ตอนที่ 22 ยาเม็ดนี้เป็นของเจ้า !
ด้วยเหตุนี้แม้จะเสี่ยงต่อการสร้างความขัดแย้งกับนิกายเลือดทมิฬแต่ หลี่ชิงหยานก็ยังคงตัดสินใจที่จะเสี่ยงเดิมพันใครครั้งนี้
"เหอะ!"
เมื่อเห็นสิ่งนี้เฟิงยี่ไถ่ก็สบถอย่างเย็นชา ความแข็งแกร่งของผู้ฝึกตนระดับจิตวิญญาณสีม่วงขั้นที่สิบก็ปะทุขึ้นทันทีซึ่งก่อให้เกิดแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวที่ห่อหุ้มหลี่ชิงหยานและคนอื่นๆ
"แย่แล้ว!"
เมื่อได้เห็นแบบนี้สีหน้าของผู้อาวุโสลำดับที่สองก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขารีบปล่อยพลังในร่างกายของเขาเพื่อปกป้องหลี่ชิงหยานและคนอื่น ๆ
"ระวังตัวด้วย!"
วินาทีถัดมาร่างของผู้อาวุโสลำดับที่สองก็สั่นสะเทือนและเขาก็ปล่อยเสียงอู้อี้ๆออกมาและสีหน้าของเขาซีดเซียวลง
แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขายังคงต่อต้านแรงกดดันของเฟิงยี่ไถ่อยู่
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะอยู่ขั้นที่สี่ของรูปแบบจิตวิญญาณสีม่วงเท่านั้น แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชนะเขาได้ด้วยแรงกดดันเพียงอย่างเดียว
การจ้องมองของเฟิงยี่ไถ่ยิ่งเย็นชาลงเมื่อเขาได้เห็นแบบนี้และสายตาของเขาก็เต็มไปด้วยจิตสังหารที่น่ากลัวออกมา
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ เพราะเขายังอยู่ในงานประมูล
เพราะสิ่งสําคัญที่สุดคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่คอยดูแลความเรียบร้อยของงานประมูลนั้นอยู่ในระดับแก่นหลักว่างเปล่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเดียวกับผู้นำของนิกายเลือดทมิฬ!
ในตอนนี้เขาเป็นเพียงผู้ฝึกตนขั้นที่สิบของระดับรูปแบบจิตวิญญาณสีม่วง และแน่นอนว่าการกระทําของเขาได้ละเมิดกฎของงานประมูลไปแล้วเล็กน้อย
เหตุผลที่งานประมูลไม่หยุดการกระทําของเฟิงยี่ไถ่เป็นเพราะผู้ที่คอยดูงานประมูลนั้นสนิทกับหัวหน้าของนิกายเลือดทมิฬ
แต่ถ้าหากเฟิงยี่ไถ่ยังคงทำแบบนี้อีกคนๆนั้นจะไม่ปล่อยผ่านอีกต่อไป
"ข้าประมูล 40 ล้าน"
หลังจากที่เฟิงยี่ไถ่ถอนแรงกดดันของเขา เขายังคงเสนอราคาต่อโดยไม่สนใจหลี่ชิงหยานและคนอื่นๆ
เขาได้ส่งคำเตือนที่ชัดเจนแก่พวกเขาไปแล้ว หากอีกฝ่ายไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นหมายถึงอะไรสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นจะเลวร้ายกว่าเดิมมาก
"ท่านพี่... เรา..เราจะทําอย่างไรดี?"
หลี่เฉินมองไปที่พี่สาวของเขาที่ร่างกายสั่นไหวและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากนัก แต่เขาก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวของเขา
รองหัวหน้าของนิกายเลือดทมิฬนั้นมีความมุ่งมั่นอย่างชัดเจนที่จะเอายาฟื้นวิญญาณ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่อนุญาตให้ผู้ฝึกตนคนอื่นๆเข้ามาแทรกแซงสงครามการประมูลระหว่างเขากับหลินหยูแห่งหอคอยเงา
หลี่ชิงหยานไม่พูดอะไร แต่ร่างกายของเธอไม่สามารถหยุดสั่นได้ แก้มสีแดงอ่อนๆของเธอเริ่มซีดเซียวมาก
"ชั่งมันเถอะ พวกเราคงต้องยอมแค่นี้..." ผู้อาวุโสลำดับที่สองอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวอย่างทําอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นแบบนี้
แม้ว่าความแข็งแกร่งของตระกูลหลี่นั้นจะไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่สามารถเทียบได้กับนิกายเลือดทมิฬและพวกหอคอยแห่งเงา หากพวกเขายังคงฝืนที่จะประมูลต่อไปมีโอกาสมากที่พวกเขาจะสร้างศัตรูกับสองกลุ่มใหญ่นี้ได้
แม้ว่าภายในงานประมูลนั้นเฟิงยี่ไถ่อาจจะไม่ทำอะไรก็จริงแต่เมื่อเขาอยู่ข้างนอกเมื่อไหร่ล่ะก็.....
หลี่ชิงหยานไม่ตอบอะไร แต่แววตาที่สวยงามของเธอนั้นเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ
ถ้าเธอมีพลังมากกว่านี้ เธออาจจะสามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้!
น่าเสียดายที่โลกนี้เป็นโลกที่โหดร้ายเพราะมีเพียงผู้ที่มีพลังเท่านั้นที่มีอำนาจในโลกนี้
"หืม?"
เมื่อได้เห็นแบบนี้ ยื่อซวนซึ่งนั่งอยู่ในฝั่งผู้ชมก็เลิกคิ้วขึ้นและมองไปที่หลี่ชิงหยานที่อยู่ด้านล่างด้วยความประหลาดใจ
ในขณะเดียวกันข้อความหลายบรรทัดก็ปรากฏขึ้นในขอบเขตการมองเห็นของยื่อซวน
ความเข้าใจ: 299
ค่ากระดูก: 79
(ร่างจิตวิญญาณคู่: มีความสัมพันธ์ด้านธรรมชาติของไม้และไฟ)
(หมายเหตุ: หนึ่ง สามารถเปิดใช้งานร่างจิตวิญญาณคู่ได้อย่างเต็มที่หลังจากเข้าสู่ระดับรูปแบบแก่นแท้จริง โดยธรรมชาติแล้วเหมาะสมที่จะเป็นนักปรุงยา อาจกล่าวได้ว่าเจ้าของร่างจิตวิญญาณคู่นั้นสามารถบรรลุผลสองเท่าด้วยความพยายามเพียงครึ่งเดียวในการปรุงยาก!)
ยื่อซวนเริ่มสนใจผู้หญิงคนนี้อย่างมาก
ด้วยการระดับการฝึกตนของรูปแบบแก่นแท้จริงของเขา เขารับรู้ได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในงานประมูลนี้ได้ทั้งหมด
เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากผู้ฝึกตนระดับจิตวิญญาณสีม่วงขั้นที่สิบและเธอยังสามารถกัดฟันอดทนได้ ทำให้ยื่อซวนนั้นรู้ว่าหลี่ชิงหยานมีค่ากระดูกโดยกําเนิดที่แข็งแกร่งและดูเหมาะสมที่เขาจะรับเธอเป็นลูกศิษย์ได้
"เธอเหมาะที่จะเป็นลูกศิษย์ของข้ามาก แต่ข้ายังต้องสังเกตเธออย่างระมัดระวังไปก่อน!" ยื่อซวนพูดในใจ
ในแง่ของความเข้าใจนั้น หลี่ชิงหยานอาจมากกว่าลู่หยานรันมาก ความเข้าใจของเธอนั้นสูงกว่าของลู่หยานรันหลายสิบคะแนนซึ่งทําให้ยื่อซวนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
แต่สิ่งที่ทําให้เขาตื่นเต้นที่สุดคือหลี่ชิงหยานมีร่างจิตวิญญาณคู่ของพลังธรรมชาติไม้กับไฟ ซึ่งเป็นร่างที่เหมาะสมที่สุดสําหรับการเป็นนักปรุงยา!
แน่นอนว่ายื่อซวนจะไม่รับเธอเป็นลูกศิษย์เพียงเพราะร่างจิตวิญญาณคู่ของไม้และไฟนี้ เพราะสิ่งที่เขาให้ความสําคัญมากที่สุดในการรับลูกศิษย์คือตัวของลูกศิษย์คนนั้น
แม้ว่าเขาจะไม่จะสามารถประมูลสมบัติที่เขาสนใจในวันนี้ได้ แต่ก็อาจจะดีกว่าถ้าเขาจะได้รับลูกศิษย์เพิ่มในวันนี้
ในขณะเดียวกันการเสนอราคาของยาฟื้นวิญญาณก็เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
"ข้าประมูล 43 ล้าน"
"ข้าประมูล 45 ล้าน"
"ข้าประมูล 48 ล้าน"
"ข้าประมูล 51 ล้าน"
แม้ว่าการเสนอราคาจะสูงขึ้นเรื่อยๆแต่คนที่แข่งขันกันอยู่จริงๆคือนิกายเลือดทมิฬและหอคอยแห่งเงา
หลังจากที่ได้ยินการเสนอราคาครั้งสุดท้ายของเฟิงยี่ไถ่สีหน้าของหลินหยูก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
"เป็นไปไม่ได้ เจ้าจะยังมีเงินอีกถึง 51 ล้านได้อย่างไรกัน? ถ้าเจ้าไม่มีเงินมากขนาดนั้นจริงๆข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถเดินออกจากงานประมูลนี้ได้!" หลินหยูพูดด้วยสายตาเย็นชา
"เฮ้อ แค่ 51 ล้าน นิกายเลือดทมิฬของข้าสามารถจ่ายเงินจํานวนเล็กน้อยแค่นี้ได้อยู่แล้ว!" เฟิงยี่ไถ่ตอบด้วยสายตาเยาะเย้ย
หากเขาไม่มีเงินมากพอเขาคงจะไม่กล้าเข้าร่วมการประมูลกล้วยไม้สีม่วงในหุบเขาได้
"ข้าประมูล 53 ล้าน"
หลินหยูเรียกเสนอราคาอีกครั้ง แต่การแสดงออกของเขานั้นดูแย่มาก แม้ว่ามูลค่าของยาฟื้นวิญญาณจะสูง แต่ก็ไม่คุ้มค่ากับ 53 ล้านอย่างแน่นอน!
แต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาอาการบาดเจ็บของผู้นำของเขา เขาต้องทำการประมูลต่อไป
"ข้าประมูล 55 ล้าน" เฟิงยี่ไถ่สังเกตเห็นความลังเลของหลินหยูและพูดอย่างเฉยเมย ไม่มีร่องรอยของความตื่นตระหนกในสายตาของเขาราวกับว่า 55 ล้านนี้ไม่ใช่เงินก้อนโต
"ข้าประมูล 56 ล้าน"
"ข้าประมูล 58 ล้าน"
"ข้าประมูล 59 ล้าน"
เมื่อเวลาผ่านไปการแสดงออกของหลินหยูก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้เฟิงยี่ไถ่ใช้เงิน 30 ล้านเพื่อประมูลกล้วยไม้สีม่วงในหุบเขา แต่จริงๆแล้วเขายังมีเงินอีกมากที่จะประมูลยาฟื้นวิญญาณด้วย
"ข้าประมูล 60 ล้าน" การจ้องมองของเฟิงยี่ไถ่ยังคงนิ่งเฉยในขณะที่เขาประกาศการเสนอราคาใหม่
"ข้าประมูล 65 ล้าน" เมื่อหลินยูเห็นแบบนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟันและเพิ่มราคาทันที 5 ล้าน!
"ข้าไม่คิดว่าหอคอยแห่งเงาของเจ้าจะร่ำรวยขนาดนี้ ข้ายอมแล้วยาฟื้นวิญญาณเม็ดนี้เป็นของเจ้า!"
ในตอนนี้เฟิงยี่ไถ่ได้เปิดเผยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาและพูดอย่างเฉยเมย
"เฟิงยี่ไถ่นี่เจ้าหมายความว่ายังไงกันแน่?!"
หลินหยูโกรธมากเมื่อเขาได้เห็นแบบนี้ เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกหลอก!