ตอนที่ 1175 คืนสติ?
เมื่อเย่ว์หยางลืมตาเขาพบว่าตนเองอยู่วังน้ำแข็งของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี
เขากลับมาที่นี่ได้อย่างไร?
“อย่ามองข้าอย่างนี้, ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” นางพญาเฟ่ยเหวินหลีอยู่ในอารมณ์ที่ดีมาก ร่างที่อ่อนนุ่มของนางอิงอยู่กับร่างของเย่ว์หยาง พร้อมรอยยิ้มที่ซุกซนเล็กน้อยเป็นภาพที่หายากใบหน้านางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ข้ารู้แต่ว่าชิ้นส่วนมังกรพิรุณมันบินออกไปไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอมันกลับมา มันกลายเป็นมังกรที่มีชีวิต! แน่นอนว่านั่นไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ข้าสนใจมากนักแต่กลับเป็นเจ้า..หนุ่มน้อย ดูเหมือนเจ้าได้เข้าใจรู้แจ้งความลับที่ยิ่งใหญ่ข้าอดสับสนไม่ได้เลยจริงๆ”
นางไม่รอให้เย่ว์หยางตอบก็จูบเขาเสียก่อน
นางประทับปากที่แดงเหมือนผลเชอรี่
ร้อนแรง
เหมือนไฟที่แผดเผา
นางพญาเฟ่ยเหวินมักเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเสมอนางไม่เคยคิดเรื่องเขินอายเหมือนกับคนอื่น ที่ต้องปฏิเสธ นั่นเป็นรูปแบบธิดานางไม่ใช่รูปแบบของนาง
เปลี่ยนเป็นคนอื่นแทนที่จะเป็นเย่ว์หยางอาจจะหันหลังกลับทันที เมื่อเผชิญกับนางพญาเฟ่ยเหวินหลียากที่จะมีโอกาสเช่นนี้เพราะจูบของนางแต่ละครั้งจะสูบพลังปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยางอย่างบ้าคลั่งเพื่อเสริมความต้องการพลังของนาง ทุกครั้งที่เจอเย่ว์หยางนางพญาจะแสดงความอ่อนโยนนุ่มนวล
ครั้งนี้เย่ว์หยางคิดว่าคงเหมือนเมื่อก่อน
ใครจะคิดว่าเกิดเรื่องคาดไม่ถึง
ริมฝีปากนางพญาเฟ่ยเหวินหลีร้อนแรงดุจไฟไม่ได้ดูดซับพลังอย่างบ้างคลั่งต่อไป
ริมฝีปากและลิ้นของนางเกี่ยวพันกันเย่ว์หยางโอบกอดนางพญา และนางก็ตกอยู่กรงเล็บหมาทั้งกายทั้งใจร่างของนางอ่อนไหวต่อความรู้สึกสัมผัสนางส่งเสียงหอบ
ทั้งสองต่างอยู่ในอารมณ์เดียวกันขณะที่นางพญากดหน้าหมาป่านักรักกับเนินอกนาง
ไม่รู้ว่ามีศีรษะน้อยๆโน้มตัวมองดูอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เมื่อใด
ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆ
“อย่ามองนะ..ลูก!” นางพญาเฟ่ยเหวินหลีพบโดยบังเอิญ นางรีบหันไปหาเย่ว์หยางดึงตัวออกสวมชุดชั้นในแล้วจับปีศาจอสรพิษน้อยที่มองดูอยู่นานพอสมควร นางจูบหนูน้อยด้วยความรักและอบรมเธออย่างอดทน “ต่อไปพ่อกับแม่ฝึกปรือด้วยกันเจ้าไม่อาจมายืนดูข้างๆ ได้นะ ลูกยังเด็กเกินไป วิธีการฝึกฝนบางอย่างเป็นวิธีลับ ลูกจะฝึกได้ต่อเมื่อเติบโตแล้ว แล้วอย่าย่องเข้ามาอย่างเงียบๆ อีกเพราะรบกวนการฝึกของพ่อกับแม่ เข้าใจไหม?”
“อือ” เสี่ยวเหวินหลีดูเหมือนจะเข้าใจแต่ความจริงไม่เข้าใจ และเธอฉลาดและว่าง่าย เธอพยักหน้าและปฏิบัติตาม
ความจริงคำพูดที่คล้ายกันนี้สาวอู๋เหินและเจ้าเมืองโล่วฮัวก็บอกเธอแบบนี้เหมือนกัน
เย่ว์หยางและคนรักทุกคนจะฝึกพลังคู่รัก(สามีภรรยา) ด้วยกันเสมอ
เรื่องเหล่านี้เธอมักอยากรู้อยากเห็น แต่โดยทั่วไปแล้วเธอไม่ได้รบกวนใครเหตุผลที่เธอออกมาอยู่พร้อมหน้านางพญาเฟ่ยเหวินหลีและเย่ว์หยางเป็นเพราะเธอรู้สึกว่านางเป็นมารดาที่ใกล้ชิดที่สุดของเธอไม่คิดว่าจะมีผลหรือคิดจะเลียนแบบมารดา
นางพญาเฟ่ยเหวินหลีเข้าใจว่าเสี่ยวเหวินหลียังเด็กไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ นางยิ้มและจูบลูกนาง นางไม่ได้ส่งเสี่ยวเหวินหลีกลับโลกคัมภีร์ทันทีแต่ส่งธิดาให้เย่ว์หยางกอดแทนนาง ก่อนที่นางจะปรุงอาหารค่ำด้วยตนเองจากนั้นนั่งล้อมวงกินอาหาร พูดคุยหยอกล้อกันไม่เหมือนกับเป็นนางพญา แต่เหมือนกับมารดาผู้นุ่มนวลเอาใจทำให้เด็กหญิงยิ้มอย่างมีความสุข
เย่ว์หยางไม่คิดว่านางพญาเฟ่ยเหวินหลีจะมีด้านนี้ด้วย
ใช้เวลาไม่นานปีศาจอสรพิษน้อยพึงพอใจหลับไปในอ้อมแขนนางพร้อมกับหายใจแผ่วเบา
“ไม่ต้องการปราณแท้แล้วหรือ?” เย่ว์หยางรู้ว่านางพญาเฟ่ยเหวินหลีฟื้นฟูสภาพร่างกายที่สมบูรณ์แบบแต่เนื่องจากว่ามิติหลุมดำยังมีอิทธิพลเหนือตัวนางทั้งการอยู่ในมิติหลุมดำนางต้องสร้างโลกน้ำแข็งพลังศักดิ์สิทธิ์ของนางเริ่มขยายขนาดใหญ่ ทุกครั้งที่เย่ว์หยางมาเยี่ยมนางนางจะกระตือรือร้นต้องการปราณธรรมชาติของเขานางไม่ต้องการอีกต่อไปแล้ว เย่ว์หยางประหลาดใจเล็กน้อยหรือว่านางเข้าสู่ขอบเขตระดับใหม่?
“โอว ความจริงตอนเจ้าเข้ามาก่อนตัวเจ้าเต็มไปด้วยพลังปั่นป่วน เจ้าไม่ได้สติ ควบคุมไม่ได้ข้าเกรงว่าจะเสียเปล่าก็เลยกินไปสองสามคำ” นางพญาเฟ่ยเหวินหลีกว่า เย่ว์หยางตระหนักได้ทันที
มิน่าเล่านางพญาถึงกระตือรือร้นเต็มไปด้วยพลังเพราะแอบกินก่อนนั่นเอง
ในกรณีนี้เย่ว์หยางไม่มากมารยาทแล้วเขาโอบกอดนางจูบนางต้องการทวงหนี้ที่ถูกแอบขโมยพลัง
นางพญาเฟ่ยเหวินหลีไม่ต่อต้านแต่แทนที่จะต่อต้านอาคันตุกะนางกลับพลิกเย่ว์หยางให้อยู่ใต้ตัวนางเย่ว์หยางพยายามขัดขืนต่อต้านก็ไม่สามารถทำได้ นางพญาเฟ่ยเหวินหลีจูบอยู่ด้านบนยากที่เขาจะพลิกตัวได้
ขณะที่กรงเล็บหมาป่ากำลังจะลอบขโมยผลแห่งความรักหอมหวาน
นางพญากัดเขาทันที
เขารู้สึกเจ็บปลายลิ้น
เขาตระหนักได้ทันทีว่ายังเร่งไม่เพียงพอเขารีบจูบรุกเร้านาง ภายใต้การรุกเร้าของหมาป่านางตัวอ่อนลงๆในที่ก็พลิกเป็นฝ่ายเสียเปรียบคนรักตกอยู่อ้อมแขนของเขาใบหน้านางแดงเหมือนถูกไฟเผา
กรงเล็บหมาป่าไปถึงที่ๆต้องการ
เขากำลังจะลิ้มผลแห่งความรักที่หวานฉ่ำบังเอิญได้ยินเสียงมังกรคำราอยู่นอกวังหิมะน้ำแข็ง นางพญาเฟ่ยเหวินหลีตื่นตัวทันทีนางกัดเขาเรียกสติและลุกขึ้นนั่ง
“จะบ้าตาย, ในเวลาสำคัญที่สุดนี้นะ...” เย่ว์หยางรู้สึกเกลียดในใจ โอกาสที่ดีที่สุดปล่อยให้เจ้ามังกรพิรุณทำลายเสียได้ มังกรพิรุณเป็นหุ่นรบไม่ใช่หรือ?มันเรียกข้าได้ยังไง? จะเรียกช้ากว่านี้ไม่ได้หรือไง?
“อาจเป็นไปได้ว่าสาวๆของเจ้าเห็นว่าเจ้าหายไปจึงเรียกเจ้ากลับ!” นางพญาเฟ่ยเหวินหลีคาดเดาอย่างชาญฉลาด
“งั้นค่อยกลับมาต่อ!” เย่ว์หยางยื่นนิ้วขอสัญญา
“ไม่!” นางพญาปฏิเสธ
“....” เย่ว์หยางเวียนหัว ช่วงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มทำไมต้องเป็นแบบนี้อยู่เรื่อย
“ถ้าสงครามเทพเจ้าทำงานได้ดีเราราชินีจะพิจารณาให้จูบเป็นรางวัลสักเล็กน้อย!”นางพญาเฟ่ยเหวินหลีไม่ปล่อยให้เขาผิดหวัง นางตั้งเงื่อนไขกับเขาไว้ เด็กหนุ่มจากโลกอื่นข่มความปรารถนาในใจอย่างหนัก เฮยโจ้ว จีอู๋ลี่ต้องตายบังอาจทำให้ชีวิตรักดูดดื่มของเขาต้องสะดุด
เมื่อเห็นเด็กหนุ่มจากโลกอื่นแสดงอาการเลือดร้อนนางอดมองเขามิได้
หลังจากกล่าวลานางพญาเฟ่ยเหวินหลีแล้วเย่ว์หยางกลับไปยังโลกคัมภีร์ของเขา
ยังไม่ทันจะยืนมั่นคง
ปิงเอ๋อร้องไห้วิ่งเข้ามากอดเขา
จากนั้นเป็นเย่ว์หวี่วิ่งเข้ามาสมทบนางกางแขนกอดทั้งเขาและปิงเอ๋อด้วยกันไว้แน่นพลางหลั่งน้ำตาเปียกโชกไหล่ของเขา “เสี่ยวซาน! เจ้าทำให้ข้ากลัวแทบตาย ต่อไปอย่าทำเรื่องน่ากลัวอย่างนี้อีก!”
เย่ว์หยางตะลึงงัน เกิดเรื่องอะไรขึ้น?
เมื่อเงยหน้ามองดูอีกครั้งเขาพบว่าโล่วฮัว และอี้หนานกำลังเข้ามาสมทบ พวกนางน้ำตานองหน้าแม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังตาแดงนางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้ยังคงสงบแต่ทุกคนเหมือนกับพบเรื่องน่ากลัวมาก่อนนั้น พวกนางหยอกล้อทุกคน “เราบอกแล้วว่าไม่มีอะไร แต่เด็กๆ ก็ยังกลัวกันทุกคน...”
“เกิดอะไรขึ้น?” เย่ว์หยางมึนงงเขาแค่เข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันไปขอคำแนะนำของเทพธิดากระบี่ฟ้า ทุกคนร้องไห้ได้ยังไง?
“เมื่อไม่นานมานี้ โลกคัมภีร์พลันมืดมิด และสายแพรเชื่อมโยงใจของเราทุกคนสูญเสียการเชื่อมโยงกับเจ้า เราคิดว่าเจ้า... เจ้าทำให้ข้ากลัวแทบตาย เสี่ยวซานเจ้าทำให้เรากลัวแทบตาย!” เย่ว์หวี่ร้องไห้
ทุกคนรู้ว่าทันทีที่โลกคัมภีร์ล่มสลายนั่นหมายความว่าเจ้าของคัมภีร์ตาย โลกคัมภีร์สูญเสียการทำสัญญา จะกลับสู่ความปั่นป่วน
ยิ่งกว่านั้นความคิดของทุกคนเชื่อมโยงกับเย่ว์หยาง
แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจสอดรู้สอดเห็นแต่ก็ยังมั่นใจว่าอีกฝ่ายหนึ่งยังคงอยู่
ทันทีที่ความเชื่อมโยงนี้หายไปและโลกคัมภีร์มืดมน พวกนางทุกคนสงสัยว่าเย่ว์หยางจะมีอุบัติเหตุดังนั้นพวกนางจึงหวาดกลัว ใครจะรู้ว่านี่เป็นกระบวนการที่เย่ว์หยางได้ผสานพลังเทพปั่นป่วนเข้าด้วยกันพลังงานปั่นป่วนเหล่านั้นเก็บสะสมอยู่ในอสูรโลก ซึ่งเป็นอสูรพิทักษ์พิเศษ และการขยายตัวของสนามพลังสร้างโลกและเย่ว์หยางยังได้ผสานพลังกับมังกรทองยักษ์ที่เทพธิดากระบี่ฟ้าสร้างให้มันมีวิญญาณ
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องบังเอิญ
แต่เพราะเหตุนี้ทุกคนจึงกลัวจนขวัญกระเจิง
ต่อมาเย่ว์หยางบรรลุพลังระดับใหม่โลกคัมภีร์เปลี่ยนโครงสร้างและมีแสงสว่างเจิดจ้าตลอดทั้งโลกคัมภีร์เปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์ ทุกคนจึงค่อยๆ สงบจิตใจลงได้
ทุกคนรอให้เย่ว์หยางกลับแต่รออยู่นานก็ไม่เห็นเขา
เย่ว์หวี่และทุกคนกังวลว่าเขาจะมีความก้าวหน้าครั้งใหญ่เลื่อนระดับขึ้นเป็นนักสู้ชั้นเทพจากนั้นเข้าสู่โลกเผ่าบูรพาอมตะหรือแดนสวรรค์บนและจะไม่กลับมายังมิติดินแดนฝึกฝนฝีมือและหอทงเทียนอีก หากไม่มีเหตุน่ากลัวมาก่อนทุกคนยังเต็มไปด้วยความมั่นใจและรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นแต่นอกเหนือจากความกลัวแล้ว อารมณ์พวกนางว้าวุ่นสับสนพยายามร้องเรียกให้น้องชายกลับมา ขณะที่เกิดเหตุนั้นเสี่ยวเหวินหลีหลับสนิทจึงไม่รู้ถึงการเรียกของนาง เธอจึงไม่ตอบสนองใดๆ ถ้าไม่ใช่เพราะมังกรพิรุณมีวิวัฒนาการมาจากโลกคัมภีร์มันได้ยินเสียงร้องเรียก จึงคำรามเตือนเย่ว์หยาง ไม่เช่นนั้นสาวๆ คงจมน้ำตาตาย
หลังจากได้ยินทุกคนพูดแล้วเย่ว์หยางรู้สึกตื่นเต้นและละอายใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะเขามัวกรุ้มกริ่มอยู่กับนางพญา อย่างนั้นทุกคนคงไม่ตกใจกลัว เขารีบให้สัญญากับทุกคน “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะไม่เดินหนีไปคนเดียวแน่ไม่มีพวกเจ้าข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น ต่อให้ถูกจับผนึกก็จะกลับมาอยู่ใกล้ๆทุกคนหลายพันปี..”
“เสี่ยวซาน! เจ้าอย่าพูดไร้สาระ!” เย่ว์หวี่เอื้อมมือปิดปากเขา “ดีแล้วที่ไม่มีเรื่องร้าย เจ้าอย่าพูดอีกเลยแค่ตั้งใจก็พอแล้ว”
“ได้.. ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดเอง!” เย่ว์หยางรีบยกมือยอมแพ้
“พี่งี่เง่า!” ปิงเอ๋อเห็นเช่นนั้นหัวเราะทั้งน้ำตาทันที
พวกนางเช็ดน้ำตาความกลัวหายไป
ตั่วตั่วยิ้มให้ทุกคนหลังจากนั้นทุกคนเชื่อมใจได้มากกว่าเดิมเมื่อเห็นภาพนี้สาวงามอู๋เหินอดยิ้มไม่ได้ “เห็นไหม? พอเจ้าไม่อยู่ไม่มีความเชื่อมโยงก็เกิดเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ เจ้าควรตื่นมาให้เร็วที่สุด พวกนางไม่มีเจ้าก็อยู่ไม่ได้ โดยเฉพาะสงครามเทพ จะขาดเจ้าไม่ได้”
ภายในบ้านเสวี่ยอู๋เสียนอนอยู่ในห้องอย่างเงียบงัน ดูเหมือนขนตานางจะสั่นเล็กน้อย
+++++
*** บางคนสงสัยครับนางพญาเฟ่ยเหวินหลีก่อนถูกผนึกยังโสดหรือเปล่า?ความจริงนางพญายังโสดครับ เสี่ยวเหวินหลีก่อนเกิดใหม่เป็นองครักษ์ที่ซื่อสัตย์ที่สุดของนางพญาฯร่วมเป็นร่วมตายกัน พอถูกผนึกในหลุมดำ ก็ถูกนางพญาฯผนึกวิญญาณไว้ในไข่เพื่อไม่ให้วิญญาณสลายไปในมิติหลุมดำ