ตอนที่ 1167 ใครกล้าทำร้ายน้องข้า?
ซาฟงเรียกอสูรพิทักษ์ ‘ลมกรด’ ซึ่งเป็นอสูรธาตุองค์ประกอบ
หลังจากผสานร่าง เขาลงมือทันที
เกิดพายุหมุนบนภาคพื้นหลายสิบลูก
แม้แต่ภายในขอบเขตสนามพลังแดนลับเทพสังหารพายุหมุนยังแสดงพลังที่ยิ่งใหญ่ออกมาได้
ของวิเศษของเขาแปลกรูปร่างเหมือนกงจักรที่หมุนได้ สามารถตัดโลกได้ด้วยพลังเทพ เทียบกับหอกกลืนมังกรของชี่เฉียว กงจักรสมบัติวิเศษชั้นกึ่งเทพไม่ได้อ่อนแอเลย มันมีพลังแตกต่างกันมาก อีกด้านหนึ่งของสนามรบเทพอุดรจ้าวซีก็มีสมบัติวิเศษซึ่งเหนือกว่าหอกกลืนมังกร กงจักร โซ่ร้อยวิญญาณไม่ว่าจะเป็นทั้งระดับพลังและอำนาจ
นั่นคือกระจกบานหนึ่ง
เป็นสมบัติเทพจริงๆ
นี่ไม่ใช่สมบัติกึ่งเทพ แต่เป็นสมบัติเทพแท้ๆ
อสูรพิทักษ์ของจ้าวซีทำให้เย่ว์หยางที่แอบดูอยู่ข้างล่างต้องระวังตัวไปด้วย
เพราะอสูรพิทักษ์ของเทพอุดรเป็นอสูรสายพฤกษา‘กรงพฤกษา” อสูรที่มองผิวเผินไม่มีทรงพลัง
ในฐานะเทพอุดรจ้าวซือจะเรียกอสูรอ่อนแอออกมาสู้ได้อย่างไร? เขาต้องมีเหตุผลของเขา และดูเหมือนกรงพฤกษาที่ดูเหมือนอ่อนแออาจเป็นเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมจ้าวซีถึงอยู่เหนือผู้อื่นกลายเป็นเทพอุดรที่ทรงพลัง
“ชี่เฉียว, เจ้าไปลงนรกได้แล้ว!” ซาฟงหัวเราะลั่นและใช้นิ้วสร้างพายุทอร์นาโดที่ใต้เท้าชี่เฉียว
แม้จะเป็นเทพแต่ชี่เฉียวยากจะต้านทานแรงดูดเช่นนี้ได้
เขาถูกดึงขึ้นจากพื้นทันที
ในอากาศชี่เฉียวควงหอกกลืนมังกรฉีกมิติรอบพายุหมุน
อย่างไรก็ตามซาฟงรออยู่นานเขาซัดกงจักรที่อยู่ในมือตัดเข้าที่เอวของชี่เฉียวตั้งใจจะตัดร่างของชี่เฉียวให้ขาดครึ่ง!
ซวงหานเร็วกว่าซาฟง โซ่ล่ามวิญญาณของเขารัดแขนซ้ายของชี่เฉียวเหมือนกับงูแล้วลากลงมาบนพื้น
บนพื้นมีน้ำแข็งขยายออกไประยะพันลี้
ธารน้ำแข็งอสูรพิทักษ์ของเทพพายัพซวงหาน เป็นอสูรที่มีขนาดยักษ์เมื่อมันอ้าปากใส่ท้องฟ้าจะเปลี่ยนให้โลกกลายเป็นหิมะน้ำแข็ง
ลูกเห็บร่วมลงมาจากท้องฟ้ากระแทกกับพื้น...อุณหภูมิในท้องฟ้าลดลงอย่างไม่น่าเชื่อน้ำที่อยู่ในระดับต่ำกลายเป็นน้ำแข็ง เย่ว์หยางเฝ้ามองดูการต่อสู้จากระยะไกลรู้สึกได้ว่ามึนงงและเมื่อยล้า เมื่อเทียบกับท้องฟ้าบนพื้นดินมีพลังน้ำแข็งที่น่ากลัวยิ่งกว่าท้องฟ้าพื้นที่กลายเป็นน้ำแข็งยืดงอกออกไปในท้องฟ้า
ชี่เฉียวลุกขึ้นมาจากพื้น แต่ทั่วร่างเต็มไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งและเขากลายเป็นมนุษย์หิมะ
ยกเว้นหอกกลืนมังกรในมือทุกอย่างมีน้ำแข็งเกาะหมด
แม้แต่ตาของเขาก็ไม่เว้น
“ไสหัวไป!” ชี่เฉียวระเบิดออกมาจากน้ำแข็งและแค่นหายใจอย่างเย็นชา หอกกลืนมังกรยังอยู่ในมือของเขา แม้ว่าในใจของเขาจะเกลียดเทพพายัพแต่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะฆ่าเทพได้ถึงสองคน ดังนั้นเป้าหมายของการอุทิศตนเองเพื่อฆ่าซาฟงเทพหรดีเทพที่เขาเกลียดชังให้ได้ต่อไป
“มาเลย ข้ายังทุบเจ้าไม่พอ อย่ารีบตายเร็วเกินไป!” ซาฟงเห็นชี่เฉียวกลายเป็นน้ำแข็ง วิ่งไปได้ครึ่งก้าวเขาก็มีความมั่นใจ ขณะที่ถือกงจักรระดับกึ่งเทพโจมตีใส่หอกกลืนมังกรสลับกับปล่อยหมัดใส่เขา
ปัง ปัง!
เทพทั้งสองมีพลังใกล้เคียงกันยากจะตัดสินได้ในทันที
ตอนนี้ชี่เฉียวต้องการฆ่าซาฟงนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ ที่สำคัญเขาบาดเจ็บมากอยู่แล้วและไม่มีข้อได้เปรียบไม่ว่าร่างเขาจะเป็นอย่างไร สิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือมีเทพอีกสองคนจ้าวซีและซวงหานอยู่ด้วยชี่เฉียวไม่มีโอกาสลงมือประสบผล เว้นแต่มีปาฏิหาริย์หรือเทพโบราณเข้าแทรกแซงเขาจึงจะสามารถฆ่าซาฟงได้
ซวงหานตวาดกึกก้องฟ้าและเสียงของเขาทำให้ภูเขาสะเทือน
ด้วยเสียงร้องเย็นยะเยือกของเขาเทียบได้กับเสียงลมหนาวยะเยือกเกล็ดหิมะตกลงมาทั้งด้านในและด้านนอกสนามพลังสมบัติเทพที่เกิดจากวัตถุโบราณ
คราวนี้
เป็นไม้ตายของเทพพายัพซวงหานที่ไม่เหมือนใครหิมะหมื่นลี้
เกล็ดหิมะทุกเกล็ดจะมีพลังสังหารของซวงหานทุกเกล็ดเชื่อมโยงกับเจตจำนงของเขา...ทันทีที่สัมผัสวัตถุใดๆ ก็จะดึงดูดเกล็ดหิมะอื่นมารวมกันและแช่แข็งศัตรูทันที
เย่ว์หยางอ้าปากค้าง
เขาค่อยๆ ไถลตัวออกมาเงียบๆ
ร่างสตรีที่ฆ่าตัวตายภายใต้ศิลาแต่ตายเพราะสามง่ามทองและยังถูกศิลาฝังทับ
ไฟ
ร่างชี่เฉียวมีไฟเทพเผาผลาญมองดูเหมือนมังกร ไฟเทพขับไล่ความเย็นระเหยเป็นไอ
ขณะที่การโจมตีของเทพพายัพซวงหานล้มเหลว เทพอุดรจ้าวซีลงมือทันที เขาใช้กระจกวิเศษฉายไปที่ร่างชี่เฉียวที่ลอยอยู่ในอากาศและอีกด้านฉายไปที่อสูรกรงพฤกษารอบตัวของเขามีแสงศักดิ์สิทธิ์ฉายออกมาผ่านเวลาและมิติและฉายตรงไปที่ร่างของชี่เฉียวชี่เฉียวไม่ทันรู้ก็โดนแสงยิงใส่อย่างรุนแรงกระเด็นออกไปหมื่นเมตร
มองดูผิวเผินเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ชี่เฉียวเจ็บปวดร้องลั่นสุดเสียง
เย่ว์หยางเห็นแล้วตกตะลึง
โจมตีวิญญาณ!
กรงพฤกษาของเทพอุดรจ้าวซีกับกระจกเทพแทบจะใกล้เคียงกับพลังเนตรประหารของอาหมัน! นอกจากนี้แสงโจมตีของกระจกเทพยังดีกว่าเนตรประหารมากและเล็กกว่า ตราบเท่าที่จ้าวซีฉวยเวลาที่ดีที่สุดเขาสามารถโจมตีได้ตลอด แต่เนตรประหารของอาหมันสู้ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของคนที่ใช้ด้วย
ชี่เฉียวใช้มือข้างหนึ่งกุมศีรษะและใช้หอกกลืนมังกรพยุงตัวไว้
ซวงหานใช้ก้อนน้ำแข็งยักษ์กระแทกใส่ศีรษะของเขาและแช่แข็งชี่เฉียวอยู่ในก้อนน้ำแข็งอีกครั้งใช้โซ่ล่ามวิญญาณเหวี่ยงก้อนน้ำแข็งไปหาซาฟงกลางอากาศ
ซาฟงใช้กงจักรตัดน้ำร่างแช่งแข็งของชี่เฉียวตรงกลาง เอวของชี่เฉียวเลือดสาดกระเซ็นเกือบจะถูกกงจักรตัดเอว เขาเจ็บปวดส่งเสียงร้องแต่ไม่ป้องกัน หอกกลืนมังกรในมือแทงใส่ซาฟงทะลุซี่โครง
ถึงจะตายเขาก็จะลากซาฟงไปด้วย
นี่คือความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชี่เฉียว
ไม่มีโชคในวันนี้แน่นอนแต่ถ้าจะตายเขาจะไม่ยอมให้ซาฟงอยู่ในสภาพที่ดีกว่าแน่นอน “บัดซบ” ซาฟงจับหอกกลืนมังกร และถอยออกไปหมื่นเมตรความเจ็บปวดทรมานทำให้เขาร้องด้วยความประหลาดใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า “จ้าวซี, เจ้าจะไม่ลงมือหรือยังไง?คิดจะปล่อยให้เจ้าบ้าชี่เฉียวลากข้าลงน้ำไปด้วยหรือ เจ้าลืมสัญญาวันนั้นว่าจะทำตามเฮยโจ้วแล้วหรือ? ถ้าเจ้าลงมือเต็มที่ตั้งแต่แรกเราจะไม่บาดเจ็บเลย เจ้ายังจะรออะไรอยู่อีก ถ้าซื่อเสินและเทียนโฉวตามมาทัน แผนหมื่นปีจะล้มเหลวหมดเจ้าต้องการเห็นเช่นนั้นใช่ไหม?”
“ไม่จำเป็นต้องเตือน ข้ารู้ว่าข้าควรทำอะไร” จ้าวซีสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
“ไร้ประโยชน์จริงๆ ซาฟง เจ้าไม่สามารถเอาชนะชี่เฉียวที่บาดเจ็บได้หรือ?” เทพพายัพซวงหานมีสีหน้าดูถูก
ความจริงแล้วเมื่อเทียบกับจ้าวซีและซวงหานซาฟงมีฝีมือด้อยกว่าเล็กน้อย
แต่เขาได้รับบาดเจ็บ
ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพลังเลย
นั่นเป็นผลมาจากการสู้เสี่ยงชีวิตตาต่อตาฟันต่อฟันของชี่เฉียว
ชี่เฉียวไม่มีอะไรจะสู้และต้องการฆ่าซาฟง ถ้าไม่ใช่เพราะซวงหานและจ้าวซีซาฟงจะยืนอยู่ได้ง่ายๆ อย่างไร? ถ้าไม่ตายก็คงถูกถลกหนังไปแล้ว!
จ้าวซีมองดูชี่เฉียวที่กำลังได้รับทรมานจากอาการบาดเจ็บ เขาค่อยๆ เงื้อฝ่ามือ “ชี่เฉียว! ยอมแพ้ซะ ข้าไว้ชีวิตเจ้าได้!”
ชี่เฉียวหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและหัวเราะพร้อมกับกระอักโลหิต
ทัศนคติของชัดเจนมาก
ยอมตายไม่ยอมสยบ
ทันใดนั้นกระจกวิเศษฉายพลังเทพส่องไปที่ชี่เฉียวทันทีชี่เฉียวเฉื่อยชาไปหมดและสติของเขาดูเหมือนเริ่มถูกผนึกเมื่อเวลาผ่านไป จ้าวซีไม่ต้องทำอะไรมาก แค่เข้าไปหาช้าๆ แล้วฟาดฝ่ามือที่หนักหน่วงใส่ศีรษะของชี่ชิวกะโหลกแตก เลือดของชี่เฉียวย้อมหน้าเป็นสีแดง ชี่เฉียวเหวี่ยงหอกกลืนมังกรแต่ไม่ได้แทงจ้าวซี แต่ไล่แทงใส่ซาฟงที่ถูกกระแทกไปก่อนนั้นจ้าวซียกฝ่ามือฟาดใส่หลังของชี่เฉียวอีกครั้ง หัวใจของเขาแทบระเบิด แต่เขาบังคับไม่ให้กระอักโลหิตออกมา และใช้ประโยชน์จากหอกกลืนมังกรรับโซ่น้ำแข็งของซวงหานจากนั้นร่างที่โชกเลือดพุ่งเข้าหาซาฟงไม่สนใจกงจักรของซาฟงและใช้หอกฟาดใส่หน้าของซาฟง
จ้าวซีและซวงหานไล่ตามชี่เฉียวไปติดๆแต่ชี่เฉียวไม่สนใจอย่างอื่น
ความคิดอย่างเดียวในใจคือไล่สังหารซาฟง
แม้เขาจะล้มเป็นร้อยครั้งและได้รับบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย เขาจะไม่เปลี่ยนความตั้งใจ
ห้านาทีต่อมาชี่เฉียวไม่สามารถยืนได้อีกต่อไป ในที่สุดขุนเขาก็โค่นลงกับพื้น...ซาฟงเหยียบหน้าชี่เฉียวและหัวเราะอย่างโอหัง “ชี่เฉียว ไม่ว่าเจ้าจะหยิ่งยโสเพียงไหนเจ้าก็เป็นแค่โคลนใต้เท้าข้าไม่ใช่หรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า โง่ๆอย่างเจ้าได้รับจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในแปดเทพได้ยังไง? เจ้ามีคุณสมบัติใดดูถูกข้า?”
ถุย
ร่างที่อ่อนแอของชี่เฉียวมีโลหิตทะลักเหมือนน้ำ
ซาฟงโกรธและกระทืบหน้าของชี่เฉียวอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าต้องการระบายความแค้นที่ผ่านมาหมื่นปีทั้งหมด!
จ้าวซีขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่พูดอะไร ซวงหานไม่เห็นด้วยที่จะดูถูกฝ่ายตรงข้ามในลักษณะนี้ เขาสามารถฆ่าศัตรูด้วยวิธีใดก็ได้ แต่หลังจากได้ชัยชนะเขาจะไม่ดูถูกศัตรูเหมือนคนบ้า
เมื่อซาฟงเหยียบย่ำหน้าของชี่เฉียวหอกกลืนมังกรที่หล่นอยู่ในระยะไกลเปล่งแสงแปลกประหลาดมองดูคล้ายมังกรคล้ายมิใช่มังกร
ปัง!
เร็วเกินกว่าจะรู้ว่าเสียงอะไร.. แต่มีปลายแหลมแทงอยู่บนเท้าของซาฟง
“นี่บังอาจหาที่ตาย!” ซาฟงเจ็บปวดมาก ตั้งใจว่าจะไม่เล่นอีกต่อไปและตัดชี่เฉียวให้เป็นชิ้นๆ เขาถอนหอกกลืนมังกรและขว้างออกไปหมื่นเมตรด้วยความโกรธ เขาเงื้อกงจักรเตรียมตัดหัวของชี่เฉียว
“ใครบังอาจทำร้ายน้องข้า?”
ปราณดาบพุ่งมาจากขอบฟ้า
พริบตาเดียวก็มาปรากฏต่อหน้าทันที
เวลาและเสียงไม่สัมพันธ์กัน.....พลังปราณดาบที่ลึกลับไร้เทียมทาน ไม่ได้ทำร้ายชี่เฉียวและกลับทำให้ซาฟงเกือบตายทันที มีบุรุษวัยกลางคนผู้โกรธเกรี้ยวปรากฏตัวยืนอยู่ข้างชี่เฉียวโดยไม่สนใจซาฟงที่ถอยไปหาเทพพายัพซวงหานอย่างรวดเร็ว แต่เขากังวลห่วงใยชี่เฉียวที่กำลังจะตายต่อหน้า
ชี่เฉียวพยายามฝืนยิ้มอย่างยากลำบาก “เทียนโฉว, ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่ แต่น่าเสียดาย ข้าไม่สามารถสู้ร่วมกับเจ้าอีก”
ใบหน้าเย่อหยิ่งของบุรุษวัยกลางคนเต็มไปด้วยความเสียใจ “ต้องโทษข้าที่มาช้า ไม่อย่างนั้นก็คงไม่เป็นเช่นนี้ ชี่เฉียวน้องข้า เจ้ามีความปรารถนาใดพี่รองจะต้องทำเพื่อเจ้าให้ได้!”
“......” ชี่เฉียวมอบความปรารถนาที่ยังไม่เสร็จสิ้นและความลับส่วนตัวและไม้ตายพิเศษที่รู้กัน เขาเป็นเทพทักษิณแม้แต่เทพประจิมเฮยโจ้วก็ยังไม่กล้าดูถูกศัตรูผู้นี้แม้จะไม่มีความหวังรอดชีวิต แต่ชี่เฉียวก็สบายใจ ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเขาพบพี่โดยไม่คาดคิดและส่งความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใจได้ทันเวลาด้วยสิ่งเหล่านี้ เขาจะสามารถกู้สถานการณ์ใหญ่ให้พี่ใหญ่ซื่อเสินได้..เทียนโฉวกับซื่อเสินมีพลังเหนือกว่าเขามากมาย และจะแก้แค้นให้เขาได้แน่นอน
“น้องข้า ข้ารู้ความปรารถนาและความลับเหล่านี้แล้ว ข้าจะต้องทำ....” บุรุษผู้นั้นชักดาบวิเศษและเชือดคอชี่เฉียว และจากนั้นใช้ดาบวิเศษแทงหัวใจของชี่เฉียว
ชี่เฉียวถูกโจมตีไม่มีอาการสนองตอบใดๆ
เขามองดูพี่น้องที่คุ้นเคยและดูเหมือนไม่คุ้นเคยด้วยความแปลกใจแม้เขาจะตายก็ยังไม่กล้าเชื่อว่าผู้เป็นเหมือนพี่ชายของเขาชักดาบฆ่าเขาโดยไม่คาดคิด!
ผู้มาทีหลังหัวเราะลั่นและกล่าว “เป็นเช่นนี้จริงๆซื่อเสินได้บอกความลับกับเจ้าทั้งหมด! วางใจได้ น้องของข้า ความลับของเจ้าข้าจะส่งต่อไปยังเฮยโจ้วแน่นอน! หลังจากส่งเจ้าสู่ปรภพ ข้าไม่รังเกียจจะเปิดเผยตัวตนต่อหน้าเจ้า หากเจ้ากลายเป็นคนตายและมีความสามารถรายงานซื่อเสินได้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด! ต้องการถามว่าข้าเป็นใครใช่ไหม? ฮ่าฮ่าฮ่า เฮยโจ้วเรียกข้าว่าพี่ เจ้าว่าข้าเป็นใคร? ในโลกนี้มีแต่คนโง่อย่างเจ้าและเจ้าโง่ซื่อเสินที่เชื่อว่าข้าเป็นพันธมิตร! ใครกล้าลงมือกับน้องข้าหรือ? นี่คือสิ่งที่ข้าพูด แต่น่าเสียดายเจ้าไม่ใช่น้องข้า เป็นเฮยโจ้วต่างหาก!”
ชี่เฉียวอ้าปากและดูเหมือนต้องการจะพูดบางอย่าง แต่ไม่มีคำพูดออกมา เลือดกลบเต็มปากของเขา
ม่านตาของเขาค่อยๆ ขยาย
จนสูญเสียการรับรู้
“หอกกลืนมังกรของชี่เฉียวเป็นสมบัติกึ่งเทพไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเลียนแบบ หวังว่าจะเอาไปซ่อนจากซื่อเสินได้” สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางตกใจมากที่สุดไม่ใช่การโจมตีของคนที่ถือดาบตอนนี้ แต่เป็นการปรากฏตัวของอีกคนหนึ่ง นั่นคือจีอู๋ลี่
ขณะนั้นจีอู๋ลี่กลายร่างเหมือนกับชี่เฉียว
ทั้งคำพูดและการกระทำเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยม หากไม่ใช่เพราะมีร่างของชี่เฉียวอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยางคงไม่แน่ใจว่าคนผู้นี้คือจีอู๋ลี่
เห็นฉากภาพนี้แล้วต่อให้เย่ว์หยางโง่ก็ตาม
แต่เชื่อว่าเขาเข้าใจได้