2169 - ข้ากลับมาแล้ว
2169 - ข้ากลับมาแล้ว
ดินแดนอมตะคือการสะสมของจักรวาลโบราณจำนวนมาก ที่ไร้ขอบเขตเหนือจินตนาการ
การประลองครั้งใหญ่ไม่มีอะไรมากไปกว่าการยกม่านขึ้น การปะทะกันครั้งใหญ่อย่างแท้จริงระหว่างผู้เชี่ยวชาญที่ไม่มีใครเทียบได้เกิดขึ้นเสมอ
สถานที่บางแห่งในดินแดนอมตะถูกทำลายไปหมดแล้ว
สือฮ่าวเดินไปรอบๆดินแดนอมตะเป็นเวลาสองสามทศวรรษ และประสบกับความโกลาหลมากมาย
ก่อนหน้านี้เขาปีนขึ้นไปบนกำแพงในเมืองแห่งหนึ่งก่อนจะต่อสู้กับศัตรูที่มาจากนอกโลก ร่างกายของเขาชุ่มไปด้วยเลือดในขณะที่เขาต่อสู้อย่างไม่รู้จบ นี่เป็นประสบการณ์ที่ขมขื่น
“สิ่งมีชีวิตจากทะเลอาณาจักร รวมทั้งสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด… ทั้งหมดได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว!”
ดินแดนอมตะไม่สงบเลย เมื่อความขัดแย้งปะทุขึ้น สวรรค์และปฐพีก็จะพังทลาย ภูติเทพร่ำไห้ การต่อสู้ในช่วงไม่กี่ปีมานี้น่ากลัวมาก ทำให้ทุกคนตกตะลึง
“สือจงเทียน เจ้าทำเกินไปแล้ว? หลังจากโจมตีและทำร้ายทายาทของราชาอมตะหยวนชูเจ้ายังคิดว่าจะหนีออกไปได้?”
ภายในกองทหารในจักรวาล มีธงโบกไปมา พวกเขากำลังไล่ตามชายชราคนหนึ่ง คนกลุ่มเหล่านี้ป่าเถื่อนอย่างยิ่ง ไล่ตามอย่างไม่ลดละ สาบานว่าจะจับเขาให้ได้
“เอ๋าเฉิง ไท่สือและหยวนชู ทำร้ายหลานชายของข้า! แม้ว่าข้าจะไม่สามารถทำลายพวกมันที่เป็นราชาอมตะได้ แต่ข้าขอสาบานจะจองล้างจองผลาญลูกหลานของพวกมันให้หมด!”
ร่างกายของผู้เฒ่าเต็มไปด้วยเลือด แขนถูกตัดออกไปข้างหนึ่งในตอนนี้เขากำลังหนีเอาชีวิตรอด มุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของจักรวาล ปรารถนาจะหลุดพ้นจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแห่งนี้
“สือจงเทียน เจ้าหนีไม่พ้นหรอก! อย่าคิดว่าเพียงเพราะว่าเจ้ามีสิ่งมีชีวิตระดับราชาอมตะจากอาณาจักรทะเลหนุนหลัง เราจะไม่กล้าฆ่าเจ้า!” มีคนตะโกน
“ฮ่าฮ่า แล้วไง? นี่เป็นเพียงร่างวิญญาณของข้าเท่านั้น!” ร่างของสือจงเทียนเริ่มสลัวและไม่ชัดเจน
ทหารที่อยู่ข้างหลังเขาสาปแช่ง เปิดใช้งานสิ่งประดิษฐ์ขั้นเซียนทุกประเภทโจมตีอย่างเมามัน ร่างที่ไม่ชัดเจนของอีกฝ่ายระเบิดกลายเป็นสายฝนแห่งแสงก่อนจะหายไป
แน่นอนว่ามันเป็นร่างวิญญาณ ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเขา
ดวงตาของสือฮ่าวกลายเป็นสีแดงฉาน วิญญาณดั้งเดิมของเขาตื่นขึ้น เขาเห็นปู่ของเขาถูกคนอื่นไล่ตามแบบนี้ แม้ว่าจะเป็นเพียงร่างอวตาร แต่เขาก็ยังไม่สามารถยอมรับสิ่งนี้ได้
เวง!
ทันทีหลังจากนั้น รอยประทับแห่งการเกิดใหม่ทั้งสิบก็สั่นสะท้าน กำลังจะพังทลาย โลกภายนอกยั่วยุอารมณ์ของเขาทำให้วิญญาณดั้งเดิมของเขากำลังจะทำลายรอยประทับแห่งการเกิดใหม่ออกมา
"เจ้าเป็นใคร?"
กองทหารของราชาอมตะหยวนชูตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัว
ฮ่อง!
ร่างกายของสือฮ่าวปกคลุมไปด้วยแสง รอยประทับแห่งการเกิดใหม่เริ่มสั่นสะท้าน โซ่ที่เหมือนวงแหวนเพชรที่อยู่รอบกายของเขาเริ่มมืดสลัวคล้ายจะถูกทำลายลงไปได้ทุกเมื่อ
ตง!
มือขนาดใหญ่ของสือฮ่าวปกคลุมทั่วทั้งจักรวาลบดขยี้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดของเมืองแห่งนี้จนแหลกละเอียด
ปู!
คนเหล่านั้นทั้งหมดกลายเป็นหมอกสีเลือด แม้แต่เมืองโบราณอันยิ่งใหญ่ก็ยังถูกทำลายลงภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียว
สือฮ่าวตอนนี้แตกต่างออกไป ดวงตาของเขาเป็นประกายลึกล้ำมีคลื่นของรัศมีที่ลึกและนับไม่ถ้วน พลังของเขาปะทุออกมาอย่างไม่สิ้นสุดและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆในทุกครั้งที่รอยประทับแห่งการเกิดใหม่ผสานเข้ากับร่างกายของเขา
"ข้ากลับมาแล้ว!"
เสียงคำรามดังไปทั่วทั้งดินแดนอมตะ เมื่อเขาเห็นปู่ของเขาถูกไล่ตามเช่นนั้น เปลวไฟในหัวใจของเขาก็ลุกเป็นไฟอย่างโหดเหี้ยมกลายเป็นโอกาสให้วิญญาณของเขาทำลายตราประทับแห่งการเกิดใหม่และผสานรวมเข้ากับร่างกายอีกครั้ง
สือฮ่าวหลุดพ้นจากรอยประทับแห่งการเกิดใหม่ กลายเป็นตัวเขาที่สมบูรณ์แบบอีกครั้ง!
อย่างไรก็ตาม แสงศักดิ์สิทธิ์อันกว้างใหญ่เบ่งบานเหนือศีรษะของเขา ทำให้ทุกคนสั่นคลอนเป็นอย่างมาก นี่เป็นปฏิกิริยาทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นหลังจากที่จิตวิญญาณดั้งเดิมของเขาหลอมรวมเข้าด้วยกัน
“ตอนนี้ข้ารู้สึกมีพลังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน!”
สือฮ่าวพูดกับตัวเอง เขามีความมั่นใจอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าเขาเจอเข้ากับราชาอมตะเหล่านั้นอีกครั้ง ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร?
วิญญาณดั้งเดิมของเขาเคยเป็นจุดอ่อน แต่ตอนนี้วิญญาณทั้งสิบมีพลังและแข็งแกร่งเพียงพอ วิญญาณดั้งเดิมทั้งสิบของเขากลับมาเป็นหนึ่งเดียว ทั้งหมดเข้าสู่กะโหลกศีรษะของเขาสิ่งนี้ทำให้เกิดฉากที่ผิดปกติโดยธรรมชาติ
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมศีรษะของเขาถูกล้อมรอบด้วยความสดใสเปล่งประกาย พลังวิญญาณดั้งเดิมของเขาแข็งแกร่งเกินไปมีความศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกมาจากกะโหลกศีรษะของเขาครอบคลุมทั้งดินแดนแห่งนี้
“ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าข้ายังสามารถแข็งแกร่งได้มากกว่านี้อีก”
สือฮ่าวค้นพบว่าเมื่อเขาใช้กำลังทั้งหมดออกมา พลังศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขอบเขตก็เพิ่มขึ้นในร่างกายของเขา จากนั้นวิญญาณดั้งเดิมของเขาก็เบ่งบานด้วยพลังงานแก่นแท้ ในที่สุดก็รวมตัวกัน พุ่งออกจากกะโหลกศีรษะของเขา
เขาไม่ได้เสียเวลา ในช่วงเวลาต่อมา เขาได้ค้นหาสือจงเทียนที่หายตัวไปเมื่อสักครู่นี้
ไม่กี่ปีต่อมา เขาพบพื้นที่แห่งหนึ่ง มันเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่มาจากอาณาจักรทะเล เขาครอบครองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันเจิดจ้า ปกติไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
ไม่ใช่แค่ปู่สิบห้าเท่านั้นที่อยู่ที่นี่ อาหมันก็อยู่ที่นี่ด้วย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขามักจะออกโจมตีสังหารลูกหลานของ เอ๋าเฉิง ไท่สือ และหยวนชู
ทั้งหมดนี้เป็นการแก้แค้นให้กับสือฮ่าว
ถ้ามีคนไล่ตามพวกเขา ทั้งสองจะซ่อนที่นี่ไม่ออกมา คนเหล่านั้นก็ไม่กล้าโจมตีเช่นกัน
เป็นเพราะอาหมันเป็นลูกศิษย์ของคนคนนั้น!
“ท่านปู่ อาหมัน!”
สือฮ่าวไม่คิดว่าเมื่อเขาเข้าสู่ดินแดนอมตะ คนแรกที่เขาพบจะเป็นทั้งสองคนนี้
แม้ว่าจะผ่านไปสองสามปีแล้วตั้งแต่ที่วิญญาณดั้งเดิมของเขาหลุดพ้นออกจากรอยประทับแห่งการเกิดใหม่
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ปล่อยให้เนื้อหนังของตัวเองดำเนินการในส่วนที่ควรจะเป็นและวิญญาณดั้งเดิมทั้งสิบยังคงอาศัยอยู่ในตราประทับแห่งการเกิดใหม่และจะออกมาเมื่อมีการต่อสู้ที่แท้จริงเท่านั้น
“เจ้าคือ…”
เมื่อสือจงเทียนเห็นสือฮ่าว เขาก็ตกตะลึงชั่วขณะ รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังฝันไป
จากนั้นเขาก็ปลดปล่อยเสียงร้องแห่งความเศร้าโศก แบกความทุกข์ยากและความเจ็บปวดไม่รู้จบและพูดว่า
“เจ้าเป็นใครทำไมจึงดูเหมือนกับฮ่าวเอ๋อของข้า!”
อาหมันที่มีความงามสง่าโดดเด่นก็มองเขาด้วยสายตาสงสัย
“ทำไมเจ้าถึงดูเหมือนเขา?”
“ท่านปู่ อาหมันนี่ข้าเอง! ข้ากลับมาแล้ว!”
ดวงตาของสือฮ่าวเริ่มมีน้ำตาไหลซึมออกมา สือฮ่าวตะโกนบอกพวกเขาดังๆว่าเขายังไม่ตายเขากลับมาแล้ว
“อะไรนะ ยังมีชีวิตอยู่?” ดวงตาของสือจงเทียนเบิกกว้างแล้วตะโกนออกมาอย่างขุ่นเคืองว่า “ตระกูลเอ๋า ตระกูลไท่สือพวกเจ้าหลอกลวงข้าอย่างนั้นหรือ?”
ในเวลาเดียวกัน ดวงตาของอาหมันก็สว่างไสวด้วยพรสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์โดยจ้องมองที่สือฮ่าวในท้ายที่สุดนางก็ตกตะลึงเป็นอย่างมากแล้วพูดว่า
“เป็นฮ่าวน้อยจริงๆ!”
“สือจงเทียน หญิงชั่ว คราวนี้พวกเจ้าจะหนีไปไหนพ้น”
ผู้เชี่ยวชาญมากมายหลายหมื่นคนปรากฏตัวขึ้นบริเวณนี้และปิดผนึกเส้นทางถอยของพวกเขาอย่างสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันก็มีสิ่งมีชีวิตระดับเต๋าอมตะมากมาย
สือฮ่าวเงยหน้าขึ้นและพูดว่า
“ท่านปู่ อาหมันรอสักครู่!”
สือฮ่าวหันกลับมาเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้โดยใช้การเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว เขาโบกสะบัดฝ่ามือขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนจะกดลงมาด้านล่างอย่างรุนแรง
ฮ่อง!
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวนี้ระเบิด กองทัพมากมายมหาศาลที่อยู่ด้านล่างถูกทุบให้เป็นเถ้าถ่านไม่เหลือแม้แต่คนเดียว
สือจงเทียนและอาหมันตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
“เจ้าหนู เจ้า… ดี ดี ดี!”
ปู่สิบห้าพูดตรงๆสามครั้งเขาตื่นเต้นจนตัวสั่น หลานชายของเขาเพิ่งกลับมา แต่ก็ได้แสดงฉากนี้ให้เขาดูแล้ว ทำให้เขาประหลาดใจอย่างหาที่เปรียบมิได้
“ฆ่าพวกมันได้ดี!” อาหมันก็โห่ร้องด้วยความยินดี
“ใครเป็นคนทำเรื่องแบบนี้ทำให้ผู้ฝึกตนกว่าหมื่นคนตายอย่างน่าสลดใจ? เจ้าไม่คิดว่าการกระทำของตัวเองชั่วร้ายเลวทรามเกินไปหรือ?” มีเสียงกล่าวเตือนจากจักรวาลอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ไกลโพ้น
สือฮ่าวไม่ได้ให้ความใส่ใจ เขาพาปู่สิบห้าและอาหมันออกไป ใครจะสนว่านี่จะเป็นเสียงของราชาอมตะองค์ไหน? ถ้าฝ่ายตรงข้ามกล้าปรากฏตัวขึ้นมาก็เตรียมตัวตายได้เลย
“สหายเต๋าระดับการฝึกฝนของเจ้าค่อนข้างลึกซึ้งและยิ่งใหญ่ เหตุไฉนเจ้าถึงได้ลงมือฆ่าลูกหลานของเอ๋าเฉิงและไท่สือ?
เมื่อต้องเผชิญกับศัตรูที่มีอำนาจ เราควรจะรักษาความสัมพันธ์อันดีและความสามัคคีของอาณาจักรไว้ หรือว่าเจ้ามีความสามารถที่จะต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดและสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรทะเลได้ด้วยตัวคนเดียว” ราชาอมตะคนนั้นยังคงเตือนเบาๆ
“ถ้าข้ารู้ว่าพวกมันทั้งหมดเป็นลูกหลานของเอ๋าเฉิง ไท่สือและหยวนชูข้ายิ่งจะลงมือให้โหดเหี้ยมมากกว่านี้!” คำพูดของสือฮ่าวน้ำเย็นชาเป็นอย่างมาก
“สหายเต๋าความคิดของเจ้ารุนแรงมากเกินไป มีความแค้นใดที่ไม่สามารถชะล้างได้? การกระทำแบบนี้ของเจ้าจะทำให้เจ้าถูกคนอื่นทอดทิ้งและในที่สุดเจ้าก็ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูด้วยตัวคนเดียว”
“ถ้าพวกเจ้าเลือกจะเข้าข้าง เอ๋าเฉิง ไท่สือและหยวนชู พวกเจ้าก็ถือว่าเป็นศัตรูกับข้า! ไม่ว่าพวกเจ้าจะว่ากล่าวอย่างไรแต่สุดท้ายข้าก็ต้องสังหารพวกมันทั้งหมดอย่างแน่นอน!