ตอนที่ 1171 มุกมังกร?
เลือดกำเดาสาดกระจาย
ซาฟงตอบสนองโดยใช้จักรฟันใส่อกของซาฟงอีกคนหนึ่งเกิดแผลลึกจนเห็นกระดูก
ใบหน้าซาฟงซับซ้อนเปลี่ยนแปลงเขาเอามือกุมบาดแผลที่อก และชี้หน้าด่าซาฟงที่ใช้จักรฟันเขา “เจ้าโง่, ข้าคือเจ้า,เจ้าทำร้ายข้าก็เท่ากับเจ้าทำร้ายตัวเองไม่ใช่หรือ? คนไร้ยางอายอย่างเจ้าต้องการฆ่าตัวเจ้าตายหรือ?”
“ไม่, เจ้าคือเจ้า เจ้าไม่ใช่ข้า! เจ้าไม่ใช่ข้าแน่นอน!” คำพูดของซาฟงยังไม่ทันจบก็มีโลหิตฉีดพุ่งที่อกเกิดบาดแผลลึกถึงกระดูกบนร่างของเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า, ข้าชอบการทำร้ายตัวเองแบบนี้!” ซาฟงที่ปีนขึ้นมาจากหลุมมีบาดแผลที่อกเลือดสาดกระจายแต่เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“นี่เป็นไปไม่ได้ ข้าคือข้า เจ้าไม่ใช่ข้าไม่...” ตอนนี้ซาฟงพบว่ากระดูกหน้าอกหัวใจ คางและศีรษะของเขาได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง เหมือนกับที่เขาเคยโจมตีศัตรูมาก่อนนี่เขาเพิ่งโจมตีไปจริงๆ หรือ? แต่มีคนเดียวชัดๆ แต่ว่ากลายเป็นสามคนได้อย่างไร? อีกสองคนเป็นร่างแยก นั่นพวกนั้นมาจากไหน? มีเรื่องแปลกๆ แบบนี้ได้อย่างไรร่างเขาได้รับบาดเจ็บ นี่เป็นไปได้ยังไง?
“ในเมื่อเจ้าต้องการทำร้าย เรายังจะรออะไรอยู่อีก!”
ซาฟงสองคนชูกงจักรในมือของพวกเขาแล้วฟันใส่ร่างของตัวเอง
แต่ซาฟงรู้สึกเจ็บปวดในร่าง
เขารีบวิ่งไปหาร่างเลียนแบบทั้งสองและแย่งกงจักรในมือของพวกเขา..มีกงจักรอยู่สามชิ้น เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร? ในโลกนี้มีกงจักรอยู่เพียงชิ้นเดียวเมื่อเทพแห่งฟ้าเหนือฟ้านับร้อยบุกโจมตี เทพมหาอัคคี โจมตีเทพตนหนึ่งด้วยฝีมือเขาพอสังหารเจ้าของแล้วจึงได้มาแต่ว่าสมบัตินี่กลายเป็นสามได้อย่างไร? แต่ตอนนี้มีกงจักรอยู่สามชิ้นไม่สามารถแยกแยะได้ว่าชิ้นไหนของจริง ของปลอม เมื่อดูอย่างพิจารณาซาฟงไม่สามารถแยกแยะได้เพราะกงจักรทั้งสามเหมือนกับมีจิตใจ ดูเหมือนว่ามันอยู่กับเขามาหลายปีแล้ว
ซาฟงทั้งสองที่ถูกทำร้ายพวกเขาลุกขึ้นทันทีและสู้ตอบโต้ซาฟง“ไม่ใช่อย่างนี้ เจ้าไม่ใช่ข้า? ข้าจะไม่มีทางทำร้ายตัวเอง เจ้าหลอกข้าไม่ได้ พวกเจ้าเป็นตัวปลอมทั้งหมด!”
“ถ้าเราเป็นตัวปลอมทำไมเจ้าถึงได้รับบาดเจ็บเหมือนกับเรา? นอกจากนี้ ถ้าเราเป็นตัวปลอมอย่างนั้นพวกเขาเล่า?”
ซาฟงทั้งสองร่างหัวเราะมีความสุขเหมือนกับนิสัยปกติของซาฟง
ซาฟงอดสั่นสะท้านในใจไม่ได้
เขาหันกลับไปดู
และพบว่าด้านหลังซาฟงสองร่างยังมีซาฟงกลุ่มใหญ่เหมือนกับตัวเขา จำนวนมีมากกว่าหนึ่งร้อย..ทุกคนวิ่งเข้ามาหาและพยายามยื่นมือไปในอากาศเพื่อเรียกคัมภีร์อัญเชิญและมีมากกว่าสิบต่างตะโกนใส่กัน “อย่าให้เขาได้คัมภีร์อัญเชิญไปคนเดียวคัมภีร์อยู่กับเจ้าผู้นี้ก็เสียเปล่า เปลี่ยนเป็นอยู่กับเราดีกว่า!”
คัมภีร์อัญเชิญนั้นเนื่องจากมีการแข่งขันมากเกินไปจึงมีการบิดตัวผิดเพี้ยน
ตัวคัมภีร์อัญเชิญค่อยๆบิดตัวและหมองประกายลงเปลี่ยนเป็นสีดำ
ในที่สุดปัง...
มันยกเลิกสัญญาโดยอัตโนมัติและกลายเป็นคัมภีร์อัญเชิญที่ไม่มีเจ้าของ
“คัมภีร์อัญเชิญของข้า!” ซาฟงร้องไห้เศร้าโศกเสียใจจนถึงขีดจำกัด ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บและเขาไม่สามารถทำลายเจตจำนงของเขาได้ เพราะเขาเชื่อว่าเขาเป็นเทพ ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ไม่ถึงกับตาย แต่เนื่องจากว่าร่างแยกมีมากเกินไปและต่อสู้แย่งคัมภีร์อัญเชิญ และในที่สุดก็ทำลายคัมภีร์อัญเชิญลงไป เขารู้สึกหมดหวังจริงๆ นี่ถือเป็นเทพแท้จริงโดยไม่ต้องเรียกคัมภีร์อัญเชิญได้หรือไม่? หากไม่มีทักษะแฝงเร้นและอสูรพิทักษ์จะไม่มีแม้แต่โลกคัมภีร์ ที่ทำให้เขาหลบหนีได้อย่างปลอดภัยแล้วเขาจะมีชีวิตต่อไปเพื่ออะไร?
“ไม่มีก็ดีแล้ว ทุกคนไม่ได้รับความเป็นธรรมทำไมเจ้าต้องมีคัมภีร์อัญเชิญคนเดียวด้วยเล่า?” มีซาฟงคนหนึ่งปรบมือ
“ใช่แล้ว ไม่มีคัมภีร์อัญเชิญทุกคนก็ไม่ต้องสู้กัน” ซาฟงอีกคนหนึ่งเห็นด้วย
“อย่างไรก็ตามนี่สำเร็จได้เพราะวิธีลับยุคเก่าด้วยความช่วยเหลือของเทพมหาอัคคีก่อนตาย นี่ไม่ใช่สิ่งที่เป็นของเจ้าแม้แต่น้อยเจ้าอย่าลืมสิ!” มีเสียงเตือนมาจากซาฟงอีกคนหนึ่ง
“พวกเจ้าทั้งหมดหุบปากไปเลย!” ซาฟงกำลังโศกเศร้า แต่นั่นคือคัมภีร์อัญเชิญ
ไม่มีคัมภีร์อัญเชิญเขาเป็นได้แค่เพียงเทพเทียม
แปดเทพแห่งขุนเขาเหนือขุนเขาแต่ละคนมีอาณาเขตของตนเอง เมื่อเขาสูญเสียคัมภีร์อัญเชิญก็ต้องกลับไปเป็นเทพเทียมยังจะมีที่ให้เขาพูดในอนาคตอีกหรือ?
เกิดอะไรขึ้นกับร่างแยกที่อธิบายไม่ได้นี้หรือว่ามีตัวตนในร่างกายอยู่มากมายจริงๆ? หรือว่าใครปล่อยพวกเขาออกมา?
หรือเป็นเจ้าเด็กจอมยโสนั่น?
ซาฟงเงยหน้าและมองหารอบๆและพบว่าเย่ว์หยางไม่ทราบว่าไปนั่งไขว่ห้างผิวปากอย่างสบายใจบนหินตั้งแต่เมื่อไหร่เพียงห็นครั้งแรกก็ยังมีแววหยิ่งยโสเหมือนเดิม
“ข้าจะฆ่าเจ้า!” ซาฟงระบายความแค้นแน่นอกไปลงที่เย่ว์หยางคนเดียว
“เทพหรดีซาฟงผู้มีสมองเลอะเลือน เจ้าตายได้แล้ว!” เย่ว์หยางเหยียดนิ้วราวกับเป็นผู้พิพากษาประกาศโทษตายของซาฟง
ล้อเล่นหรือ?
ซาฟงไม่เคยคิดว่าเด็กผู้หยิ่งยโสนี้จะแตะต้องแม้แต่ปลายผมของเขาได้
แม้ว่าเจ้าเด็กนี่จะมีฝีมือดีแต่พลังที่แท้จริงของเขายังไม่แข็งแกร่ง มิฉะนั้นเขาคงลอบเข้ามาทำร้ายเขาไปนานแล้ว ทำไมต้องรอจนบัดนี้?
ฆ่า!
ขณะที่ซาฟงโจมตีใส่ใบหน้าเย่ว์หยางทันใดนั้นเขาพบว่าเมื่อหมัดของเขาห่างจากจมูกเจ้าเด็กนี่หนึ่งนิ้วเขาพบว่ามิติเวลา มิติพื้นที่ยืดขยายออกไปหลายพันปี หลายพันกิโลเมตร ...นี่ยังไม่ใช่เรื่องแปลกที่สุด สิ่งที่ทำให้ซาฟงกลัวที่สุดก็คือ ร่างซาฟงที่มากกว่าร้อยต่างวิ่งตามเขาแทนที่ร่างพวกนั้นจะระดมหมัดใส่เจ้าเด็กนี่แต่ร่างเหล่านั้นกลับจับแขนจับขาตรึงร่างกายของเขาไว้ทั้งหมดอย่างแน่นหนา!
พระเจ้า,ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?
ร่างแยกเหมือนเหล่านี้ทำไมพวกมันทำร้ายเขาเอง? พวกมันไม่ใช่ร่างที่แยกออกมาจากตัวเขาหรือ?
ซาฟงทราบความจริงที่โหดร้ายนี้เขาจะไม่บ้าเลย..สิ่งที่ทำให้เขาสิ้นหวังก็คือไม่ว่าเขาจะกระตุ้นพลังเทพในหุบเขาให้แยกร่างเงาออกไปยังไงก็ตามแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะร่างแยกทั้งหมดเหมือนกันกับร่างของเขาไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บหรือส่วนที่เหลือก็ตาม
เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นอิสระหลุดรอดจากมือคนร้อยคน
ซาฟงมองดูเด็กหนุ่มผู้เย่อหยิ่งต่อหน้าเขาเขากำลังยิ้มจนแทบทำให้ผู้คนบ้าคลั่งและจนใจ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืนจากโขดหิน และจากนั้นดึงชิ้นหยกคล้ายสิ่งประดิษฐ์ออกมาแล้วทุบโดยตรง
เขาตกตะลึง
ซาฟงมองอย่างผิวเผินไม่ได้รับความเสียหาย แต่รู้สึกเจ็บปวดวิญญาณแทบแหลกสลายและพลังเทพแสดงอาการเลือนรางว่าจะกำลังสลายไป
พลังเทพเป็นเหมือนภูเขากดทับและซาฟงรู้สึกยากจะหายใจได้
มีพลังผนึกที่ทำให้วิญญาณสะท้านสะเทือน
ซาฟงเริ่มหวาดกลัว
พลังผนึกแบบนี้อย่าว่าแต่ตัวเขาในตอนนี้เลยต่อให้เป็นเฮยโจ้วหรือซื่อเสินก็ไม่สามารถต้านทานได้ เขาจะไม่ยอมรอให้มิติผนึกเปิดตัวจากนั้นถูกขังไว้จากนั้นถูกพลังผนึกกัดกร่อนและทำลาย ซาฟงกำลังรีบเร่ง แต่จู่ๆเขาเห็นนักรบสวมเกราะรบกระโดดออกมาขวางข้างหน้า เกราะรบสร้างขึ้นจากโลหะลับเทพสังหารในมือของนักรบนั้นถือดาบของวิเศษระดับเทพที่ตัวเขาไม่เคยได้รับ ดาบวิเศษที่ทำลายได้ทั้งโลกและสวรรค์!
“นี่คือเทพที่เจ้าพูดถึงใช่ไหม? ไม่มีแม้แต่เจตจำนงราชันย์ยังจะนับเป็นเทพได้หรือ? เป็นเทพเทียมก็พอแล้ว! ช่างเถอะ ฆ่าเทพเทียมอุ่นเครื่องไว้ก่อน!” นักดาบหญิงกระโดดขึ้น สายฟ้านับล้านสายน้ำและพลังไฟรวมตัวกันอยู่ที่ดาบในมือนางและในที่สุดกลายเป็นหัวมังกรยักษ์อ้าปากลงมาที่ตัวเขา
เพียงดาบเดียว
ซาฟงรู้สึกเหมือว่าวิญญาณของเขาถูกดาบวิเศษทำร้าย
ไม่ว่าจะเป็นร่างกายวิญญาณหรือแม้แต่พลังเทพได้รับบาดเจ็บทั้งหมดจนวิญญาณแทบแหลกสลาย
ตอนนี้เขาเสียใจแต่ยังไม่เข้าใจว่าทำไมการต่อสู้ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ แต่เขารู้ว่าเขากำลังจะตายจริงๆ “เป็นไปได้ไหมที่จะชิงดาบนั้นมาด้วยพลังทั้งหมดของข้า? แน่ใจว่าต้องได้ เป็นเทพเทียมตัวประหลาดที่มีอายุยืนนานเป็นหมื่นปีไม่ได้เป็นกันง่ายๆ!”คำพูดของนักดาบหญิงทำให้ซาฟงอยากร้องไห้ และเมื่อเขาตะโกนสุดชีวิต เขาเห็นมือของเจ้าเด็กหยิ่งยโสควบแน่นพลังกลายเป็นรูปมังกรทองในอากาศไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“กระบี่มังกรทอง!”
นี่คือคำพูดสุดท้ายที่ซาฟงได้ยินในจิตสำนึกหลังจากมังกรทองกลืนศีรษะและสติสำนึกเทพของเขาก็หายไป
ร่างของเขากลายเป็นผุยผงหายไปในสายลม
พลังงานและพลังเทพทั้งหมดเครื่องหมายความรู้นั่นคือการอยู่รอดของชีวิต
ในปากมังกรทองยักษ์ควบแน่นกลั่นพลังกลายเป็นมุกมังกรขนาดเล็ก...เมื่อมังกรทองกลับเข้ามาในร่างของเย่ว์หยางมุกมังกรน้อยก็ร่วงในฝ่ามือของเย่ว์หยางที่เหยียดออกมารับ
นี่คือพลังของปราณกระบี่มังกรทองและเป็นข้อพิสูจน์ถึงความคงอยู่ของเทพหรดีซาฟง!
“ปัง!”
คัมภีร์อัญเชิญเล่มหนึ่งส่งเสียงระเบิดในอากาศและกลายเป็นคัมภีร์ที่ไม่ได้ทำสัญญา
ตกลงแทบเท้าเย่ว์หยาง
อย่างไรก็ตามร่างแยกร้อยร่างที่ตามจับซาฟงหายไปหมดและร่างเงาปีศาจหายไปหมดราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก ชี่เฉียวกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเมื่อเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกเข่นฆ่าศัตรูระดับเทพที่บุกโจมตีดูเหมือนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยไม่ใช่หรือ? เด็กหนุ่มผู้นี้เป็นใครกัน?
เด็กคนนี้เป็นมนุษย์หรือเปล่า?
ซาฟงบอกว่าตนเองเป็นเทพแต่เขาฆ่าซาฟงได้อย่างไร?
สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือเด็กคนนี้เปลี่ยนเขาให้เป็นมุกมังกรนั่นคือชีวิตทั้งชีวิต ฝึกฝนพลังเทพ ความรู้ตลอดชีวิตเขาเกรงว่าคงสู้เด็กหนุ่มนี่ไม่ได้
“เจ้ากลับไปก่อน ข้าจะต้องแปลงเป็นซาฟงเข้าร่วมต่อสู้! ด้วยมุกมังกรนี้ข้าไม่ต้องกังวลว่าใครจะจำข้าได้!” เย่ว์หยางเก็บมุกมังกรจากนั้นโบกไปมา เงาปีศาจเปลี่ยนรูปร่างเป็นซาฟงรูปลักษณ์เหมือนกับซาฟงคนเดิมอย่างมิต้องสงสัย แม้แต่ชี่เฉียวที่มองดูที่ด้านข้างยังมองไม่เห็นข้อบกพร่องแต่อย่างใด
“ห้ามไม่ให้เจ้ากลับบ้านด้วยรูปร่างแบบนี้และระวังจีอู๋ลี่ด้วย เจ้าผู้นี้มิใช่จะหลอกกันได้ง่ายๆ!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทุบเย่ว์หยางเบาๆดูเหมือนจะไม่พอใจที่เย่ว์หยางใช้เงาปีศาจปลอมตัวเป็นซาฟง แต่นางรู้ว่านี่หมายความว่าเป็นการปลอมปะปนเข้าไปในค่ายตะวันตก นางไม่พูดอะไรและหันหลังกลับไปพร้อมกับเสี่ยวเหวินหลี
“ข้าจะปรับตัวให้เข้ากับพลังเทพของซาฟงหรือว่าจะขุดเอาวัตถุโบราณออกมาจากร่างของเขาดี?” เย่ว์หยางยังคงเป็นปีศาจโลภอยู่ดี
เขายินดีจะต่อสู้
แต่เขาไม่ต้องการกังวลเกี่ยวกับโบราณวัตถุ ถ้าเขาไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มันจะไปจากแดนขุนเขาเหนือขุนเขากลับไปยังโลกไร้ที่สิ้นสุดคัมภีร์เงินทันที และเป็นการส่งมอบภารกิจให้ผู้ลึกลับนั้น เขาเริ่มขุดสมบัติแล้ว
ตอนนี้ได้แต่ดูโบราณวัตถุที่อยู่ต่อหน้าแต่เขาทำอะไรไม่ได้ เย่ว์หยางเหมือนแมวขโมยที่เห็นปลาย่างอยู่ข้างหน้า รู้สึกคันหัวใจยากจะเกา
ต้องโทษเจ้าซาฟงนั่น
ตายแล้วยังก่อเรื่อง
ถ้าเขาไม่ต้องเอาสมบัติโบราณออกมาอย่างนั้นก็คงจะดี
ซาฟงที่เกือบคืนชีพสำเร็จแล้วไม่สามารถตำหนิเด็กหนุ่มจากโลกอื่นได้ เขาจะเอาโบราณวัตถุออกมาได้อย่างไร? คาดว่าเด็กหนุ่มจากโลกอื่นจำเป็นต้องรู้ว่าไม่รู้ว่าเย่ว์หยางจะต้องใช้เวลาค้นหา นานแค่ไหนบางทีโบราณวัตถุอาจสูญหายในขุนเขาเหนือขุนเขาตลอดไป แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าซาฟงต้องตายอย่างน่าอนาถและอยุติธรรม แต่เขาไม่ใช่คนแรกที่ตายอย่างนี้