลามิงโกและคนอื่น
ถ้าไม่มียานหงส์เหินกาดำไม่คิดอะไรมาก แต่คงไม่เหมาะให้เจ้ากระทุงที่เอาแต่ดื่มเหล้าคุมสถานการณ์ได้แน่
แต่ตอนนี้ยานหงส์เหินมีพลังไม่ด้อยไปกว่านานเหยี่ยวมังกรและยานพญาครุฑทั้งมีเกราะรบและหุ่นรบเต่าดำอีกเป็นร้อย
ตราบใดที่ได้รับคำสั่งนี่จะเป็นพลังอำนาจที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์แน่นอน
อย่างน้อยก็ส่งผลต่อกลยุทธ์บางพื้นที่
“ท่านไตตันอาจจะกลับมาเร็วๆนี้ เรารอข่าวของเขาอยู่ไม่ต้องคิดมาก นอกจากนี้ ข้าได้ยินว่าเทพหรดีซาฟงเทพพายัพซวงหานและเทพอุดรจ้าวซี ได้ผนึกกำลังกันฆ่าเทพชี่เฉียว แต่ไม่สำเร็จเทพอาคเนย์ชี่เฉียวถือโอกาสตีฝ่าวงล้อม แม้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากเทพทักษิณเทียนโฉว แต่หลังจากเทพทักษิณได้มาช่วยซาฟงเทพหรดีก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก แม้แต่เทพอาคเนย์ชี่เฉียวก็ได้รับบาดเจ็บแต่ก็มีข่าวเล็ดรอดออกมาทำได้ทหารตกใจตื่นเต้น สามเทพแห่งค่ายตะวันตกมาพบเจอเทพอาคเนย์ที่อยู่ตามลำพังโดยไม่คาดคิดทั้งมีเทพอุดรที่มีสถานะและความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า ตอนนี้เทพหรดีซาฟงได้รับผลกระทบอย่างหนักและเทพอีสานชิงหวิน อาจช่วยเราได้อย่างลับๆ บ้าง ค่ายตะวันออกของเราไม่ได้เสียเปรียบในตอนนี้ทุกคนไม่ต้องกังวลกับสถานการณ์รบมากเกินไป!
“ข่าวนี้เจ้าได้มาจากไหน?” ตอนแรกกาดำมีความสุขมาก แต่ทันใดนั้นเขารู้สึกมีลางสังหรณ์ในใจ จู่ๆ เขาก็ไม่สบายใจ
“ที่นอกค่ายส่งข่าวไปทุกที่ ใครเล่าไม่รู้” ฮัวยาส่ายศีรษะและพูดว่าเขาไม่รู้ว่าข่าวออกมาจากใครเป็นคนแรก
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร” กาดำหัวเราะกับตนเอง นี่เป็นข่าวดีอย่างเห็นได้ชัด เขาคิดว่ามันเป็นการสมรู้ร่วมคิดการต่อสู้นี้อ่อนไหวเกินไป หรือลึกเกินไปหรือเปล่า?
เขาโบกมือให้ฮัวยาไป
กาดำกลับมาพักหลังจากสบายใจเล็กน้อย
ก่อนที่เขาจะหลับ
เขายังจำข่าวนี้ได้เขารู้สึกเสมอว่านี่ไม่เป็นความจริง เทพอาคเนย์ชี่เฉียวมีความกล้าจริงๆ หรือ บางทีชี่เฉียวอาจได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่มันเป็นเพียงความลับและไม่ได้มีการประกาศ บางทีอาจเป็นเทพทักษิณเทียนโฉวช่วยเทพอาคเนย์ชี่เฉียวไว้ก็ได้ กาดำตัดสินใจที่จะไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่เย่ว์ไตตันจะกลับมาหรือส่งคำแนะนำมา เขาตัดสินใจพักอย่างสงบและเตรียมพร้อมร่างกายให้อยู่ในสภาพดีที่สุดเพื่อทำสงครามเทพภายใต้การนำของเย่ว์ไตตัน
เบื้องหลังบุรุษหนุ่มผู้สร้างปาฏิหาริย์ได้อย่างต่อเนื่องเขาอาจสร้างผลแห่งชัยชนะที่งดงามได้
เมื่อกาดำตื่นขึ้นเขารู้สึกเต็มไปด้วยพลัง
ทันทีที่เขาลุกขึ้นฮัวยาพรวดพราดเข้ามาจากด้านนอกด้วยความดีใจและรายงานลับทันที “ท่านกาดำ ข้าได้ทราบข่าวมาจากผู้พยากรณ์! ผู้พยากรณ์เป็นหน่วยงานพิทักษ์บัลลังก์เทพบูรพาอยู่ภายใต้บัญชาการมหาเสนาบดีที่สอง แต่ปกติจะไม่แสดงตัวเปิดเผยจนกว่าจะเกิดสงครามเทพ ผู้พยากรณ์ผู้นี้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป! ท่านอาจไม่รู้ข่าวนี้เป็นความจริงอย่างแน่นอน ด้านป้อมพายุก็ให้ผู้ส่งสารเวียนส่งข้อความและข่าวดีไปแล้ว เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่มีผู้พยากรณ์ตอนแรก อย่างไรก็ตามผู้พยากรณ์ดังกล่าวกำลังเลือกผู้โชคดีในค่าย กล่าวกันว่าเทพบูรพาซื่อเสิน จะเสริมพลังของเขาสร้างความแข็งแกร่งด้วยพลังเทพเก่าแก่ให้กับขุนศึกนายกองตามศักยภาพ ตอนนี้ผู้พยากรณ์กำลังทดสอบทุกคน ท่านยังไม่ทราบแน่เจ้ากัวกัวโชคดีได้รับคัดเลือกจากผู้พยากรณ์ด้วย!”
“อะไรนะ?” กาดำได้ยินข่าวดีนี้ แต่ไม่มีความสบาย เขากลัวจนหลั่งเหงื่อเยียบเย็น