ตอนที่ 1169 เสียใจ ข้าไม่ออมมือให้
ตอนแรกซาฟงตกใจและคิดว่ามีเทพปรากฏตัว!!
โดยเฉพาะอย่างเมื่อเสี่ยวเหวินหลีใช้พลังทักษะแฝงเร้นพันธนาการในฐานะอสูรเทพยิ่งน่ากลัวมากกว่า โชคดีที่ชี่เฉียวไม่ฉวยโอกาสใช้พลังเทพมหาอัคคีโจมตี มิฉะนั้นผลที่ตามมาคงเป็นหายนะเกินคาดคิด ซาฟงผู้หลีกรอดจากหายนะได้พยายามดิ้นรนเป็นอิสระและหลบหนีกลับเข้าไปยังโลกคัมภีร์ในขณะที่เย่ว์หยางเข้ามา
แต่ในขณะที่เขาจะเริ่มกลับไปนั้น
เขาตกใจอย่างหนักเมื่อพบว่าเทพที่พูดว่าต้องการฆ่าเขากลับเป็นบุรุษหนุ่ม
สำหรับการเป็นนักสู้อายุขนาดนี้ไม่เป็นปัญหา
แต่เด็กหนุ่มคนนี้
เขายังเด็กเกินไป ซาฟงไม่เคยเห็นมนุษย์ที่มีอายุน้อยขนาดนี้จะทรงพลังได้ถึงระดับเทวทูตหรือเหนือกว่าในชีวิตของเขามาก่อน...ในขณะที่เขารู้สึกประหลาดใจและตกตะลึงความโกรธที่ยากจะยับยั้งผุดขึ้นมาจากส่วนลึกของวิญญาณ... ระดับเทวทูตก็แค่มดแมลงตัวน้อยบังอาจมาล้อเล่นกับเขาเชียวหรือ? สิ่งที่มิอาจยกโทษให้ได้มากที่สุดก็คือเจ้าเด็กนี่ยังมีหน้าคุยโวเสียใหญ่โตหากเขาเข้าร่วมสู้จะทำให้ตัวเขาเองถึงกับร้องไห้เชียวหรือ?
เจ้าเด็กนี่เพิ่งตื่นนอนใช่ไหม?
มันเป็นเพียงฝันของคนโง่!
ด้วยพลังน้อยนิดระดับเทวทูตของเขาบังอาจท้าทายเทพเชียวหรือ?
ตายเสียเถอะ
นอกจากสังหารในทันทีแล้วซาฟงรู้สึกว่าถ้าเขาใช้เวลาในการฆ่าแม้เสียเวลาไปเสี้ยววินาทีก็ยากจะอภัยให้ตัวเอง!
หลังจากแน่ใจในพลังของฝ่ายตรงข้ามแล้ว และมองจากสีหน้าของชี่เฉียวแล้วแน่ใจว่านี่ไม่ใช่กับดักซาฟงไม่สนใจลักษณะหรือความสัมพันธ์ใดๆ เกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขา เข้าตั้งใจใช้พลังเทพสังหารที่น่ากลัวเข่นฆ่าทันทีไม่ว่าเจ้าเด็กนี่จะเป็นใคร มาถึงได้อย่างไร เขาต้องตาย
เพราะเขาบังอาจท้าทายเทพอย่างเขา!
เทพไม่ใช่ผู้ที่มนุษย์จะยั่วยุกันได้ง่ายๆ
ฝ่ามือของเขาเร็วกว่าสายฟ้าร้อยเท่าพุ่งผ่านพื้นที่ในเสี้ยววินาทีก็ถึงคอของเย่ว์หยาง
เขาพร้อมจะเด็ดชีวิตเจ้าเด็กนี่ภายในหนึ่งในพันวินาทีและพร้อมจะจับหัวเจ้าเด็กยโสทุบกับพื้นให้แหลกเละ
ปัง....
เขาถูกคว้าขึ้นมาเหมือนไก่และขว้างลงกับพื้น
น่าเสียดายพอทำลงไปแล้ว ซาฟงยังไม่รู้สึกหายโกรธ
แต่เด็กหนุ่มจากโลกอื่นที่มองดูอ่อนแอยังคงหัวเราะอยู่ได้ไม่มีพิษมีภัยต่อมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
ชี่เฉียวสังเกตการณ์มองดูอยู่ข้างๆปากอ้าตาค้างแทบมิอาจยืนหยัดอยู่ได้...สิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากกว่าคือเขาเห็นมดแมลงน้อยนิดโค่นล้มพญาช้างสารได้ ในฐานะที่เป็นเทพและมีชีวิตมานานกว่าหมื่นปีชี่เฉียวคิดว่าเขาพบเห็นเรื่องราวทั้งหลายในโลกมาตลอดชีวิตไม่เคยคิดว่าจะมองอะไรพลาด แต่ในทันใดนั้นเขาพบว่าตนเองเป็นกบก้นบ่อตัวหนึ่งจากนักสู้ข้างหน้าที่เปลือกนอกเป็นเด็กหนุ่มลึกลับทำให้เขาอดทอดถอนหายใจไม่ได้... เทียบกับเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกแล้วปาฏิหาริย์ที่เด็กหนุ่มข้างหน้านี้สร้างยิ่งน่าตกใจ และน่าเหลือเชื่อ!
“เป็นไปไม่ได้ ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้!” ตอนนี้ซาฟงถูกจับคอฟาดลงกับพื้นอย่างรุนแรงไม่เต็มใจยอมรับความจริงที่เจ็บปวด
“เสียใจด้วย แต่บังเอิญข้ามีพลังล้นเหลือ!” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นกล่าวเสียใจ “ต่อไปข้าจะยั้งมือก็แล้วกัน กลัวว่าเจ้าจะร้องไห้!”
“อั้ก!” ไม่ต้องพูดถึงซาฟงแม้แต่ชี่เฉียวที่มองดูอยู่ด้านข้างก็แทบกระอักโลหิต
“เห็นได้ชัดว่าเจ้ามีพลังแค่ระดับเทวทูต เทวทูตมีพลังจำกัด แล้วเจ้าแตะต้องตัวข้าได้อย่างไร!” ซาฟงสงสัยว่าตนเองกำลังฝันไป
“เรื่องนี้สำหรับสติปัญญาอย่างเจ้ายากจะอธิบายให้ฟังได้” เย่ว์หยางทำสีหน้าเสียใจ จากนั้นเขาแนะนำให้ซาฟงอารมณ์ดีขึ้น “ถ้าเจ้าคิดว่าข้ากำลังคว้าคอของเจ้าและทุ่มเจ้าลงกับพื้นจะทำให้เจ้านับถือข้าขึ้นมาบ้าง ไม่อย่างนั้นข้าคงตบหน้าเจ้า ข้ารับประกันได้ว่าแม้ข้าจะตบเสียงดังฟังชัดแต่ใบหน้าเจ้าจะไม่เจ็บ อาจจะมีบ้างก็เล็กน้อย ไม่มีบาดแผลและรอยแผลเป็นเชื่อข้าเถอะทักษะควบคุมพลังของข้าดีพอ นอกจากนี้ข้ายังมีประสบการณ์ในการตบหน้าคนมาแล้ว”
คำแนะนำตัวของเย่ว์หยางทำให้ซาฟงจมูกเบี้ยว
ปากกระตุก
เดิมทีเขาต้องการสบถด่าแต่เพราะโกรธมากเกินไป แต่เขาก็ยังสรรหาคำมาด่าไม่ได้ เขาได้แต่ใช้นิ้วที่สั่นเทาชี้เย่ว์หยาง แต่ไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อยู่นาน...
ปณิธานปราณราชันย์!
ชี่เฉียวมองดูจับเค้าลางได้เล็กน้อย
ชี่เฉียวไม่สับสนงงงวยในการต่อสู้เขานึกถึงลักษณะของเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกที่เปล่งรัศมีลึกอยู่ในใจของเขาทำให้เขาตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
เทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกสองเทพผู้ยิ่งใหญ่มีพื้นฐานที่แตกต่างจากเทพเทียมธรรมดา ไม่ต้องพูดถึงเทพเทียมระดับซาฟงต่อให้เป็นเฮยโจ้วเมื่อเขาเผชิญกับเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกก็ไม่ต่างอะไรกับหนูกลัวแมว จะมีศักดิ์ศรีต่างกันขนาดไหน? เมื่อวัตถุโบราณของเทพเกิดขึ้นและหลังจากนักสู้จากฟ้าเหนือฟ้าทราบข่าว นักสู้ระดับเทพร้อยคนตามหาช่วงชิง แต่เทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกทั้งสองคนต้องร่วมมือกันและถูกฆ่าในดินแดนลับเทพสังหาร
ทางเชื่อมโยงหอคอยเหนือหอคอยขุนเขาเหนือขุนเขา ฟ้าเหนือฟ้ามีทางผ่านลับ
นอกจากนี้ยังถูกเทพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองผนึกเอาไว้
ตัดขาดจากโลกภายนอกเป็นหมื่นปี
ในแดนฟ้าเหนือฟ้าสี่เทพผู้แข็งแกร่งที่สุดคิดแต่จะเอาชนะ เขาปลดเทพปีศาจเว่ยกวง เทพยุคโบราณด้วยความสิ้นคิด ผนึกหอคอยเหนือหอคอยผลก็คือยังคงล้มเหลว สี่เทพจากแดนฟ้าเหนือฟ้าไม่เพียงแต่ตายเท่านั้นแต่ยังทิ้งของวิเศษไว้ให้ซื่อเสินเฮยโจ้ว เทียนโฉวและจ้าวซี..
ถ้าไม่ใช่เพราะต้องผนึกเทพปีศาจเว่ยกวงขณะที่ป้องกันกฎสวรรค์โบราณสะท้อนกลับเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกก็คงไม่หมดแรงและพบกับความตาย
เทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกหากยังมีชีวิตอยู่ขุนเขาเหนือขุนเขาจะเป็นเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร?
ยังจะมีที่ให้เฮยโจ้วพูดได้ที่ไหน?
เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาเทียบกับเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกสองเทพผู้ยิ่งใหญ่ ย่อมมีพลังด้อยกว่าแน่นอนแต่ขอบเขตพลังคล้ายกันอย่างน่าประหลาด แม้ว่าทัศนคติของเด็กหนุ่มนี้ก็ยังสู้กับนักสู้ระดับเทพยิ่งต่อสู้ก็ยิ่งผ่อนคลายและใจเย็นมากขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือนว่าเขาไม่ได้ต่อสู้ แต่กำลังหยอกล้อ ความรู้สึกกว้างไกลในการยกระดับการมองของเด็กหนุ่มนี่ไม่มีความผิดพลาด ในจุดนี้แม้แต่เทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกสองเทพผู้ยิ่งใหญ่ดูเหมือนจะไม่แข็งแกร่งเท่า!
ความคิดของชี่เฉียวเต็มไปด้วยความทรงจำในอดีตขณะที่มองเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
เขาได้ข้อสรุปที่น่าทึ่ง
เด็กหนุ่มผู้นี้เทียบกับเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกแล้ว...อย่างน้อยไม่ได้ด้อยไปกว่าสองเทพผู้ยิ่งใหญ่
ปัง
ซาฟงวิ่งเข้าปะทะกับเย่ว์หยางแต่ถูกเย่ว์หยางตบกระเด็นไปหลายสิบเมตรเลือดสาดกระเซ็น ครึ่งหน้าของเขาบวมยิ่งกว่าหน้าสุกรแม้แต่ฟันที่แข็งก็ยังคลอนหลุดร่วง
ซาฟงใช้มือกุมหน้าที่บวมปูดจนบัดนี้ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นความจริง
เขาคือเทพผู้สูงส่ง
แต่ถูกเจ้าเด็กที่มีพลังระดับเทวทูตตบฟันร่วงหรือ?
เป็นไปไม่ได้!
ต้องเป็นภาพลวงตา!
ต้องเป็นสมบัติวิเศษหรือทักษะแฝงเร้นบางอย่างที่ใช้ตบตากัน ไม่มีทางเป็นจริงไปได้อย่างแน่นอน...
“อ่า..ขอโทษจริงๆข้าลงมือหนักเกินไปอีกแล้ว.. ต้องอดทนหน่อยนะ แต่มันช่วยไม่ได้ ถ้าเจ้าส่องกระจกดูก็จะเข้าใจความรู้สึกของข้า ใบหน้าของเจ้ามันแย่ขนาดไหน” เสียงของเย่ว์หยางเต็มไปด้วยคำขอโทษ และปลอบโยนซาฟงอย่างจริงใจ “หน้าของเจ้า พอเห็นแล้วมันอยากตบข้าเป็นคนดีขนาดไหนแล้ว ยังอดใจตบเจ้าไม่ได้!”
ตามมุมมองของเย่ว์หยางเขาลงมือตบหน้าซาฟง เพราะเห็นแก่หน้าของซาฟง
ซาฟงนอกจากพอใจแล้วควรจะขอบคุณเขาด้วยซ้ำ
บางทีเขาต้องพูดขอบคุณออกมา
เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ทำให้เย่ว์หยางต้องทนแบบนี้
“ข้าจะจับเจ้ากินทั้งเป็น!” ซาฟงโกรธจัด ตอนนี้ถ้าเขาจับเย่ว์หยางได้บางทีเขาอาจกินเด็กหนุ่มจากโลกอื่นได้ทันที ทั้งที่เจ้าตบหน้าคนอื่น ยังต้องการให้คนอื่นขอบคุณเจ้าอีก ความต้องการแบบนี้มันเกินไป เป็นเรื่องทำใจลำบากของนักสู้ผู้แข็งแกร่ง อย่าว่าแต่ซาฟงเลยแม้แต่นักบวชระดับสูงก็ไม่มีทางอดกลั้นความโกรธนี้ได้
“จำไว้ อย่ามีเหตุผลกับคนป่าเถื่อนเราไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้ เหมือนสีซอให้ควายฟัง!” เย่ว์หยางเห็นซาฟงระเบิดพลังเทพเพื่อเตรียมโจมตี เขาถือโอกาสให้ความรู้กับเด็กหญิงปีศาจอสรพิษน้อย
“ฮื่อ..” ปีศาจอสรพิษน้อยพยักหน้าเชื่อฟัง
พลังเทพของซาฟง
พอระเบิดออกสามารถทำลายภูเขาได้ภายในวินาทีเดียว
ในขณะนี้เขาระเบิดความโกรธออกมาไม่มีการเก็บรั้งอีกต่อไปทันทีที่เขายิงพลังออกไปเย่ว์หยางจะตายภายในไม่กี่วินาที เขาไม่ต้องการเห็นเจ้าเด็กนี่อยู่ต่อไปในโลกนี้แม้แต่วินาทีเดียวซาฟงระเบิดพลังเกลียดชังที่แม้แต่ชี่เฉียวที่มองดูอยู่ใกล้ๆด้านข้างต้องถอยห่างไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา ที่สำคัญคือตอนนี้เขามีพลังเหลืออยู่แค่สามส่วนเป็นไปได้ว่าอาจถูกซาฟงฆ่าตายได้
ชี่เฉียวพาคนรักที่ยังฟื้นฟูไม่เสร็จห่างออกไปสิบไมล์
เขาประหลาดใจเมื่อพบว่า
การล่าถอยของเขาไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย
แม้ว่าพลังเทพของซาฟงน่าสะพรึงกลัวแต่ไม่มีทางสร้างความเสียหายได้
เด็กหนุ่มที่อยู่ในท่ามกลางพลังเทพกับอสูรพิทักษ์ยังคงคุยกันตามปกติราวกับไม่มีใครอยู่ข้างเขาและพลังเทพทั้งหมดดูเหมือนจะไม่ส่งผลต่อเด็กหนุ่มผู้นี้ ก็แค่ลมพัดผ่านตัวเขาไปเท่านั้น
สำหรับซาฟงยังไม่ตาย เด็กหนุ่มลึกลับแค่ควบแน่นพลังระเบิดของซาฟงจนกระทั่งกลายเป็นวัตถุทรงกลมแข็งแรงด้วยการบีบอัดพลังที่ยอดเยี่ยมนี้เต็มเปี่ยมได้อย่างไม่น่าเชื่อพลังของซาฟงลอยเหนือนิ้วมือของเขาช้าๆพลังเช่นนี้แม้แต่ซาฟงเจ้าของพลังก็ยังทำไม่ได้
แรงกดอัดสูงดังกล่าวทำให้บอลพลังงานเทพถูกบีบอัดเกรงว่าเฮยโจ้ว ซื่อเสินก็ยังทำเช่นนี้ไม่ได้
มีแต่เพียงเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกเท่านั้นที่สร้างผลเช่นนี้ได้
นี่คือเด็กหนุ่มที่สามารถเล่นงานซาฟงด้วยพลังฝ่ามือของเขาได้อย่างง่ายดาย เขาคือใคร? มาจากไหน? มีที่มาเช่นไร? ทันทีที่นึกชี่เฉียวมีแต่ความสงสัย
เอาชนะซาฟงได้นับว่าปาฏิหาริย์แล้วทั้งยังเล่นกับพลังเทพของซาฟงได้ ไม่มีอะไรที่อธิบายได้ดีไปกว่าคำว่าปาฏิหาริย์
เขาทำได้ออย่างไร?
ชี่เฉียวไม่สามารถเข้าใจได้
เช่นเดียวกับที่เขาไม่เข้าใจว่าเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกสามารถพลิกสถานการณ์ต่อต้านการรุกรานของดินแดนฟ้าเหนือฟ้าและฆ่าศัตรูของพวกเขาได้อย่างไร!
เทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกพูดถึงเจตจำนงราชันย์เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ หรือ?
ผ่านไปหมื่นปีแล้ว
จนกระทั่งบัดนี้ชี่เฉียวก็ยังหาคำตอบไม่ได้!